เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ 3-4 วันก่อนค่ะ เรากลับบ้านหลังจากลุยไฟนอลเกือบทั้งอาทิตย์
ที่บ้านปกติดีไม่มีอะไร อยู่กัน พ่อแม่ลูก (พี่สาวทำงานอีกจังหวัดหนึ่ง)
เช้าวันต่อมา มีแม่บ้านที่แม่เราจ้างให้มาทำความสะอาดบ้าน 2 คน คนหนึ่งเรารู้จักเพราะมาทำงานที่บ้านบ่อยๆ +เป็นกรรยาของเพื่อนพ่อ
ส่วนอีกคนเราไม่รู้จัก แต่แม่บอกว่าเคยมาทำงานที่บ้านแล้วครั้งหนึ่ง สมมติว่าแกชื่อ ป้าตาแล้วกัน
ระหว่างทำงานบ้านไปป้าตากับแม่ก็คุยกันไป เราก็ไม่สนใจเห็นว่าผู้ใหญ่คุยกัน แต่มาหูผึ่งตรงคำว่า
"มาอยู่นี่มั้ยละ" จากปากแม่เรา เราก็โอเคค่อยถามกันทีหลังถามตอนนี้เดี๋ยวเสียมารยาท ก้มหน้าทำงานไป
บ่ายๆ มา แม่บอกว่าป้าตาแกมีหมาตัวนึงนะ แกเลี้ยงไม่ไหว เดี๋ยวจะเอามาเลี้ยงแทน
บอกก่อนว่าบ้านเราเป็นบ้านที่ขี้สงสาร เจอแมว เจอหมาถูกทิ้งเป็นไม่ได้ต้องเอามาเลี้ยง ตอนนี้ก็เกือบๆ 30 ตัวไปแล้ว
น้าคนที่มาทำงานบ้านบ่อยๆ ชื่อน้าเปิ้ล (สมมติ) แกก็กลับไปเอาหมามาที่บ้านเรา เป็นหมาพันธ์ุบางแก้ว
ป้าตาบอกว่าแกเลี้ยงไม่ไหว ลำพังเลี้ยงตัวเองก็ลำบากพอแล้ว
เย็นนั้นก็ถามแม่เลยค่ะ ว่าคนนี้ใคร
ได้ความว่า ป้าตาเป็นคนปราจีน เป็นม่ายแก่ พบรักกับชายคนหนึ่ง อยู่กินด้วยกัน
จนเงินหมด ป้าตาก็หยิบยืมบ้านใกล้เรือนเคียงมาให้ชายคนนั้น บ้านละหมื่น-2หมื่นบ้าง ไปเรื่อยๆ
และไม่มีเงินคืน จึงหนีมาที่บ้านฝ่ายชาย (คือหมู่บ้านที่เราอยู่) มาอยู่บ้านญาติๆ ฝ่ายชาย เขาก็ไม่อยากให้อยู่
เพราะเมื่อมาอยู่แล้วฝ่ายชายก็หายจากบ้านอ้างว่าไปหาเงินมาใช้หนี้
และมารู้ตอนหลังว่า ผู้ชายมีนิสัย 18 มงกุฏหลอกใช้เงินกับผู้หญิงและทิ้งไป ก่อนทิ้งยังเอาหมามาให้ป้าตาเลี้ยงอีก
ซึ่งสามีป้าตาคือเพื่อนสมัยเรียนของพ่อเราและเป็นเพื่อนของสามีน้าเปิ้ล
ป้าตาก็ย้ายไปอยู่กระท่อมหลังเล็กๆ หลังคามุงจากในเขตบ้านของน้าเปิ้ล กับหมาพันธุ์บางแก้ว
อยู่แบบขัดสนอ่ะคะ หาอะไรกินได้ก็หา เก็บผักนั้นๆ นี่ๆ มาผัดกิน
ตัวเองก็ไม่มีเงินใช้ สามีที่อ้างว่าจะไปหาเงินก็ไม่กลับมา บ้านตัวเองก็กลับไม่ได้เพราะติดหนี้ไว้เยอะ
แม่เราจึงชวนให้แกมาอยู่ด้วย โดยให้แกอยู่ที่บ้านอีกหลังหนึ่ง ที่สร้างไว้และยังไม่ได้ย้ายไปอยู่แบบจริงจัง
มีพ่อเราที่ไปนอนเล่นตอนกลางวันที่นั้นบ่อยๆ จึงมีเฟอร์นิเจอร์ครบ ทั้งทีวี ตู้เย็นพัดลม ไมโครเวฟ อุปกรณ์ทำครัว
น้ำไฟเข้าถึง ให้ไปอยู่แบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไร
มีงานให้ทำนิดๆ หน่อยๆ พอมีรายได้ เพราะบ้านเราไม่รวยกันมาก
แต่เราอยากรู้ว่า ใครมีข้อเสนอที่ดีกว่านี้อีกมั้ยคะ
เราไม่ได้ค้านเรื่องที่แกจะมาอยู่ เพียงแค่เราคิดว่าเรายังรู้จักเขาไม่ดีพอ เรากลัวว่าจะมีปัญหาภายหลังค่ะ
ตอนนี้ป้าตายังไม่ตัดสินใจจะอยู่ แต่แกไปทำความสะอาดบ้านหลังนั้นแล้ว แกบอกบ้านน่าอยู่
ถ้าพ่อแม่เห็นดีให้แกอยู่ เราก็ไม่ห้ามค่ะ เพราะดูแล้วแกก็น่าจะนิสัยดี แค่อยากมีหลายๆ ทางเลือกเผื่อไว้
อยากช่วยป้าตาด้วย และไม่อยากให้ครอบครัวเดือดร้อนจนเกินไปค่ะ
เมื่อแม่ชวนคนที่ไม่รู้จักเข้ามาอยู่ที่บ้าน และอุทาหรณ์มีผัวผิดคิดจนตัวตาย
ที่บ้านปกติดีไม่มีอะไร อยู่กัน พ่อแม่ลูก (พี่สาวทำงานอีกจังหวัดหนึ่ง)
เช้าวันต่อมา มีแม่บ้านที่แม่เราจ้างให้มาทำความสะอาดบ้าน 2 คน คนหนึ่งเรารู้จักเพราะมาทำงานที่บ้านบ่อยๆ +เป็นกรรยาของเพื่อนพ่อ
ส่วนอีกคนเราไม่รู้จัก แต่แม่บอกว่าเคยมาทำงานที่บ้านแล้วครั้งหนึ่ง สมมติว่าแกชื่อ ป้าตาแล้วกัน
ระหว่างทำงานบ้านไปป้าตากับแม่ก็คุยกันไป เราก็ไม่สนใจเห็นว่าผู้ใหญ่คุยกัน แต่มาหูผึ่งตรงคำว่า
"มาอยู่นี่มั้ยละ" จากปากแม่เรา เราก็โอเคค่อยถามกันทีหลังถามตอนนี้เดี๋ยวเสียมารยาท ก้มหน้าทำงานไป
บ่ายๆ มา แม่บอกว่าป้าตาแกมีหมาตัวนึงนะ แกเลี้ยงไม่ไหว เดี๋ยวจะเอามาเลี้ยงแทน
บอกก่อนว่าบ้านเราเป็นบ้านที่ขี้สงสาร เจอแมว เจอหมาถูกทิ้งเป็นไม่ได้ต้องเอามาเลี้ยง ตอนนี้ก็เกือบๆ 30 ตัวไปแล้ว
น้าคนที่มาทำงานบ้านบ่อยๆ ชื่อน้าเปิ้ล (สมมติ) แกก็กลับไปเอาหมามาที่บ้านเรา เป็นหมาพันธ์ุบางแก้ว
ป้าตาบอกว่าแกเลี้ยงไม่ไหว ลำพังเลี้ยงตัวเองก็ลำบากพอแล้ว
เย็นนั้นก็ถามแม่เลยค่ะ ว่าคนนี้ใคร
ได้ความว่า ป้าตาเป็นคนปราจีน เป็นม่ายแก่ พบรักกับชายคนหนึ่ง อยู่กินด้วยกัน
จนเงินหมด ป้าตาก็หยิบยืมบ้านใกล้เรือนเคียงมาให้ชายคนนั้น บ้านละหมื่น-2หมื่นบ้าง ไปเรื่อยๆ
และไม่มีเงินคืน จึงหนีมาที่บ้านฝ่ายชาย (คือหมู่บ้านที่เราอยู่) มาอยู่บ้านญาติๆ ฝ่ายชาย เขาก็ไม่อยากให้อยู่
เพราะเมื่อมาอยู่แล้วฝ่ายชายก็หายจากบ้านอ้างว่าไปหาเงินมาใช้หนี้
และมารู้ตอนหลังว่า ผู้ชายมีนิสัย 18 มงกุฏหลอกใช้เงินกับผู้หญิงและทิ้งไป ก่อนทิ้งยังเอาหมามาให้ป้าตาเลี้ยงอีก
ซึ่งสามีป้าตาคือเพื่อนสมัยเรียนของพ่อเราและเป็นเพื่อนของสามีน้าเปิ้ล
ป้าตาก็ย้ายไปอยู่กระท่อมหลังเล็กๆ หลังคามุงจากในเขตบ้านของน้าเปิ้ล กับหมาพันธุ์บางแก้ว
อยู่แบบขัดสนอ่ะคะ หาอะไรกินได้ก็หา เก็บผักนั้นๆ นี่ๆ มาผัดกิน
ตัวเองก็ไม่มีเงินใช้ สามีที่อ้างว่าจะไปหาเงินก็ไม่กลับมา บ้านตัวเองก็กลับไม่ได้เพราะติดหนี้ไว้เยอะ
แม่เราจึงชวนให้แกมาอยู่ด้วย โดยให้แกอยู่ที่บ้านอีกหลังหนึ่ง ที่สร้างไว้และยังไม่ได้ย้ายไปอยู่แบบจริงจัง
มีพ่อเราที่ไปนอนเล่นตอนกลางวันที่นั้นบ่อยๆ จึงมีเฟอร์นิเจอร์ครบ ทั้งทีวี ตู้เย็นพัดลม ไมโครเวฟ อุปกรณ์ทำครัว
น้ำไฟเข้าถึง ให้ไปอยู่แบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไร
มีงานให้ทำนิดๆ หน่อยๆ พอมีรายได้ เพราะบ้านเราไม่รวยกันมาก
แต่เราอยากรู้ว่า ใครมีข้อเสนอที่ดีกว่านี้อีกมั้ยคะ
เราไม่ได้ค้านเรื่องที่แกจะมาอยู่ เพียงแค่เราคิดว่าเรายังรู้จักเขาไม่ดีพอ เรากลัวว่าจะมีปัญหาภายหลังค่ะ
ตอนนี้ป้าตายังไม่ตัดสินใจจะอยู่ แต่แกไปทำความสะอาดบ้านหลังนั้นแล้ว แกบอกบ้านน่าอยู่
ถ้าพ่อแม่เห็นดีให้แกอยู่ เราก็ไม่ห้ามค่ะ เพราะดูแล้วแกก็น่าจะนิสัยดี แค่อยากมีหลายๆ ทางเลือกเผื่อไว้
อยากช่วยป้าตาด้วย และไม่อยากให้ครอบครัวเดือดร้อนจนเกินไปค่ะ