The Punisher, Daredevil, และ บทสนทนาบนดาดฟ้า
เห็นข่าว "6 โจ๋รุมทำร้ายชายพิการเสียชีวิต" จึงจะพาทุกท่านไปชมบทสนทนาของสองฮีโร่ที่มีอุดมการณ์ต่างกันสุดขั้วเหมือนหยิงและหยางของเมือง Hell's Kitchen ใน New York โดยจะขอเท้าความสักนิดของความเป็นมาเป็นไปก่อน
Daredevil คือ ทนายความตาบอด เพราะตอนเด็กไปช่วยคนจากอุบัติเหตุรถบรรทุกสารเคมีบนถนน ทำให้โดนสารเคมีเข้าตาจนตาบอดตั้งแต่เด็กเป็นต้นมา แต่กลับทำให้ประสาทสัมผัสที่เหลือของเขาพุ่งสูงกว่าชาวบ้าน ตอนกลางวันจึงเป็นทนายว่าความดำเนินคดีตามกฎหมาย ตกดึกก็ออกไปอัดผู้ร้ายมาส่งตำรวจ
The Punisher คือ อดีตทหารมือฉมัง ครอบครัวเขาถูกฆ่ายกครัวทำให้เขาเหมือนมีสงครามในจิตใจตลอดเวลา ตราบใดที่ยังไม่ได้แก้แค้น โดยใครที่เขาเห็นว่าเลวเขาจะตามไปยฆ่า ยิงทิ้งทันที
จะเห็นได้ว่าสองคนนี้มีอุดมการณ์หรือมุมมองต่อโลกที่ต่างกัน TP นั้นมีความคิดประหนึ่งว่า คนเราเกิดมาเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น หรือเรียกง่ายๆว่าเป็นที่สันดาน ไม่สามารถแก้ไขได้ อาชญากรเปรียบเสมือนเหรือบไรสังคม ต้องฆ่าทิ้งสถานเดียว "คนพวกนี้ไม่มีสามัญสำนึก จับติดคุกฆ่าข่มขืนไปแล้ว พอออกมาก็ทำเหมือนเดิมอีก หรืออย่างหกคนนี้ที่ฆ่าได้แม้กระทั่งคนพิการอย่างเลือดเย็น จะต้องให้มีอีกกี่คนกันที่จะต้องรับเคราะห์"
อีกด้านหนึ่งคือDD อย่างที่กล่าวข้างต้น ออกตระเวนล่าผู้ร้ายในตอนกลางคืน แต่ยึดอุดมการณ์อย่างหนักแน่นก็คือ "ห้ามฆ่า ใช่ครับห้ามฆ่า" เพราะDD เชื่ออย่างมีความหวังว่า มนุษย์ทุกคนล้วนต้องการเป็นคนดี ไม่มีใครเลวมาแต่เกิด เพียงแต่สภาพแวดล้อมหรือสังคมหล่อหล่อมให้เขาเหล่านั้นเติบโตมาเป็นแบบนี้ "พวกเขาจึงสมควรจะได้รับโอกาส ซึ่งไม่ใช่แค่โอกาสในการกลับตัว แต่เป็นโอกาสที่จะ "พยายามกลับตัว" เพราะถ้าฆ่า(หรือที่หลายๆคนในสังคม เมื่อเจอคดีไหนสะเทือนใจๆ ก็ออกมาเรียกร้องให้ประหารๆ) ทุกอย่างก็จบ
"ระบบต้องดำเนินต่อไป"
มุมมองอย่างที่สองคือมุมมองต่อตัวบทกฎหมาย เพราะ DD นั้นเป็นทนายความด้วย เขาจึงมองว่า "กฎหมายมีไว้ป้องกันเหตุไม่ให้เกิดขึ้น" ไม่ได้มีไว้เพื่อลงโทษหรือแก้แค้นแต่อย่างใด ปัญหาที่มันเกิดบนโลกเราทุกวันนี้มันเกิดจาก ตัวของผู้บังคับกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทนาย หรืออัยการ ขึ้นชื่อว่ามนุษย์เมื่อมีผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง ทำให้DDต้องออกมาทำหน้าที่เป็นศาลเตี้ยในตอนกลางคืนและมอบความดีความชอบให้เป็นผลงานของตำรวจประจำเมือง เพื่อทำให้ระบบกฎหมายเดินต่อไป
ผลลัพธ์ : ในซีรี่เราจะเห็นเลยว่า วิธีการของDDนั้นไม่ได้ผลเสมอไปและทำให้งานของDDยิ่งยากขึ้นไปอีก เพราะการฆ่านั้นง่ายกว่าการจับกุมมาก หรือแม้กระทั่งเจ้าพ่อผู้มีอิทธิพลภายในเมืองที่ถูกับเข้าคุกแล้ว ก็กลับไปเป็นใหญ่ในคุกต่อ เหมือนแค่เปลี่ยนที่อยู่มาพักตากอากาศ รอกลับมาบนดินอีกครั้งเท่านั้น
วิธีแบบแฟร้ง(TP)นั้นง่ายครับ การฆ่าหรือประหารคนเลวนั้นทำได้ง่ายมาก เพียงแต่ใครจะเป็นคนกำหนดว่า ขอบเขตที่คนนี้ๆสมควรตายไม่สมควรตาย ถ้าไม่ใช่ระบบกฎหมายที่เกิดจากสังคมนั้นๆตกลงร่วมกัน และเมื่อใครคนนึงทำผิดหรือเกิดมาเลวแล้วต้องเป็นคนเลวไปตลอดชีวิตเลยหรือ
ลองคิดดูถ้าทุกคนเป็นแบบแฟร้ง(TP)กันหมด ใครอยากออกมายิงใครก็ได้ แค่เห็นว่ามันถูกต้องหรือเพื่อแก้แค้นให้ครอบครัว เมื่อทุกคนใช้ความรู้สึกในการตัดสินลงโทษ ไม่มีกฎหมายอีกต่อไป บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร..
The Punisher, Daredevil, และ บทสนทนาบนดาดฟ้า
เห็นข่าว "6 โจ๋รุมทำร้ายชายพิการเสียชีวิต" จึงจะพาทุกท่านไปชมบทสนทนาของสองฮีโร่ที่มีอุดมการณ์ต่างกันสุดขั้วเหมือนหยิงและหยางของเมือง Hell's Kitchen ใน New York โดยจะขอเท้าความสักนิดของความเป็นมาเป็นไปก่อน
Daredevil คือ ทนายความตาบอด เพราะตอนเด็กไปช่วยคนจากอุบัติเหตุรถบรรทุกสารเคมีบนถนน ทำให้โดนสารเคมีเข้าตาจนตาบอดตั้งแต่เด็กเป็นต้นมา แต่กลับทำให้ประสาทสัมผัสที่เหลือของเขาพุ่งสูงกว่าชาวบ้าน ตอนกลางวันจึงเป็นทนายว่าความดำเนินคดีตามกฎหมาย ตกดึกก็ออกไปอัดผู้ร้ายมาส่งตำรวจ
The Punisher คือ อดีตทหารมือฉมัง ครอบครัวเขาถูกฆ่ายกครัวทำให้เขาเหมือนมีสงครามในจิตใจตลอดเวลา ตราบใดที่ยังไม่ได้แก้แค้น โดยใครที่เขาเห็นว่าเลวเขาจะตามไปยฆ่า ยิงทิ้งทันที
จะเห็นได้ว่าสองคนนี้มีอุดมการณ์หรือมุมมองต่อโลกที่ต่างกัน TP นั้นมีความคิดประหนึ่งว่า คนเราเกิดมาเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น หรือเรียกง่ายๆว่าเป็นที่สันดาน ไม่สามารถแก้ไขได้ อาชญากรเปรียบเสมือนเหรือบไรสังคม ต้องฆ่าทิ้งสถานเดียว "คนพวกนี้ไม่มีสามัญสำนึก จับติดคุกฆ่าข่มขืนไปแล้ว พอออกมาก็ทำเหมือนเดิมอีก หรืออย่างหกคนนี้ที่ฆ่าได้แม้กระทั่งคนพิการอย่างเลือดเย็น จะต้องให้มีอีกกี่คนกันที่จะต้องรับเคราะห์"
อีกด้านหนึ่งคือDD อย่างที่กล่าวข้างต้น ออกตระเวนล่าผู้ร้ายในตอนกลางคืน แต่ยึดอุดมการณ์อย่างหนักแน่นก็คือ "ห้ามฆ่า ใช่ครับห้ามฆ่า" เพราะDD เชื่ออย่างมีความหวังว่า มนุษย์ทุกคนล้วนต้องการเป็นคนดี ไม่มีใครเลวมาแต่เกิด เพียงแต่สภาพแวดล้อมหรือสังคมหล่อหล่อมให้เขาเหล่านั้นเติบโตมาเป็นแบบนี้ "พวกเขาจึงสมควรจะได้รับโอกาส ซึ่งไม่ใช่แค่โอกาสในการกลับตัว แต่เป็นโอกาสที่จะ "พยายามกลับตัว" เพราะถ้าฆ่า(หรือที่หลายๆคนในสังคม เมื่อเจอคดีไหนสะเทือนใจๆ ก็ออกมาเรียกร้องให้ประหารๆ) ทุกอย่างก็จบ
"ระบบต้องดำเนินต่อไป"
มุมมองอย่างที่สองคือมุมมองต่อตัวบทกฎหมาย เพราะ DD นั้นเป็นทนายความด้วย เขาจึงมองว่า "กฎหมายมีไว้ป้องกันเหตุไม่ให้เกิดขึ้น" ไม่ได้มีไว้เพื่อลงโทษหรือแก้แค้นแต่อย่างใด ปัญหาที่มันเกิดบนโลกเราทุกวันนี้มันเกิดจาก ตัวของผู้บังคับกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทนาย หรืออัยการ ขึ้นชื่อว่ามนุษย์เมื่อมีผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง ทำให้DDต้องออกมาทำหน้าที่เป็นศาลเตี้ยในตอนกลางคืนและมอบความดีความชอบให้เป็นผลงานของตำรวจประจำเมือง เพื่อทำให้ระบบกฎหมายเดินต่อไป
ผลลัพธ์ : ในซีรี่เราจะเห็นเลยว่า วิธีการของDDนั้นไม่ได้ผลเสมอไปและทำให้งานของDDยิ่งยากขึ้นไปอีก เพราะการฆ่านั้นง่ายกว่าการจับกุมมาก หรือแม้กระทั่งเจ้าพ่อผู้มีอิทธิพลภายในเมืองที่ถูกับเข้าคุกแล้ว ก็กลับไปเป็นใหญ่ในคุกต่อ เหมือนแค่เปลี่ยนที่อยู่มาพักตากอากาศ รอกลับมาบนดินอีกครั้งเท่านั้น
วิธีแบบแฟร้ง(TP)นั้นง่ายครับ การฆ่าหรือประหารคนเลวนั้นทำได้ง่ายมาก เพียงแต่ใครจะเป็นคนกำหนดว่า ขอบเขตที่คนนี้ๆสมควรตายไม่สมควรตาย ถ้าไม่ใช่ระบบกฎหมายที่เกิดจากสังคมนั้นๆตกลงร่วมกัน และเมื่อใครคนนึงทำผิดหรือเกิดมาเลวแล้วต้องเป็นคนเลวไปตลอดชีวิตเลยหรือ
ลองคิดดูถ้าทุกคนเป็นแบบแฟร้ง(TP)กันหมด ใครอยากออกมายิงใครก็ได้ แค่เห็นว่ามันถูกต้องหรือเพื่อแก้แค้นให้ครอบครัว เมื่อทุกคนใช้ความรู้สึกในการตัดสินลงโทษ ไม่มีกฎหมายอีกต่อไป บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร..