คุณค่าที่คู่ควร! ปธ.พีเอฟเอ ชี้แข้งเลสเตอร์ สมควรได้รับยศเป็น "อัศวิน" สำหรับฤดูกาลอันน่าทึ่ง
คุณค่าที่คู่ควร! ปธ.พีเอฟเอชี้แข้งเลสเตอร์สมควรได้รับยศเป็นอัศวิน
กอร์ดอน เทย์เลอร์ ประธานบริหารสมาคมนักฟุตบอลอาชีพของอังกฤษ (พีเอฟเอ) ให้ความเห็นว่าบรรดาสตาร์ของเลสเตอร์ ซิตี้ สมควรได้รับพระราชทานยศเป็นอัศวินสำหรับความสำเร็จในพรีเมียร์ลีกหนนี้
โดยเจ้าตัวเชื่อว่านักเตะ “จิ้งจอกสยาม” ทุกคนสมควรได้รับบรรดาศักดิ์ดังกล่าวสำหรับฤดูกาลอันน่าทึ่ง
ซึ่ง เคลาดิโอ รานิเอรี่ และลูกทีมจัดการหักปากกาเซียนคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี หลังจากที่เมื่อ 12 เดือนก่อนยังต่อสู้เพื่อดิ้นรนหนีการตกชั้นอยู่หยกๆ
และจากการที่สเปอร์สเสมอกับเชลซี 2-2 เมื่อวันจันทร์ทำให้เลสเตอร์การันตีแชมป์ได้สำเร็จแม้ว่าจะมีโปรแกรมเตะเหลืออีก 2 นัด หลังจากที่ “เดอะ ฟ็อกซ์” นำเป็นจ่าฝูงมาเกือบตลอดทั้งฤดูกาล
จนเทย์เลอร์ต้องการทำให้แน่ใจว่าบรรดาสตาร์เลสเตอร์อย่าง เจมี่ วาร์ดี้, ริยาด มาห์เรซ และ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ได้รับรางวัลจากความสำเร็จอันคาดไม่ถึงเช่นนี้
“สิ่งที่พวกเขาทำมันเกินกว่าคำว่าฟุตบอลไปแล้ว” ซีอีโอวัย 71 ปีกล่าวกับเดลี่ เมล
“เหลือแค่เพียงว่าพอจะมีทางเลือกที่จะใส่ชื่อพวกเขาลงในรายชื่อเกียรติยศจากคณะรัฐมนตรีได้ไหม ซึ่งผมว่าน่าจะทำได้นะ”
“ตลอดชีวิตของผมที่คลุกคลีกับฟุตบอลมา นี่คือหนึ่งในความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ผมเคยเห็นมาเลยทีเดียว”
“เรื่องราวแห่งความสำเร็จที่พิเศษหลายๆเรื่องนั้นมาจากพื้นฐานชีวิตที่แตกต่างกัน และเลสเตอร์ก็ได้แสดงให้เห็นว่ากีฬากับฟุตบอลคือโครงสร้างที่สำคัญมากของประเทศนี้”
“พวกเขาให้ความหวังกับทุกทีมที่คิดว่าตัวเองไม่มีทางที่จะก้าวไปสู่จุดสูงสุดได้”
ขณะเดียวกันเทย์เลอร์ก็ได้กล่าวเสริมว่า “สำหรับ ริยาด มาห์เรซ ที่เขาเป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของพีเอฟเอนั้น เขามาจากลีก เดอซ์ ของฝรั่งเศส หลังจากไม่ผ่านการทดสอบฝีเท้ากับเซนต์ เมียร์เรน เขาได้แสดงให้เห็นถึงหัวจิตหัวใจอันเข้มแข็งและความเชื่อมั่นจนกลายมาเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก”
“ส่วนวาร์ดี้ก็ถูกเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ปล่อยตัวมา ก่อนจะไปสตอคบริดจ์ พาร์ค สตีลส์ และฮาลิแฟ็กซ์ ทาวน์ แล้วย้ายไปฟลีตวู้ด เขาเคยไปทดสอบฝีเท้ากับครูว์ด้วยแต่ไม่ได้รับเลือก แต่จู่ๆเขาก็ทำสถิติยิงประตูในพรีเมียร์ลีกติดต่อกันยาวนานที่สุดและเป็นหนึ่งในดาวยิงชั้นนำของประเทศในเวลานี้”
“ขณะที่ แคสเปอร์ ชไมเคิล ต้องอยู่ภายใต้ร่มเงาปีเตอร์ พ่อของเขามาตลอด มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเป็นลูกชายของนักฟุตบอลชื่อดัง ซึ่งเรืองราวของทุกเตะทุกคนล้วนแล้วแต่สร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งผมคงไม่อาจกล่าวชื่อได้หมด”
“พวกเขาสมควรได้รับเครดิตทั้งหมด เพราะมันยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะยกความดีความชอบให้กับคนๆเดียว ฟุตบอลกับชีวิตมันก็อย่างนี้ล่ะ ต้องอยู่ร่วมกันเป็นทีม”
Read more at
http://www.fourfourtwo.com/th/news/khunkhaathiikhuukhwr-pthphiiefechiiaekhngelsetrsmkhwraidrabysepnaswin#oB7DDbQYoAIUhSG2.99
คุณค่าที่คู่ควร! ปธ.พีเอฟเอ ชี้ แข้งเลสเตอร์ สมควรได้รับยศเป็น "อัศวิน" สำหรับฤดูกาลอันน่าทึ่ง
คุณค่าที่คู่ควร! ปธ.พีเอฟเอชี้แข้งเลสเตอร์สมควรได้รับยศเป็นอัศวิน
กอร์ดอน เทย์เลอร์ ประธานบริหารสมาคมนักฟุตบอลอาชีพของอังกฤษ (พีเอฟเอ) ให้ความเห็นว่าบรรดาสตาร์ของเลสเตอร์ ซิตี้ สมควรได้รับพระราชทานยศเป็นอัศวินสำหรับความสำเร็จในพรีเมียร์ลีกหนนี้
โดยเจ้าตัวเชื่อว่านักเตะ “จิ้งจอกสยาม” ทุกคนสมควรได้รับบรรดาศักดิ์ดังกล่าวสำหรับฤดูกาลอันน่าทึ่ง
ซึ่ง เคลาดิโอ รานิเอรี่ และลูกทีมจัดการหักปากกาเซียนคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี หลังจากที่เมื่อ 12 เดือนก่อนยังต่อสู้เพื่อดิ้นรนหนีการตกชั้นอยู่หยกๆ
และจากการที่สเปอร์สเสมอกับเชลซี 2-2 เมื่อวันจันทร์ทำให้เลสเตอร์การันตีแชมป์ได้สำเร็จแม้ว่าจะมีโปรแกรมเตะเหลืออีก 2 นัด หลังจากที่ “เดอะ ฟ็อกซ์” นำเป็นจ่าฝูงมาเกือบตลอดทั้งฤดูกาล
จนเทย์เลอร์ต้องการทำให้แน่ใจว่าบรรดาสตาร์เลสเตอร์อย่าง เจมี่ วาร์ดี้, ริยาด มาห์เรซ และ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ได้รับรางวัลจากความสำเร็จอันคาดไม่ถึงเช่นนี้
“สิ่งที่พวกเขาทำมันเกินกว่าคำว่าฟุตบอลไปแล้ว” ซีอีโอวัย 71 ปีกล่าวกับเดลี่ เมล
“เหลือแค่เพียงว่าพอจะมีทางเลือกที่จะใส่ชื่อพวกเขาลงในรายชื่อเกียรติยศจากคณะรัฐมนตรีได้ไหม ซึ่งผมว่าน่าจะทำได้นะ”
“ตลอดชีวิตของผมที่คลุกคลีกับฟุตบอลมา นี่คือหนึ่งในความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ผมเคยเห็นมาเลยทีเดียว”
“เรื่องราวแห่งความสำเร็จที่พิเศษหลายๆเรื่องนั้นมาจากพื้นฐานชีวิตที่แตกต่างกัน และเลสเตอร์ก็ได้แสดงให้เห็นว่ากีฬากับฟุตบอลคือโครงสร้างที่สำคัญมากของประเทศนี้”
“พวกเขาให้ความหวังกับทุกทีมที่คิดว่าตัวเองไม่มีทางที่จะก้าวไปสู่จุดสูงสุดได้”
ขณะเดียวกันเทย์เลอร์ก็ได้กล่าวเสริมว่า “สำหรับ ริยาด มาห์เรซ ที่เขาเป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของพีเอฟเอนั้น เขามาจากลีก เดอซ์ ของฝรั่งเศส หลังจากไม่ผ่านการทดสอบฝีเท้ากับเซนต์ เมียร์เรน เขาได้แสดงให้เห็นถึงหัวจิตหัวใจอันเข้มแข็งและความเชื่อมั่นจนกลายมาเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก”
“ส่วนวาร์ดี้ก็ถูกเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ปล่อยตัวมา ก่อนจะไปสตอคบริดจ์ พาร์ค สตีลส์ และฮาลิแฟ็กซ์ ทาวน์ แล้วย้ายไปฟลีตวู้ด เขาเคยไปทดสอบฝีเท้ากับครูว์ด้วยแต่ไม่ได้รับเลือก แต่จู่ๆเขาก็ทำสถิติยิงประตูในพรีเมียร์ลีกติดต่อกันยาวนานที่สุดและเป็นหนึ่งในดาวยิงชั้นนำของประเทศในเวลานี้”
“ขณะที่ แคสเปอร์ ชไมเคิล ต้องอยู่ภายใต้ร่มเงาปีเตอร์ พ่อของเขามาตลอด มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเป็นลูกชายของนักฟุตบอลชื่อดัง ซึ่งเรืองราวของทุกเตะทุกคนล้วนแล้วแต่สร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งผมคงไม่อาจกล่าวชื่อได้หมด”
“พวกเขาสมควรได้รับเครดิตทั้งหมด เพราะมันยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะยกความดีความชอบให้กับคนๆเดียว ฟุตบอลกับชีวิตมันก็อย่างนี้ล่ะ ต้องอยู่ร่วมกันเป็นทีม”
Read more at http://www.fourfourtwo.com/th/news/khunkhaathiikhuukhwr-pthphiiefechiiaekhngelsetrsmkhwraidrabysepnaswin#oB7DDbQYoAIUhSG2.99