คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
ความหมายพระนิพพาน จากพระไตรปิฏก อรรถกถา และผู้ทรงพระไตรปิฏก
http://ppantip.com/topic/34034858/comment4
นิพพาน แปลว่าพ้นจากเครื่องร้อยรัดพันธนาการ คือพ้นจากตัณหานั่นเอง ตัณหาคือเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ทุกข์คือสิ่งที่มีจริงอยู่ทุกวัน สมุทัยคือตัณหานั่นเอง สมุทัยคือตัวที่ทำให้เกิดทุกข์ ตราบใดที่ยังมีความต้องการอยู่ ตราบนั้นชีวิตต้องเปลี่ยนไปอย่างนั้น ไปอย่างนี้ ไปอย่างโน้นตลอดเวลา นิพพานเป็นการสิ้นสุดตัณหา ความหมายของพระนิพพานมี ๕ ประการคือ
๑. เป็นพระปรมัตถ์อย่างหนึ่งที่เข้าถึงได้ทุกคน มีอยู่โดยเฉพาะ ไม่มีการเสริมแต่งได้อีกต่อไป
๒.เป็นธรรมที่ไม่ตาย คือไม่มีทั้งการเกิดและการตาย
๓.เป็นธรรมที่เที่ยงแล้ว คือพ้นจากความเป็นอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
๔.เป็นธรรมที่ไม่ถูกปรุงแต่งด้วยปัจจัยใด ๆ ทั้งสิ้น
๕.เป็นธรรมที่ประเสริฐยิ่ง หาธรรมอื่นเสมอเหมือนไม่ได้
คุณลักษณะของพระนิพพานมี ๓ อย่าง คือ
๑.มีความสงบจากกิเลสและขันธ์ เป็นลักษณะ
๒.มีความไม่แตกดับ เป็นกิจ
๓.ไม่มีนิมิตเครื่องหมายใด ๆ ที่จะไปถึง เป็นผลปรากฏ
ผู้ที่ถึงมรรคผลนิพพานนั้นไม่มีโอกาสกลับมาเล่าอีกแล้วเพราะว่าไม่เกิด ทวารดับ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่มีอีกแล้ว ฉะนั้นคนที่นั่งสมาธิไปนี้ไปแค่ไหน ไม่ใช่นิพพานไปแค่สะพานแล้วกลับมาเล่าเท่านั้น
ผู้ถึงกระแสพระนิพพาน
http://www.abhidhamonline.org/Ajan/article.htm
คุณลักษณะของพระนิพพานมี ๓ ประการ คือ
๑. มีความสงบจากกิเลสและขันธ์ เป็นลักษณะ
๒. ไม่มีความแตกดับ คือ มีความเที่ยง เป็นกิจ
๓. ไม่มีนิมิตเครื่องหมายใด ๆ เป็นผลปรากฏ
พระนิพพานเป็นสันติสุข คือ สุขอันเกิดขึ้นจากความสงบ จากกิเลส สงบจากขันธ์ ไม่ใช่ความสุขชนิดที่ได้จากการเสวยอารมณ์ที่สบายกาย สบายใจในกามเทพ หรือในภพต่างๆ ซึ่งยังมีที่ไป เพราะเมื่อมีสถานที่ไปก็ต้องมีการเกิด เมื่อมีการเกิดแล้วไม่มีใครปฏิเสธความทุกข์ที่จะต้องพ่วงติดมาด้วยได้ ฉะนั้นเมื่อยังเกิดอยู่ ต้องมีทุกข์อย่างแท้จริง จึงไม่ใช่พระนิพพาน เป็นเพียง “สะพาน” ยืนอยู่ตรงนี้นึกว่ามีความสุข เกิดความชอบแล้วมันก็ไม่เที่ยง ยืนนาน ๆ ก็ทุกข์ จะพ้นทุกข์ได้คือพระนิพพานพ้นจากกิเลส พ้นจากการเกิด พ้นจากสังสารวัฎ
ความสุขของพระนิพพานจึงเรียกว่า “สันติสุข” เพราะเป็นความสุขที่เกิดจากการพ้นจากกิเลสและพ้นจากขันธ์ ๕ โดยการรื้อสัญญาและล้างสังโยชน์ คือไม่มีสักกายทิฎฐิ ไม่มีความเข้าใจผิดว่าเป็น “ฉัน” เป็น “ของฉัน” ไม่มีความลังเลสงสัย ไม่มีความประมาท ไม่มีการยินดีติดใจในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ไม่มีการกระทบกระทั่งของจิต ไม่มีการติดอยู่ในรูป ไม่มีการติดอยู่ในนาม ไม่มีมานะ ไม่มีอุทธัจจะ ไม่มีอวิชชา นั่นคืออรหัตตมรรค อรหัตตผล คือสิ้นสุดการเกิด
***********************
ต้องการนิพพานต้องรู้ถูก
http://ppantip.com/topic/30134196/comment5
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
http://b2b2.tripod.com/tmk/
นิพพานเป็นอนัตตา.....42
นิพพาน ไม่ใช่ปัญหาอภิปรัชญา.....42
แหล่งความรู้ที่ชัดเจนมีอยู่ ก็ไม่เอา กลับไปหาทางเดาร่วมกับพวกที่ยังสับสน.....47
พระพุทธเจ้าตรัสไว้แน่นอนเด็ดขาด ว่าลัทธิถืออัตตาไม่ใช่คำสอน ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....50
พระไตรปิฎกและอรรถกถาระบุว่า นิพพานเป็นอนัตตา.....53
การหาทางตีความ ให้นิพพานเป็นอัตตา…………60
การใช้ตรรกะที่ผิด เพื่อให้คิดว่านิพพานเป็นอัตตา.....64
การจับคำความที่ผิดมาอ้างเป็นหลักฐาน เพื่อให้นิพพานเป็นอัตตา.....66
เมื่อจำนนด้วยหลักฐาน ก็หาทางทำให้สับสน……68
เมื่อหลักฐานก็ไม่มี ตีความก็ไม่ได้ ก็หันไปอ้างผลจากการปฏิบัติ.....71
เพราะไม่เห็นแก่พระธรรมวินัย จึงต้องหาทางดิ้นรนเพื่อหนีให้พ้นสัจจะ.....73
ความซื่อตรงต่อหลักพระศาสนา และมีเมตตาต่อประชาชน คือหัวใจของการรักษาระบบไตรสิกขาไว้ให้แก่ประชาสังคม.....75
ความเห็นผิดสุดโต่ง ๒ สาย
http://topicstock.ppantip.com/religious/topicstock/Y2639614/Y2639614.html
หากนิพพาน มีจริง แล้ว ดินแดน นิพพาน มี หรือไม่ หรือถ้า มีเป็นแบบไหน หรือถ้าไม่มี คือเราสูญสิ้นไปเลยหรือไม่
ระวังพวกที่ไปถึงแค่ สะพาน แต่หลงผิดว่าเป็นพระนิพพาน แล้วกลับมาบอกน่ะครับ
http://ppantip.com/topic/34034858/comment4
นิพพาน แปลว่าพ้นจากเครื่องร้อยรัดพันธนาการ คือพ้นจากตัณหานั่นเอง ตัณหาคือเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ทุกข์คือสิ่งที่มีจริงอยู่ทุกวัน สมุทัยคือตัณหานั่นเอง สมุทัยคือตัวที่ทำให้เกิดทุกข์ ตราบใดที่ยังมีความต้องการอยู่ ตราบนั้นชีวิตต้องเปลี่ยนไปอย่างนั้น ไปอย่างนี้ ไปอย่างโน้นตลอดเวลา นิพพานเป็นการสิ้นสุดตัณหา ความหมายของพระนิพพานมี ๕ ประการคือ
๑. เป็นพระปรมัตถ์อย่างหนึ่งที่เข้าถึงได้ทุกคน มีอยู่โดยเฉพาะ ไม่มีการเสริมแต่งได้อีกต่อไป
๒.เป็นธรรมที่ไม่ตาย คือไม่มีทั้งการเกิดและการตาย
๓.เป็นธรรมที่เที่ยงแล้ว คือพ้นจากความเป็นอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
๔.เป็นธรรมที่ไม่ถูกปรุงแต่งด้วยปัจจัยใด ๆ ทั้งสิ้น
๕.เป็นธรรมที่ประเสริฐยิ่ง หาธรรมอื่นเสมอเหมือนไม่ได้
คุณลักษณะของพระนิพพานมี ๓ อย่าง คือ
๑.มีความสงบจากกิเลสและขันธ์ เป็นลักษณะ
๒.มีความไม่แตกดับ เป็นกิจ
๓.ไม่มีนิมิตเครื่องหมายใด ๆ ที่จะไปถึง เป็นผลปรากฏ
ผู้ที่ถึงมรรคผลนิพพานนั้นไม่มีโอกาสกลับมาเล่าอีกแล้วเพราะว่าไม่เกิด ทวารดับ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่มีอีกแล้ว ฉะนั้นคนที่นั่งสมาธิไปนี้ไปแค่ไหน ไม่ใช่นิพพานไปแค่สะพานแล้วกลับมาเล่าเท่านั้น
ผู้ถึงกระแสพระนิพพาน
http://www.abhidhamonline.org/Ajan/article.htm
คุณลักษณะของพระนิพพานมี ๓ ประการ คือ
๑. มีความสงบจากกิเลสและขันธ์ เป็นลักษณะ
๒. ไม่มีความแตกดับ คือ มีความเที่ยง เป็นกิจ
๓. ไม่มีนิมิตเครื่องหมายใด ๆ เป็นผลปรากฏ
พระนิพพานเป็นสันติสุข คือ สุขอันเกิดขึ้นจากความสงบ จากกิเลส สงบจากขันธ์ ไม่ใช่ความสุขชนิดที่ได้จากการเสวยอารมณ์ที่สบายกาย สบายใจในกามเทพ หรือในภพต่างๆ ซึ่งยังมีที่ไป เพราะเมื่อมีสถานที่ไปก็ต้องมีการเกิด เมื่อมีการเกิดแล้วไม่มีใครปฏิเสธความทุกข์ที่จะต้องพ่วงติดมาด้วยได้ ฉะนั้นเมื่อยังเกิดอยู่ ต้องมีทุกข์อย่างแท้จริง จึงไม่ใช่พระนิพพาน เป็นเพียง “สะพาน” ยืนอยู่ตรงนี้นึกว่ามีความสุข เกิดความชอบแล้วมันก็ไม่เที่ยง ยืนนาน ๆ ก็ทุกข์ จะพ้นทุกข์ได้คือพระนิพพานพ้นจากกิเลส พ้นจากการเกิด พ้นจากสังสารวัฎ
ความสุขของพระนิพพานจึงเรียกว่า “สันติสุข” เพราะเป็นความสุขที่เกิดจากการพ้นจากกิเลสและพ้นจากขันธ์ ๕ โดยการรื้อสัญญาและล้างสังโยชน์ คือไม่มีสักกายทิฎฐิ ไม่มีความเข้าใจผิดว่าเป็น “ฉัน” เป็น “ของฉัน” ไม่มีความลังเลสงสัย ไม่มีความประมาท ไม่มีการยินดีติดใจในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ไม่มีการกระทบกระทั่งของจิต ไม่มีการติดอยู่ในรูป ไม่มีการติดอยู่ในนาม ไม่มีมานะ ไม่มีอุทธัจจะ ไม่มีอวิชชา นั่นคืออรหัตตมรรค อรหัตตผล คือสิ้นสุดการเกิด
***********************
ต้องการนิพพานต้องรู้ถูก
http://ppantip.com/topic/30134196/comment5
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
http://b2b2.tripod.com/tmk/
นิพพานเป็นอนัตตา.....42
นิพพาน ไม่ใช่ปัญหาอภิปรัชญา.....42
แหล่งความรู้ที่ชัดเจนมีอยู่ ก็ไม่เอา กลับไปหาทางเดาร่วมกับพวกที่ยังสับสน.....47
พระพุทธเจ้าตรัสไว้แน่นอนเด็ดขาด ว่าลัทธิถืออัตตาไม่ใช่คำสอน ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....50
พระไตรปิฎกและอรรถกถาระบุว่า นิพพานเป็นอนัตตา.....53
การหาทางตีความ ให้นิพพานเป็นอัตตา…………60
การใช้ตรรกะที่ผิด เพื่อให้คิดว่านิพพานเป็นอัตตา.....64
การจับคำความที่ผิดมาอ้างเป็นหลักฐาน เพื่อให้นิพพานเป็นอัตตา.....66
เมื่อจำนนด้วยหลักฐาน ก็หาทางทำให้สับสน……68
เมื่อหลักฐานก็ไม่มี ตีความก็ไม่ได้ ก็หันไปอ้างผลจากการปฏิบัติ.....71
เพราะไม่เห็นแก่พระธรรมวินัย จึงต้องหาทางดิ้นรนเพื่อหนีให้พ้นสัจจะ.....73
ความซื่อตรงต่อหลักพระศาสนา และมีเมตตาต่อประชาชน คือหัวใจของการรักษาระบบไตรสิกขาไว้ให้แก่ประชาสังคม.....75
ความเห็นผิดสุดโต่ง ๒ สาย
http://topicstock.ppantip.com/religious/topicstock/Y2639614/Y2639614.html
หากนิพพาน มีจริง แล้ว ดินแดน นิพพาน มี หรือไม่ หรือถ้า มีเป็นแบบไหน หรือถ้าไม่มี คือเราสูญสิ้นไปเลยหรือไม่
ระวังพวกที่ไปถึงแค่ สะพาน แต่หลงผิดว่าเป็นพระนิพพาน แล้วกลับมาบอกน่ะครับ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ศาสนาพุทธ
หากนิพพาน มีจริง แล้ว ดินแดน นิพพาน มี หรือไม่ หรือถ้า มีเป็นแบบไหน หรือถ้าไม่มี คือเราสูญสิ้นไปเลยหรือไม่