ต้องเริ่มจาก...นี่เป็นกระทู้แรก สินะ
ใช่ค่ะ!!! นี่เป็นกระทู้แรกจริงๆๆ และก็ไม่ได้คิดมาก่อนด้วยว่าจะเขียน ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ก่อนนะคะ
กระทู้นี้ไม่เน้นวิธีการเดินทางมากนักนะคะ หลักๆเราใช้ HyperDia สำหรับทางรถไฟ และ google maps สำหรับเดินค่ะ ไม่ยากเลย
เราบินไฟท์ 23.30 น. ของคืนวันที่ 3 เมษา ถึง สนามบินคันไซ ก็ 7.00 น. (เวลาที่ญี่ปุ่น) ของเช้าวันที่ 4 เมษาเที่ยวต่อได้เลยไม่ต้องนอนสนามบินค่ะ 5555
ที่พัก เนื่องจากว่าเราตื่นเต้น และค่อนข้างเป็นกังวลมากในการเดินทางในญี่ปุ่น เราเลยสะกดจิตตัวเองให้เลือกที่พักในย่านคนพลุกพล่าน และเราเชื่อว่า ย่าน shinsaibashi เป็นเช่นนั้น และด้วยความที่เป็นช่วงซากุระบานพอดิบพอดีอะไรเบอร์นั้น เราจึงรีบเหลือเกินในการจองที่พักเป็นอันดับแรก!!! เราจองผ่านเวป japanican แต่ขนาดรีบแล้ว เรายังไม่ได้ที่พักที่มันติดกัน 5 วันเลย สรุปต้องพัก 2 โรงแรม คือ 2 คืนแรก พักที่ osaka fujiya hotle อยู่ nippombashi 3 คืนหลัง พัก arrow hotel อยู่ shinsaibashi ทั้ง 2 ที่เฉลี่ย 10000Y ต่อคืน
Pass ที่ใช้
- 2 วันแรก เราไปกลับ เกียวโต โอซาก้า เราเลยใช้ kansai true pass แบบ 2 วัน ราคา 4000Y (พาสนี้ใช้นั่งรถไฟสาย nankai จากสนามบินคันไซมานัมบะ โอซาก้าได้ และใช้นั่งบัสภายในเกียวโตได้ด้วยค่ะ)
- วันที่ 3 เรามีแพลนไป usj ซึ่งต้องเดินทางโดยใช้รถไฟ jr เท่านั้น วันนี้เราเลยไม่เปิดใช้พาสใดๆ ใช้เป็นการซื้อตั๋วแยกค่ะ
- วันที่ 4 และ 5 เราอยู่ในโอซาก้า เราใช้ osaka amazing 2 days pass ราคา 3000Y
เราซื้อพาสทั้งหมดมาแล้วจากที่ไทยค่ะ รวมทั้ง
บัตรผ่านประตู Usj และ express แบบ 4 ด้วย รวมแล้วราคาไทยประมาณเกือบๆ 4000 บาทค่ะ จำราคาแน่ๆไม่ได้แล้วอันนี้ขออภัย ซื้อผ่านเอเย่นในไทยค่ะ เค้าบวกค่าบริการด้วย
มาเริ่มกันเลยดีกว่าเน๊าะ ก่อนจะยืดยาวไปกว่านี้ ((ความจริงก่อนไปแพลนไว้แน่นกว่านี้มากค่ะ ค่อยๆตัดออกทีละอย่างสองอย่าง เพราะเวลาไม่พอ มัวแต่ชิล
)
Part 1 นี้เราขอพูดถึงเฉพาะ เกียวโต 2 วันแรกนะคะ
Day 1 (4 Apr 2016)
สนามบิน - โรงแรม osaka fujiya (ฝากกระเป๋า) - kyoto - fushimi inari (ศาลเสาแดง) - kiyomizu dare (วัดน้ำใส) - กิออน - กลับ osaka นอน
เครื่องแตะพื้นปุ๊บ อู้หูววว ฝนตกค่าาา แต่ตกปรอยๆแล้ว พยากรณ์ว่าจะหยุดตกประมาณเที่ยง เราอยู่ในสนามบินนานพอสมควร คนเยอะค่ะ กว่าจะออกมาได้ หิวมากด้วย เราก็รีบบึ่งมาโรงแรมเลย การนั่งรถไฟญี่ปุ่นครั้งแรก ไม่ตื่นเต้นอะไรมาก ... แต่รู้สึกตัวเองเหมือนหมาอะ ชะโงกดูวิว มองไม่เบื่อเลย บ้านเมืองเค้าสวยดีจัง ต้นไม้แต่ละต้นที่ปลูกในบ้าน ถูกดูแลอย่างดี ตัดแต่งกิ่งสวยงาม มองแล้วเหมือนสวนบอนไซใหญ่ๆ พอถึงโรงแรมก็ฝากกระเป๋าเรียบร้อย พร้อมไปเกียวโต
จาก Nippombashi - กดไปที่ สถานีปลายทาง fushimiinari เป้าหมายคือ ศาลเจ้า fushimi inari หรือศาลที่มีเสาแดงๆส้มๆนั่นเอง แต่ๆๆๆ ก่อนเข้าศาลเราหิวมาก และตั้งใจมาจากที่บ้านแล้วว่าจะมากินข้าวมื้อแรกที่นี่!!! เท่านั้น!!! นั่นคือ ข้าวหน้าปลาไหล ทาดาาาา
หาไม่อยากค่ะ ออกจากสถานีแล้ว เดินไปตามทาง (ทางขึ้นศาล เห็นคนเยอะทางไหนก็ทางนั่นเลย แหะๆ) ร้านอยู่หัวมุม ขวามือ
หน้าร้านค่ะ
ย่างกันสดๆหน้าร้าน อร่อย รสชาติเบาๆ แต่กลมกล่อม ไม่เหมือนที่ไทยที่หนักหวานจากซอสล้วนๆ
ข้าวปั้นปลาซาบะดองนี่ก็อร่อยมากๆเลย
อิ่มแล้วค่าาา เดินขึ้นไปศาลกัน
ไปต่อกันสถานที่ที่ 2 นั้นคือ !! Kiyomizu dare วัดคิโยะมิซุ หรือวัดน้ำใส การเดินทางเรากลับไปเริ่มที่ kyoto station แล้วนั่งบัสสาย 206 ลงป้าย kiyomizu michi ลงปุ๊บคนเยอะปั๊บค่ะ คนเยอะทางไหนเดินไปทางนั้นได้เลย ฮ่าาา
วัดน้ำใสเป็นวัดของมวลหมู่มหาชนชาวโลก คนเยอะม๊ากกกกก จนกลัวว่าจะพังมั้ย... มีบางส่วนปิดปรับปรุง แต่มุมมหาชนยังอยู่ กลางคืนเห็นว่าช่วงนี้มีจัด Light-Up ด้วย
ซื้อบัตรกันก่อน
ซากุระเป็นต้นไม่ที่น่ารักมาก แบบเจอกี่ต้นก็อยากถ่ายรูปด้วย แม้ว่าจะถ่ายออกมาแล้วแยกไม่ออก จำไม่ได้ ว่าต้นไหนเป็นใคร
มุมมหาชน คนเยอะมากก กกก กก
ระหว่างทางขึ้น-ลงมีของขายเยอะ ของกินก็เยอะเช่นกัน
สเต็กเนื้อเสียบไม้ย่างก็ได้หรอออ
ดังโงะร้อนๆ ดีเหมือนกัน
ระหว่างเดินก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ
สถานที่ที่ตัดออกไปสำหรับแพลนวันนี้คือ
วัดเงิน ginkakuji และเส้นทางสายนักปราชญ์ Philosopher's path (เสียดายมากกก เพราะเป็นเส้นทางยอดฮิตช่วงซากุระบานเลยทีเดียว) ที่ตัดออก เพราะ ล้า และเหนื่อยมากเลย (คงเป็นเพราะนอนมาบนเครื่อง รวมๆ 2-3 ชั่วโมงเอง) อีกอย่างคือตอนจะไปวัดเงิน คือโง่งมกับเส้นทางรถบัสในเกียวโตมาก หลง มีความลงผิดป้าย มีความหิวมาก อากาศหนาวด้วย คือตอนนั้นเราน็อค ช็อค เอ๋อไปพักนึง คิดอะไรไม่ออก ปล่อยสามีจัดการเลยเดินตามเป็นหมาอย่างเดียวแล้ว (มีความผิดพลาดมากที่ไม่ยอมแวะหยิบแผนที่เดินรถบัสมาตั้งแต่แรก )
สุดท้ายเลยจะไปหาอะไรกินที่ย่านกิออนค่ะ พอไปถึงเดินวนไปวนมา สรุปไม่ได้กินอะไรเลย คือแถวนั้นมันดูแพง 55555 แล้วเราก็ไม่ได้ทำการบ้านมาว่าควรกินอะไรดี เลือกไม่ได้สักที กล้องก็แบตหมด เริ่มโมโหหิว 5555 จะตีกับคนข้างๆแล้ว สุดท้ายเลยตัดสินใจ กลับ
เลยค่ะ ไปหาอะไรกินแถวโรงแรม เพราะก็ค่ำแล้วด้วย (หลงนานไปหน่อย หึหึ)
สุดท้ายก็ถึงโรงแรมโดยสวัสดิภาพ สลบแพร๊พ
เดี๋ยวมาต่อวันที่ 2 กัน...
[CR] Osaka - Kyoto 5 วันเต็ม ซากุระจ๋าาาพี่มาแล้ววววว part 1
ใช่ค่ะ!!! นี่เป็นกระทู้แรกจริงๆๆ และก็ไม่ได้คิดมาก่อนด้วยว่าจะเขียน ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ก่อนนะคะ
Part 1 Osaka - Kyoto 5 วันเต็ม ซากุระจ๋าาาพี่มาแล้ววววว Kyoto 2 วัน
http://m.ppantip.com/topic/35123616?
Part 2 Osaka - Kyoto 5 วันเต็ม ซากุระจ๋าาาพี่มาแล้ววววว Universal Studio Japan
http://m.ppantip.com/topic/35125412?
Part 3 Osaka - Kyoto 5 วันเต็ม ซากุระจ๋าาาพี่มาแล้ววววว Osaka 2.5 วัน
กระทู้นี้ไม่เน้นวิธีการเดินทางมากนักนะคะ หลักๆเราใช้ HyperDia สำหรับทางรถไฟ และ google maps สำหรับเดินค่ะ ไม่ยากเลย
เราบินไฟท์ 23.30 น. ของคืนวันที่ 3 เมษา ถึง สนามบินคันไซ ก็ 7.00 น. (เวลาที่ญี่ปุ่น) ของเช้าวันที่ 4 เมษาเที่ยวต่อได้เลยไม่ต้องนอนสนามบินค่ะ 5555
ที่พัก เนื่องจากว่าเราตื่นเต้น และค่อนข้างเป็นกังวลมากในการเดินทางในญี่ปุ่น เราเลยสะกดจิตตัวเองให้เลือกที่พักในย่านคนพลุกพล่าน และเราเชื่อว่า ย่าน shinsaibashi เป็นเช่นนั้น และด้วยความที่เป็นช่วงซากุระบานพอดิบพอดีอะไรเบอร์นั้น เราจึงรีบเหลือเกินในการจองที่พักเป็นอันดับแรก!!! เราจองผ่านเวป japanican แต่ขนาดรีบแล้ว เรายังไม่ได้ที่พักที่มันติดกัน 5 วันเลย สรุปต้องพัก 2 โรงแรม คือ 2 คืนแรก พักที่ osaka fujiya hotle อยู่ nippombashi 3 คืนหลัง พัก arrow hotel อยู่ shinsaibashi ทั้ง 2 ที่เฉลี่ย 10000Y ต่อคืน
Pass ที่ใช้
- 2 วันแรก เราไปกลับ เกียวโต โอซาก้า เราเลยใช้ kansai true pass แบบ 2 วัน ราคา 4000Y (พาสนี้ใช้นั่งรถไฟสาย nankai จากสนามบินคันไซมานัมบะ โอซาก้าได้ และใช้นั่งบัสภายในเกียวโตได้ด้วยค่ะ)
- วันที่ 3 เรามีแพลนไป usj ซึ่งต้องเดินทางโดยใช้รถไฟ jr เท่านั้น วันนี้เราเลยไม่เปิดใช้พาสใดๆ ใช้เป็นการซื้อตั๋วแยกค่ะ
- วันที่ 4 และ 5 เราอยู่ในโอซาก้า เราใช้ osaka amazing 2 days pass ราคา 3000Y
เราซื้อพาสทั้งหมดมาแล้วจากที่ไทยค่ะ รวมทั้ง
บัตรผ่านประตู Usj และ express แบบ 4 ด้วย รวมแล้วราคาไทยประมาณเกือบๆ 4000 บาทค่ะ จำราคาแน่ๆไม่ได้แล้วอันนี้ขออภัย ซื้อผ่านเอเย่นในไทยค่ะ เค้าบวกค่าบริการด้วย
มาเริ่มกันเลยดีกว่าเน๊าะ ก่อนจะยืดยาวไปกว่านี้ ((ความจริงก่อนไปแพลนไว้แน่นกว่านี้มากค่ะ ค่อยๆตัดออกทีละอย่างสองอย่าง เพราะเวลาไม่พอ มัวแต่ชิล )
Day 1 (4 Apr 2016)
สนามบิน - โรงแรม osaka fujiya (ฝากกระเป๋า) - kyoto - fushimi inari (ศาลเสาแดง) - kiyomizu dare (วัดน้ำใส) - กิออน - กลับ osaka นอน
เครื่องแตะพื้นปุ๊บ อู้หูววว ฝนตกค่าาา แต่ตกปรอยๆแล้ว พยากรณ์ว่าจะหยุดตกประมาณเที่ยง เราอยู่ในสนามบินนานพอสมควร คนเยอะค่ะ กว่าจะออกมาได้ หิวมากด้วย เราก็รีบบึ่งมาโรงแรมเลย การนั่งรถไฟญี่ปุ่นครั้งแรก ไม่ตื่นเต้นอะไรมาก ... แต่รู้สึกตัวเองเหมือนหมาอะ ชะโงกดูวิว มองไม่เบื่อเลย บ้านเมืองเค้าสวยดีจัง ต้นไม้แต่ละต้นที่ปลูกในบ้าน ถูกดูแลอย่างดี ตัดแต่งกิ่งสวยงาม มองแล้วเหมือนสวนบอนไซใหญ่ๆ พอถึงโรงแรมก็ฝากกระเป๋าเรียบร้อย พร้อมไปเกียวโต
จาก Nippombashi - กดไปที่ สถานีปลายทาง fushimiinari เป้าหมายคือ ศาลเจ้า fushimi inari หรือศาลที่มีเสาแดงๆส้มๆนั่นเอง แต่ๆๆๆ ก่อนเข้าศาลเราหิวมาก และตั้งใจมาจากที่บ้านแล้วว่าจะมากินข้าวมื้อแรกที่นี่!!! เท่านั้น!!! นั่นคือ ข้าวหน้าปลาไหล ทาดาาาา
หาไม่อยากค่ะ ออกจากสถานีแล้ว เดินไปตามทาง (ทางขึ้นศาล เห็นคนเยอะทางไหนก็ทางนั่นเลย แหะๆ) ร้านอยู่หัวมุม ขวามือ
หน้าร้านค่ะ
ย่างกันสดๆหน้าร้าน อร่อย รสชาติเบาๆ แต่กลมกล่อม ไม่เหมือนที่ไทยที่หนักหวานจากซอสล้วนๆ
ข้าวปั้นปลาซาบะดองนี่ก็อร่อยมากๆเลย
อิ่มแล้วค่าาา เดินขึ้นไปศาลกัน
ไปต่อกันสถานที่ที่ 2 นั้นคือ !! Kiyomizu dare วัดคิโยะมิซุ หรือวัดน้ำใส การเดินทางเรากลับไปเริ่มที่ kyoto station แล้วนั่งบัสสาย 206 ลงป้าย kiyomizu michi ลงปุ๊บคนเยอะปั๊บค่ะ คนเยอะทางไหนเดินไปทางนั้นได้เลย ฮ่าาา
วัดน้ำใสเป็นวัดของมวลหมู่มหาชนชาวโลก คนเยอะม๊ากกกกก จนกลัวว่าจะพังมั้ย... มีบางส่วนปิดปรับปรุง แต่มุมมหาชนยังอยู่ กลางคืนเห็นว่าช่วงนี้มีจัด Light-Up ด้วย
ซื้อบัตรกันก่อน
ซากุระเป็นต้นไม่ที่น่ารักมาก แบบเจอกี่ต้นก็อยากถ่ายรูปด้วย แม้ว่าจะถ่ายออกมาแล้วแยกไม่ออก จำไม่ได้ ว่าต้นไหนเป็นใคร
มุมมหาชน คนเยอะมากก กกก กก
ระหว่างทางขึ้น-ลงมีของขายเยอะ ของกินก็เยอะเช่นกัน
สเต็กเนื้อเสียบไม้ย่างก็ได้หรอออ
ดังโงะร้อนๆ ดีเหมือนกัน
ระหว่างเดินก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ
สถานที่ที่ตัดออกไปสำหรับแพลนวันนี้คือ
วัดเงิน ginkakuji และเส้นทางสายนักปราชญ์ Philosopher's path (เสียดายมากกก เพราะเป็นเส้นทางยอดฮิตช่วงซากุระบานเลยทีเดียว) ที่ตัดออก เพราะ ล้า และเหนื่อยมากเลย (คงเป็นเพราะนอนมาบนเครื่อง รวมๆ 2-3 ชั่วโมงเอง) อีกอย่างคือตอนจะไปวัดเงิน คือโง่งมกับเส้นทางรถบัสในเกียวโตมาก หลง มีความลงผิดป้าย มีความหิวมาก อากาศหนาวด้วย คือตอนนั้นเราน็อค ช็อค เอ๋อไปพักนึง คิดอะไรไม่ออก ปล่อยสามีจัดการเลยเดินตามเป็นหมาอย่างเดียวแล้ว (มีความผิดพลาดมากที่ไม่ยอมแวะหยิบแผนที่เดินรถบัสมาตั้งแต่แรก )
สุดท้ายเลยจะไปหาอะไรกินที่ย่านกิออนค่ะ พอไปถึงเดินวนไปวนมา สรุปไม่ได้กินอะไรเลย คือแถวนั้นมันดูแพง 55555 แล้วเราก็ไม่ได้ทำการบ้านมาว่าควรกินอะไรดี เลือกไม่ได้สักที กล้องก็แบตหมด เริ่มโมโหหิว 5555 จะตีกับคนข้างๆแล้ว สุดท้ายเลยตัดสินใจ กลับเลยค่ะ ไปหาอะไรกินแถวโรงแรม เพราะก็ค่ำแล้วด้วย (หลงนานไปหน่อย หึหึ)
สุดท้ายก็ถึงโรงแรมโดยสวัสดิภาพ สลบแพร๊พ
เดี๋ยวมาต่อวันที่ 2 กัน...