ผมขอแชร์ประสบการณ์ส่วนหนึ่งในการยื่นวีซ่านักเรียน เพื่อไปศึกษาต่อยังประเทศออสเตรเลีย (เป็นครั้งแรกครับ) โดยไม่ได้ศึกษาหาข้อมูลมาก่อนเลยครับ ถามว่าทำไมผมถึงเลือกที่จะทำกับเอเจนท์นี้ ??  1. เอเจนท์นี้เสนอโปรโมชั่นระยะยาว คือ 4 ปี 5 เดือน ราคา สองแสนหกหมื่นบาทไทย (ต่อคนครับ)  ผมยื่นพร้อมกันกับเพื่อน 2 คน ครับ. (ไปเรียนที่เมลเบรินนะครับ). 2. เอเจนท์นี้ไม่ขอสเตทเม้น เงินโชว์ 3. สปอนด์เซอร์คนซับพอร์ตก็ไม่ต้องครับ 4.ภาพลักษ์ในfb ที่เอเจนท์สร้างขึ้นมาหลอกตาเรามันดูน่าเชื่อถือครับ........ต่อจากนั้นผมก็ส่งเอกสารสแกนไปให้เอเจนท์ส่งไปที่สำนักงานที่ซิดนีย์ ยื่นวีซ่า 22มค 2559 พร้อมกันกับเพื่อน ผมโอนเงินไปให้เอเจนท์ 520000 บาทไทยครับ. หลังจากนั้นผมก็รอๆ ไลน์ไปสอบถามความคืบหน้าเรื่องวีซ่า (ก็เงียบ เฉย. ไม่มีคำตอบอะไรเลย) ขอรายละเอียดค่าใช้จ่าย คำอธิบาย ชี้แจง แนะนำอะไรก็ไม่มีให้ผมเลยรคับ จนมาวันหนึ่งเอเจนท์แจ้งมาว่า ใบcoe ที่เมลเบรินไม่ได้ เพราะ (ร.ร.เต็ม)ครับ. ผมตกใจมากเลยครับ กลัวจะไม่ได้ไปเรียน เอเจนท์แนะนำมาว่า น้องต้องย้ายร.ร ไปที่ซิดนีย์ (ผ่านแน่นอน). แต่น้องต้องเพิ่มเงินคนละ สามหมื่น รวม หกหมื่น สองคนครับ. ... จากนั้นผมก็หาเงินโอนไปให้เอเจนท์เลยครับ 60000 รวมแล้วผมจ่ายไปทั้งหมด 580000 บาทไทยครับ. จากนั้นผมก็ยังคงสอบถามข่าวคราวเรื่องวีซ่ากับทางเอเจนท์ไปเรื่อยๆ (ก็เงียบเหมือนเดิม. ถามมากก็บอกว่าเราพูดไม่เข้าใจเหรอ ถามแต่เดิมๆ) หลังจากนั้น 18 มี.ค 2559 ผมได้รับอีเมลล์จากเอเจนท์ว่า( วีซ่าผมถูกปฏิเสธ) แต่เอเจนท์เพิ่งจะแจ้งไห้ผมทราบ ทั้งๆที่ทราบผลจากอิมเมเกรชั่นแล้วตั้งแต่ 25 ม.ค คือ สามวันให้หลังจากยื่นนะคับ. (. ผมโมโหมากครับ). เชื่อมั้ยครับว่าเค้าให้เหตุผลผมว่า 2. เดือนถึงจะให้เงินคืน. แถมหัก 30%. อีกนะครับ เลยเพิ่งแจ้งให้ทราบ. (อึ้งเลยครับ) ไม่บอกเหตุผลซักคำว่าเพราะอะไรถึงถูกปฏิเสธวีซ่า(ภาษาอังกฤษผมก็อ่านไม่ออก)ทั้งๆที่ผมก็ไม่เคยทราบและไม่เคยคุย และ ไม่เคยเซ็นเอกสารอะไรกับทางเอเจนท์เลยนะครับ. แล้วหลังจากนั้นผมก็ได้รับเงินคืนอยู่ครับ สองแสนบาทไทย (เคสของผมแชร์ประสบการณ์คร่าวๆนะครับ). ส่วนของเพื่อนผมที่ยื่นเอกสารพร้อมกันกับผม  ก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากอิมเมเกรชั่นเลย แถมเอเจนท์ยังจะมาให้เซ็นเอกสารเกี่ยวกับผลประโยชน์ของทางเอเจนท์เองทั้งนั้น (แต่เพื่อนผมไม่เซ็นครับ).จะมามัดมือชกเราซะงั้น แต่ผมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจนะครับ. ผมพยายามปรึกษากับบุคคลผู้มี่ประสบการณ์และอีกหลายๆช่องทาง เพื่อเป็นแนวทางรับมือกับเอเจนท์ (มหาภัย). เพื่อนๆ มีแนวทาง ความคิดเห็น แนะนำ มาแชร์ประสบการณ์กันนะครับ.  จนมาถึงทุกวันนี้เพื่อนผมก็ยังไม่ได้รับคำตอบอะไรเลยครับ. เรื่องราวของผมคงจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับตัวผมเองและกับใครอีกหลายๆคนให้ศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนๆตัดสินใจนะครับ จนทุกวันนี้เพื่อนผมก็ได้แต่รอๆๆ ผมยังคิดไปเล่นๆว่า ถ้าวีซ่าเพื่อนผมไม่ผ่านจะดีซะกว่ามั้ย ดีกว่าตรงที่ว่าไม่ต้องไปอยู่กับเอเจนท์มหาภัยให้มันเอารัดเอาเปรียบเราดีกว่า. แต่คิดอีกทีถ้าผ่านก็เผชิษหน้าสู้กับเอเจนท์มหาภัยนี้ เลย. ทนมานานแระ. (5555)  ก็ให้มันรู้ไปว่าจะแค่ไหนเชียว ผมเชื่อนะครับ (ความยุติธรรมยังมีในโลก)