หลายๆ คนคงรู้จักกับ HP อยู่แล้ว กับอีกหนึ่งแบรนด์ในวงการคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่มาอย่างยาวนาน โดยหลักๆ ตอนนี้นอกเหนือจากคอมพิวเตอร์และปริ้นเตอร์แล้ว ในส่วนของมอนิเตอร์ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ล่าสุดผมได้มีโอกาสสัมผัส HP EliteDisplay E272q ที่จัดได้ว่าเป็นมอนิเตอร์สำหรับการทำงานโดยเฉพาะ ดูจากชื่อก็รู้แล้วว่าจากการที่เป็นซีรีส์ Elite ซึ่งเป็นชื่อชั้นไว้ใช้กับผลิตภัณฑ์ระดับองค์กรมืออาชีพ ถ้าเป็นโน้ตบุ๊คก็จะใช้ชื่อว่า HP EliteBook อะไรประมาณนั้น
HP EliteDisplay E272q เป็นมอนิเตอร์สำหรับมืออาชีพ ที่มีขนาดหน้าจอ 27 นิ้ว ใช้พาเนลสูงอย่าง IPS โดยให้สีที่แม่นยำสมจริงอย่างที่สุด ทำให้ได้มุมมองระดับ 178 องศา มาพร้อมความละเอียดระดับ 2560 x 1440 พิกเซล (3.6 พิกเซล) แบบสัดส่วน 16:9 ตามสมัยนิยม เรียกได้ว่ามีความละเอียดสูงกว่า Full HD (2 ล้านพิกเซล) พอสมควร ทำให้มี 0.233 มิลลิเมตร พร้อมรองรับเฉดสีถึง 1 พันล้านสีตามาตรฐานของหน้าจอมอนิเตอร์ระดับสูง และมีค่า Contrast Ratio ที่สูงถึง 1,000:1 ทีเดียว ส่วนความสว่างถือว่าทำได้ดีโดยอยู่ที่ 350 nit นอกจากนี้ยังมีค่า Response Time ที่เร็วรวดที่ 7ms ในตัวติดตั้ง USB 3.0 Hub มาให้ด้วย รองรับพอร์ตการเชื่อมต่อที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น HDMI, DisplayPort, VGA เรียกได้ว่าครบครันจริงๆ สนนราคาอยู่ที่ 15,323 บาท รับปประกัน 3 ปี แบบ On-site Service
สำหรับดีไซน์การออกแบบ อาจจะดูไม่ค่อยล้ำหน้ามากเท่าไรนักสำหรับบางคน ด้วยรูปแบบของการใช้ดีไซน์เคลือบสีดำบนคอบพลาสติกสีเงินนั้น อาจจะดูไม่ค่อยฉูดฉาดมากเท่าไรนัก ซึ่งน่าจะเหมาะกับผู้ใช้งานทางด้านธุรกิจหรืองานระดับมืออาชีพที่ต้องการความเรียบง่ายมากกว่า ส่วนตัววัสดุก็ดูเหมือนจะไม่แพงอีกด้วย ทำให้เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ซึ่งมาพร้อมกับขอบมันเงาแล้วทำให้รูปลักษณ์ดูหรูหราน่าดึงดูดกว่า อย่างไรก็ตามความคิดเห็นส่วนตัวของผมนั้นก็ถือว่าดูลงตัวและเรียบง่าย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำงานเป็นอย่างดี
แต่ถ้าดูกันให้ลึกๆ แล้วมอนิเตอร์รุ่น HP EliteDisplay E272q มีความน่าสนใจหลายๆ อย่าง ด้วยความบางของหน้าจอที่ค่อนข้างจะบางมากเมื่อเทียบกับขนาดหน้าจอที่ใหญ่ ซึ่งมาจากเทคโนโลยี LED นั่นเอง และดูแล้วไม่ได้เสริมเติมแต่งอะไรมากมายไปกว่าสิ่งที่จำเป็นต้องใช้งานจริงๆ แต่ความรู้สึกเมื่อสัมผัสนั้นจะทำให้คุณรู้สึกถึงความทนทานของมันมากครับ โดยแตกต่างกับมอนิเตอร์ยี่ห้ออื่นที่มีราคาอยู่ในระดับเดียวกัน ที่ดูเหมือนมันจะไม่ค่อยทนไม้ทนมือซักเท่าไหร่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฐานตั้งที่ดูค่อนข้างจะบางมากๆ และไม่ให้ความรู้สึกใกล้เคียงเลยครับว่าจะสามารถรองรับนำหนักของหน้าจอขนาด 27 นิ้วที่อยู่ทางข้างบนของมันได้ รวมไปถึงยังให้ความรู้สึกเหมือนกับจะปรับไม่ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วฐานและขาตั้งหน้าจอนั้นสามารถปรับได้ทั้งความสูง, ความเอียงและสามารถหมุนได้ด้วย ตัวล๊อคหน้าจอกับขาตั้งที่ถึงแม้จะดูไม่แข็งแรงเท่าไรนักแต่ในความเป็นจริงแล้วกลับสามารถที่จะล๊อคได้เป็นอย่างดีรวมถึงยังสามารถทำการปลดล๊อคเพื่อปรับมุมของหน้าจอได้ง่ายอีกด้วยครับ (แต่ก็ไม่สามารถที่จะปรับได้ง่ายด้วยการใช้มือเพียงข้างเดียวซึ่งทำให้เห็นว่าฐานขาตั้งและตัวล๊อคนั้นแข็งแรงมาก) ส่วนมิติตัวเครื่องอยู่ที่ 64.32 x 19.7 x 55.79 เซนติเมตร ส่วนน้ำหนักอยู่ที่ 3.8 กิโลกรัม จัดว่าใหญ่เอาเรื่อง แต่น้ำหนักนั้นไม่หนักเหมือนมอนิเตอร์ขนาด 27 นิ้วสมัยก่อน
ในส่วนของการปรับแต่งการใช้งานตัวมอนิเตอร์นั้นทาง HP มีการติดตั้งอย่างขอบซ้ายด้านล่าง โดยใช้เป็นลักษณะปุ่มกดปกติเหมือนกับหน้าจอรุ่นเก่าๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้นหน้าจอมอนิเตอร์รุ่นใหม่ๆ แบรนด์อื่นๆ มักจะหันไปใช้การควบคุมผ่านการสัมผัสหรือไม่ก็เป็นจอยสติ๊ก อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าตัวปุ่มกดแบบปกติจะดูไม่ค่อยนำสมัยมากนักแต่ในแง่ของการใช้งานแล้ว ปุ่มกดแบบนี้ถือได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการใช้งานก็ว่าได้
หน้าจอการปรับแต่งของ HP EliteDisplay E272q นั้นก็ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย มีการจัดเรียงหมวดหมู่ที่เข้าใจง่ายและไม่เยอะจนวุ่นวายมากเกินไป เรียกได้ว่าถ้าท่านผ่านการปรับแต่งการใช้งานมอนิเตอร์รุ่นอื่นๆ หรือโทรทัศน์มาก่อนการปรับแต่งบน HP EliteDisplay E272q ผ่านทางหน้าจอปรับแต่งนั้นก็สามารถทำได้เรียบง่าย โดยสามารถทำความเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหลักๆ แล้วเราสามารถปรับระดับเสียง ความสว่าง ค่าคอนทราสต์ รวมไปถึงพอร์ตสัญญาณเข้าได้ทันทีผ่านทางปุ่มกด ไม่จำเป็นต้องเข้าไปเมนูให้ซับซ้อนแต่อย่างใด รวมไปถึงยังสามารถปรับแต่งเมนูได้อิสระเล็กน้อย ที่ต้องบอกว่าในส่วนนี้ทาง HP ทำได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว
จากการใช้งานจริงโดยการใช้เล่นอินเตอร์เน็ต หรืองานเอกสารออฟฟิศ ก็เป็นไปอย่างลื่นไหล และด้วยหน้าจอเป็นแบบกระจกที่ให้สีสันสดใสแต่สะท้อนแสงน้อย จึงทำให้ไม่รู้สึกล้ากับสายตามากนัก เมื่อมีการใช้งานติดต่อกันเป็นเวลานาน อีกทั้งหน้าจอมอนิเตอร์มีความละเอียดมากจึงทำให้การเปิดหน้าต่างสองหน้าต่างพร้อมกันเลยดูไม่ติดขัด บนพื้นที่ 2560 x 1440 พิกเซล นอกเหนือไปจากที่เราเอามอนิเตอร์มาทำงานแล้ว เราก็ยังสามารถนำมาใช้ในเรื่องของความบันเทิงได้ ด้วยการชม Youtube ความละเอียด Full HD ก็เป็นที่น่าพอใจ
มุมมองหน้าจอของ HP EliteDisplay E272q ที่ติดตั้งพาเนลจอแบบ IPS มาให้นั้นถือว่าเป็นพาเนลคุณภาพมาตรฐานสูงสำหรับมอนิเตอร์ที่เน้นในเรื่องสีสันที่สวยงามสมจริงในปัจจุบันนี้ ซึ่งโดดเด่นเรื่องการแสดงผลที่รวดเร็วและให้สีสันสดใสแต่จะเป็นรองหน้าจอพาเนล TN ในเรื่องของค่า Response time อยู่บ้างซึ่งหน้าจอพาเนล IPS ของ HP EliteDisplay E272q เองก็สามารถตั้งค่าให้สีสันมีความเที่ยงตรงอยู่แล้ว แต่ถ้าอยากให้ตรงกับงานที่ทำก็สามารถคาลิเบรตหน้าจอเพิ่มได้ ซึ่งนำไปใช้ตัดต่อภาพหรือวิดีโอก็ถือว่าหน้าจอนี้สามารถตอบสนองการใช้งานสมบูรณ์แบบ หรือถ้านำไปเล่นเกมก็สามารถตอบสนองการใช้งานได้ทันที
ด้านของมุมมองจากฝั่งซ้ายและขวาจะเห็นว่ายังสามารถมองเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนแต่ความสว่างหน้าจอจะลดลงไปบ้างเล็กน้อยแต่ผู้ใช้คนที่สองและสามก็ยังสามารถมองเห็นหน้าจอได้ดีไม่แพ้ผู้ใช้คนแรกที่อยู่ตรงกลางหน้าจอ ถือว่าหน้าจอที่ติดตั้งมาให้ HP EliteDisplay E272q มีมุมมองที่กว้างใช้ได้ในระดับการทำงานขั้นมืออาชีพ รวมถึงแบบมุมก้มมุมเงยหน้าจอ ผลที่ได้ก็คือ สีสันที่เรามองเห็นนั้นให้สีสันที่ตรง เกิดอาการสีเพี้ยนที่หน้าจอน้อยถึงน้อยมาก (แต่ก็มีปริมาณแสงลดลงไปเช่นกัน) เรียกได้ว่าประสิทธิภาพในการแสดงผลนั้นเหนือกว่าหน้าจอที่ใช้พาเนล IPS ทั่วๆ ไป
เอาเป็นว่าสำหรับใครที่กำลังมองหามอนิเตอร์ราคาระดับหมื่นกลางๆ ก็สามารถนำ HP EliteDisplay E272q มาเป็นตัวเลือกได้เลย เพราะด้วยตัวดีไซน์ คุณภาพ ประสิทธิภาพ คุณสมบัติ การรับประกัน ถือว่าสอบผ่านทั้งหมดทีเดียว แต่ถ้าคนไหนต้องการมอนิเตอร์ที่มีความละเอียดสูงกว่านี้อย่างพวก 4K 5K ล่ะก็ คงต้องมองหาเป็นรุ่นอื่นแล้วล่ะครับ ซึ่งก็เข้าใจนะว่างานบางงาน แค่ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล อาจจะไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่นะ พร้อมต้องยอมรับว่าเรื่องความเรียบเนียนนั้นยังไงก็เป็นรองพวกมอนิเตอร์ 4K 5K จริงๆ
[SR] HP EliteDisplay E272q มอนิเตอร์ขนาด 27 นิ้ว ระดับมืออาชีพ ในราคาเบาๆ เพียง 15,323 บาท
HP EliteDisplay E272q เป็นมอนิเตอร์สำหรับมืออาชีพ ที่มีขนาดหน้าจอ 27 นิ้ว ใช้พาเนลสูงอย่าง IPS โดยให้สีที่แม่นยำสมจริงอย่างที่สุด ทำให้ได้มุมมองระดับ 178 องศา มาพร้อมความละเอียดระดับ 2560 x 1440 พิกเซล (3.6 พิกเซล) แบบสัดส่วน 16:9 ตามสมัยนิยม เรียกได้ว่ามีความละเอียดสูงกว่า Full HD (2 ล้านพิกเซล) พอสมควร ทำให้มี 0.233 มิลลิเมตร พร้อมรองรับเฉดสีถึง 1 พันล้านสีตามาตรฐานของหน้าจอมอนิเตอร์ระดับสูง และมีค่า Contrast Ratio ที่สูงถึง 1,000:1 ทีเดียว ส่วนความสว่างถือว่าทำได้ดีโดยอยู่ที่ 350 nit นอกจากนี้ยังมีค่า Response Time ที่เร็วรวดที่ 7ms ในตัวติดตั้ง USB 3.0 Hub มาให้ด้วย รองรับพอร์ตการเชื่อมต่อที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น HDMI, DisplayPort, VGA เรียกได้ว่าครบครันจริงๆ สนนราคาอยู่ที่ 15,323 บาท รับปประกัน 3 ปี แบบ On-site Service
สำหรับดีไซน์การออกแบบ อาจจะดูไม่ค่อยล้ำหน้ามากเท่าไรนักสำหรับบางคน ด้วยรูปแบบของการใช้ดีไซน์เคลือบสีดำบนคอบพลาสติกสีเงินนั้น อาจจะดูไม่ค่อยฉูดฉาดมากเท่าไรนัก ซึ่งน่าจะเหมาะกับผู้ใช้งานทางด้านธุรกิจหรืองานระดับมืออาชีพที่ต้องการความเรียบง่ายมากกว่า ส่วนตัววัสดุก็ดูเหมือนจะไม่แพงอีกด้วย ทำให้เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ซึ่งมาพร้อมกับขอบมันเงาแล้วทำให้รูปลักษณ์ดูหรูหราน่าดึงดูดกว่า อย่างไรก็ตามความคิดเห็นส่วนตัวของผมนั้นก็ถือว่าดูลงตัวและเรียบง่าย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำงานเป็นอย่างดี
แต่ถ้าดูกันให้ลึกๆ แล้วมอนิเตอร์รุ่น HP EliteDisplay E272q มีความน่าสนใจหลายๆ อย่าง ด้วยความบางของหน้าจอที่ค่อนข้างจะบางมากเมื่อเทียบกับขนาดหน้าจอที่ใหญ่ ซึ่งมาจากเทคโนโลยี LED นั่นเอง และดูแล้วไม่ได้เสริมเติมแต่งอะไรมากมายไปกว่าสิ่งที่จำเป็นต้องใช้งานจริงๆ แต่ความรู้สึกเมื่อสัมผัสนั้นจะทำให้คุณรู้สึกถึงความทนทานของมันมากครับ โดยแตกต่างกับมอนิเตอร์ยี่ห้ออื่นที่มีราคาอยู่ในระดับเดียวกัน ที่ดูเหมือนมันจะไม่ค่อยทนไม้ทนมือซักเท่าไหร่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฐานตั้งที่ดูค่อนข้างจะบางมากๆ และไม่ให้ความรู้สึกใกล้เคียงเลยครับว่าจะสามารถรองรับนำหนักของหน้าจอขนาด 27 นิ้วที่อยู่ทางข้างบนของมันได้ รวมไปถึงยังให้ความรู้สึกเหมือนกับจะปรับไม่ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วฐานและขาตั้งหน้าจอนั้นสามารถปรับได้ทั้งความสูง, ความเอียงและสามารถหมุนได้ด้วย ตัวล๊อคหน้าจอกับขาตั้งที่ถึงแม้จะดูไม่แข็งแรงเท่าไรนักแต่ในความเป็นจริงแล้วกลับสามารถที่จะล๊อคได้เป็นอย่างดีรวมถึงยังสามารถทำการปลดล๊อคเพื่อปรับมุมของหน้าจอได้ง่ายอีกด้วยครับ (แต่ก็ไม่สามารถที่จะปรับได้ง่ายด้วยการใช้มือเพียงข้างเดียวซึ่งทำให้เห็นว่าฐานขาตั้งและตัวล๊อคนั้นแข็งแรงมาก) ส่วนมิติตัวเครื่องอยู่ที่ 64.32 x 19.7 x 55.79 เซนติเมตร ส่วนน้ำหนักอยู่ที่ 3.8 กิโลกรัม จัดว่าใหญ่เอาเรื่อง แต่น้ำหนักนั้นไม่หนักเหมือนมอนิเตอร์ขนาด 27 นิ้วสมัยก่อน
ในส่วนของการปรับแต่งการใช้งานตัวมอนิเตอร์นั้นทาง HP มีการติดตั้งอย่างขอบซ้ายด้านล่าง โดยใช้เป็นลักษณะปุ่มกดปกติเหมือนกับหน้าจอรุ่นเก่าๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้นหน้าจอมอนิเตอร์รุ่นใหม่ๆ แบรนด์อื่นๆ มักจะหันไปใช้การควบคุมผ่านการสัมผัสหรือไม่ก็เป็นจอยสติ๊ก อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าตัวปุ่มกดแบบปกติจะดูไม่ค่อยนำสมัยมากนักแต่ในแง่ของการใช้งานแล้ว ปุ่มกดแบบนี้ถือได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการใช้งานก็ว่าได้
หน้าจอการปรับแต่งของ HP EliteDisplay E272q นั้นก็ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย มีการจัดเรียงหมวดหมู่ที่เข้าใจง่ายและไม่เยอะจนวุ่นวายมากเกินไป เรียกได้ว่าถ้าท่านผ่านการปรับแต่งการใช้งานมอนิเตอร์รุ่นอื่นๆ หรือโทรทัศน์มาก่อนการปรับแต่งบน HP EliteDisplay E272q ผ่านทางหน้าจอปรับแต่งนั้นก็สามารถทำได้เรียบง่าย โดยสามารถทำความเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหลักๆ แล้วเราสามารถปรับระดับเสียง ความสว่าง ค่าคอนทราสต์ รวมไปถึงพอร์ตสัญญาณเข้าได้ทันทีผ่านทางปุ่มกด ไม่จำเป็นต้องเข้าไปเมนูให้ซับซ้อนแต่อย่างใด รวมไปถึงยังสามารถปรับแต่งเมนูได้อิสระเล็กน้อย ที่ต้องบอกว่าในส่วนนี้ทาง HP ทำได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว
จากการใช้งานจริงโดยการใช้เล่นอินเตอร์เน็ต หรืองานเอกสารออฟฟิศ ก็เป็นไปอย่างลื่นไหล และด้วยหน้าจอเป็นแบบกระจกที่ให้สีสันสดใสแต่สะท้อนแสงน้อย จึงทำให้ไม่รู้สึกล้ากับสายตามากนัก เมื่อมีการใช้งานติดต่อกันเป็นเวลานาน อีกทั้งหน้าจอมอนิเตอร์มีความละเอียดมากจึงทำให้การเปิดหน้าต่างสองหน้าต่างพร้อมกันเลยดูไม่ติดขัด บนพื้นที่ 2560 x 1440 พิกเซล นอกเหนือไปจากที่เราเอามอนิเตอร์มาทำงานแล้ว เราก็ยังสามารถนำมาใช้ในเรื่องของความบันเทิงได้ ด้วยการชม Youtube ความละเอียด Full HD ก็เป็นที่น่าพอใจ
มุมมองหน้าจอของ HP EliteDisplay E272q ที่ติดตั้งพาเนลจอแบบ IPS มาให้นั้นถือว่าเป็นพาเนลคุณภาพมาตรฐานสูงสำหรับมอนิเตอร์ที่เน้นในเรื่องสีสันที่สวยงามสมจริงในปัจจุบันนี้ ซึ่งโดดเด่นเรื่องการแสดงผลที่รวดเร็วและให้สีสันสดใสแต่จะเป็นรองหน้าจอพาเนล TN ในเรื่องของค่า Response time อยู่บ้างซึ่งหน้าจอพาเนล IPS ของ HP EliteDisplay E272q เองก็สามารถตั้งค่าให้สีสันมีความเที่ยงตรงอยู่แล้ว แต่ถ้าอยากให้ตรงกับงานที่ทำก็สามารถคาลิเบรตหน้าจอเพิ่มได้ ซึ่งนำไปใช้ตัดต่อภาพหรือวิดีโอก็ถือว่าหน้าจอนี้สามารถตอบสนองการใช้งานสมบูรณ์แบบ หรือถ้านำไปเล่นเกมก็สามารถตอบสนองการใช้งานได้ทันที
ด้านของมุมมองจากฝั่งซ้ายและขวาจะเห็นว่ายังสามารถมองเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนแต่ความสว่างหน้าจอจะลดลงไปบ้างเล็กน้อยแต่ผู้ใช้คนที่สองและสามก็ยังสามารถมองเห็นหน้าจอได้ดีไม่แพ้ผู้ใช้คนแรกที่อยู่ตรงกลางหน้าจอ ถือว่าหน้าจอที่ติดตั้งมาให้ HP EliteDisplay E272q มีมุมมองที่กว้างใช้ได้ในระดับการทำงานขั้นมืออาชีพ รวมถึงแบบมุมก้มมุมเงยหน้าจอ ผลที่ได้ก็คือ สีสันที่เรามองเห็นนั้นให้สีสันที่ตรง เกิดอาการสีเพี้ยนที่หน้าจอน้อยถึงน้อยมาก (แต่ก็มีปริมาณแสงลดลงไปเช่นกัน) เรียกได้ว่าประสิทธิภาพในการแสดงผลนั้นเหนือกว่าหน้าจอที่ใช้พาเนล IPS ทั่วๆ ไป
เอาเป็นว่าสำหรับใครที่กำลังมองหามอนิเตอร์ราคาระดับหมื่นกลางๆ ก็สามารถนำ HP EliteDisplay E272q มาเป็นตัวเลือกได้เลย เพราะด้วยตัวดีไซน์ คุณภาพ ประสิทธิภาพ คุณสมบัติ การรับประกัน ถือว่าสอบผ่านทั้งหมดทีเดียว แต่ถ้าคนไหนต้องการมอนิเตอร์ที่มีความละเอียดสูงกว่านี้อย่างพวก 4K 5K ล่ะก็ คงต้องมองหาเป็นรุ่นอื่นแล้วล่ะครับ ซึ่งก็เข้าใจนะว่างานบางงาน แค่ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล อาจจะไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่นะ พร้อมต้องยอมรับว่าเรื่องความเรียบเนียนนั้นยังไงก็เป็นรองพวกมอนิเตอร์ 4K 5K จริงๆ