ในโลกของเกมเมอร์ นอกจากในเรื่องของภาพที่เคลื่อนไหวได้ต่อเนื่องไม่สะดุดและการควบคุมที่แม่นยำ เพื่อความสนุกเพลิดเพลินในการเล่นแล้ว เรื่องของเสียงก็เป็นสิ่งหนึ่งที่มีส่วนช่วยทำให้เกิดอรรถรสในการเล่นมากขึ้นและที่สำคัญยังมีส่วนที่ทำให้โอกาสคว้าชัยในเกมก็มีมากขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะอย่างลืมว่าในหลายๆ เกม เสียงเป็นตัวบอกทิศทางของคู่แข่งได้ดีทีเดียว จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเกมเมอร์ส่วนใหญ่ จึงเลือกหูฟังที่ดี มาใช้ในการเล่นเกมหรือใช้ในการแข่งขัน ซึ่ง Kingston ก็เป็นหนึ่งในผู้ผลิตหูฟัง Gaming ที่ได้การตอบรับเป็นอย่างดี
เรียกได้ว่า Kingston นอกจากจะเป็นผู้ผลิตภัณฑ์ Flash Memory ชื่อดังรูปแบบต่างๆ แล้ว ทางด้านอุปกรณ์ Gaming Gear ก็ขึ้นชื่อไม่แพ้กัน อย่างเช่นหูฟังที่มีสินค้าโดดเด่นอย่างหูฟังเกมมิ่งตระกูล HyperX Cloud ซึ่งในปีที่แล้วก็มี HyperX Cloud II ที่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีและมีคำวิจารณ์จากหลายสำนักรีวิวในแง่บวกและล่าสุดในปี 2016 นี้ทาง Kingston ก็จะมีผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ออกมาเช่นกันโดยพวกเขาตั้งใจว่าต้องการจะมาแทนที่ HyperX Cloud II ซึ่งชื่อของมันก็คือ HyperX Cloud Revolver นั่นเอง สนนราคาอยู่ที่ 4,xxx บาท
สำหรับ HyperX Cloud Revolver นั้นทาง Kingston ก็ได้เผยโฉมครั้งแรกภายในงาน CES 2016 ที่จะเริ่มแล้วตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม โดยหูฟัง Gaming ตระกูล HyperX ตัวนี้จะมีสิ่งที่แตกต่างจากหูฟังรุ่นที่แล้วมาอย่างสิ้นเชิงเริ่มจากรูปร่างหน้าตาของมันที่มีการปรับโฉมดีไซน์ใหม่หมด มีการขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยตรงในส่วนของดีไซน์ลำโพงก็จะเปลี่ยนไปเป็นไฟ LED สีแดงล้อมรอบโลโก้ HyperX นอกจากขนาดที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยแล้วแต่ถ้าหากมองในมุมด้านข้างก็จะพบว่ามันมีรูปร่างค่อนข้างแข็งแรงกว่ารุ่นที่แล้วมาเลยทีเดียวรวมไปถึงก้านครอบศรีษะแบบใหม่ก็ดูดุดันมากขึ้นด้วย
ส่วนทางด้านประสิทธิภาพ HyperX Cloud Revolver จะมีคุณภาพเสียงที่ดีกว่ามากโดยจะมีระดับเสียงที่หลากหลายระดับมากยิ่งขึ้น ทำให้รู้สึกถึงเสียงที่เป็นธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นเสียงเบสหรือเพลงเบาๆ HyperX Cloud Revolver ตัวนี้สามารถถ่ายทอดเสียงออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตัวลำโพงและส่วนของที่ครอบหูจะมีการปรับปรุงให้เข้ากับใบหูมนุษย์มากขึ้นซึ่งจะช่วยในเรื่องของการสวมใส่ที่สบายไม่หนักจนเกินไปและที่สำคัญ ตัวหูฟังก็จะเป็น USB 7.1 Dolby เช่นเคยครับ อีกทั้ง HyperX Cloud Revolver จะมีไมค์แบบใหม่ที่จะให้เสียงที่มีคุณภาพกว่าสามารถสื่อสารได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ว่าแล้วเราก็มาชมส่วนของสเปก HyperX Cloud Revolver
- ประเภททรานสดิวเซอร์ : ไดนามิคไดรเวอร์แบบปิด 50 มม.
- ประเภทของหูฟัง : แบบ Full Size หรือหูฟังในระดับใหญ่ (Circumaural)
- ความถี่ : 12 – 28,000 Hz
- ความต้านทาน : 30 โอห์ม
- ระดับแรงดันเสียง : 104.5dBSPL/mWat 1kHZ
- น้ำหนัก : 360 กรัม
- น้ำหนักพร้อมไมค์และสาย : 376 กรัม
- ความยาวของสาย : หูฟังยาว 1 เมตร และตัวควบคุมเสียงสายยาว 2 เมตร
- การเชื่อมต่อ : หูฟังแบบหัวเสียบสเตอริโอขนาด 3.5 มม. และชุดควบคุมหูฟังพร้อมไมค์สเตอริโอหัวเสียบขนาด 3.5 มม.
โดยการแกะกล่องลองดูของจริง HyperX Cloud Revolver ก็เชื่อได้ว่าใครที่ได้จับจองเป็นเจ้าของน่าจะปลื้มกับแพ็คเกจตั้งแต่แรกเห็นสำหรับหูฟังจาก Kingston นี้ เพราะนอกจากดีไซน์ที่แตกต่างแล้ว ยังใส่รายละเอียดของฟีเจอร์มาแบบละเอียดรอบกล่อง อย่างน้อยเราก็พอจะได้รู้ว่ามีสิ่งใดบ้างให้เราได้ลองใช้งานกัน โดยด้านหลังบอกคุณสมบัติต่างๆ ที่น่าสนใจ เป็นข้อมูลที่บ่งบอกถึงคุณลักษณะที่ดีของหูฟังรุ่นนี้
เมื่อเปิดกล่องออกมาดูจะเป็นดังในภาพนี้ ซึ่งประกอบไปด้วยตัวหูฟัง HyperX Cloud Revolver ไมโครโฟน Soundcard มาดูกันที่ตัวหูฟังกันก่อนโดยรูปแบบทั่วไป ต่างจากรุ่นก่อนหน้าพอสมควร อย่างดีไซน์ ด้ายเย็บและชิ้นส่วนเล็กๆ น้อยๆ ที่ดูดุดันขึ้น ให้อารมณ์ Gaming กว่าที่เคย มาดูกันในส่วนที่ครอบศีรษะกับการออกแบบด้านบนโดยใช้การปักโลโก้ HyperX พร้อมกับเดินด้ายสีแดง ที่ปรับขนาดได้อัตโนมัติ ซึ่งดูสะดุดตามากๆ เหมาะกับคนที่ชอบความหวือหวาโดดเด่น ส่วนที่เป็นครอบหูฟังกับดีไซน์ HX ก็ดูเท่ไม่เบา เมื่อเปิดใช้งานก็จะมีไฟสีแดงติดขึ้นมา กับก้านที่ใช้ในการรับน้ำหนักเป็นลายอลูมิเนียมสีดำที่ดูเข้ากันได้ดี
ฟองน้ำด้านในบุอย่างดีและหุ้มด้วยหนัง ให้ความนิ่มนวลพอเหมาะ อาจจะนุ่มไปถึงนุ่มมาก เพื่อให้ครอบลงบนศีรษะได้สบายๆ น่าจะเป็นจุดแข็งอีกอย่างหนึ่ง เพียงแต่ว่าเท่าที่ดูมีการกระจายน้ำหนักไปยังหูฟังด้วย จึงทำให้ไม่เกิดการรำคาญ ใช้งานได้นาน เท่าที่ลองใช้เป็นเวลานานๆ กับการเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ก็ชิลๆ ดีไม่รู้สึกรำคาญ ก้านด้านข้างสำหรับปรับระดับ มีการไล่สเตปได้อย่างนุ่มนวล ซึ่งในการปรับระดับ ไม่ว่าจะหยิบออกมาปรับหรือปรับขณะที่อยู่บนศีรษะนั้นไม่ต่างกัน ทำได้สะดวกทั้งสองแบบ ต้องยกนิ้วให้กับการออกแบบนี้ ใช้งานง่ายและน้ำหนักเบา
ลักษณะการกางหูฟังเพื่อครอบ มีความแข็งเล็กน้อย พอให้ดึงออกมาได้ตึงๆ มือ โดยไม่ต้องกลัวหัก แต่ที่สำคัญคือ ง้างออกมาได้ง่ายและบิดตัวได้เล็กน้อย ช่องสำหรับใส่ไมโครโฟนด้านข้างของหูฟัง เป็นตำแหน่งเดียวกับรุ่นที่แล้ว สามารถใช้ไมโครโฟน เสียบผ่านช่องที่จัดไว้และพร้อมใช้งานได้ทันที
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญก็คือ Soundcard ที่มาในรูปแบบของ USB ซึ่งจะต่อเข้ากับพอร์ตบนคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊ค สำหรับการใช้ฟังก์ชั่นในการเพิ่มระบบเสียง เป็นแบบ 7.1 Channel และปรับเพิ่มลดเสียงของหูฟังและไมโครโฟนได้จากจุดนี้ และแน่นอนว่า HyperX Cloud Revolver รองรับการทำงานได้หลากหลาย ด้วยการเชื่อมต่อผ่าน USB port จึงสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งคอมพิวเตอร์พีซีและ Mac รวมถึงระบบเสียงในแบบสเตอริโอบนเครื่องเล่น PS4, Xbox One และอุปกรณ์ที่เป็นเครื่องเล่นพกพาในแบบต่างๆ
ด้วยการออกแบบอย่างมีสไตล์และระบบเสียงที่มีคุณภาพ HyperX Cloud Revolver จึงสามารถตอบโจทย์การด้านความสนุกสนานให้กับเกมเมอร์ได้อย่างน่าสนใจ รวมถึงการให้ความบันเทิงสำหรับผู้ที่รักในเสียงเพลงหรือการชมภาพยนตร์ได้เต็มอรรถรสอีกด้วย หลักๆ ลักษณะของเสียงในการฟังเพลงที่ได้นั้นเต็มอิ่มมากทีเดียว มีเสียงทุ้มของเบสที่แน่นพอสมควร แต่สำหรับเสียงแหลมนั้นถ้าฟังเพลงในลักษณะของเพลงที่มีเบสน้อย และเสียงร้องเยอะ จะได้ยินเสียงนักร้องที่เป็นเสียงแหลมชัดเจนมาก จนในบางครั้งมีความรู้สึกว่าเสียงแหลมสูงมากจนทำให้แสบหูกันเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้ก็สามารถหักลบกันได้ถ้าเสียงนั้นมีเบสเข้ามาเยอะ เสียงแหลมก็จะลดน้อยลงไป ซึ่งก็เป็นไปตามสไตล์ของหูฟัง Gaming
เมื่อนำ HyperX Cloud Revolver ไปเล่นเกมตามสไตล์หูฟัง Gaming เรียกได้ว่าสามารถตอบโจทย์ของผู้ใช้ในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะได้เสียงที่เต็มอิ่มในทุกสถานการณ์ของเกมส์เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเกมส์แนวแอ็คชันที่มีการปะทะหรือการยิงกัน หรือกระทั้งเกมส์ที่มีการใส่สกิล ก็ได้ยินเสียงเสมือนเราอยู่ในสถานการณ์จริงกันเลย อันนี้คงต้องยกความดีความชอบให้กับการทำงานของ Soundcard 7.1 Channel ด้วย
เอาว่าใครกำลังมองหาหูฟัง Gaming ซักตัวที่ราคาไม่แพงจนเกินไป แต่มีประสิทธิภาพและฟีเจอร์ครบๆ ล่ะก็ HyperX Cloud Revolver จากทาง Kingston น่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆ นะครับ ยังไงไปลองดูตามหน้าร้านอีกทีแล้วกัน ซึ่งราคาตอนนี้อย่างไม่เป็นทางการเทียบเป็นเงินไทยแล้วจะตกอยู่ที่ 4,xxx บาทครับ
[SR] Kingston Cloud Revolver หูฟัง Gaming คุณภาพรุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมดีไซน์ดุดัน ในราคา 4,xxx บาท
เรียกได้ว่า Kingston นอกจากจะเป็นผู้ผลิตภัณฑ์ Flash Memory ชื่อดังรูปแบบต่างๆ แล้ว ทางด้านอุปกรณ์ Gaming Gear ก็ขึ้นชื่อไม่แพ้กัน อย่างเช่นหูฟังที่มีสินค้าโดดเด่นอย่างหูฟังเกมมิ่งตระกูล HyperX Cloud ซึ่งในปีที่แล้วก็มี HyperX Cloud II ที่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีและมีคำวิจารณ์จากหลายสำนักรีวิวในแง่บวกและล่าสุดในปี 2016 นี้ทาง Kingston ก็จะมีผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ออกมาเช่นกันโดยพวกเขาตั้งใจว่าต้องการจะมาแทนที่ HyperX Cloud II ซึ่งชื่อของมันก็คือ HyperX Cloud Revolver นั่นเอง สนนราคาอยู่ที่ 4,xxx บาท
สำหรับ HyperX Cloud Revolver นั้นทาง Kingston ก็ได้เผยโฉมครั้งแรกภายในงาน CES 2016 ที่จะเริ่มแล้วตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม โดยหูฟัง Gaming ตระกูล HyperX ตัวนี้จะมีสิ่งที่แตกต่างจากหูฟังรุ่นที่แล้วมาอย่างสิ้นเชิงเริ่มจากรูปร่างหน้าตาของมันที่มีการปรับโฉมดีไซน์ใหม่หมด มีการขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยตรงในส่วนของดีไซน์ลำโพงก็จะเปลี่ยนไปเป็นไฟ LED สีแดงล้อมรอบโลโก้ HyperX นอกจากขนาดที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยแล้วแต่ถ้าหากมองในมุมด้านข้างก็จะพบว่ามันมีรูปร่างค่อนข้างแข็งแรงกว่ารุ่นที่แล้วมาเลยทีเดียวรวมไปถึงก้านครอบศรีษะแบบใหม่ก็ดูดุดันมากขึ้นด้วย
ส่วนทางด้านประสิทธิภาพ HyperX Cloud Revolver จะมีคุณภาพเสียงที่ดีกว่ามากโดยจะมีระดับเสียงที่หลากหลายระดับมากยิ่งขึ้น ทำให้รู้สึกถึงเสียงที่เป็นธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นเสียงเบสหรือเพลงเบาๆ HyperX Cloud Revolver ตัวนี้สามารถถ่ายทอดเสียงออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตัวลำโพงและส่วนของที่ครอบหูจะมีการปรับปรุงให้เข้ากับใบหูมนุษย์มากขึ้นซึ่งจะช่วยในเรื่องของการสวมใส่ที่สบายไม่หนักจนเกินไปและที่สำคัญ ตัวหูฟังก็จะเป็น USB 7.1 Dolby เช่นเคยครับ อีกทั้ง HyperX Cloud Revolver จะมีไมค์แบบใหม่ที่จะให้เสียงที่มีคุณภาพกว่าสามารถสื่อสารได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ว่าแล้วเราก็มาชมส่วนของสเปก HyperX Cloud Revolver
- ประเภททรานสดิวเซอร์ : ไดนามิคไดรเวอร์แบบปิด 50 มม.
- ประเภทของหูฟัง : แบบ Full Size หรือหูฟังในระดับใหญ่ (Circumaural)
- ความถี่ : 12 – 28,000 Hz
- ความต้านทาน : 30 โอห์ม
- ระดับแรงดันเสียง : 104.5dBSPL/mWat 1kHZ
- น้ำหนัก : 360 กรัม
- น้ำหนักพร้อมไมค์และสาย : 376 กรัม
- ความยาวของสาย : หูฟังยาว 1 เมตร และตัวควบคุมเสียงสายยาว 2 เมตร
- การเชื่อมต่อ : หูฟังแบบหัวเสียบสเตอริโอขนาด 3.5 มม. และชุดควบคุมหูฟังพร้อมไมค์สเตอริโอหัวเสียบขนาด 3.5 มม.
โดยการแกะกล่องลองดูของจริง HyperX Cloud Revolver ก็เชื่อได้ว่าใครที่ได้จับจองเป็นเจ้าของน่าจะปลื้มกับแพ็คเกจตั้งแต่แรกเห็นสำหรับหูฟังจาก Kingston นี้ เพราะนอกจากดีไซน์ที่แตกต่างแล้ว ยังใส่รายละเอียดของฟีเจอร์มาแบบละเอียดรอบกล่อง อย่างน้อยเราก็พอจะได้รู้ว่ามีสิ่งใดบ้างให้เราได้ลองใช้งานกัน โดยด้านหลังบอกคุณสมบัติต่างๆ ที่น่าสนใจ เป็นข้อมูลที่บ่งบอกถึงคุณลักษณะที่ดีของหูฟังรุ่นนี้
เมื่อเปิดกล่องออกมาดูจะเป็นดังในภาพนี้ ซึ่งประกอบไปด้วยตัวหูฟัง HyperX Cloud Revolver ไมโครโฟน Soundcard มาดูกันที่ตัวหูฟังกันก่อนโดยรูปแบบทั่วไป ต่างจากรุ่นก่อนหน้าพอสมควร อย่างดีไซน์ ด้ายเย็บและชิ้นส่วนเล็กๆ น้อยๆ ที่ดูดุดันขึ้น ให้อารมณ์ Gaming กว่าที่เคย มาดูกันในส่วนที่ครอบศีรษะกับการออกแบบด้านบนโดยใช้การปักโลโก้ HyperX พร้อมกับเดินด้ายสีแดง ที่ปรับขนาดได้อัตโนมัติ ซึ่งดูสะดุดตามากๆ เหมาะกับคนที่ชอบความหวือหวาโดดเด่น ส่วนที่เป็นครอบหูฟังกับดีไซน์ HX ก็ดูเท่ไม่เบา เมื่อเปิดใช้งานก็จะมีไฟสีแดงติดขึ้นมา กับก้านที่ใช้ในการรับน้ำหนักเป็นลายอลูมิเนียมสีดำที่ดูเข้ากันได้ดี
ฟองน้ำด้านในบุอย่างดีและหุ้มด้วยหนัง ให้ความนิ่มนวลพอเหมาะ อาจจะนุ่มไปถึงนุ่มมาก เพื่อให้ครอบลงบนศีรษะได้สบายๆ น่าจะเป็นจุดแข็งอีกอย่างหนึ่ง เพียงแต่ว่าเท่าที่ดูมีการกระจายน้ำหนักไปยังหูฟังด้วย จึงทำให้ไม่เกิดการรำคาญ ใช้งานได้นาน เท่าที่ลองใช้เป็นเวลานานๆ กับการเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ก็ชิลๆ ดีไม่รู้สึกรำคาญ ก้านด้านข้างสำหรับปรับระดับ มีการไล่สเตปได้อย่างนุ่มนวล ซึ่งในการปรับระดับ ไม่ว่าจะหยิบออกมาปรับหรือปรับขณะที่อยู่บนศีรษะนั้นไม่ต่างกัน ทำได้สะดวกทั้งสองแบบ ต้องยกนิ้วให้กับการออกแบบนี้ ใช้งานง่ายและน้ำหนักเบา
ลักษณะการกางหูฟังเพื่อครอบ มีความแข็งเล็กน้อย พอให้ดึงออกมาได้ตึงๆ มือ โดยไม่ต้องกลัวหัก แต่ที่สำคัญคือ ง้างออกมาได้ง่ายและบิดตัวได้เล็กน้อย ช่องสำหรับใส่ไมโครโฟนด้านข้างของหูฟัง เป็นตำแหน่งเดียวกับรุ่นที่แล้ว สามารถใช้ไมโครโฟน เสียบผ่านช่องที่จัดไว้และพร้อมใช้งานได้ทันที
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญก็คือ Soundcard ที่มาในรูปแบบของ USB ซึ่งจะต่อเข้ากับพอร์ตบนคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊ค สำหรับการใช้ฟังก์ชั่นในการเพิ่มระบบเสียง เป็นแบบ 7.1 Channel และปรับเพิ่มลดเสียงของหูฟังและไมโครโฟนได้จากจุดนี้ และแน่นอนว่า HyperX Cloud Revolver รองรับการทำงานได้หลากหลาย ด้วยการเชื่อมต่อผ่าน USB port จึงสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งคอมพิวเตอร์พีซีและ Mac รวมถึงระบบเสียงในแบบสเตอริโอบนเครื่องเล่น PS4, Xbox One และอุปกรณ์ที่เป็นเครื่องเล่นพกพาในแบบต่างๆ
ด้วยการออกแบบอย่างมีสไตล์และระบบเสียงที่มีคุณภาพ HyperX Cloud Revolver จึงสามารถตอบโจทย์การด้านความสนุกสนานให้กับเกมเมอร์ได้อย่างน่าสนใจ รวมถึงการให้ความบันเทิงสำหรับผู้ที่รักในเสียงเพลงหรือการชมภาพยนตร์ได้เต็มอรรถรสอีกด้วย หลักๆ ลักษณะของเสียงในการฟังเพลงที่ได้นั้นเต็มอิ่มมากทีเดียว มีเสียงทุ้มของเบสที่แน่นพอสมควร แต่สำหรับเสียงแหลมนั้นถ้าฟังเพลงในลักษณะของเพลงที่มีเบสน้อย และเสียงร้องเยอะ จะได้ยินเสียงนักร้องที่เป็นเสียงแหลมชัดเจนมาก จนในบางครั้งมีความรู้สึกว่าเสียงแหลมสูงมากจนทำให้แสบหูกันเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้ก็สามารถหักลบกันได้ถ้าเสียงนั้นมีเบสเข้ามาเยอะ เสียงแหลมก็จะลดน้อยลงไป ซึ่งก็เป็นไปตามสไตล์ของหูฟัง Gaming
เมื่อนำ HyperX Cloud Revolver ไปเล่นเกมตามสไตล์หูฟัง Gaming เรียกได้ว่าสามารถตอบโจทย์ของผู้ใช้ในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะได้เสียงที่เต็มอิ่มในทุกสถานการณ์ของเกมส์เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเกมส์แนวแอ็คชันที่มีการปะทะหรือการยิงกัน หรือกระทั้งเกมส์ที่มีการใส่สกิล ก็ได้ยินเสียงเสมือนเราอยู่ในสถานการณ์จริงกันเลย อันนี้คงต้องยกความดีความชอบให้กับการทำงานของ Soundcard 7.1 Channel ด้วย
เอาว่าใครกำลังมองหาหูฟัง Gaming ซักตัวที่ราคาไม่แพงจนเกินไป แต่มีประสิทธิภาพและฟีเจอร์ครบๆ ล่ะก็ HyperX Cloud Revolver จากทาง Kingston น่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆ นะครับ ยังไงไปลองดูตามหน้าร้านอีกทีแล้วกัน ซึ่งราคาตอนนี้อย่างไม่เป็นทางการเทียบเป็นเงินไทยแล้วจะตกอยู่ที่ 4,xxx บาทครับ