(บทความ) ตัวอย่างลักษณะของหุ้นขาลงที่ควรหลีกเลี่ยง

มีหลายคนที่เล่นหุ้นแล้วขาดทุน สาเหตุหลักๆเท่าที่ผมสังเกตก็เพราะว่าพวกเค้าเล่นหุ้นตามข่าวอย่างเดียวหรือตามคนอื่นบอกโดยที่ไม่เคยได้วิเคราะห์หุ้นแบบจริงจังด้วยตัวเองเลย ในบทความนี้ผมจะลองนำเสนอวิธีการวิเคราะห์ลักษณะของหุ้นที่เราควรหลีกเลี่ยง หุ้นที่ยังไม่ควรเข้าซื้อ หรืออาจจะเป็นขาลงอยู่ โดยใช้วิธีพิจารณาจากแพทเทิร์นของกราฟ และดูข้อมูลด้านปัจจัยพื้นฐานของหุ้นประกอบอีกเล็กน้อย ซึ่งเป็นวิธีง่ายๆที่ใครๆก็ทำได้ครับ

ปกติแล้วถ้าผมสนใจหุ้นตัวไหนก็จะลอง search ดูกราฟแท่งเทียนของหุ้นนั้นๆ แล้วพิจารณาว่าหุ้นเป็นขาขึ้นหรือขาลงโดยดูจาก pattern ของกราฟ ลองมาดูตัวอย่างกันครับ



รูปด้านบนเป็นกราฟของหุ้น BANPU โดยแสดงราคาย้อนหลังตั้งแต่ช่วงต้นปี 2011 ถึงกลางปี 2012 โดยตั้งค่า Time Frame แบบ Week เพื่อที่จะดูภาพใหญ่ของหุ้น (สำหรับผมการจะเลือกหุ้นแต่ละตัวต้องดูภาพใหญ่ก่อนเสมอ ไม่ว่าผมจะเล่นสั้นหรือยาวก็ตาม) สมมติว่าอยู่ดีๆเราเกิดมาสนใจหุ้นตัวนี้ หรือได้ยินใครเชียร์ให้ซื้อตอนช่วงเดือน พค. 2012  ถ้าคุณได้เปิดดูกราฟหุ้นตัวนี้ถึงแม้คุณจะไม่มีความรู้เรื่องการวิเคราะห์ทางเทคนิคก็คงพอจะบอกได้ว่าหุ้นตัวนี้เป็นขาลง ณ.ช่วงเวลานั้น แต่ถ้ายังมีความสนใจในหุ้นตัวนี้อีกเพราะคิดว่าราคาลงมาเยอะแล้วน่าจะถูกดี หรือมีข่าวบอกว่าหุ้นอาจจะ turn around งบอาจจะกลับมามีกำไร ก็ให้เราลองไปดูบทวิเคราะห์ของ broker หลายๆเจ้าเปรียบเทียบกันดู หรืออาจจะไปที่เว็บ settrade.com ค้นหาชื่อหุ้นที่เราสนใจ คลิ๊กที่ “IAA Consensus” และคลิ๊ก “ดูบทวิเคราะห์/วิจัย” เพื่อที่จะค้นหาบทวิเคราะห์ของหุ้นที่เราสนใจ โดยบทวิเคราะห์เหล่านี้จัดทำโดย broker หลายๆสำนักความยาวไม่มากนัก (มักจะอ่านจบภายในไม่เกิน 10 นาที) ถ้าเป็นหุ้นที่มีคนสนใจเยอะ ก็จะมีคนตามวิเคราะห์เยอะหน่อย แนะนำให้อ่านของหลายๆสำนักเปรียบเทียบกัน สิ่งที่ควรสนใจในบทวิเคราะห์คือให้ดูว่ามีการคาดการณ์กำไรของบริษัทในไตรมาสถัดๆไปไว้อย่างไร รวมถึงกำไรของทั้งปีหรืออาจคาดการณ์ถึงปีต่อไปด้วยว่าดีหรือไม่ ถ้ารายได้และกำไร มีแนวโน้มที่จะโตขึ้นมากก็ถือว่าน่าสนใจ ถ้าลดลงหรือทรงๆให้หลีกเลี่ยง แต่ส่วนใหญ่เท่าที่เห็นหุ้นที่กราฟเป็นขาลงแบบรูปข้างบนที่ให้ดูนั้นราคาหุ้นมักจะขึ้นได้ยาก และกราฟราคาก็ได้รวมทุกสิ่งและผลกระทบจากข่าวต่างๆไว้เรียบร้อยแล้ว ถ้าบริษัทนั้นมีแน้วโน้มที่จะทำกำไรได้จริงส่วนใหญ่ราคาหุ้นน่าจะมีการกลับตัวเป็นขาขึ้นให้เห็นในกราฟบ้าง (เพราะคนวงในที่รู้ข่าวดีก็น่าจะซื้อเก็บกัน) ทีนี้เรามาดูกันต่อไปว่าชะตากรรมของหุ้น BANPU หลังจากนั้นเป็นอย่างไรบ้าง



จากรูปด้านบนแสดงให้เห็นว่าราคาหุ้น BANPU หลังจากเดือน พค. 2012 ยังคงลดลงต่อเนื่องมาเรื่อยๆจนมาถึงกลางปี 2013 และถ้าเราเช็คจากงบการเงินในปีนั้นก็จะเห็นว่ากำไรของบริษัทที่ทำได้ก็ลดลงมาเยอะเหมือนกัน นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมหุ้นถึงราคาลงในช่วงนั้น

อยากจะขอเสริมอีกนิดหน่อย จากกราฟบางคนอาจคิดว่ามีช่วงที่พอจะเข้าไปเล่นเก็งกำไรได้บ้างตอนที่ราคาไม่ทำ lower low แต่ผมคิดว่ามันเสี่ยงเกินไปและอาจจะได้ไม่คุ้มเสีย ลองดูตัวอย่างประกอบ



จากรูปด้านบน ผมลองตีเส้น trend line (เส้นสีขาว) ตรงที่ราคาหุ้นทำ high low (จุดต่ำสุดยกสูงขึ้น) นักเก็งกำไรอาจจะเข้าไปซื้อตอนช่วงราคา 42 บาทและขายตอนแถวๆ 50 บาท แต่โอกาสที่จะได้ซื้อราคาต่ำสุดและขายที่ราคาสูงสุดของรอบก็ไม่ง่ายนักในทางปฏิบัติจริง ถึงทำได้อัตรากำไรเป็นเปอร์เซ็นต์ก็ไม่สูงนัก และถ้าพลาดอาจจะเสียหายหนัก ผมสังเกตว่าหุ้นที่เป็นขาลงมายาวนานถึงแม้กราฟจะทำ higher low ได้ ในช่วงแรกการขึ้นของราคาจะยังไม่แข็งแรง และถ้างบไม่ดียังไงราคาก็ต้องลงต่อ หรือถ้าจะเก็งกำไรผมแนะนำว่าไปเข้าซื้อหุ้นที่มีกราฟเป็นขาขึ้นยังดีกว่า

ขอสรุปสั้นๆว่าถ้ากราฟหุ้นเป็นขาลงและงบเน่า อย่าเข้าไปเล่นเป็นดีที่สุดครับ และหุ้น BANPU ที่ผมนำมายกตัวอย่างนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตช่วงปี 2011-2013 ผมไม่ได้มีเจตนานำเหตุการณ์นี้มาชี้นำราคาหุ้น ณ.ปัจจุบัน ใครอยากรู้ว่าหุ้น BANPU ตอนนี้กิจการดีไหม แล้วราคาน่าจะเป็นอย่างไรในอนาคตก็ลองไปวิเคราะห์ดูต่อกันเอาเองนะครับ

ที่มา: http://www.slowrich.net
Facebook: http://facebook.com/slowrichthailand
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่