วันนี้จะพาไปเที่ยวแบบง่ายๆพาแม่เที่ยวได้ ใช้เวลา2วัน1คืน
ทริปนี้เราเดินทางวันที่ 2-3 พ.ค.59
ขาไปเราใช้บริการของไทยไลอ้อนแอร์
ได้ราคาโปรมาคนละ 375 บาท
รวมน้ำหนักกระเป๋า 15 kg.
เลือกที่นั่งฟรี และ อาหารว่างบนเครือง
เช้าวันแรกออกจากสนามบินดอนเมือง
ตั้งแต่ 05:55 ก่อนอื่นใช้สิทธิ์หาอาหารเช้าทานกันก่อนค่า
ประมาณ 07:00 ก็มาถึงสนามบินอุดรแล้วก็จัดการซื้อตั๋วรถตู้ ไปสะพานมิตรภาพหนองคาย ราคาคนละ 200
บาท ใช้เวลาประมาณ1ชั่วโมงครึ่ง
การข้ามแดนไปเวียงจันทร์นั้น คนไทยทำได้ 2 แบบนะคะคือ
1.ถือพาสปอร์ต กรอกเอกสารที่ตม.ทั้งสองฝั่ง
2.ใช้ใบข้ามแดน อันนี้ต้องไปทำที่ศูนย์ OTOP หนองคาย คนละ 50 บาท
แม่เราต้องใช้ใบข้ามแดน พี่ที่รถตู้ของสนามบินก็ให้เบอร์โทรมา เราแค่บอกเลขที่บัตรประชาชนไปก็สามารถทำได้เลยในราคา 100 บาท
เราโทรบอกเค้าแล้วก็ไปรอรับที่สะพานได้เลย เราว่าก็สะดวกดี เสียเพิ่มนิดหน่อยดีกว่านั่งรถไปมา
หลังจากนั้นพอเราผ่านด่าน ตม. ไทยแล้ว
ก็นั่งรถบัสข้ามสะพานมิตรภาพ ต้องซื้อตั๋วรถอีก คนละ 15 บาทค่ะ
แล้วเราก็มาถึงฝั่งลาวแล้วค่าา
พอเรามาถึงคนที่ถือพาสปอร์ตจะต้องกรอก แบบฟอร์มขาเข้า-ออกลาวก่อนนะคะ
แต่คนถือใบข้ามแดนไม่ต้องกรอกแต่ต้องเอาเอกสารไปถ่ายเอกสารที่ตู้ที่อยู่ตรงกลาง เขียนว่าตู้ photo copy คนละ 5 บาท
หลังจากนั้นก็ไปซื้อบัตรเพื่อเสียค่าเข้าแผ่นดินลาว
ถ้าคนที่ถือพาสปอร์ตจะเสียคนละ 11000 กีบ =50 บาท
ส่วนคนที่ถือใบข้ามแดนจะเสียคนละ 22000 กีบ =100 บาท
ตามตารางนี้เลยค่า
หลังจากตรงนี้ก็มาแลกเงิน ใครแลกเท่าไหร่ก็แลกเลยค่ะ แต่เอาอย่าให้เหลือเยอะนะคะเดี๋ยวขาดทุน 😊😊
แล้วเราก็เดินมาขึ้นรถบัสค่ะ
จะอยู่ทางขวามือเป็นรถบัสคันสีเขียว
ค่ารถคนละ 6000 กีบ = 25 บาท
ตอนนี้ก็มาถึงตลาดเช้าแล้ว
แม่ก็บ่นหิวแล้ว เราก็หาอะไรทานตรงตลาดแหละคะ
เป็นเฝอไก่ค่ะ
รสชาติก็อร่อยดีค่ะ
ค่าเสียหายเฝอไก่ 2 ชาม โค้ก 1 ขวด 25000 กีบจ้า ประมาณ 110 บาท
แล้วเราก็เดินไปคุยกับรถสกายเล็ป เพื่อพาเที่ยวในเวียงจันทร์ เราคิดต่อได้ในราคา 400 บาท เพื่อพาไปเที่ยว วัดพระธาตุหลวง ประตูชัยและหอพระแก้ว
ขอลงรูปรัว ๆ เลยนะคะ ขออภัยที่รูปไม่ค่อยสวยเท่าไหร่คะ
หลังจากนั้นพี่คนขับก็พาเรามาส่งที่ตลาดเช้าค่ะเราก็ซื้อตั๋วรถกลับอุดรกันค่า เรานั่งรถรอบ 14:00 ค่ารถคนละ 100 บาทค่ะ
เครดิตรูปตามภาพเลยนะคะ พอดีลืมถ่ายค่ะ
ขั้นตอนการผ่านแดนก็คล้ายกับขามาค่ะ เอาเอกสารไปยื่น อย่าทำใบเสร็จที่ซื้อบัตรค่าเข้าแผ่นดินหายนะคะ เพราะเราต้องเอาใบยื่นรับบัตรผ่านแดนที่จะใช้ตอนออกค่ะ ตอนนี้เราไม่ต้องจ่ายเงินแล้วนะคะ รับบัตรมาแล้วก็เดินผ่านไปค่ะ เราก็รีบวิ่งไปขึ้นรถคันเดิม ใช้เวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมงกว่า ก็มาถึงบขส. อุดรค่ะ
นั่งตุ๊ก ๆ คนละ 20 บาทมาลงที่หน้าเทคนิคอุดร
เราจองที่พัก ที่อุดรคาบาน่าไว้ค่ะ ราคาคืนละ 490 บาท พร้อมอาหารเช้าเป็นข้าวต้มหมูสับและมีโต๊ะ ขนมปังปิ้งกับกาแฟไว้บริการค่ะ
ห้องก็สะอาดดี มีตู้เสื้อผ้า ทีวี ตู้เย็น
เราว่าก็เหมาะสมกับราคาดีค่ะ
ไม่มีรูปในห้องนะคะ ลืมถ่ายค่ะ ขออภัย
แล้วแม่ลูกก็พากันหลับค่าาา
หลังจากตื่นเราก็พากันไปหาอะไรกินที่ตลาดบ้านห้วย ข้าง ๆ โรงแรมเดินประมาณ 5 นาที ได้ปลาเผามา 1 ตัว ขนมจีน ส้มตำ แล้วก็มาทานกันตรงหน้าล็อบบี้ แล้วก็พากันนอนจบวันแรกแล้วค่า
ตื่นเช้ามาวันนี้ตื่นกันสายเลย
หลังจากทานข้าวเช้า อาบน้ำ เราก็เช็คเอ้าท์กันเลย วันนี้เราจะไปไหว้ศาลหลักเมืองกันค่ะ
พอเดินไหว้เสร็จก็รู้สึกหิวกันอีกแล้ว
เราก็พากันนั่งรถสามล้อไปร้าน VT แหนมเนืองค่ะ
เราก็สั่ง แหนมเนืองชุด 5 ไม้ (170 บ.)
ขนมจีนแกงไก่ (55 บ.)
กระยอสด (50 บ.)
น้ำโค้กขวดใหญ่ (35บ.)
เต้าส่วนข้าวโพด (25 บ.)
เป็นของหวาน
รวมน้ำแล้วราคาอยู่ที่ 359 บาทค่ะ
ในใบเสร็จมีรายการสั่งกลับด้วยนะคะเลยเยอะ
หลังจากอิ่มกันแล้วก็ได้เวลากลับกันแหละ
ขากลับใช้บริการน้องนกแอร์
เวลา 15:35 ถึงดอนเมือง16:35
มีดีเลย์ ไป 20 นาที✈✈✈
กลับมาถึงดอนเมืองโดยสวัสดิภาพ
โอกาสหน้าไปเที่ยวด้วยกันใหม่นะคะ🙋🙋🙋
รวมค่าใช้จ่ายสำหรับ 1 คนนะคะ
ค่าตั๋วเครื่องบิน
ขาไป ไทยไลอ้อนแอร์ 375 บาท
ขากลับ นกแอร์ 830 บาท
ค่าที่พัก อุดรคาบาน่า 220 บาท
ค่าใช้บัตรผ่านแดน 100 บาท
ค่ารถตู้สนามบินอุดร-สะพานมิตรภาพ 200 บาท
ค่ารถบัสข้ามสะพาน 15 บาท
ค่าถ่ายเอกสาร(ใช้บัตรข้ามแดน) 5 บาท
ค่าเข้าลาว(ใช้บัตรข้ามแดน) 100 บาท
(ใช้พาสปอร์ต) 50 บาท
ค่ารถบัสไปตลาดเช้า 25 บาท
ค่าเฝอไก่+น้ำ 55 บาท
ค่าสกายแล็ปเที่ยวในเวียงจันทร์ 200 บาท
ค่ารถขากลับ เวียงจันทร์-อุดร 100 บาท
ค่าอาหารเย็น 100 บาท
ค่ารถสามล้อ 30 บาท
ค่าอาหารร้าน VT แหนมเนือง 180 บาท
ค่ารถสามล้อมาสนามบิน 50 บาท
รวม 2,585 บาท
ถ้าใช้พาสปอร์ตก็ลดไปอีก155 บาท
เหลือ 2,430 บาท
แค่นี้ก็เพียงพอกับการพาแม่ไปเที่ยว
ทริปง่ายๆ ไม่ลำบากมาก สนุกด้วยค่ะ
ขอบคุณที่รับชมค่า
รีวิวทริป อุดร-เวียงจันทร์ แบบง่ายๆ พาแม่เที่ยวได้
ทริปนี้เราเดินทางวันที่ 2-3 พ.ค.59
ขาไปเราใช้บริการของไทยไลอ้อนแอร์
ได้ราคาโปรมาคนละ 375 บาท
รวมน้ำหนักกระเป๋า 15 kg.
เลือกที่นั่งฟรี และ อาหารว่างบนเครือง
เช้าวันแรกออกจากสนามบินดอนเมือง
ตั้งแต่ 05:55 ก่อนอื่นใช้สิทธิ์หาอาหารเช้าทานกันก่อนค่า
ประมาณ 07:00 ก็มาถึงสนามบินอุดรแล้วก็จัดการซื้อตั๋วรถตู้ ไปสะพานมิตรภาพหนองคาย ราคาคนละ 200
บาท ใช้เวลาประมาณ1ชั่วโมงครึ่ง
การข้ามแดนไปเวียงจันทร์นั้น คนไทยทำได้ 2 แบบนะคะคือ
1.ถือพาสปอร์ต กรอกเอกสารที่ตม.ทั้งสองฝั่ง
2.ใช้ใบข้ามแดน อันนี้ต้องไปทำที่ศูนย์ OTOP หนองคาย คนละ 50 บาท
แม่เราต้องใช้ใบข้ามแดน พี่ที่รถตู้ของสนามบินก็ให้เบอร์โทรมา เราแค่บอกเลขที่บัตรประชาชนไปก็สามารถทำได้เลยในราคา 100 บาท
เราโทรบอกเค้าแล้วก็ไปรอรับที่สะพานได้เลย เราว่าก็สะดวกดี เสียเพิ่มนิดหน่อยดีกว่านั่งรถไปมา
หลังจากนั้นพอเราผ่านด่าน ตม. ไทยแล้ว
ก็นั่งรถบัสข้ามสะพานมิตรภาพ ต้องซื้อตั๋วรถอีก คนละ 15 บาทค่ะ
แล้วเราก็มาถึงฝั่งลาวแล้วค่าา
พอเรามาถึงคนที่ถือพาสปอร์ตจะต้องกรอก แบบฟอร์มขาเข้า-ออกลาวก่อนนะคะ
แต่คนถือใบข้ามแดนไม่ต้องกรอกแต่ต้องเอาเอกสารไปถ่ายเอกสารที่ตู้ที่อยู่ตรงกลาง เขียนว่าตู้ photo copy คนละ 5 บาท
หลังจากนั้นก็ไปซื้อบัตรเพื่อเสียค่าเข้าแผ่นดินลาว
ถ้าคนที่ถือพาสปอร์ตจะเสียคนละ 11000 กีบ =50 บาท
ส่วนคนที่ถือใบข้ามแดนจะเสียคนละ 22000 กีบ =100 บาท
ตามตารางนี้เลยค่า
หลังจากตรงนี้ก็มาแลกเงิน ใครแลกเท่าไหร่ก็แลกเลยค่ะ แต่เอาอย่าให้เหลือเยอะนะคะเดี๋ยวขาดทุน 😊😊
แล้วเราก็เดินมาขึ้นรถบัสค่ะ
จะอยู่ทางขวามือเป็นรถบัสคันสีเขียว
ค่ารถคนละ 6000 กีบ = 25 บาท
ตอนนี้ก็มาถึงตลาดเช้าแล้ว
แม่ก็บ่นหิวแล้ว เราก็หาอะไรทานตรงตลาดแหละคะ
เป็นเฝอไก่ค่ะ
รสชาติก็อร่อยดีค่ะ
ค่าเสียหายเฝอไก่ 2 ชาม โค้ก 1 ขวด 25000 กีบจ้า ประมาณ 110 บาท
แล้วเราก็เดินไปคุยกับรถสกายเล็ป เพื่อพาเที่ยวในเวียงจันทร์ เราคิดต่อได้ในราคา 400 บาท เพื่อพาไปเที่ยว วัดพระธาตุหลวง ประตูชัยและหอพระแก้ว
ขอลงรูปรัว ๆ เลยนะคะ ขออภัยที่รูปไม่ค่อยสวยเท่าไหร่คะ
หลังจากนั้นพี่คนขับก็พาเรามาส่งที่ตลาดเช้าค่ะเราก็ซื้อตั๋วรถกลับอุดรกันค่า เรานั่งรถรอบ 14:00 ค่ารถคนละ 100 บาทค่ะ
เครดิตรูปตามภาพเลยนะคะ พอดีลืมถ่ายค่ะ
ขั้นตอนการผ่านแดนก็คล้ายกับขามาค่ะ เอาเอกสารไปยื่น อย่าทำใบเสร็จที่ซื้อบัตรค่าเข้าแผ่นดินหายนะคะ เพราะเราต้องเอาใบยื่นรับบัตรผ่านแดนที่จะใช้ตอนออกค่ะ ตอนนี้เราไม่ต้องจ่ายเงินแล้วนะคะ รับบัตรมาแล้วก็เดินผ่านไปค่ะ เราก็รีบวิ่งไปขึ้นรถคันเดิม ใช้เวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมงกว่า ก็มาถึงบขส. อุดรค่ะ
นั่งตุ๊ก ๆ คนละ 20 บาทมาลงที่หน้าเทคนิคอุดร
เราจองที่พัก ที่อุดรคาบาน่าไว้ค่ะ ราคาคืนละ 490 บาท พร้อมอาหารเช้าเป็นข้าวต้มหมูสับและมีโต๊ะ ขนมปังปิ้งกับกาแฟไว้บริการค่ะ
ห้องก็สะอาดดี มีตู้เสื้อผ้า ทีวี ตู้เย็น
เราว่าก็เหมาะสมกับราคาดีค่ะ
ไม่มีรูปในห้องนะคะ ลืมถ่ายค่ะ ขออภัย
แล้วแม่ลูกก็พากันหลับค่าาา
หลังจากตื่นเราก็พากันไปหาอะไรกินที่ตลาดบ้านห้วย ข้าง ๆ โรงแรมเดินประมาณ 5 นาที ได้ปลาเผามา 1 ตัว ขนมจีน ส้มตำ แล้วก็มาทานกันตรงหน้าล็อบบี้ แล้วก็พากันนอนจบวันแรกแล้วค่า
ตื่นเช้ามาวันนี้ตื่นกันสายเลย
หลังจากทานข้าวเช้า อาบน้ำ เราก็เช็คเอ้าท์กันเลย วันนี้เราจะไปไหว้ศาลหลักเมืองกันค่ะ
พอเดินไหว้เสร็จก็รู้สึกหิวกันอีกแล้ว
เราก็พากันนั่งรถสามล้อไปร้าน VT แหนมเนืองค่ะ
เราก็สั่ง แหนมเนืองชุด 5 ไม้ (170 บ.)
ขนมจีนแกงไก่ (55 บ.)
กระยอสด (50 บ.)
น้ำโค้กขวดใหญ่ (35บ.)
เต้าส่วนข้าวโพด (25 บ.)
เป็นของหวาน
รวมน้ำแล้วราคาอยู่ที่ 359 บาทค่ะ
ในใบเสร็จมีรายการสั่งกลับด้วยนะคะเลยเยอะ
หลังจากอิ่มกันแล้วก็ได้เวลากลับกันแหละ
ขากลับใช้บริการน้องนกแอร์
เวลา 15:35 ถึงดอนเมือง16:35
มีดีเลย์ ไป 20 นาที✈✈✈
กลับมาถึงดอนเมืองโดยสวัสดิภาพ
โอกาสหน้าไปเที่ยวด้วยกันใหม่นะคะ🙋🙋🙋
รวมค่าใช้จ่ายสำหรับ 1 คนนะคะ
ค่าตั๋วเครื่องบิน
ขาไป ไทยไลอ้อนแอร์ 375 บาท
ขากลับ นกแอร์ 830 บาท
ค่าที่พัก อุดรคาบาน่า 220 บาท
ค่าใช้บัตรผ่านแดน 100 บาท
ค่ารถตู้สนามบินอุดร-สะพานมิตรภาพ 200 บาท
ค่ารถบัสข้ามสะพาน 15 บาท
ค่าถ่ายเอกสาร(ใช้บัตรข้ามแดน) 5 บาท
ค่าเข้าลาว(ใช้บัตรข้ามแดน) 100 บาท
(ใช้พาสปอร์ต) 50 บาท
ค่ารถบัสไปตลาดเช้า 25 บาท
ค่าเฝอไก่+น้ำ 55 บาท
ค่าสกายแล็ปเที่ยวในเวียงจันทร์ 200 บาท
ค่ารถขากลับ เวียงจันทร์-อุดร 100 บาท
ค่าอาหารเย็น 100 บาท
ค่ารถสามล้อ 30 บาท
ค่าอาหารร้าน VT แหนมเนือง 180 บาท
ค่ารถสามล้อมาสนามบิน 50 บาท
รวม 2,585 บาท
ถ้าใช้พาสปอร์ตก็ลดไปอีก155 บาท
เหลือ 2,430 บาท
แค่นี้ก็เพียงพอกับการพาแม่ไปเที่ยว
ทริปง่ายๆ ไม่ลำบากมาก สนุกด้วยค่ะ
ขอบคุณที่รับชมค่า