หนีรักไปพักวังเวียง

[CR] หนีรักไปพักวังเวียง

กระทู้รีวิว

เที่ยวภูเขา บันทึกนักเดินทาง แผนที่เดินทาง เที่ยวต่างประเทศ Backpack

           จุดเริ่งต้นของเรื่องนี้คือ อยากใช้ชีวิตช้าๆ นอนฟังเสียงกบ ได้สูดกลิ่นไอดิน อ่านหนังสือเล่มที่ชอบ จิบเบีร์ยดำลาวสัก ลังสองลังก็พอเ   ทริปนี้เลยมีทั้งเฮฮาและดราม่า ผสมกันไป ทริปนี้ไปกับน้อง1คนครับ (น้องร้องตาม)
-------เรามาเริ่มรีวิว วังเวียงในแบบ ชิคชิค กันเลยครับ--------

         วังเวียงเป็นเมืองเล็กๆ  ที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาหินปูนสูงชัน  และมีบรรยากาศที่โรแมนติกมากๆเหมาะสำหรับคู่รักจะมาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันบรรยากาศฆ่าคนโสดได้ง่ายๆเลย

        ชื่อวังเวียงสอบถามข้อมูลจากคนในพื้นที่   ได้ข้อมูลมาว่าในสมัยก่อนพื้นที่แห่งนี้มีน้ำวน คำว่าเวียงในภาษาลาวแปลว่า วน วังวนวังเวียงนั่นเอง    มีแม่น้ำซองไหลผ่าน   การเดินทางภายในเมืองถนนหนทาง    ยังไม่ค่อยสะดวกสบายมากนักยังเป็นทางลูกรังซะส่วนใหญ่

ได้บรรยากาศดิบดิบอินดี้อินดี้มากมาย

    -------มาเริ่มเดินทางไปกันเลยครับ----------
          เราเลือกการเดินทางด้วยเครื่องดีเซลนครชัยแอร์  เที่ยวสี่ทุ่มครึ่งถึงอุดรประมาณตี05.40

พวกเราก็ไปรอซื้อตั๋วที่หน้าช่องจำหน่ายตั๋วไปอุดรหนองคายวังเวียงในราคา 320 บาท

           นั่งรอซักพัก  เจ้าหน้าที่ขายตั๋วก็มาเปิดตอน 7 โมงนิดนิด

เราก็ซื้อตั๋วจองตั๋วต้องมีพาสปอร์ตในการซื้อตั๋วด้วยและต้องซื้อด้วยตัวเองเท่านั้นฝากซื้อไม่ได้

          หลังจากเราซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว

         เราก็จะมีเวลาไปกินข้าว  ล้างหน้าล้างตาบริเวณร้านข้าวรอบๆบขศ.

ร้านนี้มีห้องน้ำให้บริการด้วย

อย่าออกไปไกลนักเนื่องจากรถออกเวลา 09:00 น. และตรงเวลามากๆรถมีเที่ยวเดียว ขอแนะนำถ้าอยากประหยัด ให้ซื้อขนมจากเซเว่นไปเลย เพราะที่ลาวราคาจะสูง
          ใช้เวลาเดินทางจากอุดร  ถึงด่านชายแดนจังหวัดหนองคาย  ประมาณชั่วโมงกว่า  คนขับรถจะไล่ให้พวกเราลงมาตรวจพาสปอร์ต

          ตรงนี้ใครไม่อยากยุ่งยากเค้ามีบริการเขียนพาสปอร์ตให้   และแนบใบที่ต้องใช้  คือใบเข้าเมืองของลาวและของไทย อยู่บริเวณหน้าห้องน้ำฝั่งไทยราคา 20  บาทแต่ถ้าไม่ยุ่งยากอะไรเราก็กรอกข้อมูลเองแล้วไปต่อคิวก็ได้เหมือนกัน

         รถจะไปจอดรออีกฝั่ง 1 หลังจากเราเสร็จขั้นตอนของการตรวจแล้วก็เดินไปขึ้นรถที่จอดรออยู่

         จากนั้นรถก็จะขับขึ้นบนสะพานมิตรภาพ  ได้เห็นวิวของแม่น้ำโขงกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา  สีน้ำตาลน้ำแรงมากน่ากลัวเลยทีเดียว

++++ เนื่องจากผมมีเงินจำกัด เลยอยากรู้ราคาคร่าวๆของค่าเงิน ด้วยความขี้เกียจ เลยนั่งเทียบค่าเงินบาท/กีปไว้ คร่าวๆนะครับ +- ตามช่วงเวลา++++

          พอมาถึงด่านฝั่งลาว  โชเฟอร์ก็จะไล่เราลงจากรถ  เพื่อไปตรวจพาสปอร์ตเข้าเมืองลาวเอีกรอบ 1 ตรงนี้เราต้องเสียงเงินค่า คาดธรรมเนียมวันธรรมดาถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 5 บาทแต่ถ้าเป็นเสาร์อาทิตย์จะเป็น 45 บาทหลังจากตรวจเอกสารแล้วก็เดินมาขึ้นรถบัสที่จอดรออยู่ ในขั้นตอนนี้เราต้องนำกระเป๋าลงจากรถเพื่อเข้าเครื่องตรวจของฝั่งลาวด้วยนะจ๊ะ

           หลังจากเสร็จขั้นตอนการเข้าเมืองแล้ว  ต่อไปก็จะคือการเดินทาง  อันแสนทรหดอดทนตูดระบมกันเป็นแถวๆ ด้วยระยะทางและเวลาประมาณ 7 ชั่วโมงเห็นจะได้

หนทางอินดี้มาก

           หลับตามสบายจ้ะ รถจะจอดพักครึ่งทาง ให้กินข้าว เข้าห้องน้ำล้างหน้า

           และมีอาหารขายขอแนะนำ     ข้าวจี่ไข่ฟูและ กล้วยปิ้งยัดไส้มันเชื่อม/u]   อร่อยเลิศบรรเจิดศรีมณีเด้ง

ลองดูแล้วจะติดใจนะจ๊ะ

           หลังจากถึงจุดพักรถนับเวลาประมาณ 3 ชั่วโมงนิดนิด เราก็จะถึงวังเวียงประมาณ16.20

          รถจะมาจอดที่โรงแรม และจะมีรถมินิบาส
มารับเข้าเมือง  ไม่เสียตังค์ จากนั้นใครมีที่พักก็ไปตามที่พัก ใครยังไม่มีก็เดินหาเอาตามสบายนะจ๊ะ

             ขอแนะนำ  ให้เตรียมข้อมูลมาจากบ้าน  ว่าอยากพักที่ไหนและ  walk in เข้าไปถามดู ถ้าโชคดีภาวนาท่องพุทโทๆ เราก็จะ มีที่พักที่เราหมายปองไว้อย่างแน่นอน  ครั้งนี้ผมตั้งใจจะมาพักที่จำปาลาวบังกะโล

             และได้พักสมดังความตั้งใจ  เนื่องจากเจ้าของบังกะโลเป็นคนน่ารักสวยใสดี๊ดี 55  ราคาบังกะโล 1 หลังที่ผมนอนคือ 600 บาทมี 1 เตียงใหญ่

          และดึงเตียงเล็กห้องน้ำในตัว  มีน้ำอุ่นแต่ไม่มีแอร์  มีพัดลมให้ 2 ตัวมีมุ้งให้ 2 หลัง

อยู่ติดกับแม่น้ำซองธรรมชาติฝุดๆ

          เนื่องจากทริปนี้  ตั้งใจจะมาพักผ่อนแบบชิวชิว  เลยไม่ได้ทำโปรแกรมอะไรไว้เลย

         นี่ไม่ได้วางแผนเลย 555555
        หลังจากเก็บของเข้าที่พัก เราก็ยืมจักรยานของเจ้าของรีสอร์ท

ไปขี่เที่ยวชมเมืองกัน  บรรยากาศที่นี่สามารถฆ่าคนโสดได้เลยทีเดียว

           เนื่องจากมาถึงเย็นแล้วเลยถ่ายได้ไม่ค่อยเยอะ

         มองไปทางไหน ก็เห็นเค้ามากับคู่รัก  อยากจิเอาน้ำไปสาดให้รู้แล้วรู้รอด55555 หลังจากเที่ยวชมเมืองแล้ว

      วันที่เราไปฝนเกิดตก  เราจึงต้องไปหลบฝนในร้านอาหาร  สั่งข้าวมากินราคาข้าวที่นี่ค่อนข้างสูงต้มยำชามละ 250 บาท

ระหว่างที่หลบฝนเรา ได้เจอเพื่อนใหม่มาจากอิตาลีชื่อิลิค ผมเลยชวนเขาเล่นสนุกเกอร์รอฝนหยุด ก็สนุกดีได้เพื่อนใหม่ได้รู้จักวิถีวัฒนธรรมของเค้า อิลิคมากับแม่ 2 คนดีงามพาแม่เที่ยว

++++++++++ เดี๊ยวมาต่อครับ+++++++++++
ความสนุกเพิ่งเริ่มต้น

แก้ไขข้อความเมื่อ