13.00 น. เดินต่อไปยังสวนโอโดริ ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Odori Subway Station
เราจะไปโรงงานเบียร์การ์เด้นซัปโปโร กันค่ะ อีกหนึ่ง Land Mark ของเรา จะนั่งสาย Toho Line ไปลง Higashikuyakusho-Mae Station ค่าโดยสาร 200ํY แต่ก่อนจะไปขอกินข้าวก่อน หิวหนักมากกก ขอกินข้าวในสถานีโอโดริ แป้บ มื้อแรกของวันที่ซัปโปโร ราคา 780Y น้ำเปล่าฟรีค่ะ
14.30 น. Higashikuyakusho-Mae Station และเดินต่อประมาณ 900 เมตร ค่ะ เดินย่อยกันค่ะ เป้าหมาย Sapporo Beer Museum ระหว่างทางเดินข้างถนนหน้าบ้านคนทีนั่น ก็จะมีดอกหญ้าที่เกิดขึ้นโดยทั่วไป ประมาณหญ้าที่เกิดแถวหน้าบ้านเรานี่ล่ะค่ะ แค่ดอกหญ้ายังสวยเลย อากาศดีก็ดีอย่างนี้
15.00 น. Sapporo Beer Museum ความตั้งใจคือ ลิ้มรสเนื้อย่างเจงกิสข่านพร้อมเบียร์รสเลิศ และแล้วก็จริงไม่ผิดหวังเลยทีเดียว บอกเลยว่าเด็ด
18.00 น. มารับกระเป๋าแล้วไปเช็คอินเข้าโรงแรมกันค่ะ พักกันที่นี่ Hotel Gracery Sapporo 1 คืน 7000Y ห้องปลอดบุหรี่ โรงแรมติดกับสถานนี JR เลยค่ะ ดีงามมาก
19.30 อาบน้ำสบายตัวละไปกันต่อค่ะ วันแรกนี่แรงดีไม่ตกเลยทีเดียว ป้ายหน้ากิจกรรมเด็กๆ ชิวๆ ค่ะ ทั้งเล่นเกมส์ ทั้งช็อป มีทุกอย่างให้เลือกสรร ที่ย่านนี้เลย "ดองกิโฮเตะ" นั่งสาย Tozai Line ไปลงที่ Miyanosawa Station ค่ะ 290ํY
แบกเป้ตะลุยฮอกไกโด ซัปโปโร โอตารุ และไม่พลาดกับการเล่นสกีครั้งแรกในชีวิตที่ kiroro resort เมษายน 2016
เริ่มจากนี่เลยค่ะ อยู่ๆก็มีรุ่นพี่เอา Voucher ตั๋วเครื่องบินการบินไทยที่เค้าได้รางวัลมาไปญี่ปุ่นได้ 3 ที่ เลือกเอา มีโตเกียว โอซาก้า และฮอกไกโด เลือกเอาว่าจะไปไหนระบุได้เลย พี่แกขายในราคา 12,000/2 ที่นั่ง แต่ต้องไปจ่ายค่าภาษีสนามบินเองประมาณ 8,000 บาท/ที่นั่ง คิดคำนวณอยู่แป้บนึงเท่ากับ ตั๋วไป-กลับ ประมาณ 14,000 บาท ไปกับป้าเอื้องด้วยป้าแก Full Service อยู่แล้ว แถมบินตรงไม่เหนื่อยด้วย อ้าว!!! งั้นก็ซื้อเลยสิ แต่เดี๋ยวๆค่ะ Voucher หมดอายุเดือนเมษายน อ้าวก็เดือนนี้สิ เอาไงล่ะ เอาก็เอา ใจมันรัก Japan อยู่แล้วนี่นา โอซาก้า ไปแล้ว โตเกียวก็ไปแล้ว งั้นฮอกไกโดแล้วกันอยากไปแต่ยังไม่ได้ไป ว่าแล้วจ่ายตังค์พี่แกอย่างด่วนเลยค่ะ พาหลานสาวไปเที่ยวด้วยคนนึง แบบไม่ต้องคิดมาก นั่นคือเหตุผล ค่ะ Book ตั๋ว แล้วอีก 4 วันเดินทางกันเลยยยย
เอาล่ะทีนี้มานับเวลาถอยหลังหาข้อมูล ที่พัก หลักๆก็อ่านๆจากพันทิปค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะบอกว่าฮอกไกโดเดือนเมษายน ไม่มีอะไรเที่ยว ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ เราก็แบบงั้นเราไปลองดูละกัน นี่เลยไปฮอกไกโดทั้งที ต้องเจอหิมะ แล้วไงต่อ ก็ต้องไม่พลาดเล่นสกีด้วยสิงั้น หาข้อมูลไปเจอเวปไซต์ของ kiroro resort ค่ะ ซึ่งยังเปิดให้บริการอยู่ แล้วบังเอิญจริงๆอ่านๆไปเจอข้อมูลพี่โอเว่นค่ะ ครูสอนสกีคนไทยคนเดียวที่ญี่ปุ่น เอาละ follow IG พี่แกเลยค่ะ คุยไปคุยมาพี่โอเว่นใจดีมาก จองที่พักที่ kiroro resort พร้อมกับจองครูสอนสกีแบบไพรเวท ที่โน่นให้ด้วย เอาล่ะ ทริปหลักได้แล้ว ทริปรองไม่น่ามีปัญหา ไปนี่เลยค่ะ ตะลุยซัปโปโร 1 วัน โอตารุ 1 วัน อยู่เล่นสกี 1 วัน และเที่ยวๆในรีสอร์ทอีก 1 วัน จัดทริปครบแล้ว ตั้งงบไว้ไม่เกิน 40,000 บาท รวมตั๋วเครื่องบิน ค่าประกันอุบัติเหตุ และค่าเช่า pocket wifi รวม Everything jingabell ห้ามเกิน 40,000 บาท ว่าแล้วก็ออกเดินทางกันเลยจร้าาา
วันที่ 5 เม.ย. 59 ณ เวลา 20.30 น. สนามบินสุวรรณภูมิ มาเช็คอินโหลดกระเป๋ากันก่อนเลยจร้า พนักงานของป้าเอื้องแกก็ดูแลดีไม่เปลี่ยนเลย และเราก็จะไป Flight นี้ค่ะ >>TG 670 Suvarnabumi International>New Chitose 23:45
เวลา 21.00 น. โหลดกระเป๋าเสร็จละไปเช่า pocket wifi กันก่อนค่ะ จำเป็นมากเมื่อต้องหาข้อมูลในการเดินทางที่โน่น และนี่เลยค่ะ เช่าของ Samurai wifi ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ พี่แกสัญญาดีไม่ตกเลยจริงๆ วันละ 200 ดีงามค่ะ บูธอยู่ตรง ชั้น B ทางเดียวกับไปแอร์พอร์ตลิงค์เลยค่ะ ลงลิฟต์เลี้ยวขวามาก็เจอเลย แต่ของเราโทรจองก่อนแล้ว มารับของที่สนามบินก่อนเดินทางได้เลยจร้า
เวลา 23.45 ได้เวลาออกเดินทางแล้วจร้า หลับกันไปยาวๆเลย ใกล้ๆจะถึงป้าเอื้องแกก็เสริฟอาหาร ตื่นๆ มากรอกใบผ่าน ตม. ป้าแกใจดีมากปากกงปากกามีให้หมด
วันที่ 6 เม.ย. 59 เวลา 08.30 น. Hi New Chitose Hokkaido ผ่าน ตม. มาเจอเจ้านี่เลยจร้าาาา โดเรม่อน น่ารักเชียว Doraemon Waku Waku Skypark Arrival Hall ชั้น 3 โซน Smile Road ทางเชื่อมระหว่างอาคารเที่ยวบินภายในประเทศและอาคารเที่ยวบินระหว่างประเทศ แวะถ่ายรูปซะหน่อยยย
เดินเลยไปหน่อยก่อนจะไปขึ้นรถไฟที่ซัปโปโร ก็จะผ่าน Royce Chocolate World กำลังเริ่มเปิดร้านเลยค่ะ หอมมากกก
อ้อ! แล้วอย่าลืมหยิบแผนที่มาด้วยนะคะ ผ่าน ตม. แล้วก็มาหยิบได้ตรง Information ข้างหน้าเลยค่ะ และที่ดีงามมากคือมีแผนที่ภาษาไทยด้วยจร้า เอาไว้มาเดินเล่นวันกลับ
เวลา 09.30 น. เดินตรงดิ่งไปตามป้ายสถานีรถไฟ JR เลยค่ะ ไปถึงสถานีจะมี JR Information Center ซื้อตั๋วตรงนี้เลยค่ะ อย่าลืม Passport นะคะ อ้อ!! อีกอย่างค่ะ ถ้าไปช่วงเดือนเมษายน คนไม่เข้าเยอะไม่ต้องระบุที่นั่งค่ะ ประหยัดไปได้อีก จ่ายเพียง 1070ํY ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาทีก็ถึงสถานี Sapporo ละค่ะ มองวิวข้างหน้าต่างไปเพลินๆ หิมะยังคลุมเขาอยู่เลย สวยไปอีกแบบค่ะ
เวลา 10.10 น. ลงสถานี Sapporo ค่ะ มีสัมภาระมาแนะนำให้ลงลิฟต์นะคะ อากาศค่อนข้างเย็นค่ะ 6 องศา บรื๋อออ ลงไปปุ๊บอันดับแรกที่ต้องหาคือแผนที่ กับล็อคเกอร์เก็บกระเป๋าค่ะ ไปกันเลยค่ะ
แผนที่ขอได้ที่คุณเจ้าหน้าที่สุดหล่อที่สถานีได้เลยค่ะ เดินไปอีกนิดตามป้ายจะมีโซนให้เช่าล็อคเกอร์ค่ะ เราไปเช่าทางโซน South gate เพราะใกล้ที่พักค่ะ ที่โรงแรมให้เช็คอินบ่ายสอง ก็ต้องหาที่ฝากกระเป๋าก่อนไปเดินเที่ยว จะตระเวนเดินชิวซัปโปโรก่อนเข้าที่พักจร้า และนี่เลยโซนล็อคเกอร์มีให้เช่าหลากหลายขนาด ตั้งแต่ 400-700Y เลือกได้ตามเหมาะสมและสะดวกจร้า อย่าลืมถ่ายรูปไว้นะคะ เดี๋ยวจะเสียเวลาตามหาจร้า แป่วววหารูปไม่เจอซะแล้ว
11.00 น. หลังจากจัดการกระเป๋าเรียบร้อย ไปกันต่อเลยค่ะ เป้าหมายแรก ทำเนียบอิฐแดงเก่าฮอกไกโด ง่ายๆเลยค่ะ เดินจากสถานี Sapporo ทางออก 10 เดินไป 1 บล็อก แล้วเลี้ยวซ้ายตรงไปอีก 120 เมตร อากาศเย็นๆเดินเล่นชิวๆไปไม่ต้องเสียค่ารถไฟค่ะ ประหยัดได้อีก ไม่ต้องกลัวหลงนะคะ มีป้ายบอกทุกแยกเลยค่ะ
และข้างในจะเป็นประวัติศาสตร์ของซัปโปโรนะคะ เปิดให้เข้าชมฟรีค่ะ น่าสนใจเลยทีเดียว
12.00 น. ไปกันต่อเป้าหมายถัดไปหอนาฬิกา เดินตรงขึ้นไปจากทำเนียบอิฐแดงเก่าฮอกไกโด ไปทางสวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) มีป้ายบอกตลอดทางไม่ต้องกลัวหลงเช่นกัน ที่นี่เราไปดูแต่ไม่ได้เข้าไปข้างในนะคะ เวลามีน้อย แต่ถ้าจะเข้ามีค่าเข้าชม 200Y ค่ะ แต่ทัวร์จีนเข้าที่นี่เยอะมากค่ะวันที่เราไป
13.00 น. เดินต่อไปยังสวนโอโดริ ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Odori Subway Station
เราจะไปโรงงานเบียร์การ์เด้นซัปโปโร กันค่ะ อีกหนึ่ง Land Mark ของเรา จะนั่งสาย Toho Line ไปลง Higashikuyakusho-Mae Station ค่าโดยสาร 200ํY แต่ก่อนจะไปขอกินข้าวก่อน หิวหนักมากกก ขอกินข้าวในสถานีโอโดริ แป้บ มื้อแรกของวันที่ซัปโปโร ราคา 780Y น้ำเปล่าฟรีค่ะ
14.30 น. Higashikuyakusho-Mae Station และเดินต่อประมาณ 900 เมตร ค่ะ เดินย่อยกันค่ะ เป้าหมาย Sapporo Beer Museum ระหว่างทางเดินข้างถนนหน้าบ้านคนทีนั่น ก็จะมีดอกหญ้าที่เกิดขึ้นโดยทั่วไป ประมาณหญ้าที่เกิดแถวหน้าบ้านเรานี่ล่ะค่ะ แค่ดอกหญ้ายังสวยเลย อากาศดีก็ดีอย่างนี้
15.00 น. Sapporo Beer Museum ความตั้งใจคือ ลิ้มรสเนื้อย่างเจงกิสข่านพร้อมเบียร์รสเลิศ และแล้วก็จริงไม่ผิดหวังเลยทีเดียว บอกเลยว่าเด็ด
18.00 น. มารับกระเป๋าแล้วไปเช็คอินเข้าโรงแรมกันค่ะ พักกันที่นี่ Hotel Gracery Sapporo 1 คืน 7000Y ห้องปลอดบุหรี่ โรงแรมติดกับสถานนี JR เลยค่ะ ดีงามมาก
19.30 อาบน้ำสบายตัวละไปกันต่อค่ะ วันแรกนี่แรงดีไม่ตกเลยทีเดียว ป้ายหน้ากิจกรรมเด็กๆ ชิวๆ ค่ะ ทั้งเล่นเกมส์ ทั้งช็อป มีทุกอย่างให้เลือกสรร ที่ย่านนี้เลย "ดองกิโฮเตะ" นั่งสาย Tozai Line ไปลงที่ Miyanosawa Station ค่ะ 290ํY
21.00 น. ขากลับเดินกลับค่ะ อากาศดีๆ เดินชมวิวค่ำคืนไปเรื่อยๆ ชม TV Tower ยามคืน สวยดีเหมือนกันค่ะ ต่างจากกลางวันเยอะเลย
22.00 จบวันที่ 1 ไปซะรอบเลย เดินเกือบ 21 กม. ทำไปได้ 555 โอซาก้าก็เดินมาแล้ววันละประมาณ 20 กม. แต่คุณหลานนี่สิบ่นใหญ่เลยงานนี้
เคาเตอร์เพนช่วยได้นะคะ ไปต่างประเทศเดินเยอะๆ ไว้ใจได้ค่ะ ยาวิเศษนะคะ นอนค่ะนอน เก็บแรงไว้ไปต่อพรุ่งนี้ วันที่ 2 จะไปเล่นหิมะครั้งแรกกก เดี๋ยวแวะมาต่อนะคะ การเขียนกระทู้ครั้งแรกยาวไปเรื่อยเลย วันที่ 2 จะต้องพัฒนาการเขียนใหม่แว้ววว นี่แค่วันเดียวนั่งเขียนไป 4 ชั่วโมง แนะนำด้วยนะคะ