ระยะหลัง หนังค่ายมาร์เวลให้ความรู้สึกว่าพยายามจะโตมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้านับจาก The Avengers (2012) แล้วจะเห็นชัดว่ามันโตขึ้น ไม่ว่าจะด้วยธีมเรื่องหรือพัฒนาการตัวละครก็ตามที เป็นการโตขึ้น ดุขึ้นที่ดูสนุกอยู่ดี แค่อาจจะไม่ได้เป็นลูกกวาดแบบเมื่อก่อนแล้วเท่านั้น
ชอบมากเลยที่มันตั้งคำถามต่อความชอบธรรมและความรับผิดชอบในการเป็นฮีโร่ คือโดยทั่วไปหนังสายนี้จะให้ความรู้สึกว่า เวลาตีกับตัวร้ายจนตึกถล่ม เมืองพัง จะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเพราะมันไม่พูดถึง หรือพูดถึงก็พูดแบบผ่านๆ แต่อันนี้มันเป็นการพูดที่จริงจังมากๆ เลยชอบประเด็นนี้ คือประเด็นความเป็นความตายมันเป็นประเด็นที่หนักและโตอยู่แล้วโดยตัวมันเองด้วย
อีกหนึ่งเรื่องที่ชอบมากคือพัฒนาการตัวละคร โทนี่ สตาร์ค ผู้รุ่มรวยอารมณ์ขันอยู่เสมอกลับต้องแบกรับความหนักหน่วงของชีวิตไว้เต็มสองบ่า และสตีฟ โรเจอร์ส กับภาพลักษณ์กัปตันคนดีคนซื่อ ที่หากมองในมุมส่วนตัว เขาอยู่ในสถานะที่ต้อง "เลือก" จะหักกับใครและไม่หักกับใคร หรือถ้ามองในภาพรวมคือ เขาจำต้องเลือกว่าจะรักษาหลักการไว้หรือไม่
ถ้าจะมีสักอย่างที่เซ็งกับหนังคือ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่หนังสเกลใหญ่ของมาร์เวล กลายเป็นเวทีเปิดตัวของตัวละครอื่นๆ ที่สเกลเล็กลงไปของค่าย คือเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะรู้สึกว่าตัวละครเยอะและบางที บทจะดึงดราม่าก็ดึงได้ไม่สุดแต่ก็ต้องทำเพราะต้องปูพื้นตัวละคร อะไรแบบนั้น ซึ่งในอีกแง่ การมะรุมมะตุ้มกันของตัวละครฮีโร่ทั้งหลายมันนำมาซึ่งความสนุกสุดเหวี่ยงของฉากบู๊ที่สนองแฟนตาซีแฟนคลับอยู่แล้ว แล้วหนังทำตรงนี้ได้ดี ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทำฉากบู๊ออกมาสนุกมากๆ
วัดกันตรงๆ แล้ว ถือว่าคุ้มเกินคุ้มหากจะกำเงินไปเพื่อซื้อตั๋ว Captain America: Civil War ซึ่งมากไปกว่าความมนุกสนานที่ดำเนินอยู่บนหน้าจอ เพราะพ้นจากนั้นแล้ว เราอาจยังต้องกลับมาตั้งคำถามให้ตัวเองว่า ในวันที่เราต้องเลือกนั้น เราจะเลือกอะไรระหว่างหลักการกับหัวใจตัวเอง
ฝากบล็อก-เพจ สำหรับติดตามข่าวสาร-แลกเปลี่ยนกันนะคะ
Page:
https://www.facebook.com/llkhimll
Blog:
http://llkhimll.wordpress.com/
Captain America: Civil War (2016) หัวใจ vs หลักการ
ชอบมากเลยที่มันตั้งคำถามต่อความชอบธรรมและความรับผิดชอบในการเป็นฮีโร่ คือโดยทั่วไปหนังสายนี้จะให้ความรู้สึกว่า เวลาตีกับตัวร้ายจนตึกถล่ม เมืองพัง จะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเพราะมันไม่พูดถึง หรือพูดถึงก็พูดแบบผ่านๆ แต่อันนี้มันเป็นการพูดที่จริงจังมากๆ เลยชอบประเด็นนี้ คือประเด็นความเป็นความตายมันเป็นประเด็นที่หนักและโตอยู่แล้วโดยตัวมันเองด้วย
อีกหนึ่งเรื่องที่ชอบมากคือพัฒนาการตัวละคร โทนี่ สตาร์ค ผู้รุ่มรวยอารมณ์ขันอยู่เสมอกลับต้องแบกรับความหนักหน่วงของชีวิตไว้เต็มสองบ่า และสตีฟ โรเจอร์ส กับภาพลักษณ์กัปตันคนดีคนซื่อ ที่หากมองในมุมส่วนตัว เขาอยู่ในสถานะที่ต้อง "เลือก" จะหักกับใครและไม่หักกับใคร หรือถ้ามองในภาพรวมคือ เขาจำต้องเลือกว่าจะรักษาหลักการไว้หรือไม่
ถ้าจะมีสักอย่างที่เซ็งกับหนังคือ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่หนังสเกลใหญ่ของมาร์เวล กลายเป็นเวทีเปิดตัวของตัวละครอื่นๆ ที่สเกลเล็กลงไปของค่าย คือเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะรู้สึกว่าตัวละครเยอะและบางที บทจะดึงดราม่าก็ดึงได้ไม่สุดแต่ก็ต้องทำเพราะต้องปูพื้นตัวละคร อะไรแบบนั้น ซึ่งในอีกแง่ การมะรุมมะตุ้มกันของตัวละครฮีโร่ทั้งหลายมันนำมาซึ่งความสนุกสุดเหวี่ยงของฉากบู๊ที่สนองแฟนตาซีแฟนคลับอยู่แล้ว แล้วหนังทำตรงนี้ได้ดี ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทำฉากบู๊ออกมาสนุกมากๆ
วัดกันตรงๆ แล้ว ถือว่าคุ้มเกินคุ้มหากจะกำเงินไปเพื่อซื้อตั๋ว Captain America: Civil War ซึ่งมากไปกว่าความมนุกสนานที่ดำเนินอยู่บนหน้าจอ เพราะพ้นจากนั้นแล้ว เราอาจยังต้องกลับมาตั้งคำถามให้ตัวเองว่า ในวันที่เราต้องเลือกนั้น เราจะเลือกอะไรระหว่างหลักการกับหัวใจตัวเอง
ฝากบล็อก-เพจ สำหรับติดตามข่าวสาร-แลกเปลี่ยนกันนะคะ
Page: https://www.facebook.com/llkhimll
Blog: http://llkhimll.wordpress.com/