มาจากกระทู้นี่ครับบบ -- >
http://ppantip.com/topic/34647299
ขอโทษจริงๆ หายไปนานมากๆ เนื่องจากสตางค์ ต้องบินมาเรียนต่อโทที่จีนนะคะ นานๆจะมาที
ยังคิดอยู่เลยว่าเดี๋ยวถ้าว่างๆ จะมาทำรีวิว ไอติมจีน ดีกว่า แต่ติดอยู่อย่างเดียว อยากลดความอ้วน T^T 555
ถ้าทำนี่ก็ไม่น่าจะได้ลดนะคะ ติ๊กต๊อออกกกกกกก..
มาต่อกันโตเกียวสายไหม ของเรากันดีกว่าาาา
ไปด้วยกันทั้งหมด 10 วัน 11 คืน (บินคืน 24ธันวาคม บินกลับคืน 3มกราคม) ให้ตายกันไปข้างหนึงเลย
Day 1: Tokyo tower, One Piece tower theme park
http://ppantip.com/topic/34647299
สุดยอดเนื้อย่างแห่งโตเกียว โยโรนิคุ
http://ppantip.com/topic/34660505
Day2 ถึง Day6 อันนี้เลยคะ
http://ppantip.com/topic/35108076
Day 2: Flea market, Midori sushi, Fujiko F Fujio Museum
Day 3: Akihabara
Day 4: Pokemon center, J World
Day 5: Tokyo Disney Land
Day 6: Tokyo Disney Sea
ต่อที่นี่คะ
http://ppantip.com/topic/35631118
Day 7: Sanrio Puroland, เค้าท์ดาวน์ Zojoji temple
Day 8: Asakusa, Rabbit Park
Day 9: นั่ง Shinkansen ไปกลับ Osaka ที่ไกลแสนไกล เพื่อน้อง Universal Studio ที่รัก
Day 10: กลับกรุงเทพมหานคร
Day2: Flea market, Midori sushi, Fujiko F Fujio Museum
คือการไปตลาด flea market เป็นตลาดประมาณว่าขายของมือสองของคนญี่ปุ่นนะคะ
เห็นจากในเน็ตมานี่คือดูน่าสนใจมาก เค้าบอกกันว่าของถูกมากๆ คึกคักมากๆ แล้วช่วงที่สตางค์ไปก็มีการจัดตลาดขึ้นพอดี
(ตลาดจะไม่ได้มีตลอดทุกวันนะคะ จะมีเป็นช่วงๆ ลองเช็คดู เว็บ
http://japantourlist.com/th/tag/fleamarket/ จากพี่ Japanกุ๊กกุ๊ก)
ตลาดมีหลายที่นะคะ ที่สตางค์เลือกไปคือ OI-KEIBAJO (เขตShinagawa)
กว่าจะไปถึงนี่เดินผิดเดินถูก หลายซอยมากๆ เพราะว่าใช้ google map ไป อาจมีการคลาดเคลื่อนในพิกัดเล็กน้อยย
แต่ในที่สุด ก็ถึงคะ และ ผลลัพธ์ก็คือออออออออออ....
เงียบมากกกกกก = =
เป็นตลาดที่ส่วนมากจะเป็นวัยผู้ใหญ่ ถึง วัยใหญ่มากๆ ไปเดินกันนะคะ ละก็ตลาดที่ตังไป ก็ของเก่าจริงๆ มีของน่ารักอยู่แค่ สองร้านเอง
ของที่ขายก็มีตั้งแต่เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แผ่นเกมส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เศษเหล็ก บลาๆ เยอะมากคะ
แง ไม่ได้ถ่ายรูปร้านค้ามาเลย (เพราะตอนนั้นกำลังนอยด์อยู่ 5555 ไม่เห็นมีของน่ารักๆเลยยย อุตส่าจะมาซื้อของเล่น)
มีแต่รูปตัวเองมานิดหน่อยยย บรรยากาศด้านหลังคือตลาดนะคะ อันนี้เค้าเอาที่จอดรถมาเปิดตลาดคะ

ตอนเดินกลับก็หงุดหงิด คะ แวะซื้อติมเกินซะเลยยยยย 5555

เป็น Pablo น่าจะเป็นชื่อที่ทุกๆคนรู้จักจากชีสเค้กนะคะ เค้ามีเป็นไอติมด้วยนะ มีหลายรสด้วย
ของตังเป็นนนน รส..อะไรก็ไม่รู้ 5555 ในตู้มีรสเดียวว ข้างบนจะเป็นครัมเบิลนิดๆ ที่ไม่กรุบกรอบขนาดนั้น
มีรสของคาราเมลเบาๆ ปนๆอยู่คะ
จากนั้นก็เดินทางไปที่ ชิบูย่าาาา เพื่อ midori sushi คะ ร้านซูชิ ที่โด่งดัง(ในหมู่ชาวต่างชาติ)
เพราะว่าตอนที่เข้าแถวรอ นั้นมีแต่ชาวต่างชาติ และชาวไทยยย
Midori ร้านนี้มีอยู่ 3 สาขาด้วยกันในโตเกียว ทั้ง Shibuya, Ginza, และ Meguro
เวลาทำการ : วันจันทร์ - วันเสาร์ 11:00 - 22:00 (last order 21:45)
วันอาทิตย์ 11:00 - 21:00 (last order 20:30)
แต่วันนี้เลือกมา shibuya เพราะอยากจะเดินเล่นนิดหน่อย ก่อนไป โดเรม่อน
สาขานี้อยู่ชั้น 4คะ ของตึก Shibuya Mark City ไปถึงแล้วน่าจะรู้เลยย เพราะว่าจะมีแถวยาวๆอยู่ร้านเดียว 5555
ไปถึงไม่ต้องไปยืนต่อแถวนะคะ เพราะว่าต้องไปกดบัตรคิวที่หน้าร้านก่อน
ก็จิ้มๆไป โดยเครื่องจะถามประมาณว่า มากี่คน นั่งตรงไหนได้บ้าง (เค้าเตอร์ หรือ โต๊ะ)
จากนั้นบัตรคิวก็จะออกมาว่าเราเป็นคิวที่เท่าไร แล้วก้รออออ. รอออออ รออออออ รอไปยาวๆ
ของสตางค์ รอเป็นเวลา 2ชม. !!! ตึง ตึง ตึง อ่านไม่ผิดนะคะ 2ชม. วางนี่ฟังสตางค์บ่นแล้วบ่นอีก
เพราะปกติ เป็นคนไม่ค่อยชอบรออะไร แต่พอมาร้านนี้ รอก็รอออ หลังจากนั้นได้เป็นโต๊ะเค้าเตอร์คะ ต่อหน้าเชฟเลยยยย
หลังจากที่รอมานานก็ต้องเอาให้คุ้ม สั่งเซตใหญ่สุดเลยคะ เหมือนเค้าเพิ่งได้รางวัลจากเซตนั้นมาา

แล้วด้วยความที่เป็นคนชอบกินปลาไหลมากกกกกก มากที่สุด เลยสั่งปลาไหลมาอี๊กกกกก ไม่ได้คำนึงเลยว่าจะกินหมดไหม

เซตทูน่าคะ

ก่อนอาหารจะมา มีออเดิร์ฟ ให้ก่อนด้วยนะคะ

เรื่องของรสชาตินั้น ก็เป็นปลาที่สดคะ แต่ไม่ได้ว้าวมากมาย ขนาดที่กินไปละเห็นท้องทะเล
หรือว่ามีเสียง อื้มมมมมมมม... ออกมาขนาดนั้น แต่ด้วยเรื่องของราคาแล้วถือว่าคุ้มมากนะคะ ไม่แพงอย่างที่คิดเลย
สำหรับใครที่สนใจร้านนี้เพิ่มเติมนะคะ เสิร์ชหาในกูเกิ้ลได้เลยคะ ร้านนี้ดังมากๆ คนไทยกินเยอะมากจริงๆ
หลังจากที่อิ่ม (มากๆแล้ว) กินไม่หมดอีกแถมนั่งตรงเค้าเตอร์ กลัวเชฟจะน้อยใจมากๆว่าทำไมกินไม่หมด อาหารเค้าไม่อร่อยหรอ
แต่ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่สามารถยัดเข้าไปได้อีกแล้ววววว T^T
ก็มาเดินเล่นเบาๆ ที่ชิบูย่า ย่านที่ขึ้นชื่อว่าาา เป็นย่านแห่งคนข้ามถนน 5555

อิอิ มีการลงรูปตัวเองเกิดขึ้นนนน >< แอ๊บเขิลลล ทั้งๆที่จริงอยากลง 555
แล้วก็อีกสิ่งที่พบเจอได้บ่อยมากๆ ขึ้นร้านเกมส์คะ ที่เป็นเกมส์คีบๆตุ๊กตาาา

หลับตาอธิฐานขนาดนี้ บอกเลยคะ ว่าาาาาาาาาา แห้ว T^T
จากนั้นก็ไปตามที่วางแผนไว้ เดินทางไป Fujiko F Fujio Museum หรือที่รู้จักกันในนามพิพิธภัณฑ์โดราเอมอน
ตอนแรกก็ว่าไม่ไกลนะคะ ไปๆมาๆ นี่ก็ไกลนะ 55555 เดินทางด้วยรถไฟฟ้า ไปลงสถานี Noborito
*ให้เลือกดูรถไฟ express นะคะ มันจอดไม่กี่สถานี จะถึงไวกว่ารถไฟธรรมดาที่แวะจอดทุกสถานี
เมื่อถึงสถานี Noborito ก็จะมีพวกสติกเกอร์โดเรมอน ติดตามที่นู้นนี้ ก็เดินตามๆไป
ด้านล่างจะมีป้ายรถบัสของพิพิธภัณฑ์ 200เยน/เที่ยว ไปยังพิพิธภัณฑ์ได้เลย (หาไม่ยาก เพราะรถบัสจะเป็นลายการ์ตูน)
อันนี้ความเห็นส่วนตัวจริงๆ คือไม่ชอบเลย แล้วก็รู้สึกเสียดายเวลามากที่ไป
เพราะว่าที่นี้เป็น พิพิธภัณฑ์ แบบ พิพิธภัณฑ์ จริงๆ 5555 งงไหม คือจะมีการบอกเล่าเรื่องราว ตั้งแต่แรกเริ่ม มาจนถึงปัจจุบัน
ในส่วนห้องพิพิธภัณฑ์เค้าจะมีเครื่องมาให้ฟังนะคะ ให้เรากดเลขที่แปะไว้ตามที่ต่างๆ เครื่องก็จะบอกเรื่องราว ซึ่งก็ไม่ไดอยากรู้ 5555
กระดาษของจริงที่มีการวาดการ์ตูน จำลองโต๊ะทำงาน อุปกรณ์ต่างๆ การ์ตูนเรื่องอื่นๆของนักเขียนคนนี้ ด้านในนี้ห้ามถ่ายรูปนะคะ
ขึ้นมาอีกชั้นก็จะมีเครื่องเล่นเกมส์นิดหนึง ให้ตอบคำถามซึ่งก็เป็นภาษาญี่ปุ่น
มีโรงหนัง ฉาายหนังสั้นเป็นรอบๆ ให้เข้าไปดูได้ (ตังเข้าไปดูนี่เกือบหลับ 5555) มันเป็นการ์ตูนเด็กๆอะคะ
ส่วนด้านนอกก็จะมีโซนให้ถ่ายรูป (เพียงน้อยนิด เท่านั้น น้อยมากๆ) ยิ่งตังไปถึงตอนเย็นๆแล้วนี่ยิ่งไม่มีแสงให้ถ่ายเลยคะ
เลยไม่ได้มีรูปอะไรกลับมาเลย T^T

อันนี้เป็นแผนที่นะคะ สำหรับสตางค์ ไม่ค่อยแนะนำให้ไปเท่าไร เพราะรู้สึกว่าไม่มีอะไรเลย แล้วก็ไกลอีกต่างหาก
ขากลับเลยซื้อไอติมปลอบใจซะหน่อย

ความรู้สึกส่วนตัว รู้สึกว่ามันธรรมดาอะคะ ไม่ได้มี texture มากมายเหมือน cornetto
เป็นแค่เนื้อไอติมแล้วก็มีโคนนนนน ไม่ค่อยใช้แนวเท่าไร เพราะตัวเนื้อไอติมก็ไม่ได้แน่นมาก
=====================================
Day 3: Akihabara
วัยรุ่นที่ชอบการ์ตูนและ เกมส์นี่คือขุมทองมากกกกคะ ห้ามพลาดจริงๆ สามารถอยู่ที่นี่ได้ทั้งวัน
มีหมื่นอาจจะหมดหมื่น มีแสนหมดแสน 555555 ทุกอย่างละลานตามาก

ส่วนวันนี้ก็มัวแต่เพลิดเพลินกับการซื้อโมเดล 555 จนไม่ได้ถ่ายรูปบรรยากาศ มาเลย

สิ่งที่ได้มาทั้งหมด 5555 แบกกันทรหดมากคะ พูดเลยยยยยย
แล้วก็อย่างที่บอกคะ ว่าที่ญี่ปุ่นนี่ร้านคีบตุ๊กตาเยอะมากจริงๆ แล้วตุ๊กตาในตู้ก็ไม่ได้สัมเพ็งแบบบ้านเรานะคะ
มีทั้งตุ๊กตาน่ารักๆ หรือแม้แต่โมเดลต่างๆ วันนี้มีดวงคะ ได้มาด้วยยย ตัวที่ได้นี่มาจากตู้ที่เค้าจะเอาของไปเกี่ยวไว้ที่ปลายไม้
ให้เรากดคันโยกไปสะกิด จนกว่ามันจะหล่น ตอนใกล้จะหล่นนี่คนมามุงดูกันเยอะมากก 5555 แทบจะทุบตู้เลย
ตกเย็นเนื่องจากเดินมาทั้งวัน เลยหาอะไรกินแถวนั้นเลย ดูจากรูปเอา รูปไหนร้านสวยก็ร้านนั้นแหละคะ 555

สุดท้ายนี่คือ MANNEKEN
ร้านวาฟเฟิลชื่อดังของโตเกียวที่มีต้นตำรับมาจากกรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม
อ่านจากในอินเตอร์เน็ตมากเค้าบอกว่า รสที่แนะนำและขายดีที่สุดคือ ‘เคลือบช็อกโกแลต’ และแบบที่ราดด้วย ‘เมเปิ้ลไซรัป’
======================
ฝากโปรไฟล์ นิสหนึง
https://www.facebook.com/satang.stng
IG: stngg
ตะลุยโตเกียวจัดหนักการ์ตูน
ขอโทษจริงๆ หายไปนานมากๆ เนื่องจากสตางค์ ต้องบินมาเรียนต่อโทที่จีนนะคะ นานๆจะมาที
ยังคิดอยู่เลยว่าเดี๋ยวถ้าว่างๆ จะมาทำรีวิว ไอติมจีน ดีกว่า แต่ติดอยู่อย่างเดียว อยากลดความอ้วน T^T 555
ถ้าทำนี่ก็ไม่น่าจะได้ลดนะคะ ติ๊กต๊อออกกกกกกก..
มาต่อกันโตเกียวสายไหม ของเรากันดีกว่าาาา
ไปด้วยกันทั้งหมด 10 วัน 11 คืน (บินคืน 24ธันวาคม บินกลับคืน 3มกราคม) ให้ตายกันไปข้างหนึงเลย
Day 1: Tokyo tower, One Piece tower theme park http://ppantip.com/topic/34647299
สุดยอดเนื้อย่างแห่งโตเกียว โยโรนิคุ http://ppantip.com/topic/34660505
Day2 ถึง Day6 อันนี้เลยคะ http://ppantip.com/topic/35108076
Day 2: Flea market, Midori sushi, Fujiko F Fujio Museum
Day 3: Akihabara
Day 4: Pokemon center, J World
Day 5: Tokyo Disney Land
Day 6: Tokyo Disney Sea
ต่อที่นี่คะ http://ppantip.com/topic/35631118
Day 7: Sanrio Puroland, เค้าท์ดาวน์ Zojoji temple
Day 8: Asakusa, Rabbit Park
Day 9: นั่ง Shinkansen ไปกลับ Osaka ที่ไกลแสนไกล เพื่อน้อง Universal Studio ที่รัก
Day 10: กลับกรุงเทพมหานคร
Day2: Flea market, Midori sushi, Fujiko F Fujio Museum
คือการไปตลาด flea market เป็นตลาดประมาณว่าขายของมือสองของคนญี่ปุ่นนะคะ
เห็นจากในเน็ตมานี่คือดูน่าสนใจมาก เค้าบอกกันว่าของถูกมากๆ คึกคักมากๆ แล้วช่วงที่สตางค์ไปก็มีการจัดตลาดขึ้นพอดี
(ตลาดจะไม่ได้มีตลอดทุกวันนะคะ จะมีเป็นช่วงๆ ลองเช็คดู เว็บ http://japantourlist.com/th/tag/fleamarket/ จากพี่ Japanกุ๊กกุ๊ก)
ตลาดมีหลายที่นะคะ ที่สตางค์เลือกไปคือ OI-KEIBAJO (เขตShinagawa)
กว่าจะไปถึงนี่เดินผิดเดินถูก หลายซอยมากๆ เพราะว่าใช้ google map ไป อาจมีการคลาดเคลื่อนในพิกัดเล็กน้อยย
แต่ในที่สุด ก็ถึงคะ และ ผลลัพธ์ก็คือออออออออออ....
เงียบมากกกกกก = =
เป็นตลาดที่ส่วนมากจะเป็นวัยผู้ใหญ่ ถึง วัยใหญ่มากๆ ไปเดินกันนะคะ ละก็ตลาดที่ตังไป ก็ของเก่าจริงๆ มีของน่ารักอยู่แค่ สองร้านเอง
ของที่ขายก็มีตั้งแต่เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แผ่นเกมส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เศษเหล็ก บลาๆ เยอะมากคะ
แง ไม่ได้ถ่ายรูปร้านค้ามาเลย (เพราะตอนนั้นกำลังนอยด์อยู่ 5555 ไม่เห็นมีของน่ารักๆเลยยย อุตส่าจะมาซื้อของเล่น)
มีแต่รูปตัวเองมานิดหน่อยยย บรรยากาศด้านหลังคือตลาดนะคะ อันนี้เค้าเอาที่จอดรถมาเปิดตลาดคะ
ตอนเดินกลับก็หงุดหงิด คะ แวะซื้อติมเกินซะเลยยยยย 5555
เป็น Pablo น่าจะเป็นชื่อที่ทุกๆคนรู้จักจากชีสเค้กนะคะ เค้ามีเป็นไอติมด้วยนะ มีหลายรสด้วย
ของตังเป็นนนน รส..อะไรก็ไม่รู้ 5555 ในตู้มีรสเดียวว ข้างบนจะเป็นครัมเบิลนิดๆ ที่ไม่กรุบกรอบขนาดนั้น
มีรสของคาราเมลเบาๆ ปนๆอยู่คะ
จากนั้นก็เดินทางไปที่ ชิบูย่าาาา เพื่อ midori sushi คะ ร้านซูชิ ที่โด่งดัง(ในหมู่ชาวต่างชาติ)
เพราะว่าตอนที่เข้าแถวรอ นั้นมีแต่ชาวต่างชาติ และชาวไทยยย
Midori ร้านนี้มีอยู่ 3 สาขาด้วยกันในโตเกียว ทั้ง Shibuya, Ginza, และ Meguro
เวลาทำการ : วันจันทร์ - วันเสาร์ 11:00 - 22:00 (last order 21:45)
วันอาทิตย์ 11:00 - 21:00 (last order 20:30)
แต่วันนี้เลือกมา shibuya เพราะอยากจะเดินเล่นนิดหน่อย ก่อนไป โดเรม่อน
สาขานี้อยู่ชั้น 4คะ ของตึก Shibuya Mark City ไปถึงแล้วน่าจะรู้เลยย เพราะว่าจะมีแถวยาวๆอยู่ร้านเดียว 5555
ไปถึงไม่ต้องไปยืนต่อแถวนะคะ เพราะว่าต้องไปกดบัตรคิวที่หน้าร้านก่อน
ก็จิ้มๆไป โดยเครื่องจะถามประมาณว่า มากี่คน นั่งตรงไหนได้บ้าง (เค้าเตอร์ หรือ โต๊ะ)
จากนั้นบัตรคิวก็จะออกมาว่าเราเป็นคิวที่เท่าไร แล้วก้รออออ. รอออออ รออออออ รอไปยาวๆ
ของสตางค์ รอเป็นเวลา 2ชม. !!! ตึง ตึง ตึง อ่านไม่ผิดนะคะ 2ชม. วางนี่ฟังสตางค์บ่นแล้วบ่นอีก
เพราะปกติ เป็นคนไม่ค่อยชอบรออะไร แต่พอมาร้านนี้ รอก็รอออ หลังจากนั้นได้เป็นโต๊ะเค้าเตอร์คะ ต่อหน้าเชฟเลยยยย
หลังจากที่รอมานานก็ต้องเอาให้คุ้ม สั่งเซตใหญ่สุดเลยคะ เหมือนเค้าเพิ่งได้รางวัลจากเซตนั้นมาา
แล้วด้วยความที่เป็นคนชอบกินปลาไหลมากกกกกก มากที่สุด เลยสั่งปลาไหลมาอี๊กกกกก ไม่ได้คำนึงเลยว่าจะกินหมดไหม
เซตทูน่าคะ
ก่อนอาหารจะมา มีออเดิร์ฟ ให้ก่อนด้วยนะคะ
เรื่องของรสชาตินั้น ก็เป็นปลาที่สดคะ แต่ไม่ได้ว้าวมากมาย ขนาดที่กินไปละเห็นท้องทะเล
หรือว่ามีเสียง อื้มมมมมมมม... ออกมาขนาดนั้น แต่ด้วยเรื่องของราคาแล้วถือว่าคุ้มมากนะคะ ไม่แพงอย่างที่คิดเลย
สำหรับใครที่สนใจร้านนี้เพิ่มเติมนะคะ เสิร์ชหาในกูเกิ้ลได้เลยคะ ร้านนี้ดังมากๆ คนไทยกินเยอะมากจริงๆ
หลังจากที่อิ่ม (มากๆแล้ว) กินไม่หมดอีกแถมนั่งตรงเค้าเตอร์ กลัวเชฟจะน้อยใจมากๆว่าทำไมกินไม่หมด อาหารเค้าไม่อร่อยหรอ
แต่ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่สามารถยัดเข้าไปได้อีกแล้ววววว T^T
ก็มาเดินเล่นเบาๆ ที่ชิบูย่า ย่านที่ขึ้นชื่อว่าาา เป็นย่านแห่งคนข้ามถนน 5555
อิอิ มีการลงรูปตัวเองเกิดขึ้นนนน >< แอ๊บเขิลลล ทั้งๆที่จริงอยากลง 555
แล้วก็อีกสิ่งที่พบเจอได้บ่อยมากๆ ขึ้นร้านเกมส์คะ ที่เป็นเกมส์คีบๆตุ๊กตาาา
หลับตาอธิฐานขนาดนี้ บอกเลยคะ ว่าาาาาาาาาา แห้ว T^T
จากนั้นก็ไปตามที่วางแผนไว้ เดินทางไป Fujiko F Fujio Museum หรือที่รู้จักกันในนามพิพิธภัณฑ์โดราเอมอน
ตอนแรกก็ว่าไม่ไกลนะคะ ไปๆมาๆ นี่ก็ไกลนะ 55555 เดินทางด้วยรถไฟฟ้า ไปลงสถานี Noborito
*ให้เลือกดูรถไฟ express นะคะ มันจอดไม่กี่สถานี จะถึงไวกว่ารถไฟธรรมดาที่แวะจอดทุกสถานี
เมื่อถึงสถานี Noborito ก็จะมีพวกสติกเกอร์โดเรมอน ติดตามที่นู้นนี้ ก็เดินตามๆไป
ด้านล่างจะมีป้ายรถบัสของพิพิธภัณฑ์ 200เยน/เที่ยว ไปยังพิพิธภัณฑ์ได้เลย (หาไม่ยาก เพราะรถบัสจะเป็นลายการ์ตูน)
อันนี้ความเห็นส่วนตัวจริงๆ คือไม่ชอบเลย แล้วก็รู้สึกเสียดายเวลามากที่ไป
เพราะว่าที่นี้เป็น พิพิธภัณฑ์ แบบ พิพิธภัณฑ์ จริงๆ 5555 งงไหม คือจะมีการบอกเล่าเรื่องราว ตั้งแต่แรกเริ่ม มาจนถึงปัจจุบัน
ในส่วนห้องพิพิธภัณฑ์เค้าจะมีเครื่องมาให้ฟังนะคะ ให้เรากดเลขที่แปะไว้ตามที่ต่างๆ เครื่องก็จะบอกเรื่องราว ซึ่งก็ไม่ไดอยากรู้ 5555
กระดาษของจริงที่มีการวาดการ์ตูน จำลองโต๊ะทำงาน อุปกรณ์ต่างๆ การ์ตูนเรื่องอื่นๆของนักเขียนคนนี้ ด้านในนี้ห้ามถ่ายรูปนะคะ
ขึ้นมาอีกชั้นก็จะมีเครื่องเล่นเกมส์นิดหนึง ให้ตอบคำถามซึ่งก็เป็นภาษาญี่ปุ่น
มีโรงหนัง ฉาายหนังสั้นเป็นรอบๆ ให้เข้าไปดูได้ (ตังเข้าไปดูนี่เกือบหลับ 5555) มันเป็นการ์ตูนเด็กๆอะคะ
ส่วนด้านนอกก็จะมีโซนให้ถ่ายรูป (เพียงน้อยนิด เท่านั้น น้อยมากๆ) ยิ่งตังไปถึงตอนเย็นๆแล้วนี่ยิ่งไม่มีแสงให้ถ่ายเลยคะ
เลยไม่ได้มีรูปอะไรกลับมาเลย T^T
อันนี้เป็นแผนที่นะคะ สำหรับสตางค์ ไม่ค่อยแนะนำให้ไปเท่าไร เพราะรู้สึกว่าไม่มีอะไรเลย แล้วก็ไกลอีกต่างหาก
ขากลับเลยซื้อไอติมปลอบใจซะหน่อย
ความรู้สึกส่วนตัว รู้สึกว่ามันธรรมดาอะคะ ไม่ได้มี texture มากมายเหมือน cornetto
เป็นแค่เนื้อไอติมแล้วก็มีโคนนนนน ไม่ค่อยใช้แนวเท่าไร เพราะตัวเนื้อไอติมก็ไม่ได้แน่นมาก
=====================================
Day 3: Akihabara
วัยรุ่นที่ชอบการ์ตูนและ เกมส์นี่คือขุมทองมากกกกคะ ห้ามพลาดจริงๆ สามารถอยู่ที่นี่ได้ทั้งวัน
มีหมื่นอาจจะหมดหมื่น มีแสนหมดแสน 555555 ทุกอย่างละลานตามาก
ส่วนวันนี้ก็มัวแต่เพลิดเพลินกับการซื้อโมเดล 555 จนไม่ได้ถ่ายรูปบรรยากาศ มาเลย
สิ่งที่ได้มาทั้งหมด 5555 แบกกันทรหดมากคะ พูดเลยยยยยย
แล้วก็อย่างที่บอกคะ ว่าที่ญี่ปุ่นนี่ร้านคีบตุ๊กตาเยอะมากจริงๆ แล้วตุ๊กตาในตู้ก็ไม่ได้สัมเพ็งแบบบ้านเรานะคะ
มีทั้งตุ๊กตาน่ารักๆ หรือแม้แต่โมเดลต่างๆ วันนี้มีดวงคะ ได้มาด้วยยย ตัวที่ได้นี่มาจากตู้ที่เค้าจะเอาของไปเกี่ยวไว้ที่ปลายไม้
ให้เรากดคันโยกไปสะกิด จนกว่ามันจะหล่น ตอนใกล้จะหล่นนี่คนมามุงดูกันเยอะมากก 5555 แทบจะทุบตู้เลย
ตกเย็นเนื่องจากเดินมาทั้งวัน เลยหาอะไรกินแถวนั้นเลย ดูจากรูปเอา รูปไหนร้านสวยก็ร้านนั้นแหละคะ 555
สุดท้ายนี่คือ MANNEKEN
ร้านวาฟเฟิลชื่อดังของโตเกียวที่มีต้นตำรับมาจากกรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม
อ่านจากในอินเตอร์เน็ตมากเค้าบอกว่า รสที่แนะนำและขายดีที่สุดคือ ‘เคลือบช็อกโกแลต’ และแบบที่ราดด้วย ‘เมเปิ้ลไซรัป’
======================
ฝากโปรไฟล์ นิสหนึง
https://www.facebook.com/satang.stng
IG: stngg