ว่าด้วยการเช่ารถขับ ณ ประเทศญี่ปุ่น (ฮอกไกโด)

ไปเช่ารถขับที่ญี่ปุ่นมาครับ (ฮอกไกโด)
เลยจะมาเขียนรวบรวมข้อมูล+ประสบการณ์เผื่อแผ่คนอื่น เพื่อตอบแทนสังคมซะหน่อยครับ ก่อนที่จะลืม

-------------
ทริปผม
-------------
-ไปขับที่เกาะฮอกไกโดมาครับ โดยเริ่มต้นจาก Hakodate ที่อยู่ตอนใต้สุดของเกาะ (นั่งเครื่องบินจากฮาเนดะไป เพราะแวะเที่ยวโตเกียวก่อน 2 วัน) ลัดเลาะเกาะไปเรื่อยๆ จนถึงกลางๆ ค่อนไปทางตอนบน รวมระยะเวลาเช่าทั้งหมดก็ 5 วัน
- เส้นทางก็ Hakodate > Toya > Otaru > Sapporo > Asahikawa > Sapporo ครับ รวม 900 กิโล (ดูเส้นทางได้ด้านล่างครับ)
- นอน Hokodate 1 คืน Toya 1 คืน Sapporo 2 คืน (ทริปนี้ใช้บริการ airbnb 3 รอบเลยครับ (มีโตเกียวด้วยรอบนึง) ประทับใจมากๆ โดยเฉพาะที่ริมทะเลสาบ Toya บ้านสวยมาก ฟินมาก ใครอยากได้ลายแทงแจ้งได้นะครับ)
- ค่าใช้จ่ายของผมรวม 57000 เยนครับ (ไม่รวมค่าน้ำมัน 12000 เยน)


-------------
เงื่อนไขในการเช่า
-------------
- ต้องมีใบขับขี่สากล: อันนี้ทำง่ายมาก เอกสารที่จำเป็นมีดังนี้
>> สำเนาใบขับขี่ไทย
>> สำเนาพาสปอร์ต
>> สำเนาบัตรปชช.
>> รูป 2 นิ้ว 2 รูป **ปรินท์บนกระดาษผิวด้าน** เน้นมากนะครับจุดนี้ ขอน้องชายผมเอาเป็นผิวมันไป เค้าไล่ให้ไปปรินท์ใหม่เลย เพราะกระดาษมัน จนท.เค้าจะปั๊มตราทับไม่ติด
>> เงิน 505 บาท
>> ถ้าเคยเปลี่ยนชื่ออย่าลืมเอาหลักฐานไปด้วย
- เอาไปยื่นที่ขนส่งจังหวัด เน้นนะว่าของจังหวัด ตามอำเภอเค้าไม่รับทำ สำหรับกรุงเทพก็นู่นเลย ขนส่งจตุจักร ขี้เกียจขับรถ ก็นั่งรถไฟฟ้าไปลงหมอชิตเดินแป๊บเดียวก็ถึง เดินไปตึก 4 (ถ้าจำไม่ผิด) ขึ้นไปชั้นสองตรงที่เค้าทำใบขับขี่ทั่วไป ไปต่อคิวตรวจเอกสาร แล้วก็จะได้บัตรคิวมา รอห้านาทีเค้าก็เรียกแล้ว เซ็นไรนิดๆ หน่อย ก็เสร็จ จบ.
- ถ้าเป็นพวกรถตู้หน้าตัดอย่าง Hiace อันนี้ต้องใช้ใบขับขี่อีกประเภท ไม่รู้ยังไง แต่พวก Alphard ใช้แบบเดียวกับด้านบนนะ ไม่ต้องเครียด

ใบขับขี่

-------------
การเช่า
-------------
- ผมเลือกเช่าที่ http://www.nrh.co.jp/foreign/ ครับ ที่เลือกอันนี้เพราะเทียบๆ แล้วเหมือนราคาจะถูกสุด ไม่ตัดบัตรทันทีด้วย เช่าง่าย และอีกอย่างมีรุ่นรถให้เลือกเยอะด้วยครับ (สมัครสมาชิกได้ลด 5% ด้วย)
ก่อนเลือกให้ลองๆ ดูหน่อย บางทีมันมีแคมเปญพิเศษ เช่นรถไฮบริดลด 10% รถแวนลด 15% ไรงี้
- ขั้นตอนการเช่าก็ไม่ได้มีไรมาก เลือกสถานที่ที่จะไปรับรถและส่งรถคืน ซึ่งส่วนใหญ่ก็คงไม่พ้นสนามบิน เอารถรุ่นไหน เช่าเมื่อไหร่คืนเมื่อไหร่ จะซื้อบัตรทางด่วนไหม จะซื้อบัตรทางด่วนแบบเหมาวันไหม ซื้อประกันเพิ่มไหม (บางรุ่นจะมีแถมมาด้วย) ก็ประมาณนี้ ซึ่งอัตราการเช่าเค้าก็นับเป็นชั่วโมง

วิวทางด่วนไป Otaru
-------------
รถ
-------------
- ผมไปกัน 5 คน รถที่จองไปเป็น Subaru Exiga ซึ่งเป็นรถ 7 ที่นั่ง สาเหตุที่จองรถ 7 ที่นั่งก็เพราะว่ามันต้องเหลือที่สำหรับวางกระเป๋าเดินทาง ซึ่งคันนี้คำนวณแล้วก็ยัดคน 5 คนกับกระเป๋าเดินทางขนาด 20-30” 5 ใบได้พอดีเป๊ะๆ (แต่มองกระจกหลังไม่เห็นนะ) สำหรับข้อมูลว่ารถแต่ละคันคนนั่งได้กี่คน ใส่กระเป๋าได้กี่ใบ ในเว็บเค้าจะมีเขียนไว้ชัดเจนในตารางแล้ว ห้ามนั่งเกินนะ โดนตำรวจเรียกไม่รู้ด้วย เพราะผิดกฏหมาย
- ได้อัพเกรดด้วย จองแบบรุ่นธรรมดา ขับเคลื่อน 2 ล้อ ไม่ยกสูงไป แต่คันที่ได้มาเป็นรุ่นใหม่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ยกสูง แถมมีระบบ Eyesight ที่จะคอยเตือนเราเวลาขับเพลินออกนอกเลน หรือเข้าใกล้กันหน้ามากเกินไป และที่เจ๋งที่สุดคือระบบเบรคอัติโนมัติ
- แน่นอนพอเป็น Full-Time 4wd กินน้ำมันโคตรๆ 555
- รถทั่วไปที่ไม่ต้องใช้ใบขับขี่พิเศษ ที่นั่งเยอะสุดก็จะเป็น Alphard นั่งได้ 8 คน (แต่ถ้ามีกระเป๋าก็น้อยกว่านี้แน่นอน)
- ไม่ว่ารถแรงแค่ไหน ไมล์ทุกคันสิ้นสุดที่ 180km/h

เขื่อนตีนเขา Asahikawa

-------------
ทางด่วน
-------------
- ตอนจองมันจะมีออปชั่น ETC ให้เลือกเช่า ซึ่ง ETC มันก็เหมือน Easypass บ้านเราที่ไม่ต้องจ่ายเงินสด วิ่งเข้าช่องพิเศษไป แล้วไปจ่ายเงินตอนคืนรถทีเดียว ซึ่งอันนี้ก็ไม่ไ้ดแพงไรมาก ถ้าจำไม่ผิดคือวันละร้อยกว่าบาท
- แต่ประเด็นที่จะทำให้เราตัดสินใจได้ยากขึ้นก็คือเรื่อง Pass หรือเรียกง่ายๆ ว่าเหมาจ่ายเป็นวัน วันละประมาณพันเยน ซึ่งอันนี้ต้องดูแพลนตัวเองละว่า โซนที่เราไปมีทางด่วนครอบคลุมไหม (โซนเหนือๆ มันจะไม่ค่อยมี) และคิดว่าจะใช้มากน้อยแค่ไหน บางที ระยะทางของทางด่วนมันมากกว่าทางธรรมดาด้วยนะ แต่ไปชนะที่ขับได้เร็วกว่า
- ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย ผมใช้คุ้มมาก จ่ายเหมา ETC 5 วันไปร่วม 7000 เยน แต่ขับจาก Sapporo ไป Asahikawa ประมาณ 200km ขาเดียวก็เกือบ 3000 เยนแล้วครับ คุ้มโคตรๆ
- วิวทางด่วนนี้สวยไม่แพ้ทางปกติแน่นอน ผมยืนยันได้จากรูปที่ลงๆ ไว้นี่ก็วิวจากทางด่วนทั้งนั้น
- จุดแวะพักนี่ก็มีถี่กำลังดีหน้าหนาวที่ปวดฉี่บ่อยมาก ประมาณ 30 นาทีครั้ง ห้องน้ำสะอาดไว้ใจได้แน่นอนตามไสตล์ญี่ปุ่น

แวะฉี่ทางด่วน

-------------
ประกัน
-------------
- รถบางคันจะมีแพคเกจประกันติดมาด้วย แต่บางคันก็ไม่มี ตรงนี้จะเรียกว่า CDW (Collision Damage Waver) อันนี้แล้วแต่เลยว่าจะตัดสินใจยังไง ของผมนี่มันติดมากับแพคเกจอยู่แล้ว เลยไม่ได้ตัดสินใจอะไรจึงให้คำแนะนำไม่ได้ 555
- แต่ยังไงก็อย่าลืมทำประกันการเดินทางไปด้วยล่ะ เพราะไอ้แพคเกจด้านบนมันเน้นไปที่อุบัติเหตุจากรถ ไปเดินหิมะลื่นหัวแตกมามันก็ไม่ครอบคลุมนะ

แวะพัก

-------------
รับรถ
-------------
- วิธีไปรับรถก็ไม่ได้ซับซ้อนไรมาก สำหรับการไปรับรถที่สาขาสนามบิน พอรับกระเป๋าเสร็จอะไรเสร็จ เดินออกมาก็จะเจอเคาเตอร์ต่างๆ ของบริษัทเช่ารถมาดักไว้เลย เราก็เดินไปยื่นใบจองให้เค้า เค้าก็จะให้เรารอซักพัก แล้วก็จะมีรถบัสมารับเราไปที่บริษัทครับ ของผมไปรับรถที่สนามบิน Hakodate นั่งรถบัสประมาณ 1 นาที ใช่ครับนาทีเดียว บริษัทมันอยู่หน้าสนามบินเลย
- ไปถึงออฟฟิซเค้าก็แนะนำนู่นนี่ เซ็นเอกสารนู่นนี่กันไป เสร็จแล้วก็พาไปดูรถ สอนใช้รถ สอนใช้ GPS นู่นนี่ แล้วก็เดินเชครอยรอบๆ คันว่ามีตรงไหนบ้างจะได้มาร์คไว้ก่อน
- ได้มาพร้อมน้ำมันเต็มถัง แน่นอนว่าต้องเติมให้เต็มก่อนไปส่งคืนด้วยนะ บางสาขาใหญ่ๆ เช่นสาขาสนามบิน Chitose ก็จะมีปั๊มอยู่ในตัวด้วย ไม่ต้องวนหาเติมก่อน
- ถ้าคืนรถคนละที่กับที่รับรถ เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มนะครับ มากน้อยก็ตามระยะห่างก็สาขา มีตารางให้ดูในเว็บครับ ของผมรับที่ HKD คืนที่ CTS โดนไป 9000 เยนครับ

ถนนหน้าบ้าน ริมทะเลสาบ Toya

-------------
GPS
-------------
- GPS เป็นภาษาอังกฤษครับ แต่เป็นแค่บางส่วน พวกเมนูสำคัญๆ เท่านั้น
การระบุตำแหน่งที่นี้ใช้ Mapcode ไม่ก็เบอร์โทรศัพท์ แม่นเลยทีเดียว ที่ใช้ไม่เคยพลาดเลย
- ต้องหยุดรถก่อนที่กรอกนู่นกรอกนี้นะ ถ้าขับรถอยู่จะกรอกอะไรไม่ได้เลย มันกลัวเราเผลอ
- ใช้ง่าย พึ่งได้ ไม่หลงแน่นอน

วิวจากบ้านที่ Sapporo

-------------
น้ำมัน
-------------
- ปั๊มมีทั่วไป มีทั้งแบบเติมเอง และแบบมีพนักงาน มีโอกาสได้เติมครั้งเดียวกับพนักงาน เค้าจะถามเราว่าใช้เงินสดหรือบัตเครดิต อันนี้ฟังอยู่นานกว่าจะสื่อสารกันรู้เรื่องต้องการอะไร ไอ้เราก็ชี้สีแดง Full Tank อยุ่นนั่นแหละ 5555
- น้ำมันเค้าจะมี 3 หัว เป็นดีเซล 1 เบนซิน 2 เป็นสีแดงกับเหลือง สีแดงก็ออกเทน 91 มั้ง ส่วนเหลืองนี่แพงกว่าหน่อย เป็นออกเทน 100 จะเติมอันไหนก็แล้วแต่งบ
ราคาน้ำมันนี่พอๆ กับไทยเลย 91 ก็ 130 เยนประมาณนี้
เติมรอบแรกไป 6000 เยน ขับไป 500 กว่าโล

วิวจากบ้านพักริมทะเลสาบ Toya

-------------
จอดรถ
-------------
- นอกเมืองตามสถานที่ท่องเที่ยวก็จอดตามที่จอดทั่วไปครับ ส่วนใหญ่ฟรี
ในเมืองก็มีที่จอดอยู่มากมาย สังเกตได้จากป้าย P วิธีจอดก็ไม่ยาก ขับเข้าไปทางเข้า กดปุ่มตรงตู้แล้วมันจะมีตั๋วออกมา ตอนออกก็ไปทางออก หยอดตั๋วไป แล้วมันก็จะบอกว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ จบ
- สำหรับในเมืองค่าจอดนี่โหดสัสมากๆ บางที่คิดเป็นราย 20 นาที มีรอบนึงจอดสามชั่วโมงโดนไป 1800 เยน
- รวมๆ ค่าจอดนี่เกือบ 5000 เยนได้ 55555

แวะดูห่าน

-------------
กฏหมาย/มารยาท
-------------
- ขับชิดซ้าย เหมือนไทยเป๊ะ
- กฏหมายจราจรถ้าให้เรียงลำดับความซีเรียสที่สุด น่าจะเป็นเรื่องที่จอด เพราะบริษัทเค้าเขียนเตือนไว้ชัดเจน ปรับโหดเหมือนกันถ้าจำไม่ผิดก็หลักหมื่นบาท ป้ายมันจะมีสองแบบ 1 เฉียง = ห้ามจอด แต่หยุดได้ (เปิดไฟกระพริบ มีคนอยู่ ไม่ดับเครื่อง) 2 เฉียงกากบาท = ห้ามหยุดห้ามจอด
- Speed Limit บนทางด่วนจะอยู่ที่ 80-110 km/h ในถนนปกติมันจะไม่ถึง โดยเฉพาะถ้าวิ่งผ่านตัวเมืองมันจะลดเหลือแค่ 40-50 km/h อึดอัดโคตรๆ
หากใครคิดจะขับแบบไม่แคร์ลิมิตเหมือนอยู่เมืองไทย ขอบอกไว้เลยว่า ที่นู่นเค้าซีเรียสเรื่องนี้มาก โดนปรับทีนึง 2 หมื่นกว่าบาทนะครับ มีทั้งกล้องจับความเร็ว มีทั้งรถตำรวจแอบอยู่ข้างทาง ณ ครับ
- ญี่ปุ่นไม่มีซ้ายผ่านตลอด
- ด้วยการที่ัผังเมืองเป็นระบบบล็อก ไฟเขียวไฟแดงโคตรเยอะ บางทีคิดจะแดงมันก็แดง ฝ่าไฟแดงหลายรอบมาก 555 คนญี่ปุ่นก็ฝ่ากันเยอะนะ แต่ไม่ได้โดนอะไร เสียวอยู่เหมือนกัน
- บางทีสี่แยกมันก็ไม่มีไฟเขียวสำหรับเลี้ยวขวานะ ต้องขับไปรอกลางแยกเพื่อเพื่อรอรถเลนข้างๆ ว่างถึงเลี้ยวได้ บอกตรงๆ ว่าสับสน
- บีบแตร = ขอบคุณ / กระพริบไฟ = ให้ทาง

ตัวเมือง Hakodate

-------------
การขับบนหิมะ
-------------
- บอกตรงๆ ว่าโคตรกลัว เพราะเป็นครั้งแรกที่ขับรถบนหิมะ ความรู้สึกเหมือนรถมันจะลื่นอยู่ตลอดเวลาเปลี่ยนทิศทาง โดยเฉพาะ Black Ice ที่เป็นผิวน้ำแข็งเคลือบอยู่บนถนนเนี่ย ลื่นสุดๆ ส่วนบนหิมะก็ให้ความรู้สึกเหมือนขับอยู่บนโคลน
- ถ้าหลีกเลี่ยงหิมะไม่ได้ควรเลือกเช่าแบบ 4wd เพราะทำให้ขับง่ายขึ้นเยอะ สังเกตว่ารถที่นู่น จะเล็กกระป๋องแค่ไหนส่วนใหญ่ที่เห็นเป็น 4wd หมดเลย
แก้ปัญหาด้วย การขับช้าๆ จบ

ทางขึ้น Asahikawa ขับรถจาก sapporo มา 3 ชั่วโมง สรุปกระเช้าปิด พายุเข้า 5555

-------------
สรุป
-------------
เช่าเถอะครับ สะดวกกว่านั่งรถไฟเยอะ โดยเฉพาะฮอกไกโดที่สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นธรรมชาติซึ่งรถไฟมันเข้าไม่ถึง อยากแวะตรงไหนก็แวะ ขับเพลินมาก ไม่เหนือ่ยเลย เพราะถนนดี คนบนถนนก็มีมารยาท และไม่ต้องลากกระเป๋าหนักๆ ไปมาด้วย ไปๆ มาๆ อาจจะถูกกว่านั่งรถไฟด้วย ณ ครับ

ราคาเฉลี่ยต่อหัวประมาณคนละ 4000 บาทครับ
ขอบคุณครับ สงสัยตรงไหนเพิ่มเติมถามได้นะ


ยอดเขา Hakodate


**เพิ่มเติมเส้นทางของแต่ละวันครับ**
วันที่ 1: รับรถจากสนามบิน > เข้าที่พัก > ไปยอดเขา Hakodate

วันที่ 2: ตอนเช้าแวะตลาดปลา Hakodate > ขับรถไปทะเลสาบ Toya

วันที่ 3: Toya > Otaru > Sapporo (อันนี้เสียเวลาไปสองชม.เพราะออกจากโทยะได้ครึ่งทางแล้วลืมกระเป๋าไว้ที่บ้าน 55)

วันที่ 4: Sapporo > Asahikawa > Sapporo

วันที่ 5: กลับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่