Captain America: Civil War หนังภาค 3 ของกัปตันอเมริกา ที่ดูเหมือน Avengers ภาค 3 ซะมากกว่า เพราะขนฮีโร่มาทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่มารวมกันเพียบ แต่ก็มีกัปตันอเมริกาเป็นตัวเด่นสุด แต่ดูไปดูมา โทนี สตาร์ค เด่นไม่แพ้กัน อีกนิดก็จะกลายเป็น Iron Man ภาค 4 แทนล่ะ
เนื้อเรื่องไม่ใช่จุดขายของเรื่องอยู่แล้ว ไอ้ประเด็นที่ว่าแต่ละคนขัดแย้งกัน แบ่งฝักแบ่งฝ่าย เพราะไม่เห็นด้วยกับเรื่องขึ้นทะเบียนซุปเปอร์ฮีโร ก็ไม่ได้มีอะไรสลักสำคัญเท่าไร ก็แค่ผูกเรื่องแบบหลวมๆ เพื่อให้แต่ละคนแบ่งข้าง จนนำไปสู่ฉากแอคชั่นฮีโร่ซัดกันเองเท่านั้น
ในแง่ฉากแอคชั่นแม้จะจัดเต็มเช่นเคย ทั้งความอลังการงานสร้าง และเอฟเฟควินาศสันตะโร แต่เอาเข้าจริงๆ ผมว่าก็ไม่ได้มีอะไรดีจนน่าจดจำนะ ก็มีแค่ฉากวิ่งไล่ล่ากัน เหาะกันไปเหาะกันมา ยิงแสง ปล่อยพลัง ขว้างโล่อยู่แค่นี้ แล้วรู้สึกว่าฮีโร่แต่ละคน ต้องแย่งกันออกจอ แย่งกันโชว์ของ ทำให้ดูๆเหมือนเด็กนักเรียนยกพวกตีกันมากกว่า ตรงนี้หากเทียบกับ X-Men ที่มีฮีโร่ในเรื่องเยอะเหมือนกัน X-Men ทำฉากแอคชั่นที่มีฮีโร่หลายคนสู้พร้อมกันได้ลื่นไหลกว่าเยอะ ในขณะที่ ของมาร์เวล ทุกคนต้องแย่งกันออกหน้าจอ ตรงนั้อยากให้มาร์เวลปรับปรุง คือแทนที่จะเน้นปริมาณฉากแอคชันเยอะๆ อยากให้เน้นที่คุณภาพและความแปลกใหม่มากกว่า
แต่สิ่งที่ดีใน Captain America: Civil War ก็คือสีสันของตัวละครแต่ละตัวนี่แหละ เวลาที่ไม่ได้สู้กันนะ แต่ละคนมีอุปนิสัย มีเสน่ห์ มีจุดประสงค์ที่สนับสนุนการกระทำชัดเจน ทำไห้คนดูรู้สึกอินและหลงไหลไปกับตัวละครได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป้นตัวละครเก่าๆอย่างกัปตันอเมริกา หรือไออนแมน และน้องใหม่ล่าสุดอย่างสไปเดอร์แมน ที่สร้างสีสันได้ดีเลยทีเดียว
และ Captain America ภาคนี้ ก็มีส่วนผสมของอารมณ์ดราม่าที่ค่อนข้างดี มีความสะเทือนใจ มีเซอร์ไพร์ส มีอะไรให้คนดูได้คิดตาม มีการเชื่อมปมกับภาคเก่าๆ รวมถึงทิ้งปมให้ไปสานต่อในหนังภาคอื่นๆ มีอารมณ์ไคลแมกซ์ ในขณะที่ก็ไม่ลืมอารมณ์ขันเบาๆ ตามสไตล์หนังดีสนีย์
รวมๆก็เป็นหนังที่ดูสนุกมากเรื่องหนึ่งนะครับ หากเทียบกับหนังเรื่องอื่นของมาร์เวล ก็ถือว่าทำได้ดีกว่า แม้ฉากแอคชั่นมันจะดูล้นๆและซ้ำๆไปบ้าง
3 ดาวครึ่ง
ติดตามเพจ สารวัตรโรงหนัง ได้ตามลิงค์นี้นะครับ
https://www.facebook.com/moviepolice/ ขอบคุณครับ
สารวัตรโรงหนังไปดูมาแล้ว "Captain America: Civil War" เนื่องเรื่องไม่สำคัญ เน้นดราม่า แอคชั่นเน้นปริมาณ
เนื้อเรื่องไม่ใช่จุดขายของเรื่องอยู่แล้ว ไอ้ประเด็นที่ว่าแต่ละคนขัดแย้งกัน แบ่งฝักแบ่งฝ่าย เพราะไม่เห็นด้วยกับเรื่องขึ้นทะเบียนซุปเปอร์ฮีโร ก็ไม่ได้มีอะไรสลักสำคัญเท่าไร ก็แค่ผูกเรื่องแบบหลวมๆ เพื่อให้แต่ละคนแบ่งข้าง จนนำไปสู่ฉากแอคชั่นฮีโร่ซัดกันเองเท่านั้น
ในแง่ฉากแอคชั่นแม้จะจัดเต็มเช่นเคย ทั้งความอลังการงานสร้าง และเอฟเฟควินาศสันตะโร แต่เอาเข้าจริงๆ ผมว่าก็ไม่ได้มีอะไรดีจนน่าจดจำนะ ก็มีแค่ฉากวิ่งไล่ล่ากัน เหาะกันไปเหาะกันมา ยิงแสง ปล่อยพลัง ขว้างโล่อยู่แค่นี้ แล้วรู้สึกว่าฮีโร่แต่ละคน ต้องแย่งกันออกจอ แย่งกันโชว์ของ ทำให้ดูๆเหมือนเด็กนักเรียนยกพวกตีกันมากกว่า ตรงนี้หากเทียบกับ X-Men ที่มีฮีโร่ในเรื่องเยอะเหมือนกัน X-Men ทำฉากแอคชั่นที่มีฮีโร่หลายคนสู้พร้อมกันได้ลื่นไหลกว่าเยอะ ในขณะที่ ของมาร์เวล ทุกคนต้องแย่งกันออกหน้าจอ ตรงนั้อยากให้มาร์เวลปรับปรุง คือแทนที่จะเน้นปริมาณฉากแอคชันเยอะๆ อยากให้เน้นที่คุณภาพและความแปลกใหม่มากกว่า
แต่สิ่งที่ดีใน Captain America: Civil War ก็คือสีสันของตัวละครแต่ละตัวนี่แหละ เวลาที่ไม่ได้สู้กันนะ แต่ละคนมีอุปนิสัย มีเสน่ห์ มีจุดประสงค์ที่สนับสนุนการกระทำชัดเจน ทำไห้คนดูรู้สึกอินและหลงไหลไปกับตัวละครได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป้นตัวละครเก่าๆอย่างกัปตันอเมริกา หรือไออนแมน และน้องใหม่ล่าสุดอย่างสไปเดอร์แมน ที่สร้างสีสันได้ดีเลยทีเดียว
และ Captain America ภาคนี้ ก็มีส่วนผสมของอารมณ์ดราม่าที่ค่อนข้างดี มีความสะเทือนใจ มีเซอร์ไพร์ส มีอะไรให้คนดูได้คิดตาม มีการเชื่อมปมกับภาคเก่าๆ รวมถึงทิ้งปมให้ไปสานต่อในหนังภาคอื่นๆ มีอารมณ์ไคลแมกซ์ ในขณะที่ก็ไม่ลืมอารมณ์ขันเบาๆ ตามสไตล์หนังดีสนีย์
รวมๆก็เป็นหนังที่ดูสนุกมากเรื่องหนึ่งนะครับ หากเทียบกับหนังเรื่องอื่นของมาร์เวล ก็ถือว่าทำได้ดีกว่า แม้ฉากแอคชั่นมันจะดูล้นๆและซ้ำๆไปบ้าง
3 ดาวครึ่ง
ติดตามเพจ สารวัตรโรงหนัง ได้ตามลิงค์นี้นะครับ https://www.facebook.com/moviepolice/ ขอบคุณครับ