คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
สิ่งสำคัญประการแรก ก็คือ Launcher (แอพสำหรับการเรียกเปิดแต่ละแอพที่มีติดตั้งอยู่ในเครื่อง):
ก) Android ทั่วไปจะใช้ระบบ Home screen (มีได้หลาย Home screen) ผนวกกับ App Drawer โดยแอพที่ติดตั้งเข้าไป จะไปสร้างไอคอนในหน้าจอใน App Drawer (เสมือนเป็นลิ้นชักเก็บแอพ) พอเต็มแต่ละลิ้นชัก(1 หน้าจอ)แล้ว ก็ขึ้นหน้าใหม่. ทั้งนี้ ผู้ใช้เครื่องสามารถลากไอคอนของแอพที่ตนจะใช้บ่อยๆ เช่น แอพ Y มาทำเป็น (Shortcut) Icon บน Home screen เพื่อเรียกใช้งานได้สะดวกได้. ทั้งนี้ โครงสร้างการใช้งานที่ออกแบบในลักษณะนี้ช่วยให้หน้าจอ Home screen ไม่รกรุงรัง (เช่นคุณอาจติดตั้งไว้ 200 แอพใน App Drawer, สมมติว่าใช้พื้นที่ 10 หน้าจอ; แต่คุณอาจสร้างเพียง 20 (Shortcut) icons ที่ใช้งานบ่อยบน Home screen ซึ่งใช้พื้นที่เพียง 1 Home screen เท่านั้น
หมายเหตุ: App Drawer ก็คือที่คุณเห็นเป็นไอคอน 'สี่เหลี่ยมเล็กๆ เรียงแถว 3 x 2' (หรืออาจจะ 4 x 4) อยู่ด้านล่างจอมือถือ, หรือตรงมุมบนขวาของจอ Tablet. ทั้งนี้ บางคนอาจเรียก App Drawer ว่า App Tray
ข) แต่ทางฝั่ง iOS ไม่ได้ใช้ระบบ App Drawer. ทุกแอพจะสร้าง (Shortcut) icon บน Home screen. ซึ่งจะใช้พื้นที่ 10 Home screens
เพื่อทำให้ Android คล้าย iOS โดยเสมือนก้าวข้าม App Drawer ไป จึงจำเป็นต้องติดตั้งแอพประเภท Launcher
นอกจากนี้ คุณอาจติดตั้งแอพ แป้นพิมพ์, Lock Screen, Control Center เป็นต้น. หรือหากมีเวลาก็อาจหาแอพที่เกี่ยวกับ icon, wallpaper ในสไตล์ iOS มาสร้างความเหมือนที่อาจดูไม่แตกต่างกันเลยด้วยครับ
ลองดูที่ 3 ลิงค์ต่อไปนี้ โดยเฉพาะลิงค์แรก คุณคงจะพอได้ทราบคร่าวๆ ว่า ควรจะต้องทำอะไรบ้าง?
https://7labs.heypub.com/mobile/ios-ui-for-android.html
http://www.logansdroids.com/2015/11/how-to-make-Android-phone-look-like-Apple-iPhone.html
http://www.prophethacker.com/2016/01/android-look-like-apple-ios9.html
บางแอพที่กล่าวถึงใน 3 บทความข้างต้น อาจดาวน์โหลดไม่ได้. ลองดูข้างล่างนี่ครับ:
https://play.google.com/store/apps/details?id=net.suckga.ilauncher2&hl=en
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.app.onedream.launcher
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.verycoolapps.control.center
แล้วลองไปบอกเพื่อนคุณว่า เรา 'แหกคุกจองจำผู้บริโภค' สำเร็จ เปลี่ยนระบบ iOS และฮาร์ดแวร์ของมือถือเราซึ่งเป็น iPhone 6S Plus ให้รองรับการเข้าถึงระบบไฟล์ผ่าน File Manager, และแอพต่างๆ สามารถเข้าใช้งานไฟล์ข้อมูลร่วมกันได้อย่างสะดวกและอิสระ เช่นไฟล์เพลง ไฟล์วิดีโอ ไฟล์เอกสาร Word ไฟล์นำเสนอ PowerPoint หรือไฟล์อื่นใด (อย่าลืมว่ามือถือ หรือแม้กระทั่ง Personal Computer เป็นเพียงอุปกรณ์ใช้งานส่วนตัวของผู้บริโภค ไม่ใช่อุปกรณ์ที่ใช้งานในโลกสายลับ หรือในองค์กรธุรกิจมูลค่ามหาศาล ที่ต้องการความเสถียรของอุปกรณ์หรือระบบ Security ระดับสูง), และเรายังได้ปรับเปลี่ยนฮาร์ดแวร์และวงจรอิเล็คทรอนิคส์ที่จำเป็น โดยเปลี่ยนจากพอร์ท Lightning เป็น OTG USB ให้ใช้เสียบ Flash Drive เพื่อการโอนถ่ายข้อมูลได้สะดวก, เพิ่มช่องใส่ microSD ให้รองรับการเพิ่มที่จัดเก็บข้อมูล. พวกแกช่วยทดลองเล่นแล้วออกความเห็นหน่อยดิ.
สนุกกับผลงานฝีมือคุณครับ
เกือบลืมไป, เพิ่มเติมครับ.
https://www.youtube.com/watch?v=PgWej6YwG0g
https://www.youtube.com/watch?v=lee7D0H4yo8&annotation_id=annotation_2254139447&src_vid=PgWej6YwG0g&feature=iv
ลิ้งค์ที่ 2 เป็น Updated version ของลิงค์แรก
ก) Android ทั่วไปจะใช้ระบบ Home screen (มีได้หลาย Home screen) ผนวกกับ App Drawer โดยแอพที่ติดตั้งเข้าไป จะไปสร้างไอคอนในหน้าจอใน App Drawer (เสมือนเป็นลิ้นชักเก็บแอพ) พอเต็มแต่ละลิ้นชัก(1 หน้าจอ)แล้ว ก็ขึ้นหน้าใหม่. ทั้งนี้ ผู้ใช้เครื่องสามารถลากไอคอนของแอพที่ตนจะใช้บ่อยๆ เช่น แอพ Y มาทำเป็น (Shortcut) Icon บน Home screen เพื่อเรียกใช้งานได้สะดวกได้. ทั้งนี้ โครงสร้างการใช้งานที่ออกแบบในลักษณะนี้ช่วยให้หน้าจอ Home screen ไม่รกรุงรัง (เช่นคุณอาจติดตั้งไว้ 200 แอพใน App Drawer, สมมติว่าใช้พื้นที่ 10 หน้าจอ; แต่คุณอาจสร้างเพียง 20 (Shortcut) icons ที่ใช้งานบ่อยบน Home screen ซึ่งใช้พื้นที่เพียง 1 Home screen เท่านั้น
หมายเหตุ: App Drawer ก็คือที่คุณเห็นเป็นไอคอน 'สี่เหลี่ยมเล็กๆ เรียงแถว 3 x 2' (หรืออาจจะ 4 x 4) อยู่ด้านล่างจอมือถือ, หรือตรงมุมบนขวาของจอ Tablet. ทั้งนี้ บางคนอาจเรียก App Drawer ว่า App Tray
ข) แต่ทางฝั่ง iOS ไม่ได้ใช้ระบบ App Drawer. ทุกแอพจะสร้าง (Shortcut) icon บน Home screen. ซึ่งจะใช้พื้นที่ 10 Home screens
เพื่อทำให้ Android คล้าย iOS โดยเสมือนก้าวข้าม App Drawer ไป จึงจำเป็นต้องติดตั้งแอพประเภท Launcher
นอกจากนี้ คุณอาจติดตั้งแอพ แป้นพิมพ์, Lock Screen, Control Center เป็นต้น. หรือหากมีเวลาก็อาจหาแอพที่เกี่ยวกับ icon, wallpaper ในสไตล์ iOS มาสร้างความเหมือนที่อาจดูไม่แตกต่างกันเลยด้วยครับ
ลองดูที่ 3 ลิงค์ต่อไปนี้ โดยเฉพาะลิงค์แรก คุณคงจะพอได้ทราบคร่าวๆ ว่า ควรจะต้องทำอะไรบ้าง?
https://7labs.heypub.com/mobile/ios-ui-for-android.html
http://www.logansdroids.com/2015/11/how-to-make-Android-phone-look-like-Apple-iPhone.html
http://www.prophethacker.com/2016/01/android-look-like-apple-ios9.html
บางแอพที่กล่าวถึงใน 3 บทความข้างต้น อาจดาวน์โหลดไม่ได้. ลองดูข้างล่างนี่ครับ:
https://play.google.com/store/apps/details?id=net.suckga.ilauncher2&hl=en
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.app.onedream.launcher
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.verycoolapps.control.center
แล้วลองไปบอกเพื่อนคุณว่า เรา 'แหกคุกจองจำผู้บริโภค' สำเร็จ เปลี่ยนระบบ iOS และฮาร์ดแวร์ของมือถือเราซึ่งเป็น iPhone 6S Plus ให้รองรับการเข้าถึงระบบไฟล์ผ่าน File Manager, และแอพต่างๆ สามารถเข้าใช้งานไฟล์ข้อมูลร่วมกันได้อย่างสะดวกและอิสระ เช่นไฟล์เพลง ไฟล์วิดีโอ ไฟล์เอกสาร Word ไฟล์นำเสนอ PowerPoint หรือไฟล์อื่นใด (อย่าลืมว่ามือถือ หรือแม้กระทั่ง Personal Computer เป็นเพียงอุปกรณ์ใช้งานส่วนตัวของผู้บริโภค ไม่ใช่อุปกรณ์ที่ใช้งานในโลกสายลับ หรือในองค์กรธุรกิจมูลค่ามหาศาล ที่ต้องการความเสถียรของอุปกรณ์หรือระบบ Security ระดับสูง), และเรายังได้ปรับเปลี่ยนฮาร์ดแวร์และวงจรอิเล็คทรอนิคส์ที่จำเป็น โดยเปลี่ยนจากพอร์ท Lightning เป็น OTG USB ให้ใช้เสียบ Flash Drive เพื่อการโอนถ่ายข้อมูลได้สะดวก, เพิ่มช่องใส่ microSD ให้รองรับการเพิ่มที่จัดเก็บข้อมูล. พวกแกช่วยทดลองเล่นแล้วออกความเห็นหน่อยดิ.
สนุกกับผลงานฝีมือคุณครับ
เกือบลืมไป, เพิ่มเติมครับ.
https://www.youtube.com/watch?v=PgWej6YwG0g
https://www.youtube.com/watch?v=lee7D0H4yo8&annotation_id=annotation_2254139447&src_vid=PgWej6YwG0g&feature=iv
ลิ้งค์ที่ 2 เป็น Updated version ของลิงค์แรก
แสดงความคิดเห็น
ขอวิธีปรับแต่งแอนดรอยด์ให้เหมือน iOS 9 หน่อยครับ