ผมไปซื้อของวันนี่ 00.25 น. 2 พ.ค. 59 หลายรายการ แล้วเอาของวางไว้หน้าเคาท์เตอร์แล้ววิ่งไปหยิบมาเพิ่มเพราะถือไม่หมด
แค่น้ำ 1.5 ลิตร 2 ขวดที่ไปหยิบเพิ่ม ใช้เวลาแค่ไม่ถึง 10 วิ เพราะถือไม่หมดจริงๆ และไม่ได้วางแผนจะซื้อตอนแรก เลยไม่ได้หิ้วตะกร้าไป
(คนไม่มีเพราะดึกมากแล้ว) กลับมา เค้าเริ่มคิดเงินไปแล้ว ผมบอกว่า แปปนึงครับขอเติมเงินเข้าบัตรก่อน

ซึ่งลักษณะนี้เกิดไม่บ่อย เพราะผมจะเติมเงินก่อน หรือไม่ก็เอาบัตรส่องดูก่อนว่าเงินพอไหม จากนั้นค่อยจ่ายเงิน
แต่จะมีบางวันที่เป็นลักษณะแบบนี้ซึ่งผมใช้บัตร smart purse มาร่วม 8 ปีแล้ว  พนักงาน 7-11 ทุกสาขาที่เจอเหตุการณ์ลักษณะนี้
ทุกจะตอบว่า ค่ะ ได้ค่ะ หรืออะไรแล้วแต่ที่ดูว่ามันเป็นเรื่องง่ายมาก แล้วก็เติมเงินขั้นให้แบบหน้าตาเฉย ผมไม่รู้หรอกว่าระบบเป็นไง
แต่ดูจาก Reflect ของพนักงาน ผมว่ามันก็น่าจะแค่ hold รายการคิดเงินไว้ แล้วก็เติมเงินก่อนจากนั้นค่อยคิดเงินต่อ
หรืออย่างมากก็เปลี่ยนไปเติมอีกเครื่อง ซึ่งดูไม่ยากเย็น

แต่รายนี้ไม่ครับ เป็นผู้หญิงแก่ๆ อ้วนๆ หน้าตาไม่สมประกอบ(อันที่จริงรูปพรรณสันฐานไม่เกี่ยวกับสันดาร แต่อยากจะระไน ไว้ให้ทราบ
โดยทั่วกัน เผื่อจะได้ไปหาตัวกันได้ง่ายๆ) นางทำหน้าเหวี่ยง ทำเสียงจิ๊จ๊ะ แบบรำคาญมากกระแทกลิ้นชักเครื่องคิดเงินดังโครม กระแทกของทุกชิ้น
ใส่ถุงอย่างรุนแรง ชักสีหน้าสุดโต่ง น้ำเสียงหมาที่บ้านไม่รับประทาน ผม... ไม่ใช่คนใจเย็น ถ้าไม่เกรงใจว่า เพื่อนที่ไปด้วย
ยังต้องประจำอยู่แถวนี้อีกพักนึง คงมีเรื่อง คงได้ต่อว่ากันยกใหญ่แล้ว คือ อยากถามว่าพร้อมทำงานไหม? นี่งานบริการนะ ไม่พร้อม
ก็ลาออกไปนั่งเลียกระดาน อยู่บ้าน "ลูกค้า"ไม่ใช่ "ญาติมิตรชิดสหาย" ที่จะทำนิสัย "ใส่ผ้าถุงนั่งชันเข่ากับพื้นบ้าน" ใส่ยังไงก็ได้
ใจผมนี่ปึกๆๆๆ โกรธตากระตุกเลย แต่ไม่อยากเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ สะกดใจเดินออกมา ท่องขันติๆๆ

เรียนต้นสังกัด ควบคุมพนักให้ได้มาตรฐานด้วยครับ ขอบพระคุณมาก!