Captain America :: Civil War บทพิสูจน์คำว่า "เพื่อน" ของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ [Spoil]

ออกตัวก่อนเลยครับ ว่าตั้งแต่ก่อนเข้าไปดูแล้วผมเป็น #TeamCap และตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ เพราะผมดูหนังแคปมาตั้งแต่ภาคแรก ผมเห็นแคปตั้งแต่เป็นไอ้ผอมแห้ง มาจนกลายเป็นทหารในนาม กัปตันอเมริกา ต่างกับ Iron Man ที่ผมได้ดูเค้าหลังจากดู Avengers ภาคแรกแล้ว ซึ่งเอาจริงๆมันจะมีหลายๆอย่างในตัวโทนี่ที่ผมไม่ชอบ ดังนั้นตั้งแต่มีข่าวว่า Captain America 3 จะใช้ธีม Civil War ผมก็เลือกข้างไปแล้วว่าผมอยู่ข้างไหน แต่เรื่องนี้มันทำให้ผมมองโทนี่เปลี่ยนไป เพราะมันทำให้ผมเห็นมุมดีๆมุมอื่นของโทนี่บ้าง จากที่เคยคิดว่าเค้าโคตรอีโก้ ถือตัวเองเป็นที่ตั้ง ไม่คิดถึงใจคนอื่น แต่ในเรื่องนี้มันเล่นกับอารมณ์ของโทนี่เยอะมาก ทั้งต่อครอบครัว และ "เพื่อน"

และประเด็นเรื่องเพื่อนนี่แหละครับ ที่ผมรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ดูจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดยใช้สนธิสัญญาโซโคเวียมาเป็นตัวแปลในการพิสูจน์ความสัมพันธ์ของเหล่า Avengers


Steve Rogers :: Captain America
ถ้าใครได้ติดตามมาตั้งแต่ภาคแรก ก็น่าจะรู้ว่าเมื่อก่อนสตีฟไม่ได้หุ่นล่ำบึ้กขนาดนี้ เขาผอมแห้ง เป็น looser ที่ถูกคนอื่นรุมรังแกอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ได้ Bucky Barnes เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเค้าในสมัยนั้นคอยช่วยเหลือ ตั้งแต่เค้ายังผอมอยู่ไปจนถึงช่วงที่เค้ากลายเป็นกัปตันอเมริกาไปแล้ว บัคกี้ก็อยู่เคียงข้างเค้ามาตลอด ไม่เคยปล่อยให้เค้าต้องต่อสู้เพียงลำพัง ดังนั้นสำหรับสตีฟแล้ว บัคกี้ไม่ใช่แค่เป็นเพื่อน แต่เป็นเหมือนคนในครอบครัวคนเดียวที่เค้ามีอยู่ จนกระทั่งตอนที่สตีฟต้องเห็นบัคกี้ตายไปต่อหน้าต่อตา และในเวลาต่อมาเมื่อเค้าฟื้นขึ้นมาอีกครั้งนึงและพบว่าคนที่เค้าเคยรู้จักได้ตายจากไปจนหมดแล้ว แม้แต่รักแรกของเค้าก็กลายเป็นคุยยายแก่ๆไปแล้ว มันจึงไม่แปลกเลยหากว่าเค้าได้พบกับบัคกี้อีกครั้ง แต่เป็นบัคกี้เวอร์ชั่นที่โดนลบความทรงจำ กลายเป็นนักฆ่านาม Winter Soldier แล้วเค้าจะอยากช่วยให้เพื่อนของเค้ากลับมาเป็นเพื่อนของเค้าอีกครั้ง และมันก็ดูมีความเป็นไปได้ด้วย เพราะจากภาค Winter Soldier ตัวบัคกี้เองก็ดูเหมือนจะเริ่มจำตัวตนเดิมของตัวเองได้แล้ว และมาถึงภาคล่าสุดอย่าง Civil War เมื่อสตีฟก็เห็นชัดๆแล้วว่าบัคกี้ได้กลับมาเป็นบัคกี้คนเดิมที่เค้าเคยรู้จักแล้ว มันจะมีเหตุผลอะไรที่เค้าจะไม่ปกป้องเพื่อนของเค้า เอาจริงๆผมก็ยอมรับว่าจากการดูตัวอย่างต่างๆที่ปล่อยมาก่อนหน้า ผมก็แอบรู้สึกหงุดหงิดเล็กๆเหมือนกันว่าหนังจะบอกเราว่าเพราะสตีฟเข้าข้างเพื่อนมากไปหรือเปล่า จนกลายเป็นฉนวนเหตุให้เกิด Civil War แต่ในหนังจริงๆมันไม่ใช่ สตีฟไม่ได้จะปกป้องเพื่อนจนเกินเหตุ แต่มันมีเหตุมีผลของมันว่าเค้าต้องตามจับตัวร้ายจริงๆให้ได้ก่อน เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของบัคกี้ แถมเค้ายังเข้าใจไปอีกว่าซีโม่กำลังจะใช้ Winter Soldier ที่เหลือในการทำอะไรบางอย่างกับโลก ซึ่งการจะเอาเรื่องทั้งหมดที่เค้ารู้มจากบัคกี้ไปอธิบายให้โทนี่เข้าใจมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เค้าจึงจำต้องสู้กับโทนี่เพื่อนอีกคนของเค้า เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ให้บัคกี้ และเพื่อหยุดยั้งซีโม่ ที่ตอนนั้นเค้าเข้าใจว่ากำลังจะใช้ประโยชน์จาก Winter Soldier เพื่อทำอันตรายต่อโลก ดังนั้นผมเลยรู้สึกว่าการปกป้องเพื่อนของสตีฟไม่ได้เป็นการทำเกินกว่าเหตุ แต่มันมีความสมเหตุสมผลซ่อนอยู่ ถ้าบัคกี้ไม่เหลือความทรงจำเดิมอยู่แล้ว ยังคงมีแต่ความเป็น Winter Soldier และไม่มีเรื่อง Winter Soldier คนอื่นๆ แต่สตีฟก็ก้มหน้าก้มตาปกป้องบัคกี้ แบบนั้นแหละที่ผมจะรู้สึกว่ามันเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกัน บัคกี้คนเดิมกลับมาแล้ว คนเดิมที่เคยช่วยเหลือเค้าตอนที่เค้าถูกรังแก และเป็นคนที่เคยสู้เคียงบ่าเคียงไหล่เค้ามาตลอด ถ้าผมเป็นแคป ผมก็จะช่วย!!


Tony Stark :: Iron Man
มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากที่หนังเรื่องนี้ทำให้ผมเข้าใจโทนี่มากขึ้น หลังจากรู้สึกไม่ชอบใจโทนี่หน่อยๆจากทั้ง 5 เรื่องก่อนหน้า ทั้งหนังเดี่ยวของเค้าเอง และหนัง Avengers ทั้งสองภาค แต่กลับกลายเป็นหนังของกัปตัน ที่ใส่มิติภูมิหลังของโทนี่ได้ผมได้เห็นบ้างว่าจริงๆแล้วโทนี่ก็แคร์คนรอบข้างทุกคน ไม่ใช่ยึดแค่ตัวเองเป็นหลักเหมือนอย่างที่เข้าใจ ขอข้ามเรื่องดราม่าในครอบครัวเค้าไปนะครับ เพราะภาพโทนี่วัยหนุ่มยังติดตาผมอยู่เลย ฮ่าๆๆ จริงๆแล้วโทนี่แคร์ความรู้สึกของคนอื่นมาก มากเกินไปด้วยซ้ำ ทั้งตอนที่เค้าสร้าง Ultron และตอนที่เค้ายอมรับข้อเสนอเซ็นต์สัญญา มันมาจากที่เค้ารู้สึกผิดต่อตัวเองและคนอื่นทั้งนั้น เพียงแต่ด้วยอีโก้ และความเป็นจอมเผด็จการของเค้ามันเลยอาจจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่แม้แต่เค้าเองก็ไม่ได้อยากให้มันเกิด ซึ่งที่เห็นชัดๆในภาคนี้ก็คือการที่เค้าเสนอตัวเข้าไปคุยกับทีมแคป เพราะคงกลัวว่าถ้าปล่อยให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปจับกุมมันจะยิ่งมีคนตายมากขึ้น การเข้าไปของเค้า นอกจากจะเข้าไปในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐแล้ว ยังเข้าไปในฐานะเพื่อนด้วย และจากตอนสู้กันก็น่าจะพอเดาออกแล้วว่าแผนเดิมของเค้าไม่ได้ต้องการให้เกิดความรุนแรง แต่เมื่อมีการปะทะกัน มันเลี่ยงความรุนแรงไม่ได้ จนเป็นเหตุให้ James Rhodes : War Machine เพื่อนของเค้าคนนึงได้รับอันตราย และซีนนึงที่ผมประทับใจโทนี่มากคือซีนที่เค้าไปช่วยโรดี้ฝึกเดินบนขาเทียมที่เค้าน่าจะเป็นคนสร้างให้ ซีนนั้นแหละเป็นซีนที่ทำให้ผมรู้สึกว่าโทนี่แม่มก็มีมุมรักและเป็นห่วงคนอื่นเหมือนกันนี่หว่า(นอกจากซีนโทนี่วัยหนุ่มหน้าใสแบ๊วนั่นน่ะนะ ฮ่าๆๆ) และยังมีอีกหลายๆซีนเลย ที่ผมรู้สึกว่าถ้าใครรู้สึกไม่ค่อยพอใจในวิธีคิดของโทนี่ในภาคก่อนๆเหมือนผม หนังเรื่องนี้จะทำให้คุณเข้าใจเค้า และเห็นมุมดีๆของเค้ามากขึ้น


Clint Barton :: Hawkeye และ Natasha Romanoff :: Black Widow
จากภาคก่อนๆก็น่าจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า นาตาชา คลินท์ และสตีฟ เค้าซี้กันจนกลายเป็นกระแสคู่จิ้นอยู่เป็นช่วงๆ จนหนังค่อยๆให้เห็นว่าจริงๆแล้วทั้งสามคนเค้าแค่เป็นเพื่อนที่รักกันมากเท่านั้น เพราะคลินท์เองก็มีเมียมีลูกอยู่แล้ว นาตาชาก็สนิทไปถึงครอบครัวเค้าด้วย สตีฟเองก็มีหวานใจคนใหม่อย่าง Sharon Carter ที่เป็นหลานสาวของ Peggy Carter รักแรกของเค้า ที่ปัจจุบันกลายเป็นคุณยายไปแล้ว ส่วนนาตาชาเองก็มี Bruce Banner หรือ Hulk ที่แอบกิ๊กกั๊กกัน อยู่ นั่นเป็นเครื่องยืนยันว่าทั้งสามคนเป็นแค่เพื่อนที่รักกันมากเท่านั้น และด้วยความเป็นเพื่อนนี่เอง ทันทีที่สตีฟมีปัญหา คลินท์ก็ออกมาช่วยทันที แม้ว่าตัวเองตั้งใจจะเลิกการเป็น Hawkeye แล้วก็ตาม ส่วนนาตาชา ผมเคยสงสัยว่าหนังจะบอกเรายังไงว่าทำไมนาตาชาถึงเลือกข้างโทนี่ แทนที่จะอยู่ข้างเพื่อนรักทั้งสอง พอดูแล้วมันก็ค่อนข้างสมเหตุสมผลในความเป็นนาตาชา เพราะเธอไม่ได้เลือกข้างโทนี่ เธอเพียงแค่เห็นตรงกับโทนี่เท่านั้น แต่ในความเป็นเพื่อน นาตาชายังคงทำหน้าที่เพื่อนได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง จะเห็นได้จากตอนที่นาตาชายอมช่วยสตีฟกับบัคกี้ให้หนีไป เพราะรู้แล้วว่าห้ามยังไงก็ไม่เป็นผล เธอจึงช่วยถ่วงเวลา T'Challa หรือ Black Panther ไม่ให้ขวางทางเพื่อน ผมว่าลึกๆแล้วนาตาชาเองก็เชื่อใจสตีฟ ว่าไม่ว่ายังไงสตีฟก็ต้องคิดมาอย่างรอบคอบแล้วก่อนจะทำอะไรที่เสี่ยงขนาดนั้น จากตอนแรกที่พยายามจะห้าม จึงกลายเป็นปล่อยให้สตีฟได้ทำตามสิ่งที่เค้าเลือกเอง คลินท์เองก็เช่นกัน แม้จะอยู่คนละฝั่งกับนาตาชา แต่พอถึงคราวต้องปะทะกัน คลินท์กลับเป็นฝ่ายที่ยั้งมือจนเกือบจะพลาดท่า และเป็นวันด้าที่เข้ามาช่วยไว้ ผมว่าถ้าคู่นี้จะเอาให้ตายกันไปข้างจริงๆ มันน่าจะสู้กันดุกว่านี้ ทั้งคลิ้นท์เอง และนาตาชา เพราะถ้าเทียบกับตอนที่คลินท์โดนโลกิสะกด ตอนนั้นสู้กันโหดกว่านี้เยอะ ยิงเป็นยิง ถีบเป็นถีบ เอาหัวฟาดราวเหล็ก เอามีดสั้นฟาดฟันใส่กัน ไม่มียั้ง แต่ครั้งนี้ทั้งสองคนดูออมมือให้กันทั้งคู่ ผมคิดว่านั่นก็เพราะยังไงแล้วทั้งคู่ก็ยังเป็นเพื่อนกันนั่นแหละ


Sam Wilson :: Falcon และ James Rhodes :: War Machine
คู่นี้จะต่างกับคู่ของนาตาชากับคลินท์นิดหน่อย เพราะสองคนนี้เค้าไม่ได้เป็นเพื่อนกัน แต่ผมอยากพูดถึงเค้าทั้งสองคนพร้อมกันเพราะว่า เค้าเหมือนเป็นตัวแทนของกันและกันในฝั่งสตีฟกับโทนี่ คือสองคนนี้เค้าจะเลือกเพื่อนมาก่อนอะไรทั้งหมด เชื่อว่าถ้าสตีฟยอมเซ็นต์สัญญา แซมก็จะเซ็นต์ด้วย หรือถ้าโทนี่ไม่ยอมเซ็นต์ โรดี้ก็น่าจะไม่เซ็นต์ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะเค้าสองคนศรัทธาในเพื่อนของตัวเอง จะทำอะไรก็ได้ขอแค่ได้อยู่ข้างเดียวกับเพื่อนก็พอ ถ้าเพื่อนคิดถูก เค้าก็พร้อมสนับสนุนเพื่อน แต่ถ้าเพื่อนคิดผิด เค้าก็จะยังคงอยู่ข้างๆเพื่อนเพื่อคอยดึงเพื่อนกลับมา แต่จะปล่อยให้เพื่อนไปต่อสู้เพียงลำพัง หรือปล่อยให้ใครมาทำร้ายเพื่อนเค้าไม่ได้ ซึ่งในมุมของตัวละครทั้งแซมและโรดี้ เค้าก็น่าจะไว้ใจเพื่อนเค้ามาก มากขนาดที่ว่าเชื่อไปแล้วว่ายังไงซะ เพื่อนเค้าก็ต้องมีเหตุผลที่เลือกทำแบบนั้น ดังนั้นไม่ว่าเพื่อนเค้าจะอยู่ฝ่ายไหน จะตามกฏหรือแหกกฏ ถ้าเพื่อนเค้าเลือกแล้ว เค้าก็พร้อมจะตามเพื่อนเค้าไปทางนั้นนั่นแหละ ซึ่งผมชอบตัวละครสองตัวนี้มากนะครับ มันรู้สึกถึงมิตรภาพที่ไม่ต้องแสดงออกมาก แต่พร้อมจะอยู่เคียงข้างเพื่อนเสมอ แว่วๆว่ากัปตันอเมริกาภาค 4 อาจจะเป็นแซมมาแทนสตีฟ ซึ่งผมว่ามันก็สมเหตุสมผลนะครับ เพราะคนเดียวในเรื่องที่ผมรู้สึกว่าสตีฟจะไว้ใจให้ทำหน้าที่กัปตันต่อได้ก็น่าจะเป็นแซมนี่แหละ ตอนแรกได้ยินข่าวว่าจะเป็นบัคกี้ ยังรู้สึกงงๆอยู่ว่าเค้าจะบอกเรายังไงว่าบัคกี้จะมาทำหน้าที่แทนกัปตัน เพราะใน MCU นี่บัคกี้เป็นอาชญากรที่ทางการต้องการตัวมาก อยู่ๆอาชญากรกลายมาเป็นฮีโร่ มันฟังดูแปลกๆหรือเปล่า(พูดเฉพาะในหนังนะ ไม่เอาตามคอมมิค เพราะผมไม่ได้อ่าน)


Scott Lang :: Ant-Man และ Peter Parker :: Spider-Man
เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ฉันใด แมลงเกรียนๆสองตัวก็อยู่ทีมเดียวกันไม่ได้ฉันนั้น ฮ่าๆๆ ไม่เกี่ยวละ ต้องขอบอกก่อนว่าผมยังไม่ได้ดู Ant-Man นะครับ ดังนั้นผมจะไม่ได้รู้จัก Scott Lang มาก ผมจะเขียนแค่สิ่งที่เห็นในหนังเรื่องนี้เท่านั้นนะ ..สก็อตต์กับปีเตอร์ดูเป็นแนวแฟนคลับของสตีฟกับโทนี่ยังไงไม่รู้ สังเกตจากตอนที่สก็อตต์เจอหน้าสตีฟครั้งแรกเค้าดูตื่นเต้น ดีใจ และดูชื่นชมในตัวสตีฟ พอๆกับที่ปีเตอร์มันตื่นเต้นที่ได้เห็นโทนี่นั่งอยู่ในบ้านทั้งที่ไม่รู้ว่าโทนี่มาทำอะไรนั่นแหละ(ทำไมไม่ระแวงว่าโทนี่จะมาจีบป้าเมย์??) และการต่อสู้ของทั้งคู่มันดูเป็นการต่อสู้เพื่อเอาชนะใจฮีโร่ของตัวเอง เพราะสองแมลงนี่มันเล่นกับตัวหัวหน้าของแต่ละทีมเลย มันไม่ได้เจียมเนื้อเจียมตัวไปสู้กับทีมลูกน้อง คงกะว่าถ้าเล่นกับหัวหน้าใหญ่ได้ หัวหน้าทีมตัวเองต้องประทับใจแน่ๆล่ะมั้ง ฮ่าๆๆ เช่นสก็อตต์ก็กล้าแหย่โทนี่โดยการเข้าไปดึงสายไฟในตัว Iron Man แถมยังยอมใช้โหมดขยายร่างให้ใหญ่อีก ทั้งที่ตัวเองก็น่าจะไม่แน่ใจว่าใช้โหมดนี้แล้วจะเกิดผลกระทบอะไรกับตัวเองรึเปล่า ส่วนไอ้แมงมุมนั่นก็สู้ไม่ดูไซส์ตัวเองเลยเหมือนกัน ตัวจิ๋วแค่นั้นยังกล้าไปแหย่แคปกับบัคกี้ และสุดท้ายแมลงทั้งคู่ก็มาตีกันเอง ฮ่าๆๆ สนุกดี ดูมดกับแมงมุมกัดกัน!!! แต่ผลงานทั้งคู่ก็โอเคนะครับ อย่างน้อยมันทำให้คนดูอย่างเราๆเชื่อและเห็นการทำงานร่วมกันของเค้าทั้งคู่กับทีมอเวนเจอร์ เดาว่าการดึงตัวละครสองตัวนี้มาเข้าร่วมในหนังก็น่าจะด้วยเหตุผลนี้แหละ คือเอามาแนะนำให้ทั้งคนดู และทีมอเวนเจอร์ได้รู้จัก เพราะถ้าอยู่ๆไปโผล่ใน Infinity War เลย มันก็อาจจะเกิดข้อกังขาว่าทำไมอยู่ดีๆก็ได้เข้าร่วม การดึงมาให้เห็นว่าพวกเค้าก็ทำงานร่วมกับคนอื่นๆในทีมได้ตั้งแต่ตอนนี้ มันจึงเหมือนเป็นการบอกเป็นนัยๆว่า Infinity War ต้องมีไอ้สองแมลงเกรียนนี่ร่วมเป็น 1 ในทีมอเวนเจอร์แน่นอน


Wanda Maximoff :: Scarlet Witch และ Vision
เอาจริงๆสองตัวละครนี้ก็ดูจะเดายากมากว่าจะเลือกฝั่งไหน ความสนิทสนมกับคนในทีมก็ยังไม่ชัด อาจจะเพราะเพิ่งมาเข้าร่วมทีมด้วยกันทั้งคู่ ก็เลยจิ๊จ๊ะกันอยู่สองคน นั่งโรยพริกโรยเกลือกันไป ..ข้างนอกเค้าจะตีกันยังไงไม่สน ชั้นจะโรยพริกของฉัน เธอก็โรยเกลือของเธอไป บ้าบอ!!!!! ฮ่าๆๆ ล้อเล่นครับ เรื่องนี้มีซีนชวนจิ้นของคู่นี้อยู่พอประมาณ แต่ไม่ขอพูดถึงละกัน ..วันด้าควรเป็นของผม!!!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่