“โบว์ แวนดา” เผยกระซิบบอก “ปอ ทฤษฎี” ก่อนนำของรัก 3 ชิ้นมาประมูล ย้ำของทุกชิ้นมีคุณค่า มีกลิ่นอายความรัก ไม่เสียดายของรักสามี เพราะทุกความทรงจำยังอยู่ในใจ รับอยากคิดถึงให้น้อยลงแต่ยังทำไม่ได้ โต้ย่องเงียบเซ็นสัญญาวิก 3 ลั่นขอประเมินความสามารถ ส่วน “น้องมะลิ” ยังไร้ผู้จัดทาบเล่นละคร ด้าน “ปิล ชวนันท์” สนใจงานในวงการ ขอรอดูโอกาสจากผู้ใหญ่
หลังเสร็จสิ้นการประมูลของรักสามีผู้ล่วงลับในงานนิทรรศการภาพถ่าย “คิดถึงปอ” เพื่อนำรายได้สมทบทุนช่วยเหลือช้างไทย ผ่านองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection) ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี “โบว์ แวนดา สหวงษ์” ภรรยา “ปอ ทฤษฎี สหวงษ์” พร้อม “ปิล ชวนันท์ สหวงษ์” น้องชายปอได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน โดยโบว์เผยว่าตนไม่หวงของรัก 3 สิ่งของสามีที่นำมาประมูลเพราะอยากส่งต่อให้คนอื่นได้นำไปใช้ประโยชน์ ก่อนย้ำทุกความทรงจำยังอยู่ในใจ
“วันนี้ก็พยายามคิดถึงให้น้อยลง แต่ก็ทำไม่ได้นะคะ (ยิ้ม) วันนี้จริง ๆ เป็นความตั้งใจของโบว์ที่จะนำของพี่ปอมาประมูลด้วยค่ะ มี 3 ชิ้นค่ะ จริง ๆ แล้วทุกครั้งที่มีการประมูลของ พี่ปอจะเข้ามาปรึกษาโบว์ทุกครั้งว่าจะเอาของอะไรมาประมูลดี โบว์ก็จะบอกว่าเป็นของใช้ของปอแล้วกันที่ปอใช้บ่อย ๆ แล้วปอรู้สึกว่ารักดีกว่า เพราะจริง ๆ แล้วมูลค่าของของมันไม่จำเป็นน่ะค่ะ แต่สิ่งที่เรารู้สึกว่าเป็นของที่เรารัก เราก็ควรอยากให้คนอื่นได้ร่วมมีส่วนร่วมด้วย แล้วก็ได้เป็นเจ้าของด้วย”
“ถามว่าอยากจะเก็บไว้ไหม จริง ๆ แล้วของทุกชิ้นมีค่าหมดนะคะ มีความทรงจำในตัวมันอยู่แล้ว แต่โบว์เชื่อว่าพี่ปอเป็นคนไม่เก็บของ ของอะไรก็ตามแต่ที่คนอื่นใช้ได้หรือว่าของที่เราไม่ใช้แล้วเราจะพยายามทำความสะอาด แล้วก็พยายามจะให้คนอื่นที่เขาใช้ประโยชน์ได้ต่อจากเรา”
ลั่นตัดสินใจไม่ลำบาก เชื่อว่าถ้าปออยู่ต้องเลือกเหมือนที่ตนเลือกวันนี้
“เหมือนกันว่าสิ่งของทั้ง 3 ชิ้นที่นำมาประมูลวันนี้โบว์ได้บอกพี่ปอแล้วว่าโบว์จะนำของของพี่ปอไปประมูล อย่างน้อยวันนี้พี่ปอไม่อยู่ แต่สิ่งที่โบว์ทำให้พี่ปอได้ ก็คือนำของพี่ปอมาประมูลให้ และโบว์เชื่อว่าถ้าพี่ปออยู่ พี่ปอคงบอกว่าอะไรก็ได้ที่เป็นของเขา เพราะว่าทุกครั้งที่นำของมาประมูล เขามีความใส่ใจและให้ความสำคัญกับของชิ้นนั้น แต่ไม่ได้ดูที่มูลค่าของของนะคะ”
“ตัดสินใจลำบากไหมเหรอ ไม่ลำบากค่ะ เพราะว่าของในบ้านที่เป็นของพี่ปออยู่ครบเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่เราจะนำมาประมูลต้องเป็นชิ้นที่พิเศษหน่อย มันต้องมีคุณค่าทางใจของพี่ปอด้วยถึงจะนำมาประมูล ไม่ว่าจะเป็นหมวกที่เขาใช้ทุกวัน ตั้งแต่วันแรกก็ไม่เคยซักจนถึงวันนี้ (ยิ้ม) ก็เลยเก่ามาก และจะมีกลิ่นไอของเขาอยู่ด้วย (หัวเราะ) และรวมไปถึงผ้าพันคอ เขาก็จะใช้ทุกครั้งเวลาเขาเดินทางไปไหน แล้วก็ผ้าปิดจมูกเวลาเขาขี่มอเตอร์ไซค์ไปไหน เชื่อว่าถ้าเขาอยู่เขาก็คงจะเลือกเหมือนกับที่โบว์เลือกวันนี้ค่ะ (ยิ้ม)”
“ถ้าแฟนคลับประมูลได้แล้วเอามาคืนให้โบว์เก็บไว้ ก็อยากให้เขาเก็บไว้มากกว่า เพราะว่าของทุกชิ้นที่บ้านถึงไม่มีของแต่ความทรงจำมันอยู่ในใจโบว์อยู่แล้ว มะลิเขาก็จำได้ค่ะ เมื่อกี้ส่งมอบให้กับแฟน ๆ ก็บอกของพ่อๆ (ยิ้ม)”
โต้เข้าไปเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงช่อง 3 ย้ำขอประเมินความสามารถตัวเอง ถ้าไม่ใช่คงไม่เอาดีกว่า
“ที่ว่าโบว์เข้าไปเซ็นสัญญาเป็นนักแสดง ยังงงอยู่เลย ไปไหนมาไหนก็มีคนมาถามว่าจะไปเป็นดาราแล้วเหรอ (หัวเราะ) ยังไม่รู้เรื่องเลยค่ะ เพิ่งจะได้ข่าว ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับทางผู้ใหญ่เลยค่ะ ส่วนใหญ่ถ้าได้พูดคุยกันก็จะเป็นเรื่องการให้กำลังใจ เขาจะถามตลอดว่า ณ วันนี้เข้มแข็งหรือยัง ครอบครัวเป็นยังไงบ้าง น้องมะลิเป็นยังไงบ้าง ถามว่าสนใจการเป็นนักแสดงไหม ก็แล้วแต่ผู้ใหญ่จะให้โอกาสนะคะ ถ้าผู้ใหญ่มอบสิ่งดีๆ โบว์คิดว่าสิ่งดีๆ นั้นผู้ใหญ่คงคิดแล้วว่ามันเหมาะกับเรา คือเราก็ต้องดูด้วยว่าสิ่ง ๆ นั้นมันเหมาะกับเราไหม และเรามีความสามารถที่จะทำได้ไหม”
“ก็ต้องประเมินตัวเองด้วย คิดว่าถ้าพอทำได้ก็ยินดีที่จะร่วมงาน แต่คิดว่าถ้ามันไม่ใช่เรา เกินความสามารถเราก็คงไม่ดีกว่าค่ะ ในส่วนของการอ่านข่าวก็เป็นงานที่โบว์เคยทำนะคะ แต่ว่า ณ ตอนนี้โบว์คงยังไม่มีเวลา เพราะการอ่านข่าวต้องทำการบ้านเกี่ยวกับข่าวนั้น ๆ เพราะโบว์คงต้องดูแลมะลิอย่างเต็มที่”
ยังไม่ให้ “มะลิ” เล่นละคร บอกเด็กเกิน-ยังไร้คนทาบ ส่วนตนยังต้องใช้เวลาฟอร์มทีมสำหรับงานผู้จัด
“ในส่วนของน้องมะลิก็ยังไม่ได้มีผู้จัดมาทาบทามค่ะ น้องยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยค่ะ ก็คงยังไม่ให้เล่นละครอยู่แล้วค่ะ ยังไม่ได้เจอผู้จัดคนไหนสักคนเลยค่ะ ยังไม่มีการพูดคุยเป็นการส่วนตัวเลยค่ะ (ยิ้ม)"
“ถ้าน้องมะลิเข้าโรงเรียน ก็อย่างที่บอกไปว่าคงเป็นเรื่องของบริษัทที่กำลังดำเนินงานอยู่นะคะ ฟอร์มทีมกันอยู่ ก็คงจะใช้เวลาตอนที่น้องไปเรียนและคงเข้าทำเต็มตัวอีกที”
ด้าน “ปิล ชวนันท์” น้องชายพระเอกดังเผยยังไร้คนทาบเล่นละคร บอกคงต้องรอโอกาสจากผู้ใหญ่
“วันนี้เอารูปมาครับ ก็อย่างที่เห็นในรูปครับ เป็นรูปที่ดูหน้าพี่ปอแล้วเขามีความสุขมากแล้วก็อยู่กับหมา เหมือนสื่อออกมาว่าอยากจะให้ทุกคนมีความสุขจริง ๆ กับสิ่งที่ได้ไป ณ วันนี้ครับ อย่างคนที่ประมูลไปก็ขอขอบคุณด้วยนะครับ (ยิ้ม) แต่พี่เขาให้รูปกลับมา ก็คงเป็นความประสงค์ของทางพี่เขา ก็ขอบคุณพี่เขาอีกทีหนึ่งครับ (ยิ้ม)”
“การทาบทามเข้าวงการตอนนี้ยังไม่มีนะครับ ด้วยงานของผมด้วยที่อยุธยามันค่อนข้างยุ่งด้วยครับ ถามว่าสนใจไหม ก็เป็นโอกาสที่ดีนะครับ แต่ว่า ณ ตอนนี้ก็ขออยู่ตรงนี้ก่อนครับ มันเป็นเรื่องของอนาคตน่ะครับ แต่ ณ ตอนนี้ก็ทำงานที่เรารับผิดชอบให้ดีที่สุด”
“ส่วนเรื่องโอกาสต้องรอทางผู้ใหญ่อีกทีหนึ่งครับ (ยิ้ม) ตอนนี้ผมทำงานจันทร์ถึงศุกร์ครับ เสาร์ - อาทิตย์ จะเข้ามาที่กรุงเทพฯ มาหาพี่โบว์หาหลานครับ ก็ยังไม่มีงานอะไรติดต่อมานะครับ แต่ถ่ายแบบก็เพิ่งมีไปหนึ่งเล่มที่ออกไปครับ”
ข่าวจาก : MGR Online
http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9590000043929
“โบว์” โต้เซ็นสัญญาเป็นดาราช่อง 3 เผยขอประเมินความสามารถตัวเองก่อน
“โบว์ แวนดา” เผยกระซิบบอก “ปอ ทฤษฎี” ก่อนนำของรัก 3 ชิ้นมาประมูล ย้ำของทุกชิ้นมีคุณค่า มีกลิ่นอายความรัก ไม่เสียดายของรักสามี เพราะทุกความทรงจำยังอยู่ในใจ รับอยากคิดถึงให้น้อยลงแต่ยังทำไม่ได้ โต้ย่องเงียบเซ็นสัญญาวิก 3 ลั่นขอประเมินความสามารถ ส่วน “น้องมะลิ” ยังไร้ผู้จัดทาบเล่นละคร ด้าน “ปิล ชวนันท์” สนใจงานในวงการ ขอรอดูโอกาสจากผู้ใหญ่
หลังเสร็จสิ้นการประมูลของรักสามีผู้ล่วงลับในงานนิทรรศการภาพถ่าย “คิดถึงปอ” เพื่อนำรายได้สมทบทุนช่วยเหลือช้างไทย ผ่านองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection) ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี “โบว์ แวนดา สหวงษ์” ภรรยา “ปอ ทฤษฎี สหวงษ์” พร้อม “ปิล ชวนันท์ สหวงษ์” น้องชายปอได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน โดยโบว์เผยว่าตนไม่หวงของรัก 3 สิ่งของสามีที่นำมาประมูลเพราะอยากส่งต่อให้คนอื่นได้นำไปใช้ประโยชน์ ก่อนย้ำทุกความทรงจำยังอยู่ในใจ
“วันนี้ก็พยายามคิดถึงให้น้อยลง แต่ก็ทำไม่ได้นะคะ (ยิ้ม) วันนี้จริง ๆ เป็นความตั้งใจของโบว์ที่จะนำของพี่ปอมาประมูลด้วยค่ะ มี 3 ชิ้นค่ะ จริง ๆ แล้วทุกครั้งที่มีการประมูลของ พี่ปอจะเข้ามาปรึกษาโบว์ทุกครั้งว่าจะเอาของอะไรมาประมูลดี โบว์ก็จะบอกว่าเป็นของใช้ของปอแล้วกันที่ปอใช้บ่อย ๆ แล้วปอรู้สึกว่ารักดีกว่า เพราะจริง ๆ แล้วมูลค่าของของมันไม่จำเป็นน่ะค่ะ แต่สิ่งที่เรารู้สึกว่าเป็นของที่เรารัก เราก็ควรอยากให้คนอื่นได้ร่วมมีส่วนร่วมด้วย แล้วก็ได้เป็นเจ้าของด้วย”
“ถามว่าอยากจะเก็บไว้ไหม จริง ๆ แล้วของทุกชิ้นมีค่าหมดนะคะ มีความทรงจำในตัวมันอยู่แล้ว แต่โบว์เชื่อว่าพี่ปอเป็นคนไม่เก็บของ ของอะไรก็ตามแต่ที่คนอื่นใช้ได้หรือว่าของที่เราไม่ใช้แล้วเราจะพยายามทำความสะอาด แล้วก็พยายามจะให้คนอื่นที่เขาใช้ประโยชน์ได้ต่อจากเรา”
ลั่นตัดสินใจไม่ลำบาก เชื่อว่าถ้าปออยู่ต้องเลือกเหมือนที่ตนเลือกวันนี้
“เหมือนกันว่าสิ่งของทั้ง 3 ชิ้นที่นำมาประมูลวันนี้โบว์ได้บอกพี่ปอแล้วว่าโบว์จะนำของของพี่ปอไปประมูล อย่างน้อยวันนี้พี่ปอไม่อยู่ แต่สิ่งที่โบว์ทำให้พี่ปอได้ ก็คือนำของพี่ปอมาประมูลให้ และโบว์เชื่อว่าถ้าพี่ปออยู่ พี่ปอคงบอกว่าอะไรก็ได้ที่เป็นของเขา เพราะว่าทุกครั้งที่นำของมาประมูล เขามีความใส่ใจและให้ความสำคัญกับของชิ้นนั้น แต่ไม่ได้ดูที่มูลค่าของของนะคะ”
“ตัดสินใจลำบากไหมเหรอ ไม่ลำบากค่ะ เพราะว่าของในบ้านที่เป็นของพี่ปออยู่ครบเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่เราจะนำมาประมูลต้องเป็นชิ้นที่พิเศษหน่อย มันต้องมีคุณค่าทางใจของพี่ปอด้วยถึงจะนำมาประมูล ไม่ว่าจะเป็นหมวกที่เขาใช้ทุกวัน ตั้งแต่วันแรกก็ไม่เคยซักจนถึงวันนี้ (ยิ้ม) ก็เลยเก่ามาก และจะมีกลิ่นไอของเขาอยู่ด้วย (หัวเราะ) และรวมไปถึงผ้าพันคอ เขาก็จะใช้ทุกครั้งเวลาเขาเดินทางไปไหน แล้วก็ผ้าปิดจมูกเวลาเขาขี่มอเตอร์ไซค์ไปไหน เชื่อว่าถ้าเขาอยู่เขาก็คงจะเลือกเหมือนกับที่โบว์เลือกวันนี้ค่ะ (ยิ้ม)”
“ถ้าแฟนคลับประมูลได้แล้วเอามาคืนให้โบว์เก็บไว้ ก็อยากให้เขาเก็บไว้มากกว่า เพราะว่าของทุกชิ้นที่บ้านถึงไม่มีของแต่ความทรงจำมันอยู่ในใจโบว์อยู่แล้ว มะลิเขาก็จำได้ค่ะ เมื่อกี้ส่งมอบให้กับแฟน ๆ ก็บอกของพ่อๆ (ยิ้ม)”
โต้เข้าไปเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงช่อง 3 ย้ำขอประเมินความสามารถตัวเอง ถ้าไม่ใช่คงไม่เอาดีกว่า
“ที่ว่าโบว์เข้าไปเซ็นสัญญาเป็นนักแสดง ยังงงอยู่เลย ไปไหนมาไหนก็มีคนมาถามว่าจะไปเป็นดาราแล้วเหรอ (หัวเราะ) ยังไม่รู้เรื่องเลยค่ะ เพิ่งจะได้ข่าว ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับทางผู้ใหญ่เลยค่ะ ส่วนใหญ่ถ้าได้พูดคุยกันก็จะเป็นเรื่องการให้กำลังใจ เขาจะถามตลอดว่า ณ วันนี้เข้มแข็งหรือยัง ครอบครัวเป็นยังไงบ้าง น้องมะลิเป็นยังไงบ้าง ถามว่าสนใจการเป็นนักแสดงไหม ก็แล้วแต่ผู้ใหญ่จะให้โอกาสนะคะ ถ้าผู้ใหญ่มอบสิ่งดีๆ โบว์คิดว่าสิ่งดีๆ นั้นผู้ใหญ่คงคิดแล้วว่ามันเหมาะกับเรา คือเราก็ต้องดูด้วยว่าสิ่ง ๆ นั้นมันเหมาะกับเราไหม และเรามีความสามารถที่จะทำได้ไหม”
“ก็ต้องประเมินตัวเองด้วย คิดว่าถ้าพอทำได้ก็ยินดีที่จะร่วมงาน แต่คิดว่าถ้ามันไม่ใช่เรา เกินความสามารถเราก็คงไม่ดีกว่าค่ะ ในส่วนของการอ่านข่าวก็เป็นงานที่โบว์เคยทำนะคะ แต่ว่า ณ ตอนนี้โบว์คงยังไม่มีเวลา เพราะการอ่านข่าวต้องทำการบ้านเกี่ยวกับข่าวนั้น ๆ เพราะโบว์คงต้องดูแลมะลิอย่างเต็มที่”
ยังไม่ให้ “มะลิ” เล่นละคร บอกเด็กเกิน-ยังไร้คนทาบ ส่วนตนยังต้องใช้เวลาฟอร์มทีมสำหรับงานผู้จัด
“ในส่วนของน้องมะลิก็ยังไม่ได้มีผู้จัดมาทาบทามค่ะ น้องยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยค่ะ ก็คงยังไม่ให้เล่นละครอยู่แล้วค่ะ ยังไม่ได้เจอผู้จัดคนไหนสักคนเลยค่ะ ยังไม่มีการพูดคุยเป็นการส่วนตัวเลยค่ะ (ยิ้ม)"
“ถ้าน้องมะลิเข้าโรงเรียน ก็อย่างที่บอกไปว่าคงเป็นเรื่องของบริษัทที่กำลังดำเนินงานอยู่นะคะ ฟอร์มทีมกันอยู่ ก็คงจะใช้เวลาตอนที่น้องไปเรียนและคงเข้าทำเต็มตัวอีกที”
ด้าน “ปิล ชวนันท์” น้องชายพระเอกดังเผยยังไร้คนทาบเล่นละคร บอกคงต้องรอโอกาสจากผู้ใหญ่
“วันนี้เอารูปมาครับ ก็อย่างที่เห็นในรูปครับ เป็นรูปที่ดูหน้าพี่ปอแล้วเขามีความสุขมากแล้วก็อยู่กับหมา เหมือนสื่อออกมาว่าอยากจะให้ทุกคนมีความสุขจริง ๆ กับสิ่งที่ได้ไป ณ วันนี้ครับ อย่างคนที่ประมูลไปก็ขอขอบคุณด้วยนะครับ (ยิ้ม) แต่พี่เขาให้รูปกลับมา ก็คงเป็นความประสงค์ของทางพี่เขา ก็ขอบคุณพี่เขาอีกทีหนึ่งครับ (ยิ้ม)”
“การทาบทามเข้าวงการตอนนี้ยังไม่มีนะครับ ด้วยงานของผมด้วยที่อยุธยามันค่อนข้างยุ่งด้วยครับ ถามว่าสนใจไหม ก็เป็นโอกาสที่ดีนะครับ แต่ว่า ณ ตอนนี้ก็ขออยู่ตรงนี้ก่อนครับ มันเป็นเรื่องของอนาคตน่ะครับ แต่ ณ ตอนนี้ก็ทำงานที่เรารับผิดชอบให้ดีที่สุด”
“ส่วนเรื่องโอกาสต้องรอทางผู้ใหญ่อีกทีหนึ่งครับ (ยิ้ม) ตอนนี้ผมทำงานจันทร์ถึงศุกร์ครับ เสาร์ - อาทิตย์ จะเข้ามาที่กรุงเทพฯ มาหาพี่โบว์หาหลานครับ ก็ยังไม่มีงานอะไรติดต่อมานะครับ แต่ถ่ายแบบก็เพิ่งมีไปหนึ่งเล่มที่ออกไปครับ”
ข่าวจาก : MGR Online
http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9590000043929