"กฎของโลกกำหนดไว้ว่า ให้ผู้ชายกับผู้หญิงจงรักกัน แต่งงานกัน ดำรงเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้คงอยู่ต่อไป แต่ถ้ามีมนุษย์คู่หนึ่งยกมือประกาศต่อโลกว่า
เราเป็นผู้ชายที่คู่กับผู้ชาย โลกนี้จะตัดสินความรักของเขาอย่างไร?"
ขอเล่าก่อนว่า เหตุผลที่เราชอบซีรีย์เอามากๆเป็นเพราะ ช่วงวาเลนไทน์ที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสทำหนังสั้นส่งประกวดภายในม. หัวข้อเกี่ยวกับความรัก เราก็มานั่งๆคิดดูนะ เอ๊.. ของขวัญอะไรนะ ที่คนส่วนใหญ่อยากได้ในวันวาเลนไทน์ ก็ลิสมาดู ปรากฏว่า
การยินยอมให้เพศเดียวกันแต่งงานกันได้ คงเป็นของขวัญที่คนจำนวนไม่น้อยรออยู่ เราคิดอย่างนั้น ก็เลยเอาประเด็นนี้มาทำเป็นหนังสั้นซะเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หนังเราไม่ได้รางวัล ไม่ได้แม้แต่จะส่งเข้าประกวดด้วยซ้ำ เพราะถ่ายหยาบไป แต่เราก็ได้เรียนรู้จากการทำหนังสั้นนี้หลายๆเรื่องเลย
พอได้ดูซีรีย์นี้ มันเลยเหมือนได้จุดไฟฝันที่เราอยากจะเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นได้รู้ เรื่องพรบ.คู่ชีวิต ที่ไม่ค่อยมีสื่อไหนให้ความสนใจ เราเลยชอบมันมากๆ 5555 เอาล่ะเข้าเรื่อง
เป็นข้อความเปิดที่อิมแพคดีนะเราว่า มันอธิบายความหมายได้ดีทีเดียว
เหตุผลที่ซีรีย์เรื่องนี้เน้นโลเคชั่นสวยๆ มุมมองภาพสวยๆ นอกจากอยากให้ผู้ชมอินกับเรื่องราวแล้ว เราว่าผกก.คงอยากเผยแพร่สถานที่ท่องเที่ยวสวยๆในไทยด้วยแหละ เพราะงี้ไงล่ะ ซีรีย์เรื่องนี้เลยเหมาะกับทุกคน
คือคุณไม่ต้องเป็นสาววายก็ได้ ไม่จำเป็นต้องอินเรื่องสิทธิมนุษยชนในเพศทางเลือก แค่คุณเข้ามาดูวิวสวยๆในเรื่องก็อิ่มแล้ว
"คุณเป็นเกย์หรือป่าวครับ?" เพื่อนร่วมคลาสคนนึงถามขึ้น
ถ้าเป็นเรานะ เราจะตอบคำถามนี้ว่า
"คนที่สนใจจะศึกษาเรื่องเพศทางเลือก ต้องเป็นเพศทางเลือกเองหรอ? เป็นหน้าที่ของเพศทางเลือกที่จะโฟกัสเรื่องนี้ ผลักดันเรื่องสิทธิมนุษยชนของเพศทางเลือกโดยเพศทางเลือกเองหรอ?"
แม้คำตอบจะคือ ใช่! พอร์ชก็คือเพศทางเลือกคนหนึ่งที่พูดเรื่องนี้ แต่ซีรีย์เรื่องนี้ก็ได้เริ่มตั้งคำถามกับคนดูแล้วว่า "สรุปแล้วมันเป็นหน้าที่ของใคร?"
คาร์แลกเตอร์ของตัวละคร ก็เป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจของซีรี่ย์เรื่องนี้ การปั้นตัวละครหลักให้มีความคอนทราสกันทางบุคลิก เราว่าช่วยให้อินกับเรื่องดีนะ
ขอพูดถึง 'พอร์ช' ก่อน นศ.คณะนิติศาสตร์ ปี4 มีอุดมการณ์แรงกล้า เหมาะกับสิ่งที่เรียน เอาจริงๆพอร์ชเป็นคนที่น่าค้นหานะ ภายนอกอาจจะดูนิ่ง แต่เป็นคนอ่อนไหวง่าย แอบมีความโรแมนติกอยู่ในตัว ใส่ใจรายละเอียด บุคลิกคือแคะสุดๆ 555 ซึ่งแอบเหมือนและแอบตรงข้ามกับเหนือ
'เหนือ' คนเจียงใหม่แต้ๆ ลูกเจ้าของกิจการปางช้าง เลยโดนพอร์ชแซวว่า 'พ่อเลี้ยงปางช้าง' แล้วยังเป็นนักมวยด้วย (นี่มันrare item ชัดๆ) เราเชื่อว่าเหตุผลที่ทุกคนน่าจะชอบเหนือ เพราะเขาเป็นคนไนซ์ ดูสุภาพ จริงใจ ยิ้มเก่ง และเด็มที่กับคนรอบข้าง ไม่แปลกที่คนแบบเหนือจะมักเป็นที่ต้องการ และไม่แปลกที่เขาจะมีแฟน 5555555
อีกตัวละครที่น่าสนใจ 'ไอซ์' ตัวแทนสาววาย
เราเดาว่าไอซ์ชอบพอร์ชนะ ดูจากสายตา บทเด่นของไอซ์คือผลักให้พอร์ชเผชิญหน้ากับความจริง ทุกๆครั้งที่สองคนนี้คุยกัน ไอซ์มักพูดความในใจของพอร์ชออกมา โดยที่เจ้าตัวพยายามจะลืมมัน โดยส่วนตัวนะ เราว่ามันดีสำหรับคนที่มักเดินหนีปัญหาแบบพอร์ช มันเหมือนได้ไขเอาความรู้สึกนั้นออกมาแล้วอ่ะ ไม่รู้ว่าช่วยได้ป่าวนะ และอาจจะช่วยได้เป็นบางคน
อีกประเด็นหนึ่งที่ไอซ์จุดขึ้นมาคือ โรคฟิโลโฟเบีย หรือโรคกลัวความรัก หลีกเลี่ยงการตกหลุมรัก
ชอบประเด็นนี้ที่ซีรีย์นำเสนอเหมือนกัน ในทุกตอนของมิติรักผ่านเลนส์ จะมีตัวละครที่เป็นโรคแปลกๆ ในตอนรุ้งสีเทานี้ พอร์ชกำลังสงสัยว่าตัวเองเป็นโรคฟิโลโฟเบียหรือป่าว แต่ดูจากอาการแล้ว พอร์ชบอกว่า "ไม่ได้กลัวการถูกรัก แต่กลัวเขาไม่รักมากกว่า" ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นในคนที่กำลังแอบรักคนอื่นทุกๆคน
ปล. ไว้จะหาข้อมูลเรื่องโรคนี้มาเล่านะ
อีกประเด็นหน่งที่ชอบมากๆ และเป็นฉากที่ชอบอีกฉากหนึ่งในตอนนี้คือ ตอนที่พอร์ชลงไปเก็บข้อมูลกับสาวประเภทสองคนหนึ่ง ด้วยคำถามของพอร์ชแหละ ที่แรงมาก ทำเอาเธอคนนั้นไม่พอใจ และฝากคำคมแพงๆ ให้พอร์ชและทุกคนในสังคมไว้ว่า
"
นี่เธอทำรายงานนี้ไปเพื่ออะไรอ่ะ อยากให้สังคมยอมรับเพศนี้ หรืออยากตีแผ่เพศนี้ให้สังคมดูถูก มันต่างกันนิดเดียวเองนะ"
เรามองว่านี่เป็นวรรคทองของบทเรื่องนี้ ใช่ ที่ผ่านมา เรามีหนัง มีซีรีย์ มีละคร มีสื่อมากมายที่นำเสนอเรื่องเพศที่สาม แต่! บางสื่อก็กล่าวอ้างถึงการนำเสนอความจริง โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของคนเพศนั้นๆ เช่น การที่ละคร(แทบจะทุกเรื่อง) มักมีบทตัวตลกที่เป็นเพศที่สาม เขียนขึ้นมาเพื่อให้สังคมสามารถล้อได้บ้าง ดูถูกได้บ้าง คือมันอาจจะตลกก็จริงนะ แต่
เพศที่สามเขาเป็นคนตลกไม่ใช่ตัวตลกในชีวิตจริงนะเว้ย
หรือแม้แต่หนัง/ละคร/ซีรีย์บางเรื่องที่นำเสนอเพียงฉากฟินๆของเพศทางเลือก แต่ไม่ได้ให้คุณค่าอะไรกับคนดูเลย
อีกหลายๆกรณีเช่นกัน ที่อาจมีการนำเพศทางเลือกมาสัมภาษณ์(คล้ายๆกับในซีรีย์) หรือแม้แต่เราคุยกับเพื่อนในชีวิตประจำวันก็เถอะ คำถามบางคำถามก็อาจละเมิดความเป็นส่วนตัวเกินไป
- รู้ตัวตั้งแต่เมื่อไหร่
- ที่บ้านรู้มั๊ย รับได้หรือป่าว
- เป็นแบบไหน รุกหรือรับ
คือคำถามเหล่านี้อาจจะดูธรรมดา แต่ในบางทีมันก็ไปจุดความรู้สึกของคนตอบได้นะ หรือบางคำถามน่ะ ถามไปแล้วคุณได้อะไรหรอ?
คุณได้รู้ แต่คนตอบเจ็บ คุณยังจะอยากรู้จริงๆหรือ? นี่คือสิ่งที่เรามองว่าฉากนี้กำลังตั้งคำถามอยู่
มันแพงมาก
"เพราะมีคนอย่าง คนเขาถึงเหยียดเพศกันไง
เกย์ทุกคน ต้องจบที่เรื่องเซ็กซ์หรอ?"
เป็นอีกฉากที่ตั้งคำถามกับคนดูได้ดี แถมสะท้อนภาพจริงของสังคม สะท้อนทัศนคติที่เข้าใจผิดต่อเพศที่สามด้วย
เราเคยตั้งคำถามนี้เหมือนกัน เวลาที่เราเห็นเพื่อนเราบางคนนัดยิ้มกันผ่านโซเชียลมีเดีย หรือการที่สังคมมองเพศที่สามเป็นที่ความกำหนัด
ต้องแยกเป็นสองประเด็น การนัดยิ้มกันไม่ใช่เรื่องที่ถูก และไม่ใช่เรื่องที่ผิด อยู่ที่คนมองจากมุมไหน
แต่โดยส่วนตัวเห็นว่า มันมีการล่วงละเมิดทางเพศแบบที่เราไม่รู้ตัวอยู่ เช่น เราเห็นภาพถ่ายผู้ชายคนหนึ่ง หล่อมาก หน้าตาดี หุ่นดี เราก็คอมเมนท์+แท็กเพื่อน หรือแชร์ไปพร้อมแคปชั้น "จะเลียให้ล้ม" เห้ย ขำๆ ตลกๆเว้ย แต่จะบอกว่า เจ้าของภาพบางคนก็ไม่ขำนะ เพราะเขามองว่าตัวเขาไม่ใช่ sex toy ไม่ใช่ของเล่นทางเพศสำหรับใคร นับประสาอะไรกับการที่เราคอมเมนท์แซวเขาเชิงชู้สาว หรือแม้แต่การชวนไปยิ้ม คือเรารู้ตัวนะ ถ้าเราไปพูดในสังคมเกย์บางกลุ่ม เขาคงหัวเราะความคิดเรา แต่เราก็เป็นคนหนึ่งนะ ที่อยากมีความรักที่ดี และอยากให้สังคมมองเพศที่สามในแง่มุมดีๆ ไม่ใช่แค่เรื่องแบบนี้น่ะ
ประเด็นที่สองก็สืบเนื่องกัน พอเราเปิดการสนทนาเรื่องชวนกันไปมีเพศสัมพันธ์แบบนี้แล้ว สังคมก็เลยมองว่าเพศที่สามเป็นที่ระบายความกำหนัด เพราะเข้าถึงได้ง่าย กำลังจะบอกคนในสังคมทุกคนว่า "เพศที่สามไม่ได้มองเรื่องsexเป็นเรื่องสำคัญในชีวิตเสียทุกคน ยังมีคนที่มองเรื่องความสำเร็จ ครอบครัว เหมือนกับทุกๆเพศในสังคมนี่แหละนะ อย่าเข้าใจเราผิด และอย่าเหมารวมกันเลยนะ"
สงสัยใช่มั๊ยว่าทำไมพอร์ชถึงเจ็บปวดขนาดนี้?
อย่างที่บอกไปแล้ว ไม่ใช่ทุกคนที่จะยอมรับเรื่องแบบนี้ เราเป็นคนดู เรายังสะเทือนใจ เรายังหดหู่ตามไปเลย ลองนึกถึงคนที่โดนสิ จะช้ำใจขนาดไหน
ยิ่งพอร์ชมีคนที่รัก และอยากมอบสิทธิ์คนแรกให้เขาอยู่แล้ว มันเลยยิ่งเสียใจขนาดไหน
เราอยากขอบคุณผกก.มากๆ ที่ขยี้อารมณ์อันนี้ มันทำเราเศร้าตามพอร์ชไปด้วยจริงๆ
มาถึงตรงนี้ ทุกคนคงสงสัยว่า แล้วมันสะท้อนความ(คาด)หวังในเพศทางเลือกยังไง
เรามองว่า ทุกไดอาลอกที่ซีรีย์ส่งออกมา มันเป็นสารที่สื่อถึงความ(คาด)หวังให้สังคมเข้าใจและยอมรับในเพศที่สามอย่างแท้จริง และรอบด้าน
รวมทั้ง(คาด)หวังให้เพศทางเลือกเอง เข้าใจสถาณการณ์ปัจจุบันและช่วยกันส่งเสริม ผลักดันเรื่องสิทธิในเพศ ความเท่าเทียม รวมทั้ง(คาด)หวังให้ช่วยกันสร้างมุมมองใหม่ต่อเพศทางเลือกไปในตัวด้วย
เราไม่รู้ว่าอีกกี่ปีพรบ.คู่ชีวิตจะผ่าน ไม่รู้ว่าสังคมจะยอมรับพวกเราจริงๆหรือป่าว แต่เราเชื่อว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เป็นการจุดประกายให้สื่อทุกแขนง พิจารณาสารเกี่ยวกับเรื่องเพศทางเลือกอย่างรอบคอบ ก่อนที่จะส่งออกไป โดยส่วนตัวไม่ได้มุ่งหวังให้นำเสนอแต่ด้านดีๆ หรอกนะ เพราะก็คงเป็นไปไม่ได้ ไหนสื่อก็พร้อมจะเปิดพื้นที่ให้เราแล้ว ก็มาช่วยกัน ให้มันได้วินวินทั้งสองฝ่ายดีกว่าเน๊อะ
ช่วง เน้นฟิน โดย #ทีมพ่อเลี้ยง
เข้าใจหรือยัง ทำไมเราถึงต้องรักพ่อเลี้ยง ชอบฉากนี้ เหนือดูใส่ใจพอร์ชอ่ะ แค่รายละเอียดเล็กๆอย่างกระเป๋าเขาก็ไม่พลาด
ความไนซ์ของเหนือ+สายตาสุดอ่อยของพอร์ช คือฉากนี้มันดีงามจริง
ฉากกระจก โอ๊ยยยยย ฟินแตก คือในใจลุ้นตามสุดๆ ฉากนี้เหมือนกำลังจะบอกอะไรหรือป่าว คือเรามองว่าเหนือเป็นคนนิสัยผู้ชายนะ แล้วการที่พอร์ชมากอดแบบนี้ แต่เขาไม่มีทีท่ารังเกียจ มันคืออะไร คือจิ้นไปไกลแล้ว 55555
และสุดท้าย ฉากสารภาพรักริมถนน
คือมุมกล้องดี แสงดี ติดเรื่องเพลงนิดเดียว เราว่ามันดังไป แต่เรื่องไดอาลอกให้คะแนนเต็ม มันอิ่มมาก
ใครที่อยากจะชมซีรีย์นี้ ติดตามได้ทางช่องPPTV หรือใน Line tv ก็มีนะ เราอยากให้สังคมเข้าใจเพศที่สามมากขึ้น และไม่ยอมรับเราแค่เปลือกหรือแบบฉาบฉวยอย่างที่อาจารย์บอกอีกแล้ว ลาไปด้วยภาพนี้นะ
[ชำแหละ] มิติรักผ่านเลนส์ ตอน รุ้งสีเทา EP.1 | บทสะท้อนความ(คาด)หวังแห่งเพศทางเลือกในไทย
เราเป็นผู้ชายที่คู่กับผู้ชาย โลกนี้จะตัดสินความรักของเขาอย่างไร?"
ขอเล่าก่อนว่า เหตุผลที่เราชอบซีรีย์เอามากๆเป็นเพราะ ช่วงวาเลนไทน์ที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสทำหนังสั้นส่งประกวดภายในม. หัวข้อเกี่ยวกับความรัก เราก็มานั่งๆคิดดูนะ เอ๊.. ของขวัญอะไรนะ ที่คนส่วนใหญ่อยากได้ในวันวาเลนไทน์ ก็ลิสมาดู ปรากฏว่า การยินยอมให้เพศเดียวกันแต่งงานกันได้ คงเป็นของขวัญที่คนจำนวนไม่น้อยรออยู่ เราคิดอย่างนั้น ก็เลยเอาประเด็นนี้มาทำเป็นหนังสั้นซะเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอได้ดูซีรีย์นี้ มันเลยเหมือนได้จุดไฟฝันที่เราอยากจะเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นได้รู้ เรื่องพรบ.คู่ชีวิต ที่ไม่ค่อยมีสื่อไหนให้ความสนใจ เราเลยชอบมันมากๆ 5555 เอาล่ะเข้าเรื่อง
เป็นข้อความเปิดที่อิมแพคดีนะเราว่า มันอธิบายความหมายได้ดีทีเดียว
เหตุผลที่ซีรีย์เรื่องนี้เน้นโลเคชั่นสวยๆ มุมมองภาพสวยๆ นอกจากอยากให้ผู้ชมอินกับเรื่องราวแล้ว เราว่าผกก.คงอยากเผยแพร่สถานที่ท่องเที่ยวสวยๆในไทยด้วยแหละ เพราะงี้ไงล่ะ ซีรีย์เรื่องนี้เลยเหมาะกับทุกคน
คือคุณไม่ต้องเป็นสาววายก็ได้ ไม่จำเป็นต้องอินเรื่องสิทธิมนุษยชนในเพศทางเลือก แค่คุณเข้ามาดูวิวสวยๆในเรื่องก็อิ่มแล้ว
"คุณเป็นเกย์หรือป่าวครับ?" เพื่อนร่วมคลาสคนนึงถามขึ้น
ถ้าเป็นเรานะ เราจะตอบคำถามนี้ว่า
"คนที่สนใจจะศึกษาเรื่องเพศทางเลือก ต้องเป็นเพศทางเลือกเองหรอ? เป็นหน้าที่ของเพศทางเลือกที่จะโฟกัสเรื่องนี้ ผลักดันเรื่องสิทธิมนุษยชนของเพศทางเลือกโดยเพศทางเลือกเองหรอ?"
แม้คำตอบจะคือ ใช่! พอร์ชก็คือเพศทางเลือกคนหนึ่งที่พูดเรื่องนี้ แต่ซีรีย์เรื่องนี้ก็ได้เริ่มตั้งคำถามกับคนดูแล้วว่า "สรุปแล้วมันเป็นหน้าที่ของใคร?"
คาร์แลกเตอร์ของตัวละคร ก็เป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจของซีรี่ย์เรื่องนี้ การปั้นตัวละครหลักให้มีความคอนทราสกันทางบุคลิก เราว่าช่วยให้อินกับเรื่องดีนะ
ขอพูดถึง 'พอร์ช' ก่อน นศ.คณะนิติศาสตร์ ปี4 มีอุดมการณ์แรงกล้า เหมาะกับสิ่งที่เรียน เอาจริงๆพอร์ชเป็นคนที่น่าค้นหานะ ภายนอกอาจจะดูนิ่ง แต่เป็นคนอ่อนไหวง่าย แอบมีความโรแมนติกอยู่ในตัว ใส่ใจรายละเอียด บุคลิกคือแคะสุดๆ 555 ซึ่งแอบเหมือนและแอบตรงข้ามกับเหนือ
'เหนือ' คนเจียงใหม่แต้ๆ ลูกเจ้าของกิจการปางช้าง เลยโดนพอร์ชแซวว่า 'พ่อเลี้ยงปางช้าง' แล้วยังเป็นนักมวยด้วย (นี่มันrare item ชัดๆ) เราเชื่อว่าเหตุผลที่ทุกคนน่าจะชอบเหนือ เพราะเขาเป็นคนไนซ์ ดูสุภาพ จริงใจ ยิ้มเก่ง และเด็มที่กับคนรอบข้าง ไม่แปลกที่คนแบบเหนือจะมักเป็นที่ต้องการ และไม่แปลกที่เขาจะมีแฟน 5555555
อีกตัวละครที่น่าสนใจ 'ไอซ์' ตัวแทนสาววาย
เราเดาว่าไอซ์ชอบพอร์ชนะ ดูจากสายตา บทเด่นของไอซ์คือผลักให้พอร์ชเผชิญหน้ากับความจริง ทุกๆครั้งที่สองคนนี้คุยกัน ไอซ์มักพูดความในใจของพอร์ชออกมา โดยที่เจ้าตัวพยายามจะลืมมัน โดยส่วนตัวนะ เราว่ามันดีสำหรับคนที่มักเดินหนีปัญหาแบบพอร์ช มันเหมือนได้ไขเอาความรู้สึกนั้นออกมาแล้วอ่ะ ไม่รู้ว่าช่วยได้ป่าวนะ และอาจจะช่วยได้เป็นบางคน
อีกประเด็นหนึ่งที่ไอซ์จุดขึ้นมาคือ โรคฟิโลโฟเบีย หรือโรคกลัวความรัก หลีกเลี่ยงการตกหลุมรัก
ชอบประเด็นนี้ที่ซีรีย์นำเสนอเหมือนกัน ในทุกตอนของมิติรักผ่านเลนส์ จะมีตัวละครที่เป็นโรคแปลกๆ ในตอนรุ้งสีเทานี้ พอร์ชกำลังสงสัยว่าตัวเองเป็นโรคฟิโลโฟเบียหรือป่าว แต่ดูจากอาการแล้ว พอร์ชบอกว่า "ไม่ได้กลัวการถูกรัก แต่กลัวเขาไม่รักมากกว่า" ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นในคนที่กำลังแอบรักคนอื่นทุกๆคน
ปล. ไว้จะหาข้อมูลเรื่องโรคนี้มาเล่านะ
อีกประเด็นหน่งที่ชอบมากๆ และเป็นฉากที่ชอบอีกฉากหนึ่งในตอนนี้คือ ตอนที่พอร์ชลงไปเก็บข้อมูลกับสาวประเภทสองคนหนึ่ง ด้วยคำถามของพอร์ชแหละ ที่แรงมาก ทำเอาเธอคนนั้นไม่พอใจ และฝากคำคมแพงๆ ให้พอร์ชและทุกคนในสังคมไว้ว่า
"นี่เธอทำรายงานนี้ไปเพื่ออะไรอ่ะ อยากให้สังคมยอมรับเพศนี้ หรืออยากตีแผ่เพศนี้ให้สังคมดูถูก มันต่างกันนิดเดียวเองนะ"
เรามองว่านี่เป็นวรรคทองของบทเรื่องนี้ ใช่ ที่ผ่านมา เรามีหนัง มีซีรีย์ มีละคร มีสื่อมากมายที่นำเสนอเรื่องเพศที่สาม แต่! บางสื่อก็กล่าวอ้างถึงการนำเสนอความจริง โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของคนเพศนั้นๆ เช่น การที่ละคร(แทบจะทุกเรื่อง) มักมีบทตัวตลกที่เป็นเพศที่สาม เขียนขึ้นมาเพื่อให้สังคมสามารถล้อได้บ้าง ดูถูกได้บ้าง คือมันอาจจะตลกก็จริงนะ แต่เพศที่สามเขาเป็นคนตลกไม่ใช่ตัวตลกในชีวิตจริงนะเว้ย
หรือแม้แต่หนัง/ละคร/ซีรีย์บางเรื่องที่นำเสนอเพียงฉากฟินๆของเพศทางเลือก แต่ไม่ได้ให้คุณค่าอะไรกับคนดูเลย
อีกหลายๆกรณีเช่นกัน ที่อาจมีการนำเพศทางเลือกมาสัมภาษณ์(คล้ายๆกับในซีรีย์) หรือแม้แต่เราคุยกับเพื่อนในชีวิตประจำวันก็เถอะ คำถามบางคำถามก็อาจละเมิดความเป็นส่วนตัวเกินไป
- รู้ตัวตั้งแต่เมื่อไหร่
- ที่บ้านรู้มั๊ย รับได้หรือป่าว
- เป็นแบบไหน รุกหรือรับ
คือคำถามเหล่านี้อาจจะดูธรรมดา แต่ในบางทีมันก็ไปจุดความรู้สึกของคนตอบได้นะ หรือบางคำถามน่ะ ถามไปแล้วคุณได้อะไรหรอ?
คุณได้รู้ แต่คนตอบเจ็บ คุณยังจะอยากรู้จริงๆหรือ? นี่คือสิ่งที่เรามองว่าฉากนี้กำลังตั้งคำถามอยู่ มันแพงมาก
"เพราะมีคนอย่าง คนเขาถึงเหยียดเพศกันไง เกย์ทุกคน ต้องจบที่เรื่องเซ็กซ์หรอ?"
เป็นอีกฉากที่ตั้งคำถามกับคนดูได้ดี แถมสะท้อนภาพจริงของสังคม สะท้อนทัศนคติที่เข้าใจผิดต่อเพศที่สามด้วย
เราเคยตั้งคำถามนี้เหมือนกัน เวลาที่เราเห็นเพื่อนเราบางคนนัดยิ้มกันผ่านโซเชียลมีเดีย หรือการที่สังคมมองเพศที่สามเป็นที่ความกำหนัด
ต้องแยกเป็นสองประเด็น การนัดยิ้มกันไม่ใช่เรื่องที่ถูก และไม่ใช่เรื่องที่ผิด อยู่ที่คนมองจากมุมไหน
แต่โดยส่วนตัวเห็นว่า มันมีการล่วงละเมิดทางเพศแบบที่เราไม่รู้ตัวอยู่ เช่น เราเห็นภาพถ่ายผู้ชายคนหนึ่ง หล่อมาก หน้าตาดี หุ่นดี เราก็คอมเมนท์+แท็กเพื่อน หรือแชร์ไปพร้อมแคปชั้น "จะเลียให้ล้ม" เห้ย ขำๆ ตลกๆเว้ย แต่จะบอกว่า เจ้าของภาพบางคนก็ไม่ขำนะ เพราะเขามองว่าตัวเขาไม่ใช่ sex toy ไม่ใช่ของเล่นทางเพศสำหรับใคร นับประสาอะไรกับการที่เราคอมเมนท์แซวเขาเชิงชู้สาว หรือแม้แต่การชวนไปยิ้ม คือเรารู้ตัวนะ ถ้าเราไปพูดในสังคมเกย์บางกลุ่ม เขาคงหัวเราะความคิดเรา แต่เราก็เป็นคนหนึ่งนะ ที่อยากมีความรักที่ดี และอยากให้สังคมมองเพศที่สามในแง่มุมดีๆ ไม่ใช่แค่เรื่องแบบนี้น่ะ
ประเด็นที่สองก็สืบเนื่องกัน พอเราเปิดการสนทนาเรื่องชวนกันไปมีเพศสัมพันธ์แบบนี้แล้ว สังคมก็เลยมองว่าเพศที่สามเป็นที่ระบายความกำหนัด เพราะเข้าถึงได้ง่าย กำลังจะบอกคนในสังคมทุกคนว่า "เพศที่สามไม่ได้มองเรื่องsexเป็นเรื่องสำคัญในชีวิตเสียทุกคน ยังมีคนที่มองเรื่องความสำเร็จ ครอบครัว เหมือนกับทุกๆเพศในสังคมนี่แหละนะ อย่าเข้าใจเราผิด และอย่าเหมารวมกันเลยนะ"
สงสัยใช่มั๊ยว่าทำไมพอร์ชถึงเจ็บปวดขนาดนี้?
อย่างที่บอกไปแล้ว ไม่ใช่ทุกคนที่จะยอมรับเรื่องแบบนี้ เราเป็นคนดู เรายังสะเทือนใจ เรายังหดหู่ตามไปเลย ลองนึกถึงคนที่โดนสิ จะช้ำใจขนาดไหน
ยิ่งพอร์ชมีคนที่รัก และอยากมอบสิทธิ์คนแรกให้เขาอยู่แล้ว มันเลยยิ่งเสียใจขนาดไหน
เราอยากขอบคุณผกก.มากๆ ที่ขยี้อารมณ์อันนี้ มันทำเราเศร้าตามพอร์ชไปด้วยจริงๆ
มาถึงตรงนี้ ทุกคนคงสงสัยว่า แล้วมันสะท้อนความ(คาด)หวังในเพศทางเลือกยังไง
เรามองว่า ทุกไดอาลอกที่ซีรีย์ส่งออกมา มันเป็นสารที่สื่อถึงความ(คาด)หวังให้สังคมเข้าใจและยอมรับในเพศที่สามอย่างแท้จริง และรอบด้าน
รวมทั้ง(คาด)หวังให้เพศทางเลือกเอง เข้าใจสถาณการณ์ปัจจุบันและช่วยกันส่งเสริม ผลักดันเรื่องสิทธิในเพศ ความเท่าเทียม รวมทั้ง(คาด)หวังให้ช่วยกันสร้างมุมมองใหม่ต่อเพศทางเลือกไปในตัวด้วย
เราไม่รู้ว่าอีกกี่ปีพรบ.คู่ชีวิตจะผ่าน ไม่รู้ว่าสังคมจะยอมรับพวกเราจริงๆหรือป่าว แต่เราเชื่อว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เป็นการจุดประกายให้สื่อทุกแขนง พิจารณาสารเกี่ยวกับเรื่องเพศทางเลือกอย่างรอบคอบ ก่อนที่จะส่งออกไป โดยส่วนตัวไม่ได้มุ่งหวังให้นำเสนอแต่ด้านดีๆ หรอกนะ เพราะก็คงเป็นไปไม่ได้ ไหนสื่อก็พร้อมจะเปิดพื้นที่ให้เราแล้ว ก็มาช่วยกัน ให้มันได้วินวินทั้งสองฝ่ายดีกว่าเน๊อะ
ช่วง เน้นฟิน โดย #ทีมพ่อเลี้ยง
เข้าใจหรือยัง ทำไมเราถึงต้องรักพ่อเลี้ยง ชอบฉากนี้ เหนือดูใส่ใจพอร์ชอ่ะ แค่รายละเอียดเล็กๆอย่างกระเป๋าเขาก็ไม่พลาด
ความไนซ์ของเหนือ+สายตาสุดอ่อยของพอร์ช คือฉากนี้มันดีงามจริง
ฉากกระจก โอ๊ยยยยย ฟินแตก คือในใจลุ้นตามสุดๆ ฉากนี้เหมือนกำลังจะบอกอะไรหรือป่าว คือเรามองว่าเหนือเป็นคนนิสัยผู้ชายนะ แล้วการที่พอร์ชมากอดแบบนี้ แต่เขาไม่มีทีท่ารังเกียจ มันคืออะไร คือจิ้นไปไกลแล้ว 55555
และสุดท้าย ฉากสารภาพรักริมถนน
คือมุมกล้องดี แสงดี ติดเรื่องเพลงนิดเดียว เราว่ามันดังไป แต่เรื่องไดอาลอกให้คะแนนเต็ม มันอิ่มมาก
ใครที่อยากจะชมซีรีย์นี้ ติดตามได้ทางช่องPPTV หรือใน Line tv ก็มีนะ เราอยากให้สังคมเข้าใจเพศที่สามมากขึ้น และไม่ยอมรับเราแค่เปลือกหรือแบบฉาบฉวยอย่างที่อาจารย์บอกอีกแล้ว ลาไปด้วยภาพนี้นะ