[CR] เที่ยว-เชี่ยว-หลาน กับเด็กฝึกหัด #Jlimerence



สวัสดีทุกๆคน วันนี้เราอยากจะมารีวิวการไปเที่ยวเขื่อนรัชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี
ขอเล่าที่มาของการตั้งกระทู้ก่อนนะคะ เราเป็นนักศึกษา ชั้นปีที่ 2 เรียนสาขาเกี่ยวกับภาษาและการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี อมยิ้ม02

โดยทริปการไปเที่ยวครั้งนี้ เป็นการไปออกทริปเก็บคะแนนของวิชาธุรกิจการท่องเที่ยว โดยจะให้นักศึกษาเป็นไกด์นำเที่ยวและเป็นสตาฟดูแลเพื่อนๆและอาจารย์ ซึ่งเราได้รับหน้าที่เป็นไกด์นำเที่ยวฝึกหัดในทริปครั้งนี้ อมยิ้ม17

มาชมภาพและอ่านเรื่องราวของเด็กฝึกหัดคนนี้กันนะคะ อมยิ้ม07



เช้าของวันเดินทาง อากาศตอนเช้านั้นไม่ร้อนมาก แสงแดดอ่อนๆส่องลอดกิ่งไม้ เราจึงอดไม่ได้ที่จะกดชัตเตอร์ถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึก ที่แรกที่เรามาถึงคือ ในส่วนด้านบนของสันเขื่อน ที่จะให้นักท่องเที่ยวแวะก่อนที่จะเดินทางต่อไปลงเรือ ตรงนี้เราก็ได้แค่ถ่ายรูปเอาไว้เป็นที่ระลึก

นี้เป็นรูปที่เราถ่ายเอาไว้ตรงสันเขื่อน จริงๆก็มีรูปเยอะนะ แต่รูปนี้ดีสุด อมยิ้ม04


ส่วนนี้ได้มาตอนที่เราลงไปตามลูกทัวร์ด้านล่าง มุมสวยพอดี ก็จัดไปซักแช๊ะ เยี่ยม

ตรงที่สันเขื่อนตรงนี้ก็เป็นหน้าที่ของเรา ซึ่งเป็นไกด์ฝึกหัดต้องคอยดูและลูกทัวร์และคอยควบคุมเวลา เพื่อปล่อยให้ทุกคนไปถ่ายรูปและกลับมาที่รถบัสตามเวลาที่กำหนด เราจะได้ไม่เสียเวลา ไปลงเรือกันต่อออออ

หลังจากนั้นเราก็ขึ้นรถบัสเดินทางไปต่อ เพื่อที่จะลงเรือไปชมเขื่อนด้านล่างกันนนนน ประหลาดใจ


ภาพนี้คือภาพที่ทุกคนกำลังต่อแถวกัน เพื่อลงเรือ ก็แหม มากัน 70 กว่าคน ก็แถวยาวหน่อยแหละโน๊ะ ระหว่างรอลงเรือ ก็แอ็คท่า เก็บภาพกันหน่อยนะจ๊ะ


ทั้งทีมงาน ทั้งลูกทัวร์ดี๊ด๊ากันใหญ่ โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยมาเที่ยวเขื่อนมาก่อนอย่างเราาา


แถวยาวมากเลยยย สตาฟจิเป็นลมแล้ววว อากาศเริ่มร้อนแล้วค้าาา  เมื่อไหร่จะได้ลงเรือหนอ


และแล้วพวกเราก็ได้ลงเรือกันสักที รอมานานมากกกก แต่ก็เป็นอะไรที่คุ้มจริงๆ พอลงเรือทุกคนก็คว้าเสื้อชูชีพมาคนละตัว โดยมีไกด์คอยแนะนำวิธีการใส่เสื้อชูชีพ หลังจากนั้นเรือก็อออกจากท่า แล่นไปเรื่อยๆ โดยที่เราเองก็ไม่รู้จุดหมาย รู้แค่ว่าแพที่เราจะไปนั้นชื่อว่า "แพนางไพร"  ระหว่างการเดินทางเราซึ่งเป็นไกด์ฝึกหัดเรือลำที่ 4 ก็เล่าเรื่องราวของเขื่อนเชี่ยวหลานให้ลูกทัวร์ฟังคร่าวๆ



แต่เนื่องจากเขื่อนกว้างมากกกก จนไกด์หมดเรื่องจะพูดเลยให้เวลาลูดทัวร์ชมธรรมชาติรอบๆเรือ ระหว่างนั้นก็ถ่ายรูปลูกทัวร์ที่น่ารักเป็นที่ระทึกซะหน่อยยยยอมยิ้ม15


บรรยากาศรอบๆสวยงามมากก นี้สินะที่เขาพูดว่า "สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น" ตอนนี้ได้เห็นกับตาตัวเองแล้ว ที่นี่สวยตามคำร่ำลือจริงๆ


เราใช้เวเวลาเดินทางกันเป็นชั่วโมง ระหว่างทางเราก็เก็บภาพทัศนียภาพ มาเรื่อยๆ ภูเขา ผาเล็กผาน้อย ต้นไม้และสายน้ำสีสวยที่สะท้อนแสงอาทิตย์


ถ่ายธรรมชาติมาเยอะแล้ว จึงชวนเพื่อนมาเป็นนางแบบ นายแบบให้ซ่ะหน่อย หวานกันจนไกด์อิจฉาแล้วจ้าาา


หนึ่งในทีมงาน ไม่ต้องขอ นางก็โพสต์ท่าให้เต็มที่ อมยิ้ม15


เรืออีกลำแล่นเข้ามาใกล้ๆ เป็นภาพที่พอเหมาะพอดี ทั้งเขา น้ำ และเรือ เราจะรีบหยิบกล้องมาถ่ายทันที "สวัสดี เรือลำนู้นเป็นไง เมาเรือมั้ย? "เค้าล้อเล่น


และแล้วเราก็มาถึงแพนางไพร เป็นแพที่เราได้ติดต่อมาก่อนล่วงหน้า ตอนนี้พวกเราก็พักรับประทานอาหารเที่ยงกันที่นี่



ระหว่างรออาหาร ก็ถ่ายรูปกับปลาไปก่อนน ปลาที่นี่เยอะมากก เรากับเพื่อนก็มาให้อาหารปลากัน แล้วก็เซฟี่กับปลาซ่ะเลย อมยิ้ม16




หลังจากทานข้าวเสร็จก็เป็นช่วงเวลาเล่นน้ำ ทุกคนดูมีความสุขมากกก โดยพื้นที่เล่นน้ำ พวกเราก็เล่นกันในบริเวณที่ทางแพกำหนดให้ เพื่อความปลอดภัย น้ำลึกมากอะ  เราว่ายน้ำไม่เป็นก็ได้แต่ใส่เสื้อชูชีพแล้วก็ลอยไปลอยมา เลยหนีมาถ่ายรูปดีกว่าาาา



รูปด้านบน เป็นภาพที่เราถ่ายจากท่าจอดเรือของแพ คนที่ชอบถ่านรูปต้องหลงที่นี่แน่ๆ เพราะขนาดเราเพิ่งหัดถ่ายรูป ยังอยากจะเก็บภาพเอาไว้ทุกมุมเลย สวยจริงๆๆ รับประกันเบย


หลังจากเล่นน้ำเสร็จ เราก็ไปนั่งแพยนต์กันต่อ เพื่อไปยัง "ถ้ำปะการัง" ภาพด้านบนเป็นภาพที่เราถ่ายแพของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ


นี่เป็นภาพด้านในของถ้ำปะการัง ภาพนี้เราถ่ายกับโทรศัพท์เลยไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ ด้านในถ้ำก็จะเป็นถ้ำมืดๆ ก็จะมีลุงคนขับแพยนต์ ถือหลอดไฟน้ำทางเราเข้าไปในถ้ำ และชี้ให้เราดูหินงอก หินย้อย ที่มีแสงสะท้อนออกมาสวยงามมาก สาเหตุที่เรียกถ้ำแห่งนี้ว่าถ้ำปะการัง ก็เพราะว่าหินที่อยู่ด้านในนั้นมีลักษณะเหมือนปะการัง อย่าลืมนะจ๊ะ เข้าไปแล้วอย่าไปจับ แทะ แกะ ดึง หินละ ไม่งั้นหินจะหยุดงอกทันที เศร้า


หลังจากนั้นเราก็เดินทางกลับ เพราะทริปนีเป็นทริปแค่วันเดียว เพื่อให้นักศึกษาได้ทดลองทำงานจริงๆ

ด้านล่างนี้จะเป็นภาพที่เหลือนะคะ





ที่สุดท้ายที่ทริปของเราไปกันก็คือ ภูเขารูปหัวใจ ซึ่งเป็นเขาที่มีด้านบนเป็นรูปหัวใจ โดยจะมีสะพานข้ามไปยังอีกฝั่งนึงของเขา เมื่อก่อนก็เป็นแค่สะพานแขวนธรรมดา แต่หลังจากที่เขารูปหัวใจเป็นที่นิยม มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากมาย เลยปรับปรุงใหม่เป็นสะพานเหล็ก แข็งแรงทนทานนะจ๊ะ คนอ้วยอย่างเราลงไปไม่ขาดแน่นอน ทดลองแล้ววว


นี่จขกท.เองคะ


เพื่อนร่วมทริป ยิ้ม





งานนี้เราก็ต้องขอขอบคุณอาจารย์เอ็ม ที่ให้โอกาสพวกเราได้ออกไปเจอประสบการณ์การทำงานจริงๆ ได้มาเที่ยวกับเพื่อนๆและทำในสิ่งที่รัก อย่างการถ่ายรูป และการท่องเที่ยว ขอบคุณเพื่อนๆที่อยู่ในรูป ขออนุญาตเอารูปมารีวิวหน่อยนะจ๊ะ อิอิ อมยิ้ม16

สุดท้ายนี้สำหรับใครที่อยากจะไปเที่ยวเขื่อนรัชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน ถ้าคิดว่าจะไปแล้วละก็ อย่าได้ลังเลคะ รีบจองตั๋วและมาทันที ไม่งั้นคุณจะพลาดโอกาสการมาสัมผัสธรรมชาติแบบเต็มๆที่นี่ เราเองก็จะหาโอกาสมาเที่ยวอีกครั้ง เพราะยังเที่ยวได้ไม่เต็มที่เพราะต้องทำหน้าที่เป็นเด็กฝึกหัดก่อน

งานหน้าเราจะมารีวิวการไปเที่ยวอีก โดยเรามีแพลนจะไปเที่ยวเกาหลี เดือนมิถุนานี้ ยังไงก็ช่วยติดตามด้วยนะคะ สำหรับวันนี้ลาไปก่อน คนรักเที่ยวทั้งหลาย #Jlimerence
ชื่อสินค้า:   เที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลานชมธรรมชาติ ตามวิถีเด็กท่องเที่ยว
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่