ขอเรียกแทนตัวว่า เจ้ล่ะกันน่ะ...
คือเจ้ขอออกตัวก่อนเลยว่า ตลอดชีวิต 33 ปี ที่ผ่านมา ไม่ค่อยได้มีการมาหาหมอฟันสักเท่าไหร่ แต่ก็ตัดสินใจจัดฟันตอนอายุเท่านี้ เลยได้มาหาหมอฟันบ่อยขึ้น จริงๆอยากจัดฟันตั้งแต่อายุยี่สิบกว่าๆ แต่ติดที่กลัวการผ่าฟันคุด การทำอะไรก็ตามกับช่องปาก ทุกสิ่งอย่าง!!!
ปัจจุบันก็ได้จัดฟันมาแล้ว 6 เดือน ถึงเวลาที่ต้องเอาฟันคุดออกละ เนื่องจากคุณหมอจัดฟันรอเจ้ ไปผ่าฟันคุดออกให้ครบก่อน
ก็เลยยังใส่เครื่องมือให้ไม่ครบ...
ที่นี้ก็เจอเคสหนักเลย เพราะฟันคุด เมื่อ X-Ray ดูแล้ว พบว่ามันแบบนอนมาเลย เจ้ก็กลัวสิคะ เนื่องจากเวลามีน้อย เลยตัดสินใจผ่าที่เดียวกับที่จัดฟัน ก็คือที่คลินิกทันตกรรมรัชดา ก็สอบถามเจ้าหน้าที่ว่า มีคุณหมอเก่งๆ แนะนำมั้ย เค้าก็แนะนำให้ผ่า/ถอน กับคุณหมอภัชรพล สำเนียง (ให้เครดิตคุณหมอนิดนึงน่ะคะ เพราะรู้สึกประทับใจฝีมือเป็นการส่วนตัวจริงๆ)
เจ้ก็ทำใจดีสู้เสือ จัดไปโลด ถอนฟันคุด 1 ซี่ ผ่าเคสยากแบบฟันนอน 1 ซี่
ขั้นแรกเค้าจะฉีดยาชาให้ก่อน คือจะบอกว่าไม่รู้สึกเจ็บเลย โดนไป 3 เข็ม หลังจากนั้นก็รอยาชาออกฤทธิ์ คุณหมอก็ชวนคุยและอธิบายว่าขั้นตอนทำอะไรอยู่ เจ้ก็รู้สึกว่ามีเสียงก๊อกแก๊ก มีเสียงเหมือนกรอฟัน แต่สุดท้ายมันก็จบราบรื่น คุณหมออธิบายเคสฟัน ที่ถอนและที่ผ่าออก ฟันที่ผ่าแบ่งเป็น 4ซีก เห็นแล้ว ลมแทบจับ เพราะคุณหมอบอกซี่ใหญ่มาก แต่จะบอกว่าไม่เจ็บเลย และผู้ช่วยคุณหมอถือกระจกมาให้ดูหน้า แก้มโย้เป็นลูกมะนาว แถมปากหุบไม่ลงเลย ฮ่าๆๆๆๆ
หลังจากนั้นก็มารับยาแก้อักเสบ, แก้ปวด/ลดบวม และรับน้ำแข็งมาประคบแก้ม ค่าเสียหายโดนไปทั้งหมด สี่พันกว่าบาท
แต่ก็คุ้มน่ะ ไม่เจ็บ ไม่เสียเวลา คุณหมอพูดเก่ง ประทับใจ
พอกลับมาบ้าน เนื่องจากกลัวปวดก็เลยเตรียมน้ำแข็งไว้ในตู้เย็นเพื่อประคบเย็นในวันแรก ส่วนวันที่สองคุณหมอให้ประคบร้อนแทน โดย 1 อาทิตย์หลังผ่าคุณหมอนัดตัดไหม ซึ่งในช่วงนี้ เจ้ทานอาหารกลืนง่ายๆ คือ โจ๊กสำเร็จรูป,ไข่ตุ๋นใน 7-11,โจ๊กคัพ ถ้วยแดง ใน 7-11, มาม่าซอง (ก่อนต้ม ต้องบี้ให้ระเอียดก่อน), นม, น้ำชาเขียว เพราะเจ้ กลัวเศษอาหารไปติดร่องที่ผ่าฟัน ในช่วงอาทิตย์หลังผ่าฟันไม่รู้สึกเจ็บ หรือปวดเลย อาจเพราะทานยาแก้อักเสบ และยาแก้ปวด/ลดบวมตรงเวลาด้วย
แต่สิ่งที่ลำบากก็คือ การแปรงฟัน/บ้วนปาก ต้องระมัดระวังมากๆ เพราะตัวเจ้เองจะไม่สามารถอ้าปากกว้างๆ ได้เลย เวลานอนก็มีเลือดไหลซึมๆในช่วงวันแรกของการผ่าฟันด้วย เราจะแก้มบวมแบบลูกมะนาวประมาณ 5 วัน พอวันที่ 7 ไปตัดไหม
จะพบว่ามีเศษอาหารติดฟันได้ และรวมถึงการหิวตลอดอาทิตย์ อยากกินทุกอย่างที่ตาเห็น ฮ่าๆๆๆ
ยังไงสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจผ่า/ถอนฟัน ก็ให้ไปทำซะเถอะจ๊ะ เพราะว่าถ้าปล่อยให้อักเสบอาจเป็นหนองได้น่ะ ส่วนตัวเจ้เองถ้าไม่จัดฟันก็คงไม่ตัดสินใจผ่าแน่นอน แต่ก็ดีใจน่ะที่เจอคุณหมอมือเบา น่ารัก แผลเลยไม่ระบมเท่าไหร่ แต่ตอนผ่า ฝากไว้นิดนึงทุกคนควรจะอ้าปากกว้างๆ ไว้เลยน่ะ ถ้าให้ดี ควรเตรียมทาวาสลีนที่ปากมาเยอะๆด้วย เพราะจะต้องอ้าปากเยอะมากๆ ปากแทบจะหุบไม่ลงเลยล่ะ หลังผ่าก็ควรกลืนน้ำลายกับเลือดลงคอไปเลย ผ้าก๊อซก็นานๆเปลี่ยนทีก็ได้ เพราะคุณหมอแนะนำว่าเลือดจะแข็งตัวเร็วขึ้นตามธรรมชาติจร้า...
หลังจากผ่า ก็หายสนิท 2 อาทิตย์ค่ะ^^ โชคดีทุกคนคร้า
ครั้งแรกของการโดนผ่าและถอนฟันคุดไม่เจ็บอย่างที่คิด!
คือเจ้ขอออกตัวก่อนเลยว่า ตลอดชีวิต 33 ปี ที่ผ่านมา ไม่ค่อยได้มีการมาหาหมอฟันสักเท่าไหร่ แต่ก็ตัดสินใจจัดฟันตอนอายุเท่านี้ เลยได้มาหาหมอฟันบ่อยขึ้น จริงๆอยากจัดฟันตั้งแต่อายุยี่สิบกว่าๆ แต่ติดที่กลัวการผ่าฟันคุด การทำอะไรก็ตามกับช่องปาก ทุกสิ่งอย่าง!!!
ปัจจุบันก็ได้จัดฟันมาแล้ว 6 เดือน ถึงเวลาที่ต้องเอาฟันคุดออกละ เนื่องจากคุณหมอจัดฟันรอเจ้ ไปผ่าฟันคุดออกให้ครบก่อน
ก็เลยยังใส่เครื่องมือให้ไม่ครบ...
ที่นี้ก็เจอเคสหนักเลย เพราะฟันคุด เมื่อ X-Ray ดูแล้ว พบว่ามันแบบนอนมาเลย เจ้ก็กลัวสิคะ เนื่องจากเวลามีน้อย เลยตัดสินใจผ่าที่เดียวกับที่จัดฟัน ก็คือที่คลินิกทันตกรรมรัชดา ก็สอบถามเจ้าหน้าที่ว่า มีคุณหมอเก่งๆ แนะนำมั้ย เค้าก็แนะนำให้ผ่า/ถอน กับคุณหมอภัชรพล สำเนียง (ให้เครดิตคุณหมอนิดนึงน่ะคะ เพราะรู้สึกประทับใจฝีมือเป็นการส่วนตัวจริงๆ)
เจ้ก็ทำใจดีสู้เสือ จัดไปโลด ถอนฟันคุด 1 ซี่ ผ่าเคสยากแบบฟันนอน 1 ซี่
ขั้นแรกเค้าจะฉีดยาชาให้ก่อน คือจะบอกว่าไม่รู้สึกเจ็บเลย โดนไป 3 เข็ม หลังจากนั้นก็รอยาชาออกฤทธิ์ คุณหมอก็ชวนคุยและอธิบายว่าขั้นตอนทำอะไรอยู่ เจ้ก็รู้สึกว่ามีเสียงก๊อกแก๊ก มีเสียงเหมือนกรอฟัน แต่สุดท้ายมันก็จบราบรื่น คุณหมออธิบายเคสฟัน ที่ถอนและที่ผ่าออก ฟันที่ผ่าแบ่งเป็น 4ซีก เห็นแล้ว ลมแทบจับ เพราะคุณหมอบอกซี่ใหญ่มาก แต่จะบอกว่าไม่เจ็บเลย และผู้ช่วยคุณหมอถือกระจกมาให้ดูหน้า แก้มโย้เป็นลูกมะนาว แถมปากหุบไม่ลงเลย ฮ่าๆๆๆๆ
หลังจากนั้นก็มารับยาแก้อักเสบ, แก้ปวด/ลดบวม และรับน้ำแข็งมาประคบแก้ม ค่าเสียหายโดนไปทั้งหมด สี่พันกว่าบาท
แต่ก็คุ้มน่ะ ไม่เจ็บ ไม่เสียเวลา คุณหมอพูดเก่ง ประทับใจ
พอกลับมาบ้าน เนื่องจากกลัวปวดก็เลยเตรียมน้ำแข็งไว้ในตู้เย็นเพื่อประคบเย็นในวันแรก ส่วนวันที่สองคุณหมอให้ประคบร้อนแทน โดย 1 อาทิตย์หลังผ่าคุณหมอนัดตัดไหม ซึ่งในช่วงนี้ เจ้ทานอาหารกลืนง่ายๆ คือ โจ๊กสำเร็จรูป,ไข่ตุ๋นใน 7-11,โจ๊กคัพ ถ้วยแดง ใน 7-11, มาม่าซอง (ก่อนต้ม ต้องบี้ให้ระเอียดก่อน), นม, น้ำชาเขียว เพราะเจ้ กลัวเศษอาหารไปติดร่องที่ผ่าฟัน ในช่วงอาทิตย์หลังผ่าฟันไม่รู้สึกเจ็บ หรือปวดเลย อาจเพราะทานยาแก้อักเสบ และยาแก้ปวด/ลดบวมตรงเวลาด้วย
แต่สิ่งที่ลำบากก็คือ การแปรงฟัน/บ้วนปาก ต้องระมัดระวังมากๆ เพราะตัวเจ้เองจะไม่สามารถอ้าปากกว้างๆ ได้เลย เวลานอนก็มีเลือดไหลซึมๆในช่วงวันแรกของการผ่าฟันด้วย เราจะแก้มบวมแบบลูกมะนาวประมาณ 5 วัน พอวันที่ 7 ไปตัดไหม
จะพบว่ามีเศษอาหารติดฟันได้ และรวมถึงการหิวตลอดอาทิตย์ อยากกินทุกอย่างที่ตาเห็น ฮ่าๆๆๆ
ยังไงสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจผ่า/ถอนฟัน ก็ให้ไปทำซะเถอะจ๊ะ เพราะว่าถ้าปล่อยให้อักเสบอาจเป็นหนองได้น่ะ ส่วนตัวเจ้เองถ้าไม่จัดฟันก็คงไม่ตัดสินใจผ่าแน่นอน แต่ก็ดีใจน่ะที่เจอคุณหมอมือเบา น่ารัก แผลเลยไม่ระบมเท่าไหร่ แต่ตอนผ่า ฝากไว้นิดนึงทุกคนควรจะอ้าปากกว้างๆ ไว้เลยน่ะ ถ้าให้ดี ควรเตรียมทาวาสลีนที่ปากมาเยอะๆด้วย เพราะจะต้องอ้าปากเยอะมากๆ ปากแทบจะหุบไม่ลงเลยล่ะ หลังผ่าก็ควรกลืนน้ำลายกับเลือดลงคอไปเลย ผ้าก๊อซก็นานๆเปลี่ยนทีก็ได้ เพราะคุณหมอแนะนำว่าเลือดจะแข็งตัวเร็วขึ้นตามธรรมชาติจร้า...
หลังจากผ่า ก็หายสนิท 2 อาทิตย์ค่ะ^^ โชคดีทุกคนคร้า