มุมกาแฟNONแดง(มุมนี้ไม่มีใครเป็นเสื้อแดง)วันเสาร์ที่30/04/2559:"เพื่อนจ่านิว"ส่งปอท. อ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์

กระทู้คำถาม
ทหารหิ้ว"เพื่อนจ่านิว"ส่งปอท. ผิดม.112อ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ | เดลินิวส์

„จากกรณีกลุ่มพลเมืองโต้กลับนัดทำกิจกรรม "ยืนเฉยๆ" ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนที่บุคคลทั้งหมด 16 ราย ประกอบด้วยนายอานนท์ นำภา นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ นายปกรณ์ อารีย์กุล นายอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ นายปิยะรัฐ จงเทพ นายณัทพัช อัคฮาท นายนัชชา กองอุดม นางนัตตา ภาณุทัต นายศุภชัย เจริญศักดิ์วัฒนา น.ส.สุวิมล ไทยเจริญ นางอาภรณ์ทิพย์ ยี่ร่อสา นางยุภา แสงใส นายวศิน ไวยนิยา นายวิศรุต อนุกุลการย์ นายกิติธัช สุมาลย์นพ และนายบุรินทร์ อินติน จะถูกตำรวจสน.พญาไท ควบคุมตัว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27เม.ย. ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายเสนาธิการผู้บังคับบัญชา คณะทำงานพิเศษฝ่ายกฎหมายคสช. นำตัวนายบุรินทร์ อินติน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหาร เลขที่ 33/2559 คำร้องขอให้ออกหมายจับที่ จพ.18/2559 ลงวันที่ 29 เม.ย. ในข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท กฎหมายอาญา ม.112 นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14(3) ส่ง พ.ต.ท.สัณห์เพ็ชร หนูทอง รองผกก.(สอบสวน) กก.3บก.ปอท. ให้ดำเนินคดี “


„พ.อ.บุรินทร์ เปิดเผยว่า ทางทหารได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมนายบุรินทร์ หลังจากสายข่าวพบการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ "Burin Intin" ในลักษณะต่อต้านการบริหารงานของรัฐบาลและคสช.รวมทั้งมีการแชทพูดคุยกับบุคคลอื่น โดยมีข้อความลักษณะกล่าวว่าร้ายพระมหากษัตริย์ ซึ่งเข้าข่ายผิดป.อาญาม.112 กระทั่งวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา เวลา 12.13 น.นายบุรินทร์ โพสต์คลิปวีดิโอความยาวประมาณ 40 นาที พร้อมข้อความ "นู๋อยากโดนอุ้ม#ปล่อยเพื่อนเราที่โดนอุ้ม" ก่อนจะมีบุคคลเข้ามาแสดงความคิดเห็นในคลิปดังกล่าว และนายบุรินทร์ก็ตอบความคิดเห็นในลักษณะกล่าวให้ร้ายพระมหากษัตริย์ หลังจากนั้นในวันเดียวกันช่วง 18.00 น.นายบุรินทร์ ได้เดินทางมาร่วมกิจกรรม "ยืนเฉยๆ" ร่วมกับกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ก่อนจะเป็น 1 ใน 16 ราย ที่ถูกตำรวจสน.พญาไทควบคุมตัว จากนั้นทหารจึงเดินทางไปยังสน.พญาไท เพื่อเชิญตัวนายบุรินทร์มาควบคุมตามคำสั่งคสช.ที่ 3/2558 และเมื่อวันที่ 28 เม.ย. ทหารจึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนบก.ปอท.เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับนายบุรินทร์ ก่อนศาลทหารจะออกหมายจับ ทั้งนี้เมื่อตรวจค้นตัวกลับไม่พบโทรศัพท์ของนายบุรินทร์จึงสอบถามนายบุรินทร์ได้ความว่าฝากโทรศัพท์ให้กับเพื่อน ชื่อ ว่าน ซึ่งขณะอยู่ระหว่างติดตามตัวนายว่าน จากนั้นจึงขยายผลตรวจค้นที่ร้านอัดรูปสปอร์ตดิจิตอลโฟโต้ ปากซอยปลูกจิตร 1 ถนนพระราม 4 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร ซึ่งนายบุรินทร์อาศัยอยู่ พบซีพียูคอมพิวเตอร์ 3 เครื่อง ที่ใช้ในการเล่นเฟซบุ๊ก และขันแดง (ที่แจกในวันสงกรานต์) 1ใบ“


„นายบุรินทร์ รับสารภาพว่า ตนเข้าร่วมกับกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ตั้งแต่ 19 ก.ย. 2558 จากนั้นจึงมีโอกาสรู้จักกับ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว และได้ติดต่อพูดคุยกันมาตลอด จนรู้จักกับแม่จ่านิว และเคยแชทพูดคุยกันผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อ "Nuengnuch chankij" ในทำนองว่าร้ายสถาบันและพระมหากษัติย์จริง เนื่องจากรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งตนจะโพสต์ข้อความต่างๆ ผ่านโทรศัพท์และโพสต์ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 27 เม.ย. ก่อนถูกจับกุม โดยไม่คิดว่าจะถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นสถาบัน ม.112 และสาเหตุที่นำโทรศัพท์ให้เพื่อนชื่อว่าน (นักศึกษาม.ธรรมศาสตร์ และเป็นเพื่อนจ่านิว) นั้น เพราะแบตโทรศัพท์จะหมด จึงให้ไปเพื่อชาร์จแบตเท่านั้น ไม่มีเจตนาจะทำลายหลักฐาน จึงอยากฝากผ่านสื่อไปถึงว่านและจ่านิวว่า ให้นำโทรศัพท์กลับมาคืนให้ตนด้วย ด้าน พ.ต.ท.สัณห์เพ็ชร กล่าวว่า รับตัวนายบุรินทร์จากทหาร ก่อนจะสอบปากคำ พร้อมตรวจสอบซีพียูคอมพิวเตอร์ที่ได้มาว่า มีข้อมูลใดบ้าง ทั้งนี้จะนำตัวนายบุรินทร์ฝากขังศาลทหารก่อน 09.00 น.ในวันที่ 30 เม.ย.นี้ พร้อมขยายผลหากพบบุคคลใดเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีทันที..“

อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/crime/394737


รู้เท่าไม่ถึงการณ์ (อีกแล้ว)
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ขออนุญาตเพื่อน ๆ ทุกคนนะ ที่เราจะแปะต่อไปนี้ ไม่เกี่ยวกับกระทู้โดยตรง แต่ก็เกี่ยวข้องกันอยู่ (ยัยนี้ชอบเดินอ้อมเขา แทนที่จะปีนเขาไปเลย ฮ่ะๆ)

...ในทางจิตวิทยาสังคม (Social Psychology) นั้นมีการศึกษาเรื่องอิทธิพลของกลุ่ม (Group Influence)
ที่มีต่อพฤติกรรมและความคิดของบุคคลอื่นๆ ซึ่งแนวคิดหนึ่งที่ผมคิดว่าน่าจะเอามาใช้อธิบายเหตุการณ์นี้ได้ก็คือ Group Polarization ครับ
นิยามของ Group Polarization ก็คือ เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกลุ่มได้มีการถกประเด็นพูดคุยกันแล้ว
มันนำพาให้คนในกลุ่มนั้นๆ มีความคิดความเชื่อไปในแนวทางที่สุดขั้ว (Extreme) มากขึ้น


การศึกษาเรื่องของ Group Polarization นั้นมีมากมายครับ ยกตัวอย่างเช่น

Moscovici และ Zavalloni (1969) สังเกตพบว่าภายหลังจากที่ได้มีการอภิปรายกันในกลุ่มนักศึกษาฝรั่งเศส
ที่มีความคิดที่ดีต่อประธานาธิบดีของตนก็จะมีความคิดที่ดีเพิ่มขึ้น
ในขณะเดียวกันความคิดด้านลบที่มีต่อชาวอเมริกันก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

ใกล้ตัวเข้ามาอีกหน่อย Glen Whyte (1933) ก็พบว่ากลุ่มนั้นขยายผลของปรากฏการณ์
“ขึ้นหลังเสือแล้วลงไม่ได้ (Too much invested to quit)” จนกระทั่งก่อให้เกิดการลงทุนที่สูญเสียอย่างมาก


แน่นอนว่าเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอีเมล์ บล็อก หรือแชทรูม และล่าสุดก็ Social Media Services
อย่าง Twitter หรือ Facebook ต่างก็เป็นสื่อกลางให้คนที่มีความเห็นคล้ายๆ กันได้มาพบปะแลกเปลี่ยนกันได้ง่ายขึ้น
Robert Write (2003) ได้ตั้งข้อสังเกตว่า “E-mail, Google และแชทรูม
ทำให้คนกลุ่มเล็กๆ สามารถปลุกระดมเหล่าผู้คนที่มีความเห็นคล้ายๆ กัน
ทำให้ความเกลียดชังที่กระจัดกระจายอยู่ตกผลึก และนำไปสู่การใช้กำลังได้ง่ายขึ้น”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่