"ก๋วยเตี๋ยว1ชาม กับ นมเย็น1แก้ว จะมีค่าแค่ไหนกันเชียว?"
พวกเราได้ตั้งคำถาม และ ได้คำตอบหลังจากกับมาครั้งนี้,,,
กลางเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้ไป บริจาคของ และเลี้ยงอาหารเด็กๆ ที่ โรงเรียน ตชด. บ้านปิล็อกคี่ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัด กาญจนบุรี
โครงการนี้ จัดตั้ง ขึ้นมาจาก การอยากทำบุญกับคนที่ด้อยโอกาสจริงๆ เราจึงชวนพวก เพื่อน เพศที่3 ซึ่งมีความฝันว่า "ไม่สามารถมีลูก มีครอบครัวเป็นของตัวเองได้ พวกเขาอยากออกค่าย อยากบริจาคของชายแดน" แต่ความกลัว ไม่มีข้อมูล และไม่มีประสบการณ์ กลัวเสียงตอบรับจากคนรอบข้างจะไม่มี จะเข้าป่า ขึ้นดอยเลย มันก็ดูเป็นเรื่องยากเกินไป สำหรับพวกเรา จังหวัดใกล้ๆ นักเรียนไม่มาก จึงเป็นทางเลือก ที่ดีที่สุด
จากนั้น เราก็เริ่มหาข้อมูล กาญจนบุรี เป็นตัวเลือกของเรา เราเริ่มจาก ติดต่อศูนย์ตำรวจตระเวนชายแดน 13 ขอข้อมูลโรงเรียน และประชุมหารือ จากนั้นก็ได้ข้อสรุป โรงเรียน ตชด.บ้านปิล็อกคี่ เราได้ข้อมูล เบอร์โทร ที่ใช้ติดต่อทางโรงเรียน แต่!!! โทรไม่ติดค่ะ ไม่มีสัญญาณ ทางเดียวที่ติดต่อได้คือ Line ทางโรงเรียน มีดาวเทียม และไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เราก็สอบถามความต้องการจากครูใหญ่ สิ่งของที่ขาด ความช่วยเหลือ ที่ต้องการ คือ ข้าวสาร อาหารแห้ง อุปกรณ์การเกษตร ยาสามัญ
จากนั้นเราก็ทำรูปโครงการ โฟสลงใน Facebook เพื่อขอรับบริจาค
เป็นไปตามคาดค่ะ เพื่อนๆไม่ให้การตอบรับ เงียบค่ะ ผ่านไป2-3อาทิตย์ หลังจากนั้น เราก็เริ่มช่วน น้องสาว "ว่าสนใจทำบุญหรือเปล่า" น้องสาวเราตอบรับทันทีค่ะ "ไปและ จะช่วยเต็มที่" น้องสาวเรา โฟสรูปลงบ้าง ก็ได้รับเสียงตอบรับค่ะ น้องสาวเรา มีเพื่อนเป็นเน็ตไอดอล ร่วมทำบุญด้วย 3,000บาท เขาส่งรูปกับมาให้เรา เราก็ลองโฟสใหม่อีกครั้ง เริ่มมีคนสนใจ ทักมาจะมอบสิ่งของบ้าง บริจาคเงินบ้าง
ทางด้านเพื่อนของแฟนเรา ก็เริ่มได้จองบริจาค เป็นแก้วน้ำ ขนม และอุปกรณ์เกษตร
เราเห็นว่า เริ่มไม่ดี เงียบเกินไป จึงทำกล่องรับบริจาค ให้อาไปขอที่บริษัท ได้รับเสียงตอบรับดีมากค่ะ มีคนบริจาคมา จำนวน 5,000บาท และหลังจากนั้น แม่แฟนและน้าๆ ร่วมทำบุญมา 15,000บาท รวมทั้งแม่ค้าปลาที่หัวสะพานปลา (ที่กิจการบ้านแฟนกับเรา) ได้เงินจำนวน 5,000บาท (อันที่จริงไม่เต็ม หลัก เรากับเเฟนจะเติมเพื่อไม่ให้ตกเศษ) และพี่สาวแฟนเรา ขอรับบริจาคของ จากที่บริษัท ได้เป็น อุปกรณ์ กาวสองหน้า เทปใส่ กาวน้ำ มาได้อีกหลายกล่อง ซึ่งเป็นประโยชน์มากเลยค่ะ และวัดแถวบ้าน กับเพื่อนแฟน ที่กำลังบวชอยู่ ก็ให้ไปเอา เครื่องสังฆทาน ที่มีอยู่เต็มวัด กล่องยา สามัญ นม และ น้ำดื่ม เนื่องจากวัดมีเกินความจำเป็น จึงเห็นว่าให้ไปมอบให้คนอื่น จะมีประโยชน์กว่า แถมวันที่แฟนไปรับจอง ยังได้ขนม นมลูกบอล และอื่นๆจากเพื่อนเขามาอีกมากมาย
แล้วก็มีคนติดต่อมาเรื้อยๆ เมื่อได้ยอดตามที่เห็นว่า สมควร เราก็ไปซื้อของ ตามรายการที่ โรงเรียนต้องการค่ะ
หลังจากนั้น เรากับแฟน ก็เดินทางมา เซอร์เวย์เส้นทาง ที่พัก ติดต่อเรือ ที่จะใช้ข้ามไป (ไม่ได้ใช้ยอดบริจาคแต่อย่างใด ใช้เงินส่วนตัวล้วนๆ) วันนั้นโชคดี ที่ครูใหญ่ขึ้นมา เราก็ได้พูดคุย นัดหมาย คุณป้า แพอังคณา ขอเอ่ยชื่อ น่ารักมากค่ะ ให้การบริการอย่างดี เป็นธุระให้หลายเรื่อง ลดราคาให้ด้วย แพอาจไม่หรูหรา แต่ก็ประทับใจมากค่ะ
ทุกอย่างเหมือนจะดี ลงตัว แต่ปัญหาก็เกิดตามมาค่ะ จากเดิมที่ มีคนจะไปด้วยกัน 15-18คน กับเกิดปัญหา ไม่สามารถไปได้ และที่สำคัญ เพื่อนแฟน ที่มีรถกะบะ ตั้งใจจะให้ช่วยขนของ ไม่สามารถไปได้ ติดงานด่วน และสามาชิกที่เหลืออยู่ คือ เรา แฟน กระเทย4 ผู้หญิง 1น้องสาวเรา1 และเพื่อนของแฟนเรา กับแฟนเขา 2คน เท่ากับ 10ชีวิต พอดี แต่ที่พีคกว่า คือ มีรถกะบะของแฟนเรา คันเดียว ตอนนั้นบอกตรงๆค่ะ เครียดมาก เพราะติดต่อเรือแล้ว ที่พักแล้ว นัดกับโรงเรียนแล้ว จะเลื้อนนี่น่าเกลียดมาก คนไม่พอ รถไม่มี จะขนของยังไง ของบริจาคก็เริ่มเยอะขึ้น ของแห้งที่สั่งซื้อก็เยอะมาก เพื่อนบ้านเรา ร้านค้าแถวบ้าน เอามาม่า มาช่วยอีก ไหนจะเสื้อผ้าที่คนสนใจบริจาคมาอีก เครียดค่ะ เครียดมาก แต่โชคดี ติดต่อรถตู้ ได้เจอคนดีค่ะ ลุงคนขับ คิดราคาถูกกว่าปกติ และยินดีให้เอาของจำพวก อุปกรณ์ เครื่องเขียน เครื่องปริ้น ขนม นม มาใส่ไว้ในรถได้ รถตู้นั่งได้ 10ที่นั่ง แต่มีคนนั่งจริงๆแค่7 กับเบียดกันแทบแย่ เพราะของอัดเต็มรถตู้ คุณลุงใจดีมากเลยค่ะ
รถแฟนเรา อัดแน่ไปด้วย ข้าวสารอาหารแห้ง อุปกรณ์การเกษตร ข้าวสาร เกลือ น้ำตาลทราย หลายร้อยกิโล ถังน้ำแข็ง แช่อาหารเพื่อเตรียมเลี้ยง
ที่ประทับมากที่สุด คือเพื่อนเรา สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ตอนที่เราซิ่วออกมา แทบไม่ได้ติดต่อกันเลย เป็นเพื่อน กันใน Facebook เฉยๆ ทักเรามา คืนก่อนเดินทาง ว่าให้มารับของบริจาคหน่อย เพื่อนเขาๆรวมกันซื้อของมา เขาไม่ได้บอกราคา เราไปรับแล้วตกใจมากค่ะ เพื่อนเราซื้อของอย่างดี ในB2S ของเล่น เครื่องเขียน สื่อการสอน เครื่องปรุงรส น้ำมันถั่วเหลือง มาเป็นเงินร่วมกัน หลัก 10,000บาท เราตื่นตันใจมากค่ะ
อีกทั้ง น้องสาวอีกคน ที่โอนเงินมา เก็บเสื้อผ้า ซื้อของใหม่มาให้ด้วย แต่รีบมากและแบตหมด จึงไม่ได้ถ่ายรูป
เช้าวันที่จะเดินทาง เรานี่คือยุ่งมาก จ่ายตลาด ซื้อกับข้าว และกับมาเตรียมของ ใช้แรงงานคนแก่ค่ะ ย่า กับแม่เรา ช่วยกัน หันไก่ค่ะ ล้างพักค่ะ ฮื้อก้วย อาหารที่จะใช้เตรียมไปเลี้ยงเด็ก เพื่อนสาว อีก2นาง ก็ช่วยกัน แพ็คของ แพ็คยา ลงกล่อง เพื่อนำมาจัดเรียงขึ้นรถ แฟนเราขับรถ รอบกรุงเทพ วิ่งรับของบริจาคค่ะ เป็นอะไรที่เหนื่อยนะคะ แต่ก็สนุก และมีความสุขมากค่ะ หลังจากนั้น 4ทุ่ม แฟนก็ออกเดินทางไปก่อน ตัวเราและเพื่อนๆ ออกตอน ตี2 ค่ะ เดินทางแบบว่า แทบจะไม่ได้แวะเข้าห้องน้ำเลย ไม่อยากลง มันแน่น ขี้เกียจยกของเรียงใหม่ แฟนเรา ถึงตั้งแต่ยังไม่ 6โมงเช้าค่ะ ส่วนเรากับเพื่อนๆ ถึงตอน 8โมงเช้า แฟนเราถึงก่อน ก็ลำเรียงของลงเรือ แอบสงสารแฟน ขนของกับเพื่อน แค่ 2คน "ทำไงได้ ทั้งทริป มีผู้ชายแท้แค่2คน ^_^" แล้วคุณลุงคนขับเรือ ก็ช่วยขนของ หลังจากขนเสร็จ แฟนเราก็วิ่งเข้าตลาด เพื่อซื้อน้ำดื่มเพิ่ม น้ำแข็งสำหรับ เลี้ยงนมเย็นและน้ำอัดลมให้เด็กๆ
จากเดิม จองเรือไว้แค่ 2ลำ คือขนของ 1 ลำ ขนคนอีก1ลำ แต่ไม่พอค่ะ ต้องจ้างเพิ่มอีก1ลำ
การเดินทางไป ที่โรงเรียน ทำได้แค่นั่งเรือค่ะ จะใช้แพลาก ก็ 3ชั่วโมง หรือนั่งเรือ ก็ 1ชั่วโมงค่ะ ขึ้นเรือแล้ว ไม่ถึงเลยนะคะ ต้องต่อรถยนต์อีก 5กิโลค่ะ พวกเราเลือก เรือค่ะ เพราะเดินทางเร็วกว่า
บริจาคของ,,,"ปันความสุข" โรงเรียน ตชด.บ้านปิล็อกคี่
พวกเราได้ตั้งคำถาม และ ได้คำตอบหลังจากกับมาครั้งนี้,,,
กลางเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้ไป บริจาคของ และเลี้ยงอาหารเด็กๆ ที่ โรงเรียน ตชด. บ้านปิล็อกคี่ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัด กาญจนบุรี
โครงการนี้ จัดตั้ง ขึ้นมาจาก การอยากทำบุญกับคนที่ด้อยโอกาสจริงๆ เราจึงชวนพวก เพื่อน เพศที่3 ซึ่งมีความฝันว่า "ไม่สามารถมีลูก มีครอบครัวเป็นของตัวเองได้ พวกเขาอยากออกค่าย อยากบริจาคของชายแดน" แต่ความกลัว ไม่มีข้อมูล และไม่มีประสบการณ์ กลัวเสียงตอบรับจากคนรอบข้างจะไม่มี จะเข้าป่า ขึ้นดอยเลย มันก็ดูเป็นเรื่องยากเกินไป สำหรับพวกเรา จังหวัดใกล้ๆ นักเรียนไม่มาก จึงเป็นทางเลือก ที่ดีที่สุด
จากนั้น เราก็เริ่มหาข้อมูล กาญจนบุรี เป็นตัวเลือกของเรา เราเริ่มจาก ติดต่อศูนย์ตำรวจตระเวนชายแดน 13 ขอข้อมูลโรงเรียน และประชุมหารือ จากนั้นก็ได้ข้อสรุป โรงเรียน ตชด.บ้านปิล็อกคี่ เราได้ข้อมูล เบอร์โทร ที่ใช้ติดต่อทางโรงเรียน แต่!!! โทรไม่ติดค่ะ ไม่มีสัญญาณ ทางเดียวที่ติดต่อได้คือ Line ทางโรงเรียน มีดาวเทียม และไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เราก็สอบถามความต้องการจากครูใหญ่ สิ่งของที่ขาด ความช่วยเหลือ ที่ต้องการ คือ ข้าวสาร อาหารแห้ง อุปกรณ์การเกษตร ยาสามัญ
จากนั้นเราก็ทำรูปโครงการ โฟสลงใน Facebook เพื่อขอรับบริจาค
เป็นไปตามคาดค่ะ เพื่อนๆไม่ให้การตอบรับ เงียบค่ะ ผ่านไป2-3อาทิตย์ หลังจากนั้น เราก็เริ่มช่วน น้องสาว "ว่าสนใจทำบุญหรือเปล่า" น้องสาวเราตอบรับทันทีค่ะ "ไปและ จะช่วยเต็มที่" น้องสาวเรา โฟสรูปลงบ้าง ก็ได้รับเสียงตอบรับค่ะ น้องสาวเรา มีเพื่อนเป็นเน็ตไอดอล ร่วมทำบุญด้วย 3,000บาท เขาส่งรูปกับมาให้เรา เราก็ลองโฟสใหม่อีกครั้ง เริ่มมีคนสนใจ ทักมาจะมอบสิ่งของบ้าง บริจาคเงินบ้าง
ทางด้านเพื่อนของแฟนเรา ก็เริ่มได้จองบริจาค เป็นแก้วน้ำ ขนม และอุปกรณ์เกษตร
เราเห็นว่า เริ่มไม่ดี เงียบเกินไป จึงทำกล่องรับบริจาค ให้อาไปขอที่บริษัท ได้รับเสียงตอบรับดีมากค่ะ มีคนบริจาคมา จำนวน 5,000บาท และหลังจากนั้น แม่แฟนและน้าๆ ร่วมทำบุญมา 15,000บาท รวมทั้งแม่ค้าปลาที่หัวสะพานปลา (ที่กิจการบ้านแฟนกับเรา) ได้เงินจำนวน 5,000บาท (อันที่จริงไม่เต็ม หลัก เรากับเเฟนจะเติมเพื่อไม่ให้ตกเศษ) และพี่สาวแฟนเรา ขอรับบริจาคของ จากที่บริษัท ได้เป็น อุปกรณ์ กาวสองหน้า เทปใส่ กาวน้ำ มาได้อีกหลายกล่อง ซึ่งเป็นประโยชน์มากเลยค่ะ และวัดแถวบ้าน กับเพื่อนแฟน ที่กำลังบวชอยู่ ก็ให้ไปเอา เครื่องสังฆทาน ที่มีอยู่เต็มวัด กล่องยา สามัญ นม และ น้ำดื่ม เนื่องจากวัดมีเกินความจำเป็น จึงเห็นว่าให้ไปมอบให้คนอื่น จะมีประโยชน์กว่า แถมวันที่แฟนไปรับจอง ยังได้ขนม นมลูกบอล และอื่นๆจากเพื่อนเขามาอีกมากมาย
แล้วก็มีคนติดต่อมาเรื้อยๆ เมื่อได้ยอดตามที่เห็นว่า สมควร เราก็ไปซื้อของ ตามรายการที่ โรงเรียนต้องการค่ะ
หลังจากนั้น เรากับแฟน ก็เดินทางมา เซอร์เวย์เส้นทาง ที่พัก ติดต่อเรือ ที่จะใช้ข้ามไป (ไม่ได้ใช้ยอดบริจาคแต่อย่างใด ใช้เงินส่วนตัวล้วนๆ) วันนั้นโชคดี ที่ครูใหญ่ขึ้นมา เราก็ได้พูดคุย นัดหมาย คุณป้า แพอังคณา ขอเอ่ยชื่อ น่ารักมากค่ะ ให้การบริการอย่างดี เป็นธุระให้หลายเรื่อง ลดราคาให้ด้วย แพอาจไม่หรูหรา แต่ก็ประทับใจมากค่ะ
ทุกอย่างเหมือนจะดี ลงตัว แต่ปัญหาก็เกิดตามมาค่ะ จากเดิมที่ มีคนจะไปด้วยกัน 15-18คน กับเกิดปัญหา ไม่สามารถไปได้ และที่สำคัญ เพื่อนแฟน ที่มีรถกะบะ ตั้งใจจะให้ช่วยขนของ ไม่สามารถไปได้ ติดงานด่วน และสามาชิกที่เหลืออยู่ คือ เรา แฟน กระเทย4 ผู้หญิง 1น้องสาวเรา1 และเพื่อนของแฟนเรา กับแฟนเขา 2คน เท่ากับ 10ชีวิต พอดี แต่ที่พีคกว่า คือ มีรถกะบะของแฟนเรา คันเดียว ตอนนั้นบอกตรงๆค่ะ เครียดมาก เพราะติดต่อเรือแล้ว ที่พักแล้ว นัดกับโรงเรียนแล้ว จะเลื้อนนี่น่าเกลียดมาก คนไม่พอ รถไม่มี จะขนของยังไง ของบริจาคก็เริ่มเยอะขึ้น ของแห้งที่สั่งซื้อก็เยอะมาก เพื่อนบ้านเรา ร้านค้าแถวบ้าน เอามาม่า มาช่วยอีก ไหนจะเสื้อผ้าที่คนสนใจบริจาคมาอีก เครียดค่ะ เครียดมาก แต่โชคดี ติดต่อรถตู้ ได้เจอคนดีค่ะ ลุงคนขับ คิดราคาถูกกว่าปกติ และยินดีให้เอาของจำพวก อุปกรณ์ เครื่องเขียน เครื่องปริ้น ขนม นม มาใส่ไว้ในรถได้ รถตู้นั่งได้ 10ที่นั่ง แต่มีคนนั่งจริงๆแค่7 กับเบียดกันแทบแย่ เพราะของอัดเต็มรถตู้ คุณลุงใจดีมากเลยค่ะ
รถแฟนเรา อัดแน่ไปด้วย ข้าวสารอาหารแห้ง อุปกรณ์การเกษตร ข้าวสาร เกลือ น้ำตาลทราย หลายร้อยกิโล ถังน้ำแข็ง แช่อาหารเพื่อเตรียมเลี้ยง
ที่ประทับมากที่สุด คือเพื่อนเรา สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ตอนที่เราซิ่วออกมา แทบไม่ได้ติดต่อกันเลย เป็นเพื่อน กันใน Facebook เฉยๆ ทักเรามา คืนก่อนเดินทาง ว่าให้มารับของบริจาคหน่อย เพื่อนเขาๆรวมกันซื้อของมา เขาไม่ได้บอกราคา เราไปรับแล้วตกใจมากค่ะ เพื่อนเราซื้อของอย่างดี ในB2S ของเล่น เครื่องเขียน สื่อการสอน เครื่องปรุงรส น้ำมันถั่วเหลือง มาเป็นเงินร่วมกัน หลัก 10,000บาท เราตื่นตันใจมากค่ะ
อีกทั้ง น้องสาวอีกคน ที่โอนเงินมา เก็บเสื้อผ้า ซื้อของใหม่มาให้ด้วย แต่รีบมากและแบตหมด จึงไม่ได้ถ่ายรูป
เช้าวันที่จะเดินทาง เรานี่คือยุ่งมาก จ่ายตลาด ซื้อกับข้าว และกับมาเตรียมของ ใช้แรงงานคนแก่ค่ะ ย่า กับแม่เรา ช่วยกัน หันไก่ค่ะ ล้างพักค่ะ ฮื้อก้วย อาหารที่จะใช้เตรียมไปเลี้ยงเด็ก เพื่อนสาว อีก2นาง ก็ช่วยกัน แพ็คของ แพ็คยา ลงกล่อง เพื่อนำมาจัดเรียงขึ้นรถ แฟนเราขับรถ รอบกรุงเทพ วิ่งรับของบริจาคค่ะ เป็นอะไรที่เหนื่อยนะคะ แต่ก็สนุก และมีความสุขมากค่ะ หลังจากนั้น 4ทุ่ม แฟนก็ออกเดินทางไปก่อน ตัวเราและเพื่อนๆ ออกตอน ตี2 ค่ะ เดินทางแบบว่า แทบจะไม่ได้แวะเข้าห้องน้ำเลย ไม่อยากลง มันแน่น ขี้เกียจยกของเรียงใหม่ แฟนเรา ถึงตั้งแต่ยังไม่ 6โมงเช้าค่ะ ส่วนเรากับเพื่อนๆ ถึงตอน 8โมงเช้า แฟนเราถึงก่อน ก็ลำเรียงของลงเรือ แอบสงสารแฟน ขนของกับเพื่อน แค่ 2คน "ทำไงได้ ทั้งทริป มีผู้ชายแท้แค่2คน ^_^" แล้วคุณลุงคนขับเรือ ก็ช่วยขนของ หลังจากขนเสร็จ แฟนเราก็วิ่งเข้าตลาด เพื่อซื้อน้ำดื่มเพิ่ม น้ำแข็งสำหรับ เลี้ยงนมเย็นและน้ำอัดลมให้เด็กๆ
จากเดิม จองเรือไว้แค่ 2ลำ คือขนของ 1 ลำ ขนคนอีก1ลำ แต่ไม่พอค่ะ ต้องจ้างเพิ่มอีก1ลำ
การเดินทางไป ที่โรงเรียน ทำได้แค่นั่งเรือค่ะ จะใช้แพลาก ก็ 3ชั่วโมง หรือนั่งเรือ ก็ 1ชั่วโมงค่ะ ขึ้นเรือแล้ว ไม่ถึงเลยนะคะ ต้องต่อรถยนต์อีก 5กิโลค่ะ พวกเราเลือก เรือค่ะ เพราะเดินทางเร็วกว่า