ตามหัวข้อกระทู้
เราอายุ 30+ ปี ทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคอีสาน คบกับแฟนที่อายุน้อยกว่า 10 ปี ทำงานที่เดียวกัน เขานิสัยดี มีความเป็นผู้ใหญ่เกินตัว จึงทำให้เราตกลงใจที่จะคบเขาเป็นแฟน ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เราเคยอกหักจากผู้ชายที่อายุน้อยกว่ามาแล้ว (ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องตา ต้องใจ ผู้ชายที่อายุน้อยกว่าทุกที) เขาดูแลเราดีมากค่ะ เทคแคร์ทุกอย่าง เรารู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่มีเขาอยู่ข้าง ๆ ช่วงแรกที่คบกัน เรายังกล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะให้คนรู้เพราะเราอายุห่างกันค่อนข้างเยอะ ไม่อยากให้คนอื่นมองเราแปลก และอีกเหตุผลนึงคือ กลัวว่าเขาจะมาหลอกให้รักและทำเราอกหักเหมือนคนก่อน เวลาผ่านไปเขาพิสูจน์ให้เราเห็นถึงความจริงใจ เราเลยเริ่มเปิดไม่บิดบังและหลบซ่อน ความรู้สึกตอนนั้นรู้สึกดีมากที่ได้เป็นอิสระจากความกลัวที่มีอยู่
เนื่องจากอายุและวุฒิการศึกษาที่ห่างกัน รายได้ต่อเดือนที่ต่างกันพอสมควร ทำให้เราต้องช่วยเหลือด้านการเงินของเขา แต่เขาจะคืนให้ตลอด ไม่เคยที่จะไม่คืน แต่เราไม่สามารถทำตามใจเราได้ทุกครั้ง เวลาที่ไปเที่ยว หรือกินอาหาร เพราะเขาต้องประหยัด ไม่อย่างนั้นเขาก็ต้องยืมเราก่อนแล้วใช้คืนให้สิ้นเดือน บางครั้งที่เราต้องแอบจ่ายให้ ซื้อเสื้อผ้าให้ หรือเมื่อหารกันแล้วเราขอออกในส่วนที่มากกว่า เพราะความสงสารและไม่อยากให้เขาเครียดเรื่องเงิน เมื่อมีโอกาสพิเศษ เช่น วันวาเลนไทน์ วันเกิด วันครบรอบที่คบกัน เขาก็จะมีของขวัญมาให้ตลอด แม้ว่ามันจะไม่ได้มีราคาแพงแต่ก็มีคุณค่าทางจิตใจ เราตกลงกันว่าจะเก็บเงินร่วมกัน แต่ผ่านมา 4 เดือนแล้ว เขาก็ยังทำไม่ได้เพราะมีรายจ่ายมากกว่ารายได้
เขาตัดสินใจจะไปเรียนต่อปริญญาตรี ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และไม่อยากให้เราอายใครเรื่องที่คบกับเขา เราสนับสนุนเขาทุกอย่างทั้งหาที่เรียนต่อ พาไปสมัคร พาไปสอบ ให้เขายืมรถยนต์ อีก 4 ปี เขาจะเรียนจบ และมีงานที่ดี และมีเงินมาสร้างอนาคตร่วมกัน เขาบอกให้เรารอ รอวันที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน เราก็บอกกับตัวเองว่าเราจะรอ แต่ทางบ้านเราก็ถามทุกครั้งว่าไม่มีแฟน ไม่คิดจะแต่งงานบ้างหรือ เพราะว่าเราไม่กล้าบอกทางบ้านว่าเราคบกับผู้ชายที่อายุน้อยกว่า เพราะกลัวทางบ้านจะเป็นห่วง แต่นั่นกลับทำให้เราเครียดอยู่คนเดียวโดยที่เขาไม่รู้
อีก 4 ปี รอเขาเรียนจบ
อีกกี่ปีรอเขาทำงานและมีเงินมาร่วมสร้างอนาคต
เราไม่รู้เลย.....
ที่มหาวิทยาลัยเขาจะได้เจอโลกใหม่ เขาจะลืมผู้หญิงคนนี้ไหม เรายังจะเหมือนเดิมกันอยู่ไหม ไม่มีใครบอกได้ เขาเองบอกให้เรามั่นใจในตัวเขา ว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป แต่เราก็ยังเผื่อใจไว้อยู่เสมอ ไม่มีอะไรแน่นอนบนโลกใบนี้ เราอยากทำธุรกิจส่วนตัวอยากได้เพื่อนคู่คิดแต่เขาเป็นให้ไม่ได้ เขาได้แต่ให้กำลังใจเท่านั้น
บางครั้งเราก็เหนื่อยกับคำถามของคนอื่น เมื่อไหร่จะแต่งงาน เป็นคำถามที่ไม่อยากตอบ บางครั้งก็เหนื่อยกับสิ่งที่อยู่ภายในใจของตัวเอง ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดี แต่การรอคอยมันเหนื่อยเหลือเกิน ความไม่พร้อมในอะไรหลาย ๆ อย่าง ตอนนี้มีคนเข้ามาคุยกับเราในฐานะเพื่อน เรามีความรู้สึกดี ๆ แต่ไม่ได้พิเศษอะไรเกินกว่าเพื่อน แต่รู้สึกว่าการที่เราคุยเรื่องการลงทุนทำธุรกิจกับคนที่อายุมากกว่า หรืออายุใกล้เคียงกันมันเข้าใจกันง่ายกว่าคุยกับเขา เลยทำให้เราต้องย้อนกลับมาคิดว่า เรากับเขาจะไปกันได้ไกลแค่ไหน?
เราควรทำยังไงดี
คบกับผู้ชายอายุน้อยกว่า 10 ปี กับสิ่งที่ต้องทำใจ
เราอายุ 30+ ปี ทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคอีสาน คบกับแฟนที่อายุน้อยกว่า 10 ปี ทำงานที่เดียวกัน เขานิสัยดี มีความเป็นผู้ใหญ่เกินตัว จึงทำให้เราตกลงใจที่จะคบเขาเป็นแฟน ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เราเคยอกหักจากผู้ชายที่อายุน้อยกว่ามาแล้ว (ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องตา ต้องใจ ผู้ชายที่อายุน้อยกว่าทุกที) เขาดูแลเราดีมากค่ะ เทคแคร์ทุกอย่าง เรารู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่มีเขาอยู่ข้าง ๆ ช่วงแรกที่คบกัน เรายังกล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะให้คนรู้เพราะเราอายุห่างกันค่อนข้างเยอะ ไม่อยากให้คนอื่นมองเราแปลก และอีกเหตุผลนึงคือ กลัวว่าเขาจะมาหลอกให้รักและทำเราอกหักเหมือนคนก่อน เวลาผ่านไปเขาพิสูจน์ให้เราเห็นถึงความจริงใจ เราเลยเริ่มเปิดไม่บิดบังและหลบซ่อน ความรู้สึกตอนนั้นรู้สึกดีมากที่ได้เป็นอิสระจากความกลัวที่มีอยู่
เนื่องจากอายุและวุฒิการศึกษาที่ห่างกัน รายได้ต่อเดือนที่ต่างกันพอสมควร ทำให้เราต้องช่วยเหลือด้านการเงินของเขา แต่เขาจะคืนให้ตลอด ไม่เคยที่จะไม่คืน แต่เราไม่สามารถทำตามใจเราได้ทุกครั้ง เวลาที่ไปเที่ยว หรือกินอาหาร เพราะเขาต้องประหยัด ไม่อย่างนั้นเขาก็ต้องยืมเราก่อนแล้วใช้คืนให้สิ้นเดือน บางครั้งที่เราต้องแอบจ่ายให้ ซื้อเสื้อผ้าให้ หรือเมื่อหารกันแล้วเราขอออกในส่วนที่มากกว่า เพราะความสงสารและไม่อยากให้เขาเครียดเรื่องเงิน เมื่อมีโอกาสพิเศษ เช่น วันวาเลนไทน์ วันเกิด วันครบรอบที่คบกัน เขาก็จะมีของขวัญมาให้ตลอด แม้ว่ามันจะไม่ได้มีราคาแพงแต่ก็มีคุณค่าทางจิตใจ เราตกลงกันว่าจะเก็บเงินร่วมกัน แต่ผ่านมา 4 เดือนแล้ว เขาก็ยังทำไม่ได้เพราะมีรายจ่ายมากกว่ารายได้
เขาตัดสินใจจะไปเรียนต่อปริญญาตรี ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และไม่อยากให้เราอายใครเรื่องที่คบกับเขา เราสนับสนุนเขาทุกอย่างทั้งหาที่เรียนต่อ พาไปสมัคร พาไปสอบ ให้เขายืมรถยนต์ อีก 4 ปี เขาจะเรียนจบ และมีงานที่ดี และมีเงินมาสร้างอนาคตร่วมกัน เขาบอกให้เรารอ รอวันที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน เราก็บอกกับตัวเองว่าเราจะรอ แต่ทางบ้านเราก็ถามทุกครั้งว่าไม่มีแฟน ไม่คิดจะแต่งงานบ้างหรือ เพราะว่าเราไม่กล้าบอกทางบ้านว่าเราคบกับผู้ชายที่อายุน้อยกว่า เพราะกลัวทางบ้านจะเป็นห่วง แต่นั่นกลับทำให้เราเครียดอยู่คนเดียวโดยที่เขาไม่รู้
อีก 4 ปี รอเขาเรียนจบ
อีกกี่ปีรอเขาทำงานและมีเงินมาร่วมสร้างอนาคต
เราไม่รู้เลย.....
ที่มหาวิทยาลัยเขาจะได้เจอโลกใหม่ เขาจะลืมผู้หญิงคนนี้ไหม เรายังจะเหมือนเดิมกันอยู่ไหม ไม่มีใครบอกได้ เขาเองบอกให้เรามั่นใจในตัวเขา ว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป แต่เราก็ยังเผื่อใจไว้อยู่เสมอ ไม่มีอะไรแน่นอนบนโลกใบนี้ เราอยากทำธุรกิจส่วนตัวอยากได้เพื่อนคู่คิดแต่เขาเป็นให้ไม่ได้ เขาได้แต่ให้กำลังใจเท่านั้น
บางครั้งเราก็เหนื่อยกับคำถามของคนอื่น เมื่อไหร่จะแต่งงาน เป็นคำถามที่ไม่อยากตอบ บางครั้งก็เหนื่อยกับสิ่งที่อยู่ภายในใจของตัวเอง ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดี แต่การรอคอยมันเหนื่อยเหลือเกิน ความไม่พร้อมในอะไรหลาย ๆ อย่าง ตอนนี้มีคนเข้ามาคุยกับเราในฐานะเพื่อน เรามีความรู้สึกดี ๆ แต่ไม่ได้พิเศษอะไรเกินกว่าเพื่อน แต่รู้สึกว่าการที่เราคุยเรื่องการลงทุนทำธุรกิจกับคนที่อายุมากกว่า หรืออายุใกล้เคียงกันมันเข้าใจกันง่ายกว่าคุยกับเขา เลยทำให้เราต้องย้อนกลับมาคิดว่า เรากับเขาจะไปกันได้ไกลแค่ไหน?
เราควรทำยังไงดี