รู้สึกสมเพช ที่เคยสนับสนุน พรบ.ทารุณสัตว์ ...แต่ท้ายที่สุดกลับกลายเป็นเครื่องมือของคนเห็นแก่ตัว

น่าแปลกมั้ย ที่คนรักสัตว์คนหนึ่ง ที่เคยร่วมผลักดัน พรบ.ทารุณสัตว์...กลับถูกกล่าวหาว่าเคียดแค้น มีอคติ และไม่รักสัตว์ ...เพียงเพราะเขาไม่เห็นด้วยกับข้อเท็จจริง จากการบังคับใช้ทางกฎหมาย

เท่าที่จำความได้ เป็นคนรักสัตว์มาตั้งแต่เด็ก  เห็นอะไรก็อยากเลี้ยง  ..เจอจิ้งจกก้จับมาเล่น  ...เอาไข่มาฟักเหมือนในสารคดีที่เคยดู ...มีโปสเตอร์สัตว์ก็หยิบมาจชื่อชนิดจนหมด ...ไปห้างทีก็วิ่งเข้าร้านสัตว์เป็นที่แรก นั่งดู นั่งเล่นอยู่เป็นชั่วโมง

ตอนอยู่ชั้นประถม มีร้านขายปลาอยู่หน้าโรงเรียน หลังเลิกเรียนจะเดินหิ้วถุงปลากลับบ้านวันละ1ถุง ...อยุ่ที่โรงเรียนก็จะนั่งคุยกับเพื่อนเรื่องปลา แลกก็จะแลกปลาที่บ้านกัน....ถึงบ้าน ก็จะวิ่งตามเสียงเรียกของลุงข้างบ้านไปเล่นกับลูกเจี้ยบของเขาทุกวัน

แม่สอนว่า จะเลี้ยงสัตว์อะไร มันคือภาระ ยิ่งสัตว์ใหญ่ก็ต้องมีพื้นที่มาก ต้องให้เวลากับมัน พาไปเดินเล่น ออกกำลังกาย ให้มีสุขภาพและจิตใจที่ดี  ..ถ้าเลี้ยงสัตว์แบบผิดวิธี ไม่เข้าใจธรรมชาติ เอาไปขัง จนเกิดความเครียด ทรมาน จะกลายเป็นบาป  นี่คือ ...เมตตาธรรมต่อสัตว์

นอกจากจะต้องมีความรับผิดชอบต่อสัตว์แล้ว ก็ยังต้องมีความรับผิดชอบต่อตัวเองและสังคมด้วย  การอ้างว่าเบื่อ ไม่ว่าง ไม่มีเวลาดูแล แล้วจะมาโยนภาระความรับผิดชอบให้คนอื่นได้รับผลกระทบแทน เป็นสิ่งที่ไม่ถูก และนี่คือความหมายของคำว่า ...รับผิดชอบต่อสังคม

ที่ผ่านมาเคยเลี้ยงสัตว์หลายชนิด...เก็บหนอนมาเลี้ยงจนกลายเป้นผีเสื้อ  ...ช้อนปลามาเลี้ยงที่บ้าน ...เลี้ยงหนู ...เลี้ยงเต่า ...เลี้ยงนกที่ปล่อยอิสระให้มันบินอยู่ในบ้านอย่างเสรี ...ส่วนหมาแมวนั้นไม่เคยมีเป้นของตัวเองจริงๆจังๆ เพราะช่วยดูแลของพี่ที่บ้าน กับเจอข้างถนนอยู่บ่อยๆตามโอกาสอยู่แล้ว

เวลาเจอหมาแมว จะส่งเสียงเรียกเพื่อทดสอบอารมณ์ มีความสุขทุกครั้งที่เห็นมันกระดิกหางหรือเข้ามาคลอเคลีย  ตัวที่เป็นมิตรก็ดีไป แต่ถ้าตัวไหนดุร้าย ก็ได้แต่หนีให้เร็วที่สุด และตั้งคำถามว่า ...ถ้าครั้งหน้ามันออกไปกัดคนอื่นล่ะ?  เจ้าของอยู่ไหน? ภาครัฐทำอะไร?... ทำไมถึงปล่อยให้สวัสดิภาพของคนในสังคมตกต่ำได้เพียงนี้??

และแม้ว่าจะไม่เห็นด้วยกับข่าวการทำร้ายสัตว์อยู่หลายครั้ง  แต่กลับคิดว่าคนก็คือคน หมาก็คือหมา คนละอย่างกัน จะเอาไปเปรียบเทียบกันไม่ได้...คนที่โดนกัดไม่ใช่ตัวเรา หมาที่กัดก้ไม่ใช่หมาของเรา ขนาดตัวเราเองยังไม่สามารถบังคับเหตุปัจจัยได้ เหตุใดจึงจะไปบังคับกะเกนฑ์คนอื่นให้ทำในแบบที่เราต้องการ

คุณไม่สามารถบังคับคนทุกคนให้รักหมาแบบคุณได้ แต่คุณสามารถบังคับคนรักหมาแบบคุณให้รับผิดชอบต่อสังคม ...ความสงสารคือเรื่องส่วนบุคคล แต่ความรับผิดชอบต่อสังคม ในฐานะที่เขาคือเพื่อนมนุษย์ที่ได้รับความเดือดร้อน คือเรื่องส่วนรวม ...ซึ่งถ้ากรรมมีจริง เขาก็จะได้รับผลกรรมในรูปแบบอื่นเอง ...ไม่จำเป็นต้องแสดงความเห็นแก่ตัว  ผ่านสามัญสำนึกที่ต่ำกว่าสัตว์

ตอนได้ยิน พรบ  ทารุณสัตว์  รู้สึกดีใจที่ประเทศไทยกำลังจะมีกฎหมายเพื่อแก้ปัญหาสัตว์แบบเมืองนอก... และคิดว่า ถ้ามีกฎหมายทารุณกรรมสัตว์แล้ว ย่อมมีระบบการบริหารจัดการสัตว์ที่ดีพอควบคู่กันด้วย  ...ซึ่งเราคิดไม่ถึงเลยว่า ท้ายที่สุด ผู้ร่างที่หมกเม็ด กับรัฐสภาที่ไร้น้ำยา จะสามารถผ่านกฎหมายที่บิดเบี้ยวและไม่สมดุลนี้

ถ้าจะต้องเคียดแค้น ก็คง...เคียดแค้นที่เคยหวังดี แต่พอเกิดปัญหา กลับถูกป้ายสีว่าโหดร้าย ....ถ้าจะต้องมีอคติ ก็คง...เป็นอคติจากพวกที่เห็นแก่ตัว มุ่งแต่จะใช้กฎหมายนี้อย่างบ้าคลั่ง ...ถ้าจะต้องไม่รักสัตว์ ก็คง...ไม่รักสัตว์จากความเห็นแก่ตัวของพวกคุณและคำใส่ร้ายป้ายสี


คุณไม่ได้รักสัตว์.................คุณแค่รักตัวเอง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่