ไดอารี่หมอดู หน้าที่ 40 ค่ะ จาก หนังสือธรรมะใกล้ตัว ฉบับที่ 40 ค่ะ
เมษายน ๑๕๔๑
สวัสดีค่ะ ทุกคนที่ติดตามอ่านไดอารี่หมอดู ก่อนอื่นต้องขอประกาศเรื่องคิวอีกครั้งหนึ่งนะคะ คือทางเราพบปัญหาเรื่องของการจองคิวหลายเรื่อง เนื่องจากมีคนติดต่อมาดูดวงค่อนข้างเยอะทำให้ไม่สามารถให้คิวได้เร็วตามที่ต้องการ และยังมีข้อบกพร่องในเรื่องการรับคิวทำให้บางคนไม่ได้รับคิวเพื่อดูดวง
ปัญหาที่พบมากที่สุดคือ
๑. สื่อสารกับคนรับคิวไม่รู้เรื่อง
ปกติพีร์จะให้น้องสาวเป็นคนรับโทรศัพท์ โดยให้ฝากเบอร์ไว้ก่อน และทางเราจะติดต่อกลับเองเมื่อถึงคิว ถ้าไม่ฝากเบอร์ไว้จะไม่ได้รับคิวค่ะ มีหลายคนโทรมาบอกว่าต้องการที่จะดูดวงเลย ก็จะไม่ค่อยมีคิวให้ค่ะ และถ้าไม่ฝากเบอร์โทรเพื่อติดต่อกลับไว้ พอโทรมาถามครั้งที่สองว่าคิวว่างไหม น้องสาวพีร์จะบอกว่าคิวเต็มแล้ว
สำหรับบางคนจะไม่ฝากเบอร์ไว้ หรือบางครั้งบอกว่าจะขอจองเดือนหน้า น้องสาวจะตอบว่าคิวยังไม่ออก และน้องสาวจะบอกว่าให้ฝากเบอร์ไว้ มีหลาย ๆ คนมักจะไม่ฝากไว้ เลยทำให้เข้าใจผิดว่าไม่ได้คิว สำหรับบางคนที่มีเรื่องด่วนจริง ๆ ให้แจ้งกับน้องสาวไว้ได้ว่ามีเรื่องด่วนต้องการเร็วนิดหนึ่งได้ค่ะ
๒. เมื่อติดต่อกลับไปไม่มีคนรับโทรศัพท์ หรือเบอร์ที่ติดต่อกลับเป็นคนละเบอร์กับคนที่ติดต่อมา
ลูกค้าบางท่านอาจจะไม่ทราบว่าเป็นเบอร์ของใคร เลยไม่ได้สนใจติดต่อโทรกลับมา หรือบางทีโทรกลับไปก็มักจะปิดเครื่อง สำหรับบางคนที่จองมานานแล้วไม่เคยได้คิว ให้บอกน้องสาวได้เลยค่ะว่าเคยจองหลายรอบไม่เคยได้เลย จะจัดให้ก่อนค่ะ
๓. นัดไว้ไม่มาตามนัด
ทางเราจะโทรไปเตือนนัดก่อนหนึ่งวันอยู่แล้ว ถ้ามีธุระด่วนหรือมาไม่ทัน สามารถเลื่อนได้โดยไม่ต้องรอคิวค่ะ แต่บางคนที่บอกว่าจะมาแต่ไม่มาและไม่โทรมาแจ้งอีกเลย กรณีนี้พบบ่อยมากเลยค่ะ ซึ่งจะทำให้คิวว่างไป ทำให้คนที่อยากดูดวงมากจะไม่ได้ดู ถ้าโทรแจ้งเข้ามาจะทำให้ทางเราสามารถนัดหมายท่านอื่นแทนได้ค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะโวยวายกลับนะคะ เข้าใจค่ะ เพราะชีวิตคนเราไม่สามารถทำอะไรอย่างที่ตั้งใจไว้ร้อยเปอร์เซ็นต์ สำหรับบางคนอาจจะโชคดีได้คิวเร็วเพราะโทรมาตอนที่อีกคนแจ้งว่าไม่มาพอดี
๔.คนที่อยู่ไกลเช่น ต่างจังหวัด ต่างประเทศ สามารถโทรนัดดูดวงทางโทรศัพท์ได้โดยไม่ต้องมาพบค่ะ เพราะปรกติจะมีลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศโทรมาดูดวงอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่จะมีปัญหาคือนัดไว้ไม่โทรมาเหมือนกันค่ะ
ต้องขอโทษจริง ๆ นะคะ สำหรับคนที่จองคิวไม่ได้ ถ้ายังมีความประสงค์อยากดู กรุณาโทรมาเช็คใหม่บอกกับน้องว่าโทรมาหลายรอบแล้วยังไม่ได้คิวเลย จะให้สิทธิ์ลงคิวล่วงหน้าค่ะ ขอบคุณค่ะ
สำหรับเรื่องราวของอาทิตย์นี้ คิดมาเป็นอาทิตย์ยังคิดไม่ออกเลยค่ะว่าจะเขียนเรื่องอะไร เลยอาศัยวิธีเดิม ๆ คือ จะเลือกเรื่องที่เจอซ้ำ ๆ กันมาเขียนเหมือนเดิม คิดว่าคงจะเป็นประโยชน์ที่สุด
เรื่องราวของอาทิตย์ล่าสุดที่เจอคือ คนป่วยเป็นโรคทางจิต ยังไม่ถึงขั้นโรคจิตนะคะ แต่เป็นโรคที่มีความบกพร่องทางใจ ได้รับความทุกข์ทางใจซึ่งไม่สามารถขจัดให้ผ่านพ้นไปได้ในเวลานั้น ซึ่งบางคนสามารถหายได้ในเวลาไม่นาน แต่บางคนอาจจะต้องใช้เวลานานกว่าจะหาย ซึ่งก็แล้วแต่ว่าใครจะไขปมปริศนาได้เร็วแค่ไหน
คนเมืองสมัยนี้มีคนมีปัญหาเรื่องของโรคทางจิตใจค่อนข้างเยอะมาก ซึ่งยังไม่หนักถึงขั้นที่จะเป็นโรคประสาท (บ้า) หรือเป็นโรควิกลจริต เพราะบุคคลเหล่านี้ ส่วนหนึ่งยังทำงานร่วมกับคนในสังคมทั่วไปได้ จะมีแค่บางช่วงเวลาที่จิตใจของพวกเขาเกิดปัญหาขึ้น บางคนจะป่วยทางจิตใจแค่ช่วงสั้น ๆ แต่บางคนยังไม่สามารถไขปมปริศนาหาทางออกได้ อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าจะหาย หรืออาจจะยังไม่หายแต่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังเป็นโรคจิตป่วย บางคนเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองผิดปกติจึงไปพบจิตแพทย์เพื่อใช้ยาช่วย แต่บางคนไม่ยอมรับว่าตัวเองจิตใจป่วย ไม่ยอมไปรักษากับจิตแพทย์ ซึ่งกลุ่มนี้ก็มีเยอะเพราะกลัวว่าคนอื่นจะหาว่าตัวเองมีปัญหา
มีบางคนที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองป่วย แต่ก็ทำตัวผิดปกติจากคนทั่วไป ซึ่งคนใกล้ตัวเท่านั้นที่จะเห็นความผิดปกติได้ ซึ่งพอเจอแบบนี้ก็ต้องทำใจเหมือนกัน เพราะตัวเขาเองไม่ยอมรับนอกจากบอกให้คนใกล้ตัวเขาช่วยเหลือ
สังคมสมัยนี้มีคนป่วยทางจิตใจค่อนข้างเยอะ เพราะเกิดมาต้องต่อสู้ดิ้นรนแย่งชิงแข่งขันกันตั้งแต่เด็กไม่ว่าจะแย่งกันเข้าเรียน แย่งกันทำมาหากิน แย่งชิงคนรัก ฯลฯ ทุกคนล้วนแย่งชิงมาเพื่อความอยู่รอด
ถ้าแค่ทำไปเพื่อความอยู่รอดไม่เป็นไร แต่เมื่อไหร่ทำไปด้วยความอยาก ความโลภ ความโกรธ ความหลง จิตใจจะตกเป็นทาสของกิเลส โดนกิเลสแผดเผาจนจิตมืด
คนยุคใหม่มีความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แต่ไม่พัฒนาจิตใจให้ก้าวหน้าไปตามเทคโนโลยี มีศีลธรรมไว้ครองใจน้อยลง คนในสังคมเลยต้องเป็นโรคจิตป่วย
เคยมีลูกค้าที่เป็นจิตแพทย์มาดูดวงเยอะเลยเหมือนกัน มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความรู้กันด้วย จิตแพทย์ต่างกับหมอดูคือเรียนจบหมอ มีวิชาความรู้ที่เป็นวิทยาศาสตร์ ห้ามใช้การคาดเดาเด็ดขาด
พี่ ๆ เขาเล่าให้ฟังว่า อาจารย์จะสั่งสอนลูกศิษย์เสมอว่าห้ามใช้เซ้นส์ เพราะถ้าใช้เซ้นส์ในการรักษาเมื่อไหร่ ก็ไม่ต่างจากหมอดูหรือหมอไสยศาสตร์ แต่เขาแอบบอกว่าอดไม่ได้หรอกเผลอใช้ทุกทีแหละ พร้อมกับหัวเราะกันสนุก ๆ จิตแพทย์จะมีเจโตอ่อน ๆ อยู่ในตัวด้วยค่ะ
เขายังบอกอีกว่า จิตแพทย์ในเมืองไทยยังมีไม่เยอะ ประมาณสามพันกว่าคนเอง เป็นสาขาที่ค่อนข้างมีคนเรียนน้อย ไม่แปลกใจเลยค่ะ เพราะคนที่จะเรียนจบทำงานทางนี้ได้ จิตใจต้องแข็งแรงมากพอ ไม่อย่างนั้นหมอจะบ้าไปก่อนคนไข้ เพราะวัน ๆ ต้องเจอแต่คนที่จิตผิดปกติ ไม่ใช่รักษาวันเดียวจะหายด้วย ซึ่งสำหรับตัวพีร์เองทั้งวันยังเจอคนจิตใจปกติมากกว่าคนที่จิตผิดปกติ จิตใจยังแอบสะสมขยะของลูกค้าติดมาทำให้ตัวเองต้องเกิดความทุกข์ อย่างที่เคยบอกไว้ว่าถ้าไม่ได้ฝึกวิปัสสนา ไม่เจอครูบาอาจารย์ช่วยฉุด คงเป็นบ้าไปก่อนแล้ว
พอเห็นจิตใจคนที่เป็นจิตแพทย์เลยไม่สงสัยเหมือนกันค่ะ เหมือนกับที่พีร์เป็นเลย บางครั้งทุกข์ไม่มีสาเหตุ ใจร้อนไม่มีสาเหตุ หงุดหงิดง่ายไม่มีสาเหตุ เป็นผลจากการที่จิตติดกิเลส ซึ่งพี่ ๆ ที่เป็นจิตแพทย์บอกว่า โดยส่วนตัวจิตแพทย์ก็ต้องมีอาจารย์คอยช่วยเหมือนกัน
ไดอารี่หมอดู หน้าที่ 40 ค่ะ จาก หนังสือธรรมะใกล้ตัว ฉบับที่ 40 ค่ะ
เมษายน ๑๕๔๑
สวัสดีค่ะ ทุกคนที่ติดตามอ่านไดอารี่หมอดู ก่อนอื่นต้องขอประกาศเรื่องคิวอีกครั้งหนึ่งนะคะ คือทางเราพบปัญหาเรื่องของการจองคิวหลายเรื่อง เนื่องจากมีคนติดต่อมาดูดวงค่อนข้างเยอะทำให้ไม่สามารถให้คิวได้เร็วตามที่ต้องการ และยังมีข้อบกพร่องในเรื่องการรับคิวทำให้บางคนไม่ได้รับคิวเพื่อดูดวง
ปัญหาที่พบมากที่สุดคือ
๑. สื่อสารกับคนรับคิวไม่รู้เรื่อง
ปกติพีร์จะให้น้องสาวเป็นคนรับโทรศัพท์ โดยให้ฝากเบอร์ไว้ก่อน และทางเราจะติดต่อกลับเองเมื่อถึงคิว ถ้าไม่ฝากเบอร์ไว้จะไม่ได้รับคิวค่ะ มีหลายคนโทรมาบอกว่าต้องการที่จะดูดวงเลย ก็จะไม่ค่อยมีคิวให้ค่ะ และถ้าไม่ฝากเบอร์โทรเพื่อติดต่อกลับไว้ พอโทรมาถามครั้งที่สองว่าคิวว่างไหม น้องสาวพีร์จะบอกว่าคิวเต็มแล้ว
สำหรับบางคนจะไม่ฝากเบอร์ไว้ หรือบางครั้งบอกว่าจะขอจองเดือนหน้า น้องสาวจะตอบว่าคิวยังไม่ออก และน้องสาวจะบอกว่าให้ฝากเบอร์ไว้ มีหลาย ๆ คนมักจะไม่ฝากไว้ เลยทำให้เข้าใจผิดว่าไม่ได้คิว สำหรับบางคนที่มีเรื่องด่วนจริง ๆ ให้แจ้งกับน้องสาวไว้ได้ว่ามีเรื่องด่วนต้องการเร็วนิดหนึ่งได้ค่ะ
๒. เมื่อติดต่อกลับไปไม่มีคนรับโทรศัพท์ หรือเบอร์ที่ติดต่อกลับเป็นคนละเบอร์กับคนที่ติดต่อมา
ลูกค้าบางท่านอาจจะไม่ทราบว่าเป็นเบอร์ของใคร เลยไม่ได้สนใจติดต่อโทรกลับมา หรือบางทีโทรกลับไปก็มักจะปิดเครื่อง สำหรับบางคนที่จองมานานแล้วไม่เคยได้คิว ให้บอกน้องสาวได้เลยค่ะว่าเคยจองหลายรอบไม่เคยได้เลย จะจัดให้ก่อนค่ะ
๓. นัดไว้ไม่มาตามนัด
ทางเราจะโทรไปเตือนนัดก่อนหนึ่งวันอยู่แล้ว ถ้ามีธุระด่วนหรือมาไม่ทัน สามารถเลื่อนได้โดยไม่ต้องรอคิวค่ะ แต่บางคนที่บอกว่าจะมาแต่ไม่มาและไม่โทรมาแจ้งอีกเลย กรณีนี้พบบ่อยมากเลยค่ะ ซึ่งจะทำให้คิวว่างไป ทำให้คนที่อยากดูดวงมากจะไม่ได้ดู ถ้าโทรแจ้งเข้ามาจะทำให้ทางเราสามารถนัดหมายท่านอื่นแทนได้ค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะโวยวายกลับนะคะ เข้าใจค่ะ เพราะชีวิตคนเราไม่สามารถทำอะไรอย่างที่ตั้งใจไว้ร้อยเปอร์เซ็นต์ สำหรับบางคนอาจจะโชคดีได้คิวเร็วเพราะโทรมาตอนที่อีกคนแจ้งว่าไม่มาพอดี
๔.คนที่อยู่ไกลเช่น ต่างจังหวัด ต่างประเทศ สามารถโทรนัดดูดวงทางโทรศัพท์ได้โดยไม่ต้องมาพบค่ะ เพราะปรกติจะมีลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศโทรมาดูดวงอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่จะมีปัญหาคือนัดไว้ไม่โทรมาเหมือนกันค่ะ
ต้องขอโทษจริง ๆ นะคะ สำหรับคนที่จองคิวไม่ได้ ถ้ายังมีความประสงค์อยากดู กรุณาโทรมาเช็คใหม่บอกกับน้องว่าโทรมาหลายรอบแล้วยังไม่ได้คิวเลย จะให้สิทธิ์ลงคิวล่วงหน้าค่ะ ขอบคุณค่ะ
สำหรับเรื่องราวของอาทิตย์นี้ คิดมาเป็นอาทิตย์ยังคิดไม่ออกเลยค่ะว่าจะเขียนเรื่องอะไร เลยอาศัยวิธีเดิม ๆ คือ จะเลือกเรื่องที่เจอซ้ำ ๆ กันมาเขียนเหมือนเดิม คิดว่าคงจะเป็นประโยชน์ที่สุด
เรื่องราวของอาทิตย์ล่าสุดที่เจอคือ คนป่วยเป็นโรคทางจิต ยังไม่ถึงขั้นโรคจิตนะคะ แต่เป็นโรคที่มีความบกพร่องทางใจ ได้รับความทุกข์ทางใจซึ่งไม่สามารถขจัดให้ผ่านพ้นไปได้ในเวลานั้น ซึ่งบางคนสามารถหายได้ในเวลาไม่นาน แต่บางคนอาจจะต้องใช้เวลานานกว่าจะหาย ซึ่งก็แล้วแต่ว่าใครจะไขปมปริศนาได้เร็วแค่ไหน
คนเมืองสมัยนี้มีคนมีปัญหาเรื่องของโรคทางจิตใจค่อนข้างเยอะมาก ซึ่งยังไม่หนักถึงขั้นที่จะเป็นโรคประสาท (บ้า) หรือเป็นโรควิกลจริต เพราะบุคคลเหล่านี้ ส่วนหนึ่งยังทำงานร่วมกับคนในสังคมทั่วไปได้ จะมีแค่บางช่วงเวลาที่จิตใจของพวกเขาเกิดปัญหาขึ้น บางคนจะป่วยทางจิตใจแค่ช่วงสั้น ๆ แต่บางคนยังไม่สามารถไขปมปริศนาหาทางออกได้ อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าจะหาย หรืออาจจะยังไม่หายแต่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังเป็นโรคจิตป่วย บางคนเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองผิดปกติจึงไปพบจิตแพทย์เพื่อใช้ยาช่วย แต่บางคนไม่ยอมรับว่าตัวเองจิตใจป่วย ไม่ยอมไปรักษากับจิตแพทย์ ซึ่งกลุ่มนี้ก็มีเยอะเพราะกลัวว่าคนอื่นจะหาว่าตัวเองมีปัญหา
มีบางคนที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองป่วย แต่ก็ทำตัวผิดปกติจากคนทั่วไป ซึ่งคนใกล้ตัวเท่านั้นที่จะเห็นความผิดปกติได้ ซึ่งพอเจอแบบนี้ก็ต้องทำใจเหมือนกัน เพราะตัวเขาเองไม่ยอมรับนอกจากบอกให้คนใกล้ตัวเขาช่วยเหลือ
สังคมสมัยนี้มีคนป่วยทางจิตใจค่อนข้างเยอะ เพราะเกิดมาต้องต่อสู้ดิ้นรนแย่งชิงแข่งขันกันตั้งแต่เด็กไม่ว่าจะแย่งกันเข้าเรียน แย่งกันทำมาหากิน แย่งชิงคนรัก ฯลฯ ทุกคนล้วนแย่งชิงมาเพื่อความอยู่รอด
ถ้าแค่ทำไปเพื่อความอยู่รอดไม่เป็นไร แต่เมื่อไหร่ทำไปด้วยความอยาก ความโลภ ความโกรธ ความหลง จิตใจจะตกเป็นทาสของกิเลส โดนกิเลสแผดเผาจนจิตมืด
คนยุคใหม่มีความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แต่ไม่พัฒนาจิตใจให้ก้าวหน้าไปตามเทคโนโลยี มีศีลธรรมไว้ครองใจน้อยลง คนในสังคมเลยต้องเป็นโรคจิตป่วย
เคยมีลูกค้าที่เป็นจิตแพทย์มาดูดวงเยอะเลยเหมือนกัน มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความรู้กันด้วย จิตแพทย์ต่างกับหมอดูคือเรียนจบหมอ มีวิชาความรู้ที่เป็นวิทยาศาสตร์ ห้ามใช้การคาดเดาเด็ดขาด
พี่ ๆ เขาเล่าให้ฟังว่า อาจารย์จะสั่งสอนลูกศิษย์เสมอว่าห้ามใช้เซ้นส์ เพราะถ้าใช้เซ้นส์ในการรักษาเมื่อไหร่ ก็ไม่ต่างจากหมอดูหรือหมอไสยศาสตร์ แต่เขาแอบบอกว่าอดไม่ได้หรอกเผลอใช้ทุกทีแหละ พร้อมกับหัวเราะกันสนุก ๆ จิตแพทย์จะมีเจโตอ่อน ๆ อยู่ในตัวด้วยค่ะ
เขายังบอกอีกว่า จิตแพทย์ในเมืองไทยยังมีไม่เยอะ ประมาณสามพันกว่าคนเอง เป็นสาขาที่ค่อนข้างมีคนเรียนน้อย ไม่แปลกใจเลยค่ะ เพราะคนที่จะเรียนจบทำงานทางนี้ได้ จิตใจต้องแข็งแรงมากพอ ไม่อย่างนั้นหมอจะบ้าไปก่อนคนไข้ เพราะวัน ๆ ต้องเจอแต่คนที่จิตผิดปกติ ไม่ใช่รักษาวันเดียวจะหายด้วย ซึ่งสำหรับตัวพีร์เองทั้งวันยังเจอคนจิตใจปกติมากกว่าคนที่จิตผิดปกติ จิตใจยังแอบสะสมขยะของลูกค้าติดมาทำให้ตัวเองต้องเกิดความทุกข์ อย่างที่เคยบอกไว้ว่าถ้าไม่ได้ฝึกวิปัสสนา ไม่เจอครูบาอาจารย์ช่วยฉุด คงเป็นบ้าไปก่อนแล้ว
พอเห็นจิตใจคนที่เป็นจิตแพทย์เลยไม่สงสัยเหมือนกันค่ะ เหมือนกับที่พีร์เป็นเลย บางครั้งทุกข์ไม่มีสาเหตุ ใจร้อนไม่มีสาเหตุ หงุดหงิดง่ายไม่มีสาเหตุ เป็นผลจากการที่จิตติดกิเลส ซึ่งพี่ ๆ ที่เป็นจิตแพทย์บอกว่า โดยส่วนตัวจิตแพทย์ก็ต้องมีอาจารย์คอยช่วยเหมือนกัน