สวัสดีค่ะปกติจะอยู่แต่ในก้นครัวเขียนรีวิวทำแต่ขนม ทำเค้ก วันนี้ขอมาเปลี่ยนบรรยากาศมาเขียนรีวิวการท่องเที่ยวบ้าง เราตั้งใจจะเขียนบทความแนะนำสถานที่แห่งนี้ตั้งแต่เมื่อสิ้นปีที่แล้วแต่ยังไม่ค่อยมีเวลาสักเท่าไหร่ จนมาถึงวันนี้ซึ่งเป็นช่วงเวลาการเปลี่ยนผ่านฤดูจากฤดูใบไม้ผลิไปเป็นฤดูร้อนของญี่ปุ่นซึ่งก็เหลือเวลาเดือนกว่า ๆ รีวิวนี้อาจจะเป็นรีวิวที่หลงเทศกาล และดีเลย์ไปนิสนึง 555 แต่ใครที่มีแพลนไปเยือนคันไซกลางปีนี้ก็ดี สิ้นปียิ่งดีใหญ่เพราะใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่คือจุดที่แนะนำอีกแห่งในเกียวโต ... เตรียมพร้อมกันเสร็จแล้วเริ่มออกเดินทางกันเลยดีกว่าค่ะ



Ohara (โอฮาระ)

เป็นเมืองเล็ก ๆ ทางด้านตะวันออกค่อนไปทางเหนือของ Kyoto ล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ อาชีพที่หล่อเลี้ยงคนที่นี่คือ "งานเกษตรกรรม" พื้นที่แห่งนี้ยังเป็นพื้นที่ที่หล่อเลี้ยงเมืองเกียวโตเปรียบเสมือนครัวขนาดใหญ่ก็ว่าได้ การผลิตผักดองของขึ้นชื่อจังหวัดเกียวโตก็เกิดขึ้นจากที่โอฮาระ และถูกขนส่งไปขายตามสถานที่ท่องเที่ยวในเกียวโตและในร้านอาหารทั่ว ๆ ไป หลายคนคงเคยดูซากะตอนที่น้องเก้าไปทำงานเป็นชาวไร่ โอฮาระก็ให้บรรยากาศแบบในซีรี่ย์ซากะเลยค่ะ

การเดินทาง

ในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวจำนวนมากหลั่งไหลกันไปที่โอฮาระ ยีนบนรถ bus เป็นชั่วโมงเพราะรถติดมาก ๆ บริเวณด้านบน ทุกคนต่างก็พากันมาดูใบไม้เปลี่ยนสีและธรรมชาติที่สวยงามท่ามกลางอุณหภูมิที่หนาวเย็น เราเตรียมภาพประกอบเล็ก ๆ น้อย ๆ มาเพื่อให้เห็นภาพการเดินทางได้ง่ายขึ้นนะคะ (ไปไม่ยากเลยค่ะง่ายมาก ๆ)

เริ่มจาก Kyoto Station ด้านหน้าจะมีรถบัสจอดอยู่เยอะแยะมากมาย ทางด้านซ้ายมือจะเป็น Kyoto City Bus (เดินทางรอบเมืองเกียวโต) ส่วนทางขวาจะเป็น Kyoto Bus (เดินทางบริเวณรอบนอกไปทางชานเมืองเกียวโตค่ะ)

Kyoto Station : Bus ที่จะนำพาเราไปโอฮาระคือ "Kyoto Bus สาย 17"
-ไม่สามารถใช้บัตร Kyoto City Bus 1 day pass 500 yen ได้
-สามารถใช้บัตร Kyoto Signseeing 1 day pass 1200 yen ได้
-หยอดเหรียญได้ในราคา 600 yen ไปกลับ 1200 yen
-ใช้เวลาเดินทาง 60 นาที

และอีกเส้นทางหนึ่งที่จะนำพาเราไปยังโอฮาระคือบริเวณด้านหน้าสถานี Kokusaikaikan Station เป็นสถานีปลายทางของ Karasuma Line ราคาจะแตกต่างกันมากถ้าเทียบจาก Kyoto Station เพราะสถานีนี้อยู่ในเขตพื้นที่ Sakyo-ku มีระยะทางที่ใกล้กว่า ใช้เวลาการเดินทางน้อยกว่า

Kokusaikaikan Station : "Kyoto Bus สาย 19"
-หยอดเหรียญได้ในราคา 290 yen
-ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที



สถานที่ท่องเที่ยว

Ohara นอกจากจะเป็นพื้นที่การทำเกษตรกรรมแล้วยังมีวัดและศาลเจ้าตั้งอยู่หลายแห่ง พอเราลงจากรถ bus เราเริ่มจากทางซ้ายมือตามแผนที่ใครจะไปขวาก่อนก็ได้เอาที่สบายใจค่ะ 555 วัดแรกที่เราจะเจอ

Hosenin Temple    (เราไม่ได้เข้าไปค่ะ)
เวลาเปิดปิด : 9 โมงเช้า - 5 โมงเย็นค่ะ
ราคา : 800 Yen (รวมชา traditional และขนมหวานข้างใน)

Sanzenin Temple
เวลาเปิดปิด : 9 โมงเช้า - 5 โมงครึ่งเย็นค่ะ (เดือนพฤศจิกายนจะเป็น 8 โมงครึ่งเช้า ในเดือนธันวาคม ถึงเดือนกุมภาพันธ์จะปิดเวลา 4 โมงครึ่งเย็นค่ะ)
ราคา : 700 Yen

ช่วงที่เราไปใบไม้แดงช้าค่ะ คือกำลังสับสนว่าจะแดงหรือจะเขียวดี บางต้นก็สับสนหนักยังแดงไม่หมดก็สลัดใบทิ้งซะแล้ว





มีรูปปั้นเด็กอยู่ด้านซ้ายมือค่ะ เป็นเทพเจ้าคุ้มครองเด็กๆที่นี่



Shorinin Temple (ไม่ได้เข้าค่ะ)
เวลาเปิดปิด : 9 โมงเช้า - 5 โมงเย็นค่ะ (ช่องตั๋วปิด 4 โมงครึ่งเย็น)
ราคา : 300 yen

Raigoin Temple
เวลาเปิดปิด : 9 โมงเช้า - 5 โมงเย็นค่ะ
ราคา : 400 yen

บรรยากาศด้านในค่อนข้างวังเวค่ะเหมือนมาเดินป่าเล็ก ๆ ค่ะ



Otonashi no Taki สารภาพว่าเดินมาไม่ถึงค่ะ เราใช้เวลาเดินสถานที่ด้านบนประมาณ 4 ชั่วโมงได้ เดินถึงแค่ศาลเจ้า raigoin มีความเหนื่อยและจะเป็นลมสูงเลยเดินย้อนกลับเพื่อไปเดินอีกฝั่ง

หมู่บ้านเกษตรกรรม



ทางเข้าหมู่บ้านและด้านล่างก็จะเป็นบรรยากาศรอบ ๆ หมู่บ้านค่ะ





นึกว่าอยู่ในเรื่องซากะค่ะ







ร้านขายของพื้นเมืองของ Ohara ค่ะ



น่ารักมากเลยค่ะ จขกท.ชอบมาก








Jakkoin Temple (ไม่ได้เข้าค่ะเพราะปิดแล้วตอนไปถึง TT)
เวลาเปิดปิด : 9 โมงเช้า - 5 โมงเย็นค่ะ
ราคา : 600 บาท (600 Yen ค่ะพิมพ์ผิดไปเยอะเลย)

สุดท้ายแล้วค่ะสำหรับรีวิว

ถ้าใครมาเกียวโตแล้วจะเดินทางมา Ohara แนะนำให้มาแต่เช้า จะได้ไม่เหนื่อยมากเพราะต้องเดินเยอะ ร้านขายของทั่วไปตามทางเดินปิดไวไม่ก็ของหมดเร็วมาก ผักดองข้างบนนี้ซื้อร้านไหนก็ได้อร่อยหมดทุกร้านค่ะ 555 จขกท.จะซื้อแยมแอปเปิ้ลจากร้านนึงมาทำพายแต่หมด หมดแต่แอปเปิ้ลด้วยเศร้าใจ ทิ้งท้ายไว้ด้วยรูปร้านค้าข้างบนนี้และเจ้าชิบะที่แสนเชื่อง ^^ ขอบคุณนะคะ