[Movie Review] Captain America: Civil War-หนังมาร์เวล ณ จุดสูงสุด


[หนังโรงเรื่องที่ 133]Captain America: Civil War-หนังมาร์เวล ณ จุดสูงสุด ; (Anthony/Joe Russo,2016) by ตั๋วหนังมันแพง

คะแนน : 12/10 (ชอบมาก ต้องดูซักครั้งในชีวิต)

*ไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญ

เรื่องย่อ : หลังจากเหตุการณ์ต่างๆ ทั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับเหล่าอเวนเจอร์สได้ทำให้เกิดความเสียหายและส่งผลกระทบไปสู่ผู้บริสุทธิ์อื่นๆ สหประชาชาติและกว่า 117 ประเทศทั่วโลกได้กดดันให้มีการจัดระบบขอบเขตความรับผิดชอบหน่วยอเวนเจอร์สเพื่อควบคุมและกำกับดูแลพวกเขา ส่งผลให้เกิดการแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งนำทีมโดย สตีฟ โรเจอร์(Chris Evans) และความต้องการที่จะให้อเวนเจอร์สยังคงปกป้องมนุษยชาติได้อย่างมีอิสรภาพโดยปราศจากการแทรกแซง และอีกหนึ่งทีมนำโดย โทนี่ สตาร์ค(Robert Downey Jr.) ผู้สนับสนุนมาตรการในการถูกควบคุมดูแลโดยรัฐบาล การปะทะของสองแนวคิดที่ดุเดือดที่สุดจึงเกิดขึ้น

ความรู้สึกแรกเลยที่ได้สัมผัสหนังคือว้าววววววววววววววววมากก คือหวังไว้อยู่แล้วมันจะสนุกแต่ก็ไม่คิดว่าจะสนุกขนาดนี้! ส่วนตัวคิดว่าหนังก็ยังยึดมั่นกับเคล็ดลับความสำเร็จของหนังมาร์เวลได้เป็นอย่างดี โดยการมีองค์ประกอบที่เหมาะสมระหว่างเนื้อเรื่องที่เป็นเหตุเป็นผลและฉากแอคชั่นที่อัดแน่นชนิดอิ่มแน่น เรียกได้ว่าเป็นสมดุลที่ยอดเยี่ยมสมดังที่แฟนๆคาดหวังไว้เลยทีเดียว
.
สิ่งแรกที่ชอบคือแกนหลักของเรื่องที่มันชี้ถึงความขัดแย้งของแนวคิดที่ชัดเจน และการปะทะคารมอันทรงพลังของตัวละครแกนนำทั้งสองในช่วงต้นเรื่องซึ่งอยู่ในจุดยืนที่ 'หลังชนฝา' ทั้งคู่ คือทั้งสตีฟและโทนี่เองไม่สามารถถอย/ประนีประนอมได้ไปมากกว่านี้แล้ว มันเลยทำให้ฉากต่อสู้ระหว่างผองเพื่อนมันกลายเป็นซีนอารมณ์ได้อย่างทรงพลังและสมเหตุสมผลมากขึ้น
.
สิ่งที่สองที่น่าชื่นชมมากคือเทคนิคภาพที่ถูกใช้ในฉากต่อสู้ที่ทำให้หนังมีความพิเศษมากขึ้นเป็นกอง ซึ่งโจทย์ที่ยากของหนังเรื่องนี้คือการที่ต้องเอาตัวละครเด่นๆจำนวนมากมาใส่เข้าไปในฉากเดียวกัน ซึ่งต้องชื่นชมผู้กำกับที่สามารถเกลี่ยบทและคิวบู๊ได้ออกมาราบรื่นและแนบเนียนมาก ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าตัวละครแต่ละตัวก็จะมีการเคลื่อนไหวของกล้องที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เช่นสไปเดอร์แมนเองก็จะมีฉากที่เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วและผาดโผนมากเป็นพิเศษ เป็นต้น
.
นอกจากฉากบู๊และเนื้อเรื่องที่เข้าท่าแล้ว เสน่ห์ของหนังมาร์เวลอย่างอารมณ์ขันก็ยังถูกนำเสนอได้ดีเยี่ยม มีการปล่อยมุกที่กลมกลืนกับสถานการณ์ต่างๆออกมารัวๆชนิดว่าคนดูอย่างเราๆขำจนท้องแข็งกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะการเปิดตัว Spider-Man คนใหม่รับบทโดยเจ้าหนุ่มหน้าใสอย่าง Tom Holland ก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง เป็นสไปเดอร์แมนที่อยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็น-พูดพล่ามน้ำไหลไฟดับและปล่อยมุกโก๊ะๆออกมาให้แม่ยกทั้งหลายกรี๊ดกร๊าดเล่น ก็ถือเป็นสัญญานที่ดีหาก Marvel จะซื้อสัญญาสไปเดอร์แมนกลับมาแล้วสร้างหนังของตัวเอง หลังจากที่พลัดพรากกันไปนับสิบปีนู่นแน่ะ
.
ความเท่อีกอย่างคือการที่หนังสามารถทรานซิชั่นอารมณ์จากฉากตะลุมบอนกันที่สนามบินที่มันส์-ฮาสุดเหวี่ยงไปยังพาร์ทดราม่าระหว่าง สตีฟ-บักกี้-โทนี่ ในองก์สุดท้ายของเรื่องได้อย่างแนบเนียน ซึ่งขอบอกเลยว่าในใจนี่คิดถูกแล้วที่เลือกทีมไอรอนแมน เพราะโทนี่ในภาคนี้น่าสงสารมากกกกกก และเป็นอีกมิตินึงที่โทนี่กลายเป็น 'โทนี่ที่มีเหตุผล' ซึ่งสลับบทบาทกับ 'กัปตันเจ้าอารมณ์' ชนิดคนละขั้วกันเลย เอาเป็นว่าไม่อยากเล่าเยอะ ไม่อยากไปแตะกับเนื้อเรื่องหลักเท่าไหร่ ลองไปดูเอาแล้วกัน
.
สรุปง่ายๆคือ Civil War เป็นหนังที่มีองค์ประกอบทุกอย่างที่เราต้องการ และเป็นหนังมาร์เวลที่ยอดเยี่ยมอย่างที่มันควรจะเป็น มีทั้งมุกตลกที่ไม่อั้น, คิวบู๊ที่อัดแน่นชนิดไม่ให้พักหายใจและเรื่องราวมิติตัวละครที่เข้มข้นน่าติดตาม ทั้งหมดทั้งมวลนี้ผู้เขียนจึงกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า 'มันเป็นหนังที่ดีที่สุดของครึ่งปีแรก' ยังไงไม่อยากให้พลาดการดูในโรงจริงๆนะ

ป.ล.1 Scarlett Witch นางเมพมาก พลังสูงส่งเหลือเกิน ภาคหน้าอย่าลืม nerf นางด้วยล่ะ
ป.ล.2 Hawkeye เป็นตัวละครเดียวที่ให้ความรู้สึกผิดที่ผิดทางมากๆ
ป.ล.3 มี end-credit 2 ตอนจ้า

หากชื่นชอบรีวิวสามารถติดตามเพจได้ที่ https://www.facebook.com/expensivemovie หรือค้นหาคำว่า "ตั๋วหนังมันแพง" ได้ที่หน้า Facebook ครับ ..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่