ไปดูมาเป็นที่เรียบร้อย Captain America : Civil War
ต้องบอกว่ากลมกล่อมที่สุดในบรรดาหนังจักรวาลมาเวล แค่เริ่มต้น ก็ตรึงให้นั่งติดเก้าอี้ ละสายตาไปไม่ได้
การเล่าเรื่องกระชับ และการดำเนินเรื่องก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่ ปล่อยหมัดฮุกมาเป็นระยะ โกยแต้มกระจาย
ในส่วนเนื้อเรื่องการกระจายบททำได้ดีเลยทีเดียว
ทำให้เห็นว่าทุกคนมีจุดยืนเป็นของตัวเอง ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก
ตัวร้าย บารอน ซิมโม มีความเป็นจริงมาก อารมณ์สูญเสียของคนที่ปล่อยให้ความโกรธครอบงำ นำมาซึ่งหายนะ
เป็นตัวร้ายอัฉริยะเลยทีเดียว ปั่นหัว ให้เกิดรอยร้าว ในทีมอะเวนเจอร์ โดยไม่สนวิธีการว่าจะเสียหายขนาดไหน
พูดถึงน้องใหม่อย่าง แบล็ค แพนเทอร์ และ สไปดี้
แบล็ค แพนเทอร์ เปิดตัวได้เท่มาก สุขุม นุ่มลึก แต่เปี่ยมไปด้วยพลัง
เกือบจะเป็นอีกคนที่ปล่อยให้ความโกรธครอบงำ ดีที่รู้ความจริง และดึงสติกลับมาได้
หนังปูทางสู่หนังเดี่ยวเรียบร้อยและจาก end cradit เราอาจได้เห็นทีมแคปหรือกัปตันมาแจมหนังเดี่ยวของ แบล็ค แพนเทอร์
ส่วนสไปดี้ กลับสู่อ้อมอกมาเวล ได้โดดเด่น อย่างกับถอดแบบในคอมมิคมาเลยทีเดียว ยียวน กวนประสาท พูดน้ำไหลไฟดับ ขนาดสู้ ยังจ้อไม่หยุด
ถือว่าเป็นการกลับมาที่โดดเด่น และได้ปูทางสู่หนังเดี่ยวของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยโดยมีโทนี่ สแต๊งค์ ไปแจมแน่ๆ 555+
ฉากต่อสู้ ต้องบอกว่ามีให้ชมตั้งแต่ต้นเรื่องจนถึงท้ายเรื่อง ต้นเรื่องเป็นการสู้เพื่อปกป้องแต่เกิดการผิดพลาด
เลยนำไปสุ่เหตุการณ์ การออกกติกา เพื่อควบคุมเหล่าฮีโร่ ไม่ให้สร้างความเสียหายไปมากกว่าเดิม
กลางเรื่องเป็นฉากใหญ่ของการต่อสู้ การต่อสู้เพราะแตกต่างทางด้านความคิด
และการมีจุดยืนเป็นของตัวเองไม่รับฟังกัน สร้างความเสียหายและความเสียใจที่มากขึ้นเมื่อไม่สามารถตกลงกันได้
การต่อสู้ท้ายเรื่อง เป็นการต่อสู้ที่หลากอารมณ์ เศร้า โกรธ และจบด้วยการพ่ายแพ้ของทั้งสองฝ่าย
หนังไม่ได้ให้เลือกข้าง แต่กลับชี้ให้เห็นถึงทางออกผ่านทาง แบล็ค แพนเทอร์ ซีนเล็กๆแต่ความหมายยิ่งใหญ่
ถือว่าดูเพลินตั้งแต่ต้นจนจบ และก็ทิ้งร่องรอยในหนังไว้พอสมควร เพื่อนำไปสู่จักรวาลมาเวล
ไปดูมาแล้ว Captain America : Civil War (สปอยแน่ๆ)
ต้องบอกว่ากลมกล่อมที่สุดในบรรดาหนังจักรวาลมาเวล แค่เริ่มต้น ก็ตรึงให้นั่งติดเก้าอี้ ละสายตาไปไม่ได้
การเล่าเรื่องกระชับ และการดำเนินเรื่องก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่ ปล่อยหมัดฮุกมาเป็นระยะ โกยแต้มกระจาย
ในส่วนเนื้อเรื่องการกระจายบททำได้ดีเลยทีเดียว
ทำให้เห็นว่าทุกคนมีจุดยืนเป็นของตัวเอง ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก
ตัวร้าย บารอน ซิมโม มีความเป็นจริงมาก อารมณ์สูญเสียของคนที่ปล่อยให้ความโกรธครอบงำ นำมาซึ่งหายนะ
เป็นตัวร้ายอัฉริยะเลยทีเดียว ปั่นหัว ให้เกิดรอยร้าว ในทีมอะเวนเจอร์ โดยไม่สนวิธีการว่าจะเสียหายขนาดไหน
พูดถึงน้องใหม่อย่าง แบล็ค แพนเทอร์ และ สไปดี้
แบล็ค แพนเทอร์ เปิดตัวได้เท่มาก สุขุม นุ่มลึก แต่เปี่ยมไปด้วยพลัง
เกือบจะเป็นอีกคนที่ปล่อยให้ความโกรธครอบงำ ดีที่รู้ความจริง และดึงสติกลับมาได้
หนังปูทางสู่หนังเดี่ยวเรียบร้อยและจาก end cradit เราอาจได้เห็นทีมแคปหรือกัปตันมาแจมหนังเดี่ยวของ แบล็ค แพนเทอร์
ส่วนสไปดี้ กลับสู่อ้อมอกมาเวล ได้โดดเด่น อย่างกับถอดแบบในคอมมิคมาเลยทีเดียว ยียวน กวนประสาท พูดน้ำไหลไฟดับ ขนาดสู้ ยังจ้อไม่หยุด
ถือว่าเป็นการกลับมาที่โดดเด่น และได้ปูทางสู่หนังเดี่ยวของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยโดยมีโทนี่ สแต๊งค์ ไปแจมแน่ๆ 555+
ฉากต่อสู้ ต้องบอกว่ามีให้ชมตั้งแต่ต้นเรื่องจนถึงท้ายเรื่อง ต้นเรื่องเป็นการสู้เพื่อปกป้องแต่เกิดการผิดพลาด
เลยนำไปสุ่เหตุการณ์ การออกกติกา เพื่อควบคุมเหล่าฮีโร่ ไม่ให้สร้างความเสียหายไปมากกว่าเดิม
กลางเรื่องเป็นฉากใหญ่ของการต่อสู้ การต่อสู้เพราะแตกต่างทางด้านความคิด
และการมีจุดยืนเป็นของตัวเองไม่รับฟังกัน สร้างความเสียหายและความเสียใจที่มากขึ้นเมื่อไม่สามารถตกลงกันได้
การต่อสู้ท้ายเรื่อง เป็นการต่อสู้ที่หลากอารมณ์ เศร้า โกรธ และจบด้วยการพ่ายแพ้ของทั้งสองฝ่าย
หนังไม่ได้ให้เลือกข้าง แต่กลับชี้ให้เห็นถึงทางออกผ่านทาง แบล็ค แพนเทอร์ ซีนเล็กๆแต่ความหมายยิ่งใหญ่
ถือว่าดูเพลินตั้งแต่ต้นจนจบ และก็ทิ้งร่องรอยในหนังไว้พอสมควร เพื่อนำไปสู่จักรวาลมาเวล