บางกระเจ้า...ลมหายใจสุดท้ายชายขอบกรุงเทพ ตายแล้วทำไมเราเปรียบได้โหดร้ายน่ากลัวขนาดนี้
คุณอาจว่าเราเว่อร์แต่เราถ้าคุณลองเข้า Google map แล้วดูภาพแบบดาวเทียม
คุณจะเห็นได้เลยว่าจะมีพื้นที่ลักษณะคล้ายกระเพาะหมูสีเขียวอยู่ใจกลางพื้นที่สีขาวโพลนที่เต็มไปด้วยตึกคอนกรีต
นั่นแหละคือคุ้งบางกระเจ้าในตำนาน พื้นที่ที่พอจะมีสีเขียวผืนสุดท้ายที่ใกล้กรุงที่สุด
ทำหน้าที่รับลมจากอ่าวไทยฟอกอากาศปล่อยสู่พื้นที่เมืองหลวงให้ประชากรอย่างเราๆได้หายใจแบบสะอาดๆอยู่บ้าง
เราก็เคยได้ยินแต่คนพูดมาว่างี้นะ อิอิ ไม่รู้หรอกว่าเป็นไงทั้งๆที่ไม่ไกลจากบ้านเลย
วันนี้เลยขอไปลองของปั่นจักรยานท้าแดดแผดเผาราวกับอยู่ในนรก



ทริปนี้จะเป็นภาพจาก GoPro Hero 4 Silver ของเราทั้งหมดเลยนะคะ
เพราะทริปนี้ไปแบบสบายๆ ไม่เน้นรูปถ่ายจริงจังหรือใช้งาน
ซื้อมาตั้งแต่เดือนพ.ย. ปีที่แล้วแต่ใช้คุ้มมากๆ บางทริปก็แทบจะไม่แตะกล้องตัวใหญ่เลย
ทริปนี้ก็เอากล้องตัวใหญ่มาแต่ก็ไม่ได้แตะแม้แต่นิด
เพราะส่วนใหญ่ปั่นจักรยานเที่ยวเจ้า GoPro นี่ก็เลยเหมาะมากถ่ายออกมาก็ได้มุมกว้างซะใจ
จริงๆอยากตั้งกระทู้รวมภาพที่ถ่ายจาก GoPro ซะเลยแต่ถ่ายไม่ค่อยสวยเลยไม่เอาดีกว่า 55555
ป่ะเราไปปั่นจักรยานท้าแดดเที่ยวบางกระเจ้ากันเลยดีกว่า





ทริปนี้สั้นๆ และค่าใช้จ่ายไม่เยอะมากเราเลยตัดสินใจพักที่บางกระเจ้าด้วย 1 คืนกับที่พักสุดไฮโซแห่งคุ้งบางกระเจ้า
ก็คือ Bangkok Tree House ราคาที่นี่เอาจริงๆก็แอบสูงแต่ด้วยดีไซน์การตกแต่ง
และ Concept ของโรงแรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวกับสไตล์ eco resort อนุรักษ์ธรรมชาติจึงทำให้ที่นี่โดดเด่นกว่าที่อื่นๆ





รูปนี้ชอบมากถ่ายแล้วเห็นถึงต้นไม้ใหญ่ด้านบนด้วยถ้าเป็นกล้อง Mirrorless ของเราถ่ายไม่ได้แน่นอกจากซื้อเลนส์เพิ่ม
เอา GoPro มาถ่ายแนวตั้งตอนแรกก็แปลกๆ นะคะ แต่ก็ออกมาสวยดี







ที่ Bangkok Tree House จะไม่สามารถขับรถยนต์ไปถึงรีสอร์ทได้นะคะ ถ้านำรถยนต์มาจอดที่วัดบางน้ำผึ้งนอกได้เลย
หรือถ้ามาจากฝั่งพระนครจอดที่วัดบางนานอกแล้วข้ามเรือมา สามารถเดินถึงรีสอร์ทได้เลย
แต่ไม่ต้องเช่าจักรยานที่ท่าเรือขี่มารีสอร์ทนะคะ เพราะที่รีสอร์ทมีจักรยานไว้ให้เราใช้ได้ตลอดเวลา
ส่วนเราเดินทางมาบางกระเจ้าจากทางพระประแดง เราก็เลยขับรถเข้ามาจอดที่วัดบางน้ำผึ้งนอก
เราสบายหน่อยเอาไอ้จิ๋วจักรยานคันเล็กมาด้วย ก็เลยไม่ต้องเดินให้เมื่อยเหนื่อยและร้อน
แต่ไม่รู้จะขี่หนีน้องหมาที่นี่ได้รึเปล่าได้ยินมาว่าชอบไล่ฟัดจักรยานอยู่ด้วย



มาถึงก็มีพนักงานมาต้อนรับ พนักงานที่นี่หยิ่งจังคุยด้วยก็ไม่ตอบเราเลยแต่อัธยาศัยดีมากเพราะเราให้ไก่ไปหนึ่งไม้ 555555 จากนั้นก็ตามตลอด





Wellcome Drink ที่นี่เสิร์ฟมาให้ 4 น้ำเลยเป็นน้ำสมุนไพรทั้งนั้นดื่มแล้วสดชื่น



ห้องทีเราเป็นห้อง View with a room เป็นห้องที่ที่นั่งส่วนตัวเป็นเหมือนหอสูงๆ ส่วนตัว
มีที่นอนด้วยใครอยากนอนกลางแจ้งก็ได้เลย บรรยากาศบนนั้นดีมาก ๆ
แต่จริงๆทุกห้องจะสามารถขึ้นไปบนดาดฟ้าได้หมดนอนกินลมชมดาวกันได้ทุกห้องค่ะ
และจะมีห้องแบบ Tree Top Nest ให้ด้วย เดี๋ยวหาชมห้องดีกว่า ห้องมีทั้งหมด 3 ชั้นชั้น 1 – 2
ชั้นดาดฟ้า จริงมันใหญ่จนเป็นบ้านได้เลยแหละ นอนสองคนนี่เหงาเลยเพราะที่นั่นเล่นเยอะมากหลายมุม











พอเข้าเช็คอินเสร็จเราออกมาซื้อของที่ร้านชำหน้าวัดบางน้ำผึ้งนอก
และจะแวะไปชมอุโบสถและวิหารเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลายของวัดบางน้ำผึ้งนอกกัน
เพราะเห็นตอนขับรถเข้ามาก็คิดไว้เลยว่าจะต้องมาชมแน่นอน
เป็นวัดโบราณเก่าแก่ซึ่งเราค่อนข้างชอบสิ่งแบบนี้มาก
พอเข้าไปใกล้ๆก็รู้สึกชอบมากจริงๆอยากให้วัดเป็นแบบนี้หมดเลย 5555
แต่ก็คงไม่ได้เพราะกาลเวลาผ่านไปก็ย่อมผุผังต้องซ่อมแซมปรับปรุงกันใหม่ทั้งเพื่อความสวยงามและความปลอดภัย
และภายในมีภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังอายุกว่า 200 ปีมาแล้วเก่าแก่มากๆคุณค่าที่คุณคู่ควร
คู่ควรที่จะเข้าไปดูไปศึกษากันบ้าง เราเห็นมีวัยรุ่นไปเที่ยวบางกระเจ้ากันเยอะนอกจากไปถ่ายรูปฮิปๆแล้ว
ก็แวะไปเยี่ยมชมรากเหง้าของสังคมไทยกันบ้างนะคะ สวยงามดูเสน่ห์









พอกลับมาถึงรีสอร์ทเราก็ออกไปกินข้าวกัน เราไปที่ร้านอาหารใกล้ๆกับรีสอร์ทเดินไปประมาณสิบก้าวก็ถึงแล้ว
และก็เป็นร้านดังที่บางกระเจ้าด้วยชื่อร้าน "พบรัก" ขายอาหารและเครื่องดื่มบรรยากาศดี
แต่ราคาก็ไม่ค่อยดีเหมือนบรรยากาศเท่าไหร่
เราสั่งอาหารง๊ายง่ายคือกระเพราะหมูไข่ดาวกับข้าวไข่เจียวกุ้งสับโค้ก 1 ขวด ทั้งหมด 225 บาท
แต่รสชาติก็ใช้ได้ค่ะ ถือว่าจ่ายค่าบรรยากาศไปด้วย











กินอาหารเย็นเสร็จเราก็กลับมานั่งเล่นที่ห้องเพราะมุมนั่งเล่นเยอะเหลือเกินจะไปนั่งที่อื่นก็คงไม่ใช่นะ
นอนกินลมชมดาวกันต่อตอนกลางคืนโรแมนติกสุดๆ
ถ้ายุงมันไม่กัดไม่ซิจริงๆเรียกว่ามันจะฆ่าเรามากกว่าคือกัดได้โหดมากกัดยันเล็บอ่ะ





นั่งรบราฆ่าฟันกับเหล่ายุงซอมบี้เหล่านั้นสักพักก็ถึงเวลานัดไปดูหิ่งห้อย อ่ะงงอ่ะดิเราก็เคยหาข้อมูลจากรีวิวบางกระเจ้ามายังไม่มีใครเล่าเรื่องไปดูหิ่งห้อยเลยแต่ทางรีสอร์ทแจ้งมาว่ามีบริการนี้ว้าวมากตื่นเต้วๆ ฟรีเฉพาะแขกที่เข้าพัก
แต่ว่าเราไม่มีภาพมาให้เหรอกนะอย่าดูไปเสิร์ชเอา 5555 ไม่ได้พูดเล่นนะพูดจริง
เพราะลุงคนที่พาไปเค้าบอกห้ามเด็ดขาดเพราะถ่ายรูปครั้งนึงหิ่งห้อยหายไปเป็นปีถึงสองปีเลยนะคะ
ถ้าใช้แฟลชนี่หายไปเป็นสิบปีเลยนะคะ โอ้โหเป็นผลกระทบที่รุนแรงมากๆ
แต่ก็ยังไม่วายมีผู้ประกอบการที่เห็นแก่ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวมปล่อยให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปซึ่งนำมาแก่ความวิบัติ
แก่หิ่งห้อยเป็นอย่างมาก สมัยก่อนที่คุ้งบางกระเจ้ามีจุดชมหิ่งห้อยถึง 11 จุดนะคะ
แต่ละจุดมีเป็นหลายพันตัว ปัจจุบันเหลือน้อยมากๆวันที่เราไปได้ดูแค่จุดเดียว
แต่เป็นจุดเดียวที่สร้างความประทับใจมากค่ะ เราได้ดูหิ่งห้อยแบบใกล้มากๆมีหิ่งห้อยเต็มต้นลำพู
สวยและโรแมนติกมากๆ ระยิบระยับอย่างกับต้นคริสมาส เอ้า จริงๆนะ สวยมากๆ
ไม่อยากจะนึกถึงสมัยก่อนนะทำไมเราไม่เกิดมาเร็วกว่านี้เรายอมเกิดในยุคที่ไม่มีเฟสบุ๊คไม่มีไลน์ใช้ก็ได้
ถ้าจะได้สัมผัสกับความสวยงามแบบที่คนรุ่นก่อนได้เคยเห็น เอาภาพรีสอร์ทยามค่ำคืนไปดูแทนแล้วกันนะ



อรุณสวัสดิ์เช้าแล้ววันนี้ละเราจะไปทริปปั่นทัวร์บางกระเจ้ากันอากาศก็ดี๊ดี ดีจนยาหม่องยังละลายเป็นเซียงเพียวอิ๊วได้เลย
ก่อนไปก็ทานอาหารเช้าเพิ่มพลังก่อนไม่งั้นคงสิ้นใจตายตอนปั่นจักรยานแน่ๆ



ก่อนเช็คเอ้าแล้วออกไปปั่นจักรยานเราก็ไป selfie สักหน่อย
อยากจะเล่าว่าเจ้า GoPro คู่ใจถึงไหนถึงกันของเราตัวนี้ช่างมีบุญคุณกับเราเป็นอย่างมาก
เพราะเวลาเราอยู่คนเดียวเจ้านี่แหละช่วยชีวิต ถ่ายเอง โพสเอง แอ๊บแคนดิดบ้างไรบ้าง
แฟนไม่ถ่ายให้เหรอ หึหึ ชั้นไม่ง้อหรอกย่ะ โพสท่าแบบนางแบบเลยใครจะไปรู้ว่าถ่ายเอง 55555
เพราะว่ากล้องสามารถเชือมต่อ Wifi กับมือถือของเราได้
เพราะฉะนั้นจะไปวางไว้มุมไหนก็ได้แล้วเราก็กดถ่ายจากมือถือสบ๊ายสบายคอนเฟิร์ม
ไปดูภาพที่เราถ่ายมากันพอกรุบกริบ เผื่อเป็นไอเดียให้สาวๆ





Selfie จนแดดเผาเกรียมก็ออกไปปั่นจักรยานสร้างผิวแทน (แทนที่จะขาว) กันเถอะ
ที่แรกที่เราจะไปคือตลาดน้ำบางน้ำผึ้งค่ะ จากรีสอร์ทเราจะปั่นผ่านถนนเขียว
ถนนนี้จะเป็นทางสำหรับปั่นจักรยานอยู่เลียบคลอง เส้นนี้เป็นเส้นทางสำหรับนักปั่นเลยค่ะ
วิ่งทางนี้จากรีสอร์ทตัดไปตลาดบางน้ำผึ้งได้ใกล้มากๆค่ะ ถ้าอากาศตอนเย็นๆน่าจะชิลกว่านี้เยอะมาก





สุดทางถนนเขียวเลี้ยวซ้ายนิดนึงก็ถึงทางเข้าตลาดน้ำบางน้ำผึ้งแล้ว
อาหารการกินที่นี่ถิอว่าเยอะแยะมากมายทั้งนั่งกินหรือซื้อกลับบ้าน ยังมีสินค้าผักผลไม้จากชาวบ้านนำขาย
เราแวะกินข้าวขาหมูกับน้ำเก๊กฮวยเย็น เพราะถ้าตอนนี้ไม่ได้น้ำเย็นๆมากินแล้วต้องตายด้วยภาวะฮีทสโตรกแน่นอน อิอิ









ร้านขายของเล่นเก่าๆ ตั้งแต่สมัยวัยเยาว์ (ของเรา) ไม่รู้ว่าน้องๆไปแล้วจะอินเหมือนเรารึเปล่านะ



ร้านป้าขาวถุงทองเจ้าดังเคยออกที ส่วนใหญ่ร้านออกทีวีมักทำเราผิดหวัง  
แต่ร้านป้าขาวอร่อยจริงเราซื้อตั้งแต่เที่ยงกินเย็นยังกรอบอยู่เลย อร่อยจริงคอนเฟิร์ม