สวัสดีเพื่อนๆสมาชิกทุกท่านนะครับ
วันนี้ผมว่างๆช่วงเย็น ก็เลยตัดสินใจไปอ่านกระทู้เก่าๆที่ตัวเองเคยตอบไปเพื่อฆ่าเวลาซะหน่อย แต่ผมไปสะดุดกับคห.นึงในกระทู้"ทำไมถึงมีคนชอบโค้ดกีอัสมากกว่ากันดั้ม"ซึ่งเจ้าของคห.นี้ได้บอกเหตุผลที่ตัวเขาเองไม่ชอบกันดั้มใว้และผมก็เข้าไปเถียงกับเขาโดยที่ตัวผมเองนั้นคิดว่า"ข้อเสียแบบนี้ไม่มีในกันดั้มจักรวาล U.C. หรอกน่า"ผมก็คิดถูกครับที่ว่าของแบบนั้นไม่มีใน U.C.
แต่มันมีใน C.E.ครับและภาคที่เขาพูดถึงก็ไม่ใช่ภาคไหนอื่นเลยแต่เป็นภาคที่ทำให้ตัวผมไม่กล้าไปดูกันดั้มจักรวาลอื่นนอกจาก U.C. อีกเลยภาค"seed destiny" นั่นเองครับ มันก็เลยเป็นที่มาของกระทู้นี้ที่ผมจะมาบ่นและเล่าให้ฟังว่าทำไมผมถึงไม่ชอบภาคนี้ครับโดยกลักๆจะมี 2 เรื่องครับคือเนื้อเรื่องและตัวละคร
เนื้อเรื่อง
บอกก่อนเลยนะครับว่าตอนที่ผมเลือกจักรวาลกันดั้มซีดภาคแรกมาดูนั้นผมรู้สึกตื่นเต้นกับจุดเริ่มต้นของสงครามในภาคนี้มากเลยนะครับที่มันเริ่มมาจาก"ความเกลียดชังระหว่างเผ่าพันธ์" แต่พอผมมาดูจริงๆกลับต้องรู้สึกผิดหวังมากเพราะสงครามในภาคนี้นั้นเกิดขึ้นด้วย"ความเกลียดชัง"จริงครับ แต่"ความเกลียดชัง"ที่ว่านั่นกลับกลายเป็นความเกลียดชังเพียงผิวเผินไปยังไม่นับที่ว่า "สงคราม"ที่เกิดขึ้นในเรื่องควรจะเป็นพื้นที่สีเทาที่ไม่สามารถบอกได้แน่ชัดว่าจริงๆแล้วใครเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิด(เหมือนที่จักรวาล U.C. เป็น) แต่ตอนครึ่งหลังของเรื่องมันกลับกลายเป็น"ฝ่ายดี ปะทะ ฝ่ายร้าย"ไปเสียชิบ และนั่นเป็นปัญหาของผมสำหรับภาคแรกครับต่อมาภาค เดสทินี่ ปัญหาเหล่านี้กลับไม่ได้ถูกแก้ไข ตรงกันข้ามมันยิ่งแย่ลงซะด้วยซ้ำ!!! แถมยังเพิ่มปัญหาใหม่เข้ามาอีกไม่ว่าจะเป็น
ยานอาร์คแองเจิ้ลที่ทำตัวเหมือนผู้ก่อการร้ายคอยเข้าไปแทรกแซง ในสงครามของชาวบ้านชาวช่องเขาทุกครั้ง!!! ซึ่งการทำแบบนี้นั้นมันไม้ได้ทำให้อะไรๆดีขึ้นเลยครับตามความเป็นจริงแล้วมันจะยิ่งทำให้สงครามยิ่งเลวร้ายลงด้วยซ้ำไป
ปัญหาต่อมาก็คือเหล่าแก็งค์พระเอกที่ไม่มีจุดหมายชัดเจนเลยครับเพราะนอกจากการกระโดดเข้าไปในสงครามและไล่ยิงชาวบ้านเขาไปทั่วแล้วพวกมันก็ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการหยุดยั้งต้นเหตุของสงครามเลยแม้แต่น้อยนิด
อีกปัญหานึงก็คือในภาคเดสทินี่ผมไม่เข้าใจเลยครับว่าทำไมทั้งสองฝ่าย(ซาฟต์ กับ พันธมิตรโลก)ถึงให้ความสำคัญกับคำพูดของ"ลักส์ ไคลน์"นักทั้งๆที่ว่าตามจริงแล้วเจ้าหล่อนก็แค่"นักร้อง"ที่กลายเป็น"ผู้ก่อการร้าย"ในภาคเดสทินี่ ซึ่งส่วนที่เป็นนักร้องอาจจะทำให้ตัวเธอมีส่วนสำคัญในการเรียกขวัญกำลังใจหรือเกลี้ยกล่อมชาวเมืองได้ในระดับนึง แต่มันก็ไม่น่าจะทำให้ทุกๆคนกระทั่งทหารของทั้งสองฝ่าย เชื่อทุกคำพูดของหล่อนขนาดนั้น!!!!!
ปัญหาสุดท้ายที่ผมมีกับภาคนี้คือตอนจบครับที่ถ้าจะให้พูดสั้นๆเลยก็คือ"ทำไมมันง่ายขนาดนี้" ขยายความคือกลุ่มตัวเอกใช้แผนที่ไม่ควรที่จะเป็นไปได้อย่างเอายานรบหนึ่งลำที่มีโมบิลสูทไม่เกินสิบเครื่อง ไปลุยกับกองกำลังที่มีโมบิลสูทเป็นพัน โดยที่เทคโนโลยีไม่ห่างกันมาก แล้วดันชนะเฉย!!! จากนั้นลักส์ ไคลน์ ก็ขึ้นเป็นประธานสภาแพลนท์และสั่งให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงกันเลิกเกลียดชังกัน แล้วทั้งสองฝ่ายก็ดันทำตามซะด้วย!!! หมดกันแล้วกับความเกลียดชังและทุกอย่างที่สั่งสมมาหายไปเพราะยัยผู้หญิงผมชมพูออกมาพูดอะไรบ้าๆบอๆ

ตอนที่ผมดูนี่ผมบอกไม่ถูกเลยว่ามันแย่แค่ไหน และจากความรู้สึกแย่แบบนี้ทำให้ผมหันไปมองที่สิ่งที่ควรจะเป็นข้อดีของเรื่องนี้แต่ลงเอยมันก็แย่พอกันนั่นคือ"ตัวละคร"ครับ
ตัวละคร(ผมจะแยกเป็นตัวๆไปเลยนะครับ)
ชิน อาสึกะ AKA "อดีตพระเอกผู้มีไอคิวต่ำกว่าคนปกติ"
ผมบอกตามจริงนะครับในช่วงครึ่งแรกนั้นผมไม่มีความรู้สึก"ไม่ชอบ หรือ รำคาญ" ชินเลยเพราะถึงชินจะเป็นตัวละครที่ เกรียน บ้าพลัง ชอบใช้อารมณ์ และมองโลกแคบ แต่ ชิน ก็เป็นตัวละครที่เรียกได้ว่าเป็น"ผู้รับเคราะห์"จากสงครามในภาคแรกเช่นกันและมันก็เป็นเรื่องปกติที่ชินอยากจะระบายความเกลียดชังกับความเศร้าใส่อะไรซักอย่างนึง(ซึ่งในเรื่องก็คือ"ออร์บ")ทำให้ผมไม่รู้สึกรำคาญเจ้าหมอนี่เลย
แต่ปัญหามันเริ่มตอนช่วงครึ่งหลังของเรื่องนี่แหละครับที่หลังจากชินได้ใช้เดสทินี่กันดั้ม "การพัฒนาการของตัวละครของชินก็ดิ่งลงเหว" แบบไม่มีเหตุผลเลยซักนิด!!!ทั้งๆที่ตอนแรกชินที่ได้อัสรันมาช่วยสอนเริ่มมองสงครามตามภาพรวมได้ทีละเล็กทีล่ะน้อยแล้วแท้ๆ
แต่พอหลังจากได้เดสทินี่มา(ฉากที่อัสรันขับกูฟหนีชินก็น่าจะสงสัยหรือระแคะระคายอะไรบ้างแล้วนะ) ชินก็แทบจะกลายเป็นทาสของดูแรนดัลในทันที การมองสงครามในภาพรวม มองล่งมองโลก ไอคงไอคิว สมงสมองอะไรช่างหัวมันประธานถูกที่สุดประธานถูกอย่างเดียว!!!(ยังไม่นับฉากที่เอามือเปล่าไปรับบีมของอัสรันอีกนะ)
อัสรัน ซาล่า AKA "หนุ่มหัวเถิกที่โดนรีเซ็ตสมอง"
ผมบอกเลยนะครับว่าในภาคแรกอัสรันเป็นตัวละครที่ผมชอบมากเพราะเป็นตัวละครที่มีการพัฒนาการทางด้านมุมมอง แนวคิด ความรัก จากที่เป็นคนที่ขาดความแน่วแน่ในตอนแรกกลายเป็นคนที่มีความแน่วแน่ในการกระทำได้ จนจบจนผมรู้สึกว่า"นี่แหละควรเป็นพระเอก"ของเรื่องนี้
แต่ปัญหากับตัวละครนี้มาในภาคเดสทินี่ครับเพราะจู่ๆสมองของนายหัวเถิกคนนี้"ก็เหมือนกับถูกรีเซ็ตไหม่!!!" ทุกสิ่งทุกอย่างที่อัสรันเรียนรู้มาจากภาคแรกแทบจะหายไปทั้งหมดแถม"ผ่านรูปแบบการพัฒนาการตัวละครแทบจะแบบภาคแรกเด๊ะๆ"ความแน่วแน่ในความคิดอง อะไรๆหายหมด จนผมสงสัยเลยว่าระหว่างรอยต่อของภาคแรกกับภาคเดสทินี่หัวมันไปโดนอะไรมารึเปล่าวะ!!!
คางาริ ยูระ อัลฮา AKA "ตัวละครไร้ประโยชน์"
คางาริเองก็เป็นอีกตัวละครนึงที่ผมชอบเช่นกันครับในภาคแรกกับบทบาทที่พักทางใจของกันและกันกับอัสรัน และเป็นตัวละครสำคัญที่มีส่วนช่วยเป็นอย่างมากกับการพัฒนาการของอัสรัน และการพัฒนาการของตัวเธอเองก็น่าสนใจใช่ย่อย
แต่พอมาถึงภาคเดสทินี่บทบาทของเธอกับกลายเป็นเพียง"คนที่รอการมาช่วยเหลือ"ราวกับว่าบทบาทสาวแกร่งของเธอจากในภาคแรกหายไปเลยยังไม่นับที่ในเรื่องตัวเธอกลายเป็นเพียงแค่ตัวละครที่"ได้แต่บ่น"เท่านั้นเพราะนอกจากออกมาบ่นถึงเรื่องว่าสงครามมันแย่อย่างโน้นมันไม่ดีอย่างนี้แล้วตัวเธอแทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยต่อสงครามและเนื้อเรื่องในภาพรวม!!! แถมเรื่องที่เธอเอาแต่บ่นเรื่องการกำจัดอาวุธเพื่อไม่ให้เกิดสงคราม บลาๆ อะไรนั่นเป็นเรื่องที่ทำให้ผมงงอย่างที่สุดเพราะในตอนจบภาคแรกพวกเอ็งก็แทบไม่ได้แก้ต้นเหตุของสงครามเลยแม้แต่น้อยแล้วจะมาปลดอาวุธตัวเองทำไมกัน!?
คิระ ยามาโตะ AKA "Jesus Yamato"
จริงๆผมชอบคิระในช่วงแรกของกันดั้มซีดนะครับ แต่พอมาถึงครึ่งหลังและภาคเดสทีนี่แล้วหมอนี่แทบจะกลายเป็นตัวละครที่"แย่ที่สุด"ในความคิดของผมเลยล่ะครับไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำอะไรไม่มีจุดหมายแน่นอน ปากบอกจะหยุดสงครามให้ทุกคนหยุดสู้กันแต่ตัวมันเองยังไม่เคยแสดงให้เห็นเลยซักครั้งว่าทำได้จริง ต่อมาก็เรื่องเอาแต่บอกว่าให้"หยุดสู้กัน"แต่ตัวมันเองแทบจะเป็นคนที่ฆ่าคนเยอะทึ่สุดในสงครามอยู่แล้ว แถมผมไม่เข้าใจเลยว่าในเรื่องนี้ทำไมบทมันถึงได้ดูเข้าทางเฮียแกไปซะหมด เช่น เรื่องที่กล่อมเรย์ที่เป็นตัวละครที่ปูมาซะว่ารักดูแรนดัลนักหนาเปรียบเหมือนพ่ออย่างนู้นอย่างนั้นอย่างนี้แต่พอฟังที่พี่แกพูดแค่ไม่กี่ประโยคเรย์ก็ยิงดูแรนดัลตายซะงั้น!!! ต่อมาเรื่องสุดท้ายก็คือสาเหตุที่พี่แกถูกเรียกว่า"Jesus Yamato"นั่นแหละครับก็คือเฮียแกรอดจากเหตุการณ์ที่ไม่ควรจะมีมนุษย์คนไหนรอดมาได้ถึง 3 ครั้ง!!! แต่ผมจะขอพูดถึงครั้งที่สามที่คิระโดนชินเสียบนั่นแหละครับ คือแบบฉากนี้มันไม่สมเหตุสมผลเลยซักนิดเดียวคิระอยู่ห่างจากเตาปฎิกรณ์ไม่ถึง 4 เมตรแถมเป็นระเบิดระดับนิวเคลียร์ซะด้วย(ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วคิระอยู่ในจุดศูนย์กลางที่เกิดการระเบิดเลยด้วยซ้ำ) แต่เราก็ยังเห็นมันรอดมาได้จนถึงตอนจบได้!!! ผมบอกเลยว่าฉากนี้มันไม่สมเหตุสมผลพอๆกับที่มูรอดตายเลยล่ะครับ
ลักส์ ไคลน์ AKA "เทพเจ้าแมรี่ ซู"
ผมบอกได้เลยว่าในเรื่องนั้นลักส์เป็นตัวละครที่ผมไม่ชอบตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาคเดสทินี่เพราะหล่อนเป็นตัวละครที่"เหมือนหลุดมาจากแฟนฟิคเห่ยๆ"และแทบจะเรียกได้เลยว่าเป็นตัวละครที่เหมาะสมกับคำว่า "แมรี่ ซู"ที่สุดแล้ว(ถ้าคิระคือตัวละครชายที่แย่ที่สุดลักส์ก็คือตัวละครหญิงที่แย่ที่สุดเช่นกัน)รู้ไหมครับเพราะอะไร? เพราะเธอเป็นตัวละครที่เหมือนกับว่าเป็นตัวละครที่ไม่มีข้อผิดพลาดเลยทำอะไรก็ไม่ผิดจะพูดอะไร ใครก็ฟัง จะทำตัวเป็นผู้ก่อการร้ายก็ยังได้ จะเพ้อเรื่องห่าเหวที่ดูไร้สาระมากแค่ไหนก็ไม่มีคนคัดค้าน!!! และนั่นแทบจะทำให้เนื้อเรื่องและธีม"สงครามที่เกิดจากความเกลียดชังระหว่างเผ่าพันธ์"ของภาคนี้เสียไปในทันทีเลยล่ะครับ
ก็จบการบ่นแต่เพียงเท่านี้แล้วล่ะครับขอบคุณทุกท่านที่มาอ่านและรับฟังกันนะครับ
ปล.ทั้งหมดนี้เป็นแค่ความคิดเห็นของผมคนเดียวถ้าใครมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับผมก็ลองมาถกกันได้ที่คอมเม้นต์นะครับ
Gundam seed destiny อนิเมที่เริ่มเก่าแต่ความ"ห่วย"ไม่เก่าตามเวลา
วันนี้ผมว่างๆช่วงเย็น ก็เลยตัดสินใจไปอ่านกระทู้เก่าๆที่ตัวเองเคยตอบไปเพื่อฆ่าเวลาซะหน่อย แต่ผมไปสะดุดกับคห.นึงในกระทู้"ทำไมถึงมีคนชอบโค้ดกีอัสมากกว่ากันดั้ม"ซึ่งเจ้าของคห.นี้ได้บอกเหตุผลที่ตัวเขาเองไม่ชอบกันดั้มใว้และผมก็เข้าไปเถียงกับเขาโดยที่ตัวผมเองนั้นคิดว่า"ข้อเสียแบบนี้ไม่มีในกันดั้มจักรวาล U.C. หรอกน่า"ผมก็คิดถูกครับที่ว่าของแบบนั้นไม่มีใน U.C. แต่มันมีใน C.E.ครับและภาคที่เขาพูดถึงก็ไม่ใช่ภาคไหนอื่นเลยแต่เป็นภาคที่ทำให้ตัวผมไม่กล้าไปดูกันดั้มจักรวาลอื่นนอกจาก U.C. อีกเลยภาค"seed destiny" นั่นเองครับ มันก็เลยเป็นที่มาของกระทู้นี้ที่ผมจะมาบ่นและเล่าให้ฟังว่าทำไมผมถึงไม่ชอบภาคนี้ครับโดยกลักๆจะมี 2 เรื่องครับคือเนื้อเรื่องและตัวละคร
เนื้อเรื่อง
บอกก่อนเลยนะครับว่าตอนที่ผมเลือกจักรวาลกันดั้มซีดภาคแรกมาดูนั้นผมรู้สึกตื่นเต้นกับจุดเริ่มต้นของสงครามในภาคนี้มากเลยนะครับที่มันเริ่มมาจาก"ความเกลียดชังระหว่างเผ่าพันธ์" แต่พอผมมาดูจริงๆกลับต้องรู้สึกผิดหวังมากเพราะสงครามในภาคนี้นั้นเกิดขึ้นด้วย"ความเกลียดชัง"จริงครับ แต่"ความเกลียดชัง"ที่ว่านั่นกลับกลายเป็นความเกลียดชังเพียงผิวเผินไปยังไม่นับที่ว่า "สงคราม"ที่เกิดขึ้นในเรื่องควรจะเป็นพื้นที่สีเทาที่ไม่สามารถบอกได้แน่ชัดว่าจริงๆแล้วใครเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิด(เหมือนที่จักรวาล U.C. เป็น) แต่ตอนครึ่งหลังของเรื่องมันกลับกลายเป็น"ฝ่ายดี ปะทะ ฝ่ายร้าย"ไปเสียชิบ และนั่นเป็นปัญหาของผมสำหรับภาคแรกครับต่อมาภาค เดสทินี่ ปัญหาเหล่านี้กลับไม่ได้ถูกแก้ไข ตรงกันข้ามมันยิ่งแย่ลงซะด้วยซ้ำ!!! แถมยังเพิ่มปัญหาใหม่เข้ามาอีกไม่ว่าจะเป็น
ยานอาร์คแองเจิ้ลที่ทำตัวเหมือนผู้ก่อการร้ายคอยเข้าไปแทรกแซง ในสงครามของชาวบ้านชาวช่องเขาทุกครั้ง!!! ซึ่งการทำแบบนี้นั้นมันไม้ได้ทำให้อะไรๆดีขึ้นเลยครับตามความเป็นจริงแล้วมันจะยิ่งทำให้สงครามยิ่งเลวร้ายลงด้วยซ้ำไป
ปัญหาต่อมาก็คือเหล่าแก็งค์พระเอกที่ไม่มีจุดหมายชัดเจนเลยครับเพราะนอกจากการกระโดดเข้าไปในสงครามและไล่ยิงชาวบ้านเขาไปทั่วแล้วพวกมันก็ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการหยุดยั้งต้นเหตุของสงครามเลยแม้แต่น้อยนิด
อีกปัญหานึงก็คือในภาคเดสทินี่ผมไม่เข้าใจเลยครับว่าทำไมทั้งสองฝ่าย(ซาฟต์ กับ พันธมิตรโลก)ถึงให้ความสำคัญกับคำพูดของ"ลักส์ ไคลน์"นักทั้งๆที่ว่าตามจริงแล้วเจ้าหล่อนก็แค่"นักร้อง"ที่กลายเป็น"ผู้ก่อการร้าย"ในภาคเดสทินี่ ซึ่งส่วนที่เป็นนักร้องอาจจะทำให้ตัวเธอมีส่วนสำคัญในการเรียกขวัญกำลังใจหรือเกลี้ยกล่อมชาวเมืองได้ในระดับนึง แต่มันก็ไม่น่าจะทำให้ทุกๆคนกระทั่งทหารของทั้งสองฝ่าย เชื่อทุกคำพูดของหล่อนขนาดนั้น!!!!!
ปัญหาสุดท้ายที่ผมมีกับภาคนี้คือตอนจบครับที่ถ้าจะให้พูดสั้นๆเลยก็คือ"ทำไมมันง่ายขนาดนี้" ขยายความคือกลุ่มตัวเอกใช้แผนที่ไม่ควรที่จะเป็นไปได้อย่างเอายานรบหนึ่งลำที่มีโมบิลสูทไม่เกินสิบเครื่อง ไปลุยกับกองกำลังที่มีโมบิลสูทเป็นพัน โดยที่เทคโนโลยีไม่ห่างกันมาก แล้วดันชนะเฉย!!! จากนั้นลักส์ ไคลน์ ก็ขึ้นเป็นประธานสภาแพลนท์และสั่งให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงกันเลิกเกลียดชังกัน แล้วทั้งสองฝ่ายก็ดันทำตามซะด้วย!!! หมดกันแล้วกับความเกลียดชังและทุกอย่างที่สั่งสมมาหายไปเพราะยัยผู้หญิงผมชมพูออกมาพูดอะไรบ้าๆบอๆ
ตัวละคร(ผมจะแยกเป็นตัวๆไปเลยนะครับ)
ชิน อาสึกะ AKA "อดีตพระเอกผู้มีไอคิวต่ำกว่าคนปกติ"
ผมบอกตามจริงนะครับในช่วงครึ่งแรกนั้นผมไม่มีความรู้สึก"ไม่ชอบ หรือ รำคาญ" ชินเลยเพราะถึงชินจะเป็นตัวละครที่ เกรียน บ้าพลัง ชอบใช้อารมณ์ และมองโลกแคบ แต่ ชิน ก็เป็นตัวละครที่เรียกได้ว่าเป็น"ผู้รับเคราะห์"จากสงครามในภาคแรกเช่นกันและมันก็เป็นเรื่องปกติที่ชินอยากจะระบายความเกลียดชังกับความเศร้าใส่อะไรซักอย่างนึง(ซึ่งในเรื่องก็คือ"ออร์บ")ทำให้ผมไม่รู้สึกรำคาญเจ้าหมอนี่เลย
แต่ปัญหามันเริ่มตอนช่วงครึ่งหลังของเรื่องนี่แหละครับที่หลังจากชินได้ใช้เดสทินี่กันดั้ม "การพัฒนาการของตัวละครของชินก็ดิ่งลงเหว" แบบไม่มีเหตุผลเลยซักนิด!!!ทั้งๆที่ตอนแรกชินที่ได้อัสรันมาช่วยสอนเริ่มมองสงครามตามภาพรวมได้ทีละเล็กทีล่ะน้อยแล้วแท้ๆ
แต่พอหลังจากได้เดสทินี่มา(ฉากที่อัสรันขับกูฟหนีชินก็น่าจะสงสัยหรือระแคะระคายอะไรบ้างแล้วนะ) ชินก็แทบจะกลายเป็นทาสของดูแรนดัลในทันที การมองสงครามในภาพรวม มองล่งมองโลก ไอคงไอคิว สมงสมองอะไรช่างหัวมันประธานถูกที่สุดประธานถูกอย่างเดียว!!!(ยังไม่นับฉากที่เอามือเปล่าไปรับบีมของอัสรันอีกนะ)
อัสรัน ซาล่า AKA "หนุ่มหัวเถิกที่โดนรีเซ็ตสมอง"
ผมบอกเลยนะครับว่าในภาคแรกอัสรันเป็นตัวละครที่ผมชอบมากเพราะเป็นตัวละครที่มีการพัฒนาการทางด้านมุมมอง แนวคิด ความรัก จากที่เป็นคนที่ขาดความแน่วแน่ในตอนแรกกลายเป็นคนที่มีความแน่วแน่ในการกระทำได้ จนจบจนผมรู้สึกว่า"นี่แหละควรเป็นพระเอก"ของเรื่องนี้
แต่ปัญหากับตัวละครนี้มาในภาคเดสทินี่ครับเพราะจู่ๆสมองของนายหัวเถิกคนนี้"ก็เหมือนกับถูกรีเซ็ตไหม่!!!" ทุกสิ่งทุกอย่างที่อัสรันเรียนรู้มาจากภาคแรกแทบจะหายไปทั้งหมดแถม"ผ่านรูปแบบการพัฒนาการตัวละครแทบจะแบบภาคแรกเด๊ะๆ"ความแน่วแน่ในความคิดอง อะไรๆหายหมด จนผมสงสัยเลยว่าระหว่างรอยต่อของภาคแรกกับภาคเดสทินี่หัวมันไปโดนอะไรมารึเปล่าวะ!!!
คางาริ ยูระ อัลฮา AKA "ตัวละครไร้ประโยชน์"
คางาริเองก็เป็นอีกตัวละครนึงที่ผมชอบเช่นกันครับในภาคแรกกับบทบาทที่พักทางใจของกันและกันกับอัสรัน และเป็นตัวละครสำคัญที่มีส่วนช่วยเป็นอย่างมากกับการพัฒนาการของอัสรัน และการพัฒนาการของตัวเธอเองก็น่าสนใจใช่ย่อย
แต่พอมาถึงภาคเดสทินี่บทบาทของเธอกับกลายเป็นเพียง"คนที่รอการมาช่วยเหลือ"ราวกับว่าบทบาทสาวแกร่งของเธอจากในภาคแรกหายไปเลยยังไม่นับที่ในเรื่องตัวเธอกลายเป็นเพียงแค่ตัวละครที่"ได้แต่บ่น"เท่านั้นเพราะนอกจากออกมาบ่นถึงเรื่องว่าสงครามมันแย่อย่างโน้นมันไม่ดีอย่างนี้แล้วตัวเธอแทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยต่อสงครามและเนื้อเรื่องในภาพรวม!!! แถมเรื่องที่เธอเอาแต่บ่นเรื่องการกำจัดอาวุธเพื่อไม่ให้เกิดสงคราม บลาๆ อะไรนั่นเป็นเรื่องที่ทำให้ผมงงอย่างที่สุดเพราะในตอนจบภาคแรกพวกเอ็งก็แทบไม่ได้แก้ต้นเหตุของสงครามเลยแม้แต่น้อยแล้วจะมาปลดอาวุธตัวเองทำไมกัน!?
คิระ ยามาโตะ AKA "Jesus Yamato"
จริงๆผมชอบคิระในช่วงแรกของกันดั้มซีดนะครับ แต่พอมาถึงครึ่งหลังและภาคเดสทีนี่แล้วหมอนี่แทบจะกลายเป็นตัวละครที่"แย่ที่สุด"ในความคิดของผมเลยล่ะครับไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำอะไรไม่มีจุดหมายแน่นอน ปากบอกจะหยุดสงครามให้ทุกคนหยุดสู้กันแต่ตัวมันเองยังไม่เคยแสดงให้เห็นเลยซักครั้งว่าทำได้จริง ต่อมาก็เรื่องเอาแต่บอกว่าให้"หยุดสู้กัน"แต่ตัวมันเองแทบจะเป็นคนที่ฆ่าคนเยอะทึ่สุดในสงครามอยู่แล้ว แถมผมไม่เข้าใจเลยว่าในเรื่องนี้ทำไมบทมันถึงได้ดูเข้าทางเฮียแกไปซะหมด เช่น เรื่องที่กล่อมเรย์ที่เป็นตัวละครที่ปูมาซะว่ารักดูแรนดัลนักหนาเปรียบเหมือนพ่ออย่างนู้นอย่างนั้นอย่างนี้แต่พอฟังที่พี่แกพูดแค่ไม่กี่ประโยคเรย์ก็ยิงดูแรนดัลตายซะงั้น!!! ต่อมาเรื่องสุดท้ายก็คือสาเหตุที่พี่แกถูกเรียกว่า"Jesus Yamato"นั่นแหละครับก็คือเฮียแกรอดจากเหตุการณ์ที่ไม่ควรจะมีมนุษย์คนไหนรอดมาได้ถึง 3 ครั้ง!!! แต่ผมจะขอพูดถึงครั้งที่สามที่คิระโดนชินเสียบนั่นแหละครับ คือแบบฉากนี้มันไม่สมเหตุสมผลเลยซักนิดเดียวคิระอยู่ห่างจากเตาปฎิกรณ์ไม่ถึง 4 เมตรแถมเป็นระเบิดระดับนิวเคลียร์ซะด้วย(ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วคิระอยู่ในจุดศูนย์กลางที่เกิดการระเบิดเลยด้วยซ้ำ) แต่เราก็ยังเห็นมันรอดมาได้จนถึงตอนจบได้!!! ผมบอกเลยว่าฉากนี้มันไม่สมเหตุสมผลพอๆกับที่มูรอดตายเลยล่ะครับ
ลักส์ ไคลน์ AKA "เทพเจ้าแมรี่ ซู"
ผมบอกได้เลยว่าในเรื่องนั้นลักส์เป็นตัวละครที่ผมไม่ชอบตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาคเดสทินี่เพราะหล่อนเป็นตัวละครที่"เหมือนหลุดมาจากแฟนฟิคเห่ยๆ"และแทบจะเรียกได้เลยว่าเป็นตัวละครที่เหมาะสมกับคำว่า "แมรี่ ซู"ที่สุดแล้ว(ถ้าคิระคือตัวละครชายที่แย่ที่สุดลักส์ก็คือตัวละครหญิงที่แย่ที่สุดเช่นกัน)รู้ไหมครับเพราะอะไร? เพราะเธอเป็นตัวละครที่เหมือนกับว่าเป็นตัวละครที่ไม่มีข้อผิดพลาดเลยทำอะไรก็ไม่ผิดจะพูดอะไร ใครก็ฟัง จะทำตัวเป็นผู้ก่อการร้ายก็ยังได้ จะเพ้อเรื่องห่าเหวที่ดูไร้สาระมากแค่ไหนก็ไม่มีคนคัดค้าน!!! และนั่นแทบจะทำให้เนื้อเรื่องและธีม"สงครามที่เกิดจากความเกลียดชังระหว่างเผ่าพันธ์"ของภาคนี้เสียไปในทันทีเลยล่ะครับ
ก็จบการบ่นแต่เพียงเท่านี้แล้วล่ะครับขอบคุณทุกท่านที่มาอ่านและรับฟังกันนะครับ
ปล.ทั้งหมดนี้เป็นแค่ความคิดเห็นของผมคนเดียวถ้าใครมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับผมก็ลองมาถกกันได้ที่คอมเม้นต์นะครับ