รีวิวนี้ไม่มีภาพสวยงามของปราสาทต่าง ๆ ให้ชม แต่ต้องการแนะนำ สว.ที่ไม่กล้าเดินทางมาเสียมราฐเพราะกลัวจะมาไม่ไหวต้องเป็นภาระกับลูกหลานให้มีทางเลือกที่ไม่ต้องลุยมากนัก รวมทั้งบางแง่มุมที่นักท่องเที่ยวอาจจะไม่ทราบ ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่ยังไม่เคยไปและอยากจะไปบ้างไม่มากก็น้อย
“ See Angkor and Die.” Arnold Joseph Toynbee นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีชาวอังกฤษเป็นผู้กล่าวไว้หลังจากที่ได้มาเยือนนครวัด ก็ยังสงสัยว่ามันยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเลยหรือ อยากจะไปดูให้เห็นกับตาตั้งแต่ยังเป็นหนุ่ม แต่ตอนนั้นไฟสงครามในกัมพูชายังคุกรุ่นอยู่ ต่อด้วยปัญหาความขัดแย้งกันกับไทยจนคิดว่าชาตินี้คงไม่ได้เห็นนครวัตแน่ ก็เลยลืมไปและไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก
จนย่างเข้าสู่วัยชราเกษียณอายุราชการมาแล้วเกือบสิบปี เพิ่งคิดได้ว่าทำไมชาวต่างชาติที่อยู่ห่างกันคนละซีกโลกถึงดั้นด้นมากัมพูชาแต่คนไทยที่อยู่ใกล้ ๆ กลับไม่สนใจทั้ง ๆ ที่เดินทางได้สะดวกกว่า เหมือนใกล้เกลือกินด่าง สองตายายผู้เฒ่าเลยตัดสินใจลุยกัมพูชาก่อนตาย ลูกชายจะซื้อตั๋วเครื่องบินให้แต่มันจะสบายเกินไป ขอนั่ง บขส.กรุงเทพ – เสียมราฐ คนละ 750 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมงดีกว่า ขากลับค่อยนั่งเครื่องบิน
เดินทางกลางสัปดาห์รถไม่เต็ม ผู้โดยสารทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ มีคนไทยแค่สองคนคือผมกับภรรยา สภาพรถค่อนข้างใหม่ มีขนมและน้ำดื่มแจกบนรถให้กินรองท้องนิดหน่อย ถึงอรัญประเทศแจกข้าวผัดกล่องเล็กรสชาติก็พอทนกินได้ รถออกช้ากว่ากำหนดเล็กน้อยตามมาตรฐานของ บขส.และ รฟท. เพราะถ้าออกตามเวลาถึงปลายทางตามกำหนดจะถือว่าผิดปกติ
วิ่งมาได้ประมาณชั่วโมงเศษ แวะจอดให้ผู้โดยสารเข้าห้องน้ำที่ปั้มน้ำมันแถวพนมสารคาม ใครอยากได้เครื่องดื่ม ขนม ก็เลือกซื้อได้จากร้านสะดวกซื้อในปั้ม แต่ต้องรีบหน่อยเพราะมีเวลาแค่ 10 นาทีเท่านั้น ก่อนถึงด่านปอยเปตพนักงานประจำรถเอาป้ายแขวนคอมาแจกผู้โดยสาร ป้ายนี้เหมือนยันต์กันผี เพราะเมื่อพ้น ตม.ไทยเหยียบย่างเข้าแผ่นดินกัมพูชาจะไม่มีใครเข้ามารุมล้อมให้รำคาญใจ
เดินเข้า ตม.กัมพูชา มีเจ้าหน้าที่มาเดินแจก Arrival Card ใช้เวลากรอกแป๊บเดียวไม่ต้องไปเสียเงินให้กับหน้าม้าที่รับอาสาทำให้ เตรียมปากกาไปให้เรียบร้อยก็แล้วกัน ใครกลัวกรอกไม่เป็นเซฟภาพนี้ใส่โทรศัพท์ไว้ก็ได้ ผมก็เอามาจากในเวปเหมือนกันต้องขออนุญาตเจ้าของภาพด้วยนะครับ
ผ่าน ตม.กัมพูชากลับมานั่งรอบนรถที่จอดหน้าบ่อนใกล้ ๆ ตม.กัมพูชา รถออกก็นั่งดูวิวข้างทางตั้งแต่ด่านปอยเปต เมืองศรีโสภณ จนถึงเสียมราฐ ถ้ามาทางเครื่องบินก็จะไม่เห็นภาพบ้านเมืองและชีวิตความเป็นอยู่ในชนบทของชาวกัมพูชา ถึงแม้จะเห็นแบบผิวเผินแต่สำหรับผมถือว่าคุ้มกับการเดินทางโดยรถยนต์ ถ่ายมาได้ไม่กี่ภาพเพราะอยู่บนรถถ่ายไม่ค่อยสะดวก
รถถึงเสียมราฐที่ชาวกัมพูชาเรียกเสียมเรียบ โดนรุมล้อมจากคนขับรถตุ๊ก ๆ มีทั้งที่พูดไทยได้และไม่ได้ ถ้าไม่มีคนมารับและยังไม่ได้จองโรงแรมเขาจะรับอาสาไปส่งโรงแรมฟรีไม่คิดค่าบริการ (แต่ได้ค่าหัวจากโรงแรมเท่าไรไม่รู้) ก่อนจะพาไปส่งโรงแรมเขาจะชักชวนให้ใช้บริการนำเที่ยวตลอดระยะเวลาที่อยู่เสียมเรียบ ส่วนราคาก็ตามที่จะตกลงกัน ถ้าใครจองโรงแรมไว้แล้วให้ทางโรงแรมจัดหารถให้ก็ได้ปลอดภัยกว่า เพราะโรงแรมเขามีประวัติคนขับขี่รถตุ๊กไว้แล้วและมีกำหนดราคาที่เป็นมาตรฐาน
ส่วนผมก่อนเดินทางเปิดเวปพันทิปดูรีวิวการท่องเที่ยวเสียมราฐหลายกระทู้ ไปเจอกระทู้ของคุณ แสงหล้า ยินดีเมื่อมีแสง
http://ppantip.com/topic/34842037 แนะนำคนขับรถตุ๊ก ๆ เป็นลูกครึ่งไทย – กัมพูชาชื่อเดือน และไปในเจอกระทู้อื่นอีกก็เลยตัดสินใจติดต่อใช้บริการตั้งแต่ยังอยู่ในไทย เขาก็ไปรอรับผมและพาไปส่งโรงแรมที่จองไว้ ผมใช้บริการเขาในช่วงที่อยู่เสียมเรียบจนเดินทางกลับไทย ราคาค่าบริการก็ตามมาตรฐานทั่วไป
เดือนเรียนจบ ปวช.ที่ไทย พ่อเป็นกัมพูชา แม่ไทย ปัจจุบันมีลูก 1 คน ส่วนเมียกี่คนไม่ได้ถาม เป็นคนสุภาพเรียบร้อย น่ารัก ใครจะไปเที่ยวเสียมเรียบอยากใช้บริการก็ลองไลน์คุยกันดูก่อนก็ได้ ID : sunrisetour
เช้าวันรุ่งขึ้นลูกชายที่เดินทางมาล่วงหน้าเพื่อทำธุระของเขาเสร็จจากงานก็มาสมทบเพื่อเที่ยวชมปราสาท ตอนแรกกำหนดไว้แค่ 3 ปราสาท คือ ปราสาทนครวัต ตาพรม และบายน เพราะแค่นี้สองผู้เฒ่าก็คงจะเหนื่อยหอบ ลิ้นห้อย แต่เดือนสารถีรถตุ๊ก ๆ แถมปราสาทกาวานเป็นปราสาทเล็ก ๆ ด้านหลังมีสระน้ำขนาดใหญ่ อยู่ติดถนนไม่ต้องเดินไกลเข้ามาในรายการอีก
หลังจากซื้อ Pass ก็เข้าชมปราสาทกาวาน ตาพรม อากาศร้อนอบอ้าว แต่เดือนมีผ้าเย็นและน้ำดื่มบรรจุขวดแช่เย็นไว้บริการผู้โดยสาร ทำให้สดชื่นมีเรี่ยวแรงพร้อมลุยต่อในช่วงบ่ายอีก
ตั้งใจจะให้กลับไปกินข้าวในเมือง เพราะรู้มาว่าอาหารที่นี่นอกจากไม่อร่อยแล้วยังแพงมากอีกด้วย ก็เป็นเรื่องธรรมดาเพราะต้องจ่ายให้เจ้าที่เจ้าทางถึงจะตั้งร้านค้าแถวนี้ได้ แต่เดือนเสนอร้านอาหารที่เขารู้จักเป็นร้านเดียวในย่านนั้นที่มีอาหารยอดฮิตของคนไทยผัดกระเพรา+ไข่ดาว จานละ 3 $ มีหรือจะพลาด รสชาติแทบไม่ผิดเพี้ยนกับฝีมือคนไทยทำ แถมให้มาพูนจานกินแทบไม่หมด
ตอนบ่ายไปชมปราสาทบายนกับนครวัต ปราสาทสุดท้ายหมดแรงแทบเดินไม่ไหวแต่ฝืนใจทนไม่ให้เสียชื่อ สว.ไทย คุณสุภาพสตรีหรือ สว.ท่านใดที่สุขภาพไม่แข็งแรงควรเลือกมาเริ่มต้นที่นครวัตก่อน แล้วค่อยไปบายน ตาพรมเป็นลำดับสุดท้าย เพราะถ้าไม่ไหวจริง ๆ ดูแค่ครึ่งเดียวก็ยังดี 5 5 5 5
เพราะไม่เคยไปและมีข้อมูลไม่เพียงพอทำให้ประเมินสถานการณ์ผิด จากจุดที่รถตุ๊ก ๆ จอดส่งถึงตัวปราสาทนครวัตไกลมากสำหรับ สว.วัยใกล้ฝั่ง แถมแดดจัด อากาศร้อน ทำให้เหนื่อยอ่อนเพลียง่าย และเมื่อเที่ยวชมเสร็จแล้วก็ต้องเดินย้อนกลับมาขึ้นรถจุดเดิม ซึ่งแตกต่างกับบางปราสาทที่คนขับรถส่งหน้าปราสาทแล้วไปรอรับหลังปราสาท ทำให้ไม่ต้องเดินไกล
เมื่อ สว.ลุยเที่ยวเสียมราฐแบบไม่เจียมสังขาร
“ See Angkor and Die.” Arnold Joseph Toynbee นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีชาวอังกฤษเป็นผู้กล่าวไว้หลังจากที่ได้มาเยือนนครวัด ก็ยังสงสัยว่ามันยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเลยหรือ อยากจะไปดูให้เห็นกับตาตั้งแต่ยังเป็นหนุ่ม แต่ตอนนั้นไฟสงครามในกัมพูชายังคุกรุ่นอยู่ ต่อด้วยปัญหาความขัดแย้งกันกับไทยจนคิดว่าชาตินี้คงไม่ได้เห็นนครวัตแน่ ก็เลยลืมไปและไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก
จนย่างเข้าสู่วัยชราเกษียณอายุราชการมาแล้วเกือบสิบปี เพิ่งคิดได้ว่าทำไมชาวต่างชาติที่อยู่ห่างกันคนละซีกโลกถึงดั้นด้นมากัมพูชาแต่คนไทยที่อยู่ใกล้ ๆ กลับไม่สนใจทั้ง ๆ ที่เดินทางได้สะดวกกว่า เหมือนใกล้เกลือกินด่าง สองตายายผู้เฒ่าเลยตัดสินใจลุยกัมพูชาก่อนตาย ลูกชายจะซื้อตั๋วเครื่องบินให้แต่มันจะสบายเกินไป ขอนั่ง บขส.กรุงเทพ – เสียมราฐ คนละ 750 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมงดีกว่า ขากลับค่อยนั่งเครื่องบิน
เดินทางกลางสัปดาห์รถไม่เต็ม ผู้โดยสารทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ มีคนไทยแค่สองคนคือผมกับภรรยา สภาพรถค่อนข้างใหม่ มีขนมและน้ำดื่มแจกบนรถให้กินรองท้องนิดหน่อย ถึงอรัญประเทศแจกข้าวผัดกล่องเล็กรสชาติก็พอทนกินได้ รถออกช้ากว่ากำหนดเล็กน้อยตามมาตรฐานของ บขส.และ รฟท. เพราะถ้าออกตามเวลาถึงปลายทางตามกำหนดจะถือว่าผิดปกติ
วิ่งมาได้ประมาณชั่วโมงเศษ แวะจอดให้ผู้โดยสารเข้าห้องน้ำที่ปั้มน้ำมันแถวพนมสารคาม ใครอยากได้เครื่องดื่ม ขนม ก็เลือกซื้อได้จากร้านสะดวกซื้อในปั้ม แต่ต้องรีบหน่อยเพราะมีเวลาแค่ 10 นาทีเท่านั้น ก่อนถึงด่านปอยเปตพนักงานประจำรถเอาป้ายแขวนคอมาแจกผู้โดยสาร ป้ายนี้เหมือนยันต์กันผี เพราะเมื่อพ้น ตม.ไทยเหยียบย่างเข้าแผ่นดินกัมพูชาจะไม่มีใครเข้ามารุมล้อมให้รำคาญใจ
เดินเข้า ตม.กัมพูชา มีเจ้าหน้าที่มาเดินแจก Arrival Card ใช้เวลากรอกแป๊บเดียวไม่ต้องไปเสียเงินให้กับหน้าม้าที่รับอาสาทำให้ เตรียมปากกาไปให้เรียบร้อยก็แล้วกัน ใครกลัวกรอกไม่เป็นเซฟภาพนี้ใส่โทรศัพท์ไว้ก็ได้ ผมก็เอามาจากในเวปเหมือนกันต้องขออนุญาตเจ้าของภาพด้วยนะครับ
ผ่าน ตม.กัมพูชากลับมานั่งรอบนรถที่จอดหน้าบ่อนใกล้ ๆ ตม.กัมพูชา รถออกก็นั่งดูวิวข้างทางตั้งแต่ด่านปอยเปต เมืองศรีโสภณ จนถึงเสียมราฐ ถ้ามาทางเครื่องบินก็จะไม่เห็นภาพบ้านเมืองและชีวิตความเป็นอยู่ในชนบทของชาวกัมพูชา ถึงแม้จะเห็นแบบผิวเผินแต่สำหรับผมถือว่าคุ้มกับการเดินทางโดยรถยนต์ ถ่ายมาได้ไม่กี่ภาพเพราะอยู่บนรถถ่ายไม่ค่อยสะดวก
รถถึงเสียมราฐที่ชาวกัมพูชาเรียกเสียมเรียบ โดนรุมล้อมจากคนขับรถตุ๊ก ๆ มีทั้งที่พูดไทยได้และไม่ได้ ถ้าไม่มีคนมารับและยังไม่ได้จองโรงแรมเขาจะรับอาสาไปส่งโรงแรมฟรีไม่คิดค่าบริการ (แต่ได้ค่าหัวจากโรงแรมเท่าไรไม่รู้) ก่อนจะพาไปส่งโรงแรมเขาจะชักชวนให้ใช้บริการนำเที่ยวตลอดระยะเวลาที่อยู่เสียมเรียบ ส่วนราคาก็ตามที่จะตกลงกัน ถ้าใครจองโรงแรมไว้แล้วให้ทางโรงแรมจัดหารถให้ก็ได้ปลอดภัยกว่า เพราะโรงแรมเขามีประวัติคนขับขี่รถตุ๊กไว้แล้วและมีกำหนดราคาที่เป็นมาตรฐาน
ส่วนผมก่อนเดินทางเปิดเวปพันทิปดูรีวิวการท่องเที่ยวเสียมราฐหลายกระทู้ ไปเจอกระทู้ของคุณ แสงหล้า ยินดีเมื่อมีแสง http://ppantip.com/topic/34842037 แนะนำคนขับรถตุ๊ก ๆ เป็นลูกครึ่งไทย – กัมพูชาชื่อเดือน และไปในเจอกระทู้อื่นอีกก็เลยตัดสินใจติดต่อใช้บริการตั้งแต่ยังอยู่ในไทย เขาก็ไปรอรับผมและพาไปส่งโรงแรมที่จองไว้ ผมใช้บริการเขาในช่วงที่อยู่เสียมเรียบจนเดินทางกลับไทย ราคาค่าบริการก็ตามมาตรฐานทั่วไป
เดือนเรียนจบ ปวช.ที่ไทย พ่อเป็นกัมพูชา แม่ไทย ปัจจุบันมีลูก 1 คน ส่วนเมียกี่คนไม่ได้ถาม เป็นคนสุภาพเรียบร้อย น่ารัก ใครจะไปเที่ยวเสียมเรียบอยากใช้บริการก็ลองไลน์คุยกันดูก่อนก็ได้ ID : sunrisetour
เช้าวันรุ่งขึ้นลูกชายที่เดินทางมาล่วงหน้าเพื่อทำธุระของเขาเสร็จจากงานก็มาสมทบเพื่อเที่ยวชมปราสาท ตอนแรกกำหนดไว้แค่ 3 ปราสาท คือ ปราสาทนครวัต ตาพรม และบายน เพราะแค่นี้สองผู้เฒ่าก็คงจะเหนื่อยหอบ ลิ้นห้อย แต่เดือนสารถีรถตุ๊ก ๆ แถมปราสาทกาวานเป็นปราสาทเล็ก ๆ ด้านหลังมีสระน้ำขนาดใหญ่ อยู่ติดถนนไม่ต้องเดินไกลเข้ามาในรายการอีก
หลังจากซื้อ Pass ก็เข้าชมปราสาทกาวาน ตาพรม อากาศร้อนอบอ้าว แต่เดือนมีผ้าเย็นและน้ำดื่มบรรจุขวดแช่เย็นไว้บริการผู้โดยสาร ทำให้สดชื่นมีเรี่ยวแรงพร้อมลุยต่อในช่วงบ่ายอีก
ตั้งใจจะให้กลับไปกินข้าวในเมือง เพราะรู้มาว่าอาหารที่นี่นอกจากไม่อร่อยแล้วยังแพงมากอีกด้วย ก็เป็นเรื่องธรรมดาเพราะต้องจ่ายให้เจ้าที่เจ้าทางถึงจะตั้งร้านค้าแถวนี้ได้ แต่เดือนเสนอร้านอาหารที่เขารู้จักเป็นร้านเดียวในย่านนั้นที่มีอาหารยอดฮิตของคนไทยผัดกระเพรา+ไข่ดาว จานละ 3 $ มีหรือจะพลาด รสชาติแทบไม่ผิดเพี้ยนกับฝีมือคนไทยทำ แถมให้มาพูนจานกินแทบไม่หมด
ตอนบ่ายไปชมปราสาทบายนกับนครวัต ปราสาทสุดท้ายหมดแรงแทบเดินไม่ไหวแต่ฝืนใจทนไม่ให้เสียชื่อ สว.ไทย คุณสุภาพสตรีหรือ สว.ท่านใดที่สุขภาพไม่แข็งแรงควรเลือกมาเริ่มต้นที่นครวัตก่อน แล้วค่อยไปบายน ตาพรมเป็นลำดับสุดท้าย เพราะถ้าไม่ไหวจริง ๆ ดูแค่ครึ่งเดียวก็ยังดี 5 5 5 5
เพราะไม่เคยไปและมีข้อมูลไม่เพียงพอทำให้ประเมินสถานการณ์ผิด จากจุดที่รถตุ๊ก ๆ จอดส่งถึงตัวปราสาทนครวัตไกลมากสำหรับ สว.วัยใกล้ฝั่ง แถมแดดจัด อากาศร้อน ทำให้เหนื่อยอ่อนเพลียง่าย และเมื่อเที่ยวชมเสร็จแล้วก็ต้องเดินย้อนกลับมาขึ้นรถจุดเดิม ซึ่งแตกต่างกับบางปราสาทที่คนขับรถส่งหน้าปราสาทแล้วไปรอรับหลังปราสาท ทำให้ไม่ต้องเดินไกล