Day1
วันที่ 19 เม.ย. 2559 เวลาประมาณ 06.30 น. เปิดประตูบ้านออกมาเจอนกพิราบตัวนี้อยู่หน้าบ้าน บินไม่ได้ ตอนแรกคิดว่าคงปีกหัก
ก่อนออกจากบ้านเลยให้นกพิราบตัวนี้มาอยู่ในบริเวณโรงรถของบ้านก่อน กะว่ากลับมาช่วงเย็นจะพาไปหาสัตวแพทย์
เวลา 19.00 น. ได้พาไปหาสัตวแพทย์ ตอนแรกที่ไปก้อคิดว่าคงไม่ได้เป็นอะไรมาก พอไปถึงตรวจ สงสัยว่าโดนแมวกัด OMG!!
ดูจากในรูปแล้วแผลเหวอะมาก ในใจรู้สึกผิดมากที่ปล่อยไว้จนถึงเย็น สัตวแพทย์บอกว่าถ้าคืนนี้รอดคงรอดแล้ว ใส่ยาห้ามเลือด
แล้วก็ให้ยากลับบ้าน เป็นยาฆ่าเชื้อใส่ในน้ำ กับยาพ่น ข้างกล่องเขียน Nano Spray (ลืมถ่ายรูปมาค่ะ)
ก่อนกลับบ้านไปหาซื้ออาหารนกพิราบโดยเฉพาะ ส่วนกรงไม่มี ใส่กล่องไปก่อน 555555 ถ้าคืนนี้รอด จะไปซื้อกรงมา
Day2
วันที่ 20 เม.ย. 2559 ตอนเช้าตี 5 รีบลงมาดูว่ารอดไหม สรุปยังลืมตา ตัวไม่แข็ง ดีใจมาก เย้เย้ แต่ต้องมาพ่นยาให้เช้า-เย็น
ดูแผลดีขึ้น (ขอโทษนะคะรูปไม่ชัดเพราะรีบๆถ่าย แล้วก็ดิ้นด้วยค่ะ)
ไปซื้อกรงมาให้แล้ว แบบนี้ ดูจากภายนอกเหมือนไม่เป็นอะไรเลย
Day3
วันที่ 21 เม.ย. 2559 จากเมื่อคืนไม่เห็นกินอาหาร เลยมาป้อนน้ำที่ใส่ยาไป โดนใช้ช้อนไปจ่อปาก ก็จิบๆๆไปนิดหน่อย แต่ยังดีที่จิบ
(ขอโทษนะคะรูปไม่ชัดเพราะรีบๆถ่าย แล้วก็ดิ้นด้วยค่ะ)
Day4
วันที่ 22 เม.ย. 2559 ดูจากแผลแล้วแห้งดีขึ้นมากเลยค่ะ แต่ยังงงๆอยู่ว่าไม่เห็นกินอาหาร คือสังเกตจะใส่อาหารไว้ในถ้วย จะเห็นเศษอาหาร
ตกไปอยู่ข้างล่างเยอะมาก เลยไม่แน่ใจว่ากินไหม (ขอโทษนะคะรูปไม่ชัดเพราะรีบๆถ่าย แล้วก็ดิ้นด้วยค่ะ)
Day5
วันที่ 23 เม.ย. 2559 ไม่มีรูปแล้วนะคะ เพราะแข็งแรงขึ้นมาก กางปีกดิ้นไม่ให้จับ แต่ต้องหลอกล่อให้กางปีก แล้วพ่นยาไปที่แผลแทนค่ะ
Day 6
วันที่ 24 เม.ย. 2559 ไม่มีรูปอีกเหมือนกันค่ะ แต่กำลังคิดว่าถ้าแข็งแรงมากๆๆจะปล่อยแล้วค่ะ
Day 7
วันที่ 25 เม.ย. 2559 มีรูปนะคะ จากที่สงสัยว่ากินอาหารบ้างไหม ก็เลยแอบถ่ายไม่ให้เห็น 55555 รูปเลยไม่ค่อยชัดอีกแล้ว
ดีใจมากเลยค่ะ ที่รอด ตั้งชื่อว่า
ราบลอย
ตอนนี้กำลังคิดว่าจะปล่อยได้หรือยังค่ะ หรือต้องรออีกหน่อย แผลแห้งขึ้นแต่ยังไม่ปิดสนิทดี แข็งแรงขึ้นมาก กางปีกพรึบพรึบ
รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ
ขอคำแนะนำ เรื่องนกพิราบค่ะ
วันที่ 19 เม.ย. 2559 เวลาประมาณ 06.30 น. เปิดประตูบ้านออกมาเจอนกพิราบตัวนี้อยู่หน้าบ้าน บินไม่ได้ ตอนแรกคิดว่าคงปีกหัก
ก่อนออกจากบ้านเลยให้นกพิราบตัวนี้มาอยู่ในบริเวณโรงรถของบ้านก่อน กะว่ากลับมาช่วงเย็นจะพาไปหาสัตวแพทย์
เวลา 19.00 น. ได้พาไปหาสัตวแพทย์ ตอนแรกที่ไปก้อคิดว่าคงไม่ได้เป็นอะไรมาก พอไปถึงตรวจ สงสัยว่าโดนแมวกัด OMG!!
ดูจากในรูปแล้วแผลเหวอะมาก ในใจรู้สึกผิดมากที่ปล่อยไว้จนถึงเย็น สัตวแพทย์บอกว่าถ้าคืนนี้รอดคงรอดแล้ว ใส่ยาห้ามเลือด
แล้วก็ให้ยากลับบ้าน เป็นยาฆ่าเชื้อใส่ในน้ำ กับยาพ่น ข้างกล่องเขียน Nano Spray (ลืมถ่ายรูปมาค่ะ)
ก่อนกลับบ้านไปหาซื้ออาหารนกพิราบโดยเฉพาะ ส่วนกรงไม่มี ใส่กล่องไปก่อน 555555 ถ้าคืนนี้รอด จะไปซื้อกรงมา
Day2
วันที่ 20 เม.ย. 2559 ตอนเช้าตี 5 รีบลงมาดูว่ารอดไหม สรุปยังลืมตา ตัวไม่แข็ง ดีใจมาก เย้เย้ แต่ต้องมาพ่นยาให้เช้า-เย็น
ดูแผลดีขึ้น (ขอโทษนะคะรูปไม่ชัดเพราะรีบๆถ่าย แล้วก็ดิ้นด้วยค่ะ)
ไปซื้อกรงมาให้แล้ว แบบนี้ ดูจากภายนอกเหมือนไม่เป็นอะไรเลย
Day3
วันที่ 21 เม.ย. 2559 จากเมื่อคืนไม่เห็นกินอาหาร เลยมาป้อนน้ำที่ใส่ยาไป โดนใช้ช้อนไปจ่อปาก ก็จิบๆๆไปนิดหน่อย แต่ยังดีที่จิบ
(ขอโทษนะคะรูปไม่ชัดเพราะรีบๆถ่าย แล้วก็ดิ้นด้วยค่ะ)
Day4
วันที่ 22 เม.ย. 2559 ดูจากแผลแล้วแห้งดีขึ้นมากเลยค่ะ แต่ยังงงๆอยู่ว่าไม่เห็นกินอาหาร คือสังเกตจะใส่อาหารไว้ในถ้วย จะเห็นเศษอาหาร
ตกไปอยู่ข้างล่างเยอะมาก เลยไม่แน่ใจว่ากินไหม (ขอโทษนะคะรูปไม่ชัดเพราะรีบๆถ่าย แล้วก็ดิ้นด้วยค่ะ)
Day5
วันที่ 23 เม.ย. 2559 ไม่มีรูปแล้วนะคะ เพราะแข็งแรงขึ้นมาก กางปีกดิ้นไม่ให้จับ แต่ต้องหลอกล่อให้กางปีก แล้วพ่นยาไปที่แผลแทนค่ะ
Day 6
วันที่ 24 เม.ย. 2559 ไม่มีรูปอีกเหมือนกันค่ะ แต่กำลังคิดว่าถ้าแข็งแรงมากๆๆจะปล่อยแล้วค่ะ
Day 7
วันที่ 25 เม.ย. 2559 มีรูปนะคะ จากที่สงสัยว่ากินอาหารบ้างไหม ก็เลยแอบถ่ายไม่ให้เห็น 55555 รูปเลยไม่ค่อยชัดอีกแล้ว
ดีใจมากเลยค่ะ ที่รอด ตั้งชื่อว่า ราบลอย
ตอนนี้กำลังคิดว่าจะปล่อยได้หรือยังค่ะ หรือต้องรออีกหน่อย แผลแห้งขึ้นแต่ยังไม่ปิดสนิทดี แข็งแรงขึ้นมาก กางปีกพรึบพรึบ
รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ