ลาออกจากงาน โดยเพิ่งเริ่มทำงานได้แค่วันเดียว

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะพี่ๆเพื่อนๆพันทิพทุกคน นี่เป็นกระทู้แรกของหนูเลย หนูอยากจะขอคำปรึกษาจากหลายๆคนเรื่องการลาออกจากงาน โดยเพิ่งเริ่มทำงานได้เพียงแค่วันเดียว แต่หนูต้องขอบอกก่อนนะคะว่า กระทู้นี้ ไม่ได้มีเจตนาต่อว่าสถานที่ทำงาน หรือให้ร้ายแต่อย่างใด เป็นแค่กระทู้เพื่อขอความคิดเห็นจากประสบการณ์ของหนูเท่านั้นค่ะ รายละเอียดมีดังนี้ค่ะ

       คือหนูเป็น นศ จบใหม่ ก็หางานตามความสามารถที่เราทำได้ตามเว็บหางานทั่วไป และไปเจอเข้ากับบริษัทนึงที่มีตำแหน่งงานที่หนูสามารถทำได้ ก็เลยสมัครไปค่ะ แล้วเค้าก็ติดต่อกลับมา นัดหนูเข้าสัมภาษณ์ ต้องบอกนิดนึงว่า ลักษณะของงานเป็นงานเซลล์ค่ะ เราสนใจจากที่อ่านในเว็บคือ การทำงานจะเป็นการออกอีเวนท์ ออกบูท (ภาพในหัวเรามาละตอนนั้น) ก็โอเค ตกลงเข้าสัมภาษณ์ หนูไปมา 2 รอบ ผลคือผ่านค่ะ เราก็ดีใจมาก เพราะเราจะมีงานทำแล้ว(นั่นคือสิ่งที่ นศ จบใหม่หวังโคตรๆอยู่แล้วเนอะ) แล้วเค้าก็นัดเข้าเทรนงานค่ะ เราก็ไปเทรนงานกับทางบริษัทมา 1 วัน ก็ได้ทราบลักษณะงานรวมถึงรายละเอียดมากขึ้น และได้ทราบเกี่ยวกับเงินเดือนที่จะได้รับ โดยเดือนแรกจะมีเงินพื้นฐานไว้ให้เราตายตัว ไม่รวมยอดขายที่ได้(ค่าคอม) และพอเดือนถัดไปเงินที่ได้จะเป็นเงินจากการทำยอด และไม่มีเงินเดินพื้นฐานไว้ให้เราละ (ประมาณว่าเงินที่ได้ก็คือค่าคอมที่เราทำยอดได้นั่นแหละ) โดยอาจมีหลายๆคนโอเค และยอมรับกับรายละเอียดของงานและข้อตกลงนี้โดยไม่ติดขัดอะไร แต่ไม่ค่อยสำหรับหนูเท่าไหร่ และแอบกังวลใจเล็กน้อยกับข้อตกลงเรื่องเงินนี้และโปรเจ็คที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งโปรเจ็คที่หนูได้รับเนี่ย ค่อนข้างต่างจากคำพูดตอนสัมภาษณ์ที่เค้าเคยพูดไว้ ประมาณว่าให้เราดูตัวอย่างโปรเจ็คนี้ไป แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะได้รับโปรเจ็คนี้นะ ซึ่งพอมาจริงๆ หนูก็ได้โปรเจ็คนี้อะแหละ แต่ก็คิดบวกกับตัวเองไปว่า เอาหน่า มันยาก มันลำบาก แต่มันจะทดสอบเราช่วงโปรนี่แหละ(คิดบวกมากก) และตอนนั้นความตั้งใจหนูคือ ต้องทำให้ได้ เรามั่นใจความสามารถตัวเอง และพอวันเริ่มงานจริงๆ หนูลงพื้นที่จริง หนูทำมันเต็มที่มากๆ และแอบได้คำชมจกพี่ที่ดูเเลเรา(เทรนเนอร์) มาด้วย ตอนนั้นรู้สึกดีมากๆและมีความสุขกับพี่ๆที่ได้ร่วมงานด้วย โดยเฉพาะพี่เทรนเนอร์ของหนู ที่ดูแลหนูดีมาก และบรรยากาศในออฟฟิตก็เฮฮา ไม่ตึงเครียด เราเลยนำสิ่งเหล่านี้ มาหักล้างความกังวลใจไปได้เปราะนึงเลย
   แต่หนูเพิ่งเริ่มทำงานได้เพียง 1 วัน ก็ติดเป็นวันหยุด (เสาร์-อาทิตย์) หนูเลยใช้เวลาวันหยุด ทำความเข้าใจเกี่ยวกับงาน และโปรเจ็คที่หนูทำ พร้อมเตรียมความพร้อม สำหรับการสอบเพื่อผ่านช่วงโปร แล้วแม่หนูก็ติดต่อมาค่ะ ถามเกี่ยวกับเรื่องงาน รายละเอียดของงาน รวมถึงเงินเดือนด้วย เราก็อธิบายทั้งหมดให้แม่ฟัง ที่บ้านก็ให้ความเห็นว่า เอาจริงๆแล้วมันไม่มั่นคงเลย จริงอยู่อย่างที่เค้าพูดว่า ต่อจากเดือนแรกเราต้องขยันมาก กระตือรือร้นในการทำยอดขายมากๆ เราถึงจะได้เงินตามเป้าหมาย ได้เงินเยอะน้อยขึ้นอยู่กับยอดขายที่เราทำได้ แต่ถามว่า ไหนคือความมั่นคง?? เดือนไหนเราขายไม่ดี ขายไม่ได้ หรือเหตุผลอื่นๆ แล้วจะมีอะไรตรงไหนมารับประกันว่าชีวิตความเป็นอยู่เราเดือนนั้นๆจะมั่นคง พอที่บ้านพูดคำนี้มาปุ๊บ หนูก็นึกตามเลยค่ะ ซึ่งมันก็จริง และเป็นตามที่หนูกังวงใจอยู่ก่อนแล้ว หนูเองก็ยังไม่เคยมีประสบการณ์การทำงานลักษณะนี้เลย ง่ายๆคือไม่เคยทำงานที่ไหน พอเรามาเจอบรรยากาศการทำงานที่ดี พี่ๆใจดี เงินได้เยอะจัง(เพราะเค้าก็นำเสนอการทำยอดของแต่ละคนที่ได้เยอะๆ) ถึงเป็นงานที่เราทำได้ อาจจะไม่ได้ขั้นรักงานขายขนาดนั้น แต่หนูคิดว่า เอาวะ! ลองดู จนเมื่อมาปรึกษากับที่บ้าน และได้ความเห็นมาแบบนี้ เราก็รู้สึกว่าจริงเลย เราไม่ควรพยายามลบล้างความกังวลเราด้วยเหตุผลเล็กน้อยที่มันเอาวัดความมั่นคงในชีวิตไม่ได้

'เลยตัดสินใจว่า จะขอลาออก' เพื่อคลายความกังวลใจของแม่และที่บ้านด้วยแล้ว และก็เพื่อคลายความกังวลใจของหนูด้วย

       เช้าวันนี้ หนูเลยโทรไปบอกกล่าวพี่เทรนเนอร์หนูก่อนจะเข้างาน แต่อย่าเข้าใจผิดว่าหนูจะไม่โผล่ไปนะคะ หนูคิดว่า หนูควรโทรไปเกริ่นเค้าซักนิด เผื่จะต้องมีการทำเอกสารอะไรรึปล่าว โทรไปแจ้งเค้าก่อน ดีกว่าพี่เค้าไปเจอหนูที่ออฟฟิต แล้วให้อยู่ๆหนูก็โพล่งประโยคพีคสุดของเช้าวันนี้ให้พี่เค้าฟังเลยคือ 'พี่คะ หนูขอลาออก!!' แต่พอหนูโทรไปบอกเค้า หนูได้น้ำเสียงแบบ คือฟังก็รู้ว่าไม่โอเคเลย พี่เค้าก็ถามอยู่2 -3 คำแล้วก็บอกให้เราไปเจอกันที่ออฟฟิต ซึ่งวางสายเสร็จหนูก็รีบไปเลยค่ะ พอไปถึง หนูก็คุยกับพี่เค้าค่ะ ท่าทางดูไม่โอเคเอาการเลย ซึ่งหนูก็เตรียมใจมาแล้ว แต่เราไปอธิบายด้วยเหตุผล และเลือกที่จะทำตามความสบายใจจริงๆ สรุปคือหนูก็ลาออกได้ แต่สิ่งที่หนู่ค่อนข้างเสียความรู้สึกในตอนนั้นคือ พี่เค้าดูเมินคำขอโทษและคำขอบคุณที่หนูพยายามพูดกับพี่เค้า ที่อุส่าให้โอกาสหนูและเทรนงานให้หนูตลอด 1-2 วันที่ผ่านมา หนูก็บอกพี่เค้าไปนะคะว่า หนูลำบากใจเหมือนกัน จริงๆโดยส่วนตัว หนูไม่ติดขัดอะไรมาก แต่เพราะด้วยเหตุผลทางบ้าน กับเรื่องที่หนูกังวลใจนี้ เลยทำให้หนูตัดสินใจลาออกดีกว่า แล้วคือกะว่าลาออกไปแล้วเนี่ย เราจะยังสามารถคุยกันได้ ทักทายตามประสาพี่น้องที่รู้จักกันได้ เพราะด้วยความที่พี่เค้าดีมากๆ เราเลยคิดว่า พี่เค้าอาจจะเข้าใจเราประมาณนึงแหละ แต่สุดท้าย หมางเมินมาก หนูยังไม่ได้ทันสวัสดีแบบดีๆตอนก่อนจะออกมาเลยด้วยซ้ำ
       เรื่องทั้งหมดก็ประมาณนี้ค่ะ จริงๆหนูก็ยอมรับเลย ว่าตัวหนูนี่แหละผิด แต่หนูขอเลือกที่จะอยู่กับงานที่เรามั่นใจในระบบทั้งหมด รวมถึงที่บ้านสบายใจดีกว่า เพราะหนูเองก็ไม่ใช่คน กทม แค่เด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาหางาน จะอะไรก็แล้วแต่หนูทำได้ แค่ขอให้มั่นคงเป็นพอ อาจจะมองว่าเรื่องเยอะ แต่ถ้าเป็นเรื่องอนาคตของชีวิต หนูมองว่า มันจะเรื่องน้อยไม่ได้ รู้สึกผิดอยู่เอาการเลยค่ะ กับที่เราไปลาออก เพราะเราก็เป็นคนสมัคร และสนใจงานเองด้วย แต่ในเมื่อลาออกไปแล้ว เราก็ต้องทำเรื่องหลังจากนี้ให้ดีที่สุด หนูคิดถูกใช่มั้ยคะ??

       แต่ความกังวลใจหนูก็ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น คือหนูรู้ดีว่า การเริ่มงานได้เพียงวันเดียวแล้วลาออก มันก็ทำให้โปรไฟล์เราดูไม่ดีด้วย สิ่งที่หนูกังวลคือ ถ้าหากหนูสมัครงานใหม่ ประเด็นนี้จะมีผลมากน้อยสำหรับการตัดสินใจรับหนูเข้าทำงานขนาดไหนคะ แล้วอีกอย่างคือ หนูเคยอ่านกระทู้นึงมา เคยมีคนลาออกจากงานไป แต่เมื่อสมัครงานใหม่ เริ่มทำงานได้ไม่ถึงเดือน ก็ถูกเชิญออก คือเนื่องด้วย  hr จากบริษัทเก่า มีการติดต่อและพูดคุยกับ hr คนปัจจุบันเกี่ยวกับการทำงานก่อนหน้านั(ประมาณนี้นะ หนูจำได้ไม่ทั้งหมด) เลยอยากขอคำปรึกษาจากหลายๆคนค่ะ ว่าหนูควรทำยังไง ประวัติที่เสียมันน่าเป็นกังวลมากขนาดไหน มันจะแย่มากมั้ยคะ ?
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่