สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 21
สรุปข้อเท็จจริง
1. พระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องสุขภัณฑ์เซรามิก : โถส้วมนั่งราบต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ.2556
เป็นการกำหนดให้ผู้นำเข้าและผู้ผลิตโถส้วมนั่งราบต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน เลขที่ มอก.792-2554 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 4380 (พ.ศ.2554)
2. เมื่อ 19 ก.พ. ครม.มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอ ได้แก่ 1.เห็นชอบในหลักการแผนแม่บทพัฒนาส้วมสาธารณะไทย ระยะที่ 3 (พ.ศ.2556-2559) และ 2.ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแผนแม่บทพัฒนาส้วมสาธารณะไทย ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2556-2559) ไปสู่การปฏิบัติเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายความสำเร็จที่กำหนดไว้ โดยมีเป้าหมาย 1.ครัวเรือนไทยใช้ส้วมแบบ "ส้วมนั่งราบ" ร้อยละ 90 ภายในปี พ.ศ.2559 2.สถานบริการสาธารณะ และสถานที่สาธารณะมีบริการ "ส้วมนั่งราบ" อย่างน้อย 1 ที่ ร้อยละ 10 ของกลุ่มเป้าหมายภายในปี พ.ศ.2559 3.มีส้วมสาธารณะที่สะอาด เพียงพอ ปลอดภัย ร้อยละ 90 ของกลุ่มเป้าหมายภายในปี พ.ศ.2559 4.คนไทยมีพฤติกรรมการใช้ส้วมสาธารณะถูกสุขลักษณะ ร้อยละ 90 ของผู้ใช้บริการในปี พ.ศ.2559 และ 5.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการจัดการสิ่งปฏิกูลอย่างถูกหลักสุขาภิบาล ร้อยละ 50 ภายในปี 2559
มติดังกล่าว ถือเป็นออกนโยบายในลักษณะรณรงค์ประชาชนให้หันมาใช้สุขภัณฑ์นั่งราบ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องนำไปปฏิบัติต่อไป
3. ไม่มีการยกเลิกการใช้โถส้วมแบบนั่งยอง ซึ่งเป็นมาตรฐาน เลขที่ มอก.792-2554 และไม่มีการสั่งการบังคับยกเลิกโถส้วมแบบนั่งยอง
ถึงผมจะไม่เชียร์รัฐบาล แต่ก็ไม่ชอบการเล่นข่าวในลักษณะบิดเบือนข้อเท็จจริง เราชาวพันทิป ไม่ควรเป็นพวกตื่นตามข่าว นะครับ
1. พระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องสุขภัณฑ์เซรามิก : โถส้วมนั่งราบต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ.2556
เป็นการกำหนดให้ผู้นำเข้าและผู้ผลิตโถส้วมนั่งราบต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน เลขที่ มอก.792-2554 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 4380 (พ.ศ.2554)
2. เมื่อ 19 ก.พ. ครม.มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอ ได้แก่ 1.เห็นชอบในหลักการแผนแม่บทพัฒนาส้วมสาธารณะไทย ระยะที่ 3 (พ.ศ.2556-2559) และ 2.ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแผนแม่บทพัฒนาส้วมสาธารณะไทย ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2556-2559) ไปสู่การปฏิบัติเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายความสำเร็จที่กำหนดไว้ โดยมีเป้าหมาย 1.ครัวเรือนไทยใช้ส้วมแบบ "ส้วมนั่งราบ" ร้อยละ 90 ภายในปี พ.ศ.2559 2.สถานบริการสาธารณะ และสถานที่สาธารณะมีบริการ "ส้วมนั่งราบ" อย่างน้อย 1 ที่ ร้อยละ 10 ของกลุ่มเป้าหมายภายในปี พ.ศ.2559 3.มีส้วมสาธารณะที่สะอาด เพียงพอ ปลอดภัย ร้อยละ 90 ของกลุ่มเป้าหมายภายในปี พ.ศ.2559 4.คนไทยมีพฤติกรรมการใช้ส้วมสาธารณะถูกสุขลักษณะ ร้อยละ 90 ของผู้ใช้บริการในปี พ.ศ.2559 และ 5.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการจัดการสิ่งปฏิกูลอย่างถูกหลักสุขาภิบาล ร้อยละ 50 ภายในปี 2559
มติดังกล่าว ถือเป็นออกนโยบายในลักษณะรณรงค์ประชาชนให้หันมาใช้สุขภัณฑ์นั่งราบ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องนำไปปฏิบัติต่อไป
3. ไม่มีการยกเลิกการใช้โถส้วมแบบนั่งยอง ซึ่งเป็นมาตรฐาน เลขที่ มอก.792-2554 และไม่มีการสั่งการบังคับยกเลิกโถส้วมแบบนั่งยอง
ถึงผมจะไม่เชียร์รัฐบาล แต่ก็ไม่ชอบการเล่นข่าวในลักษณะบิดเบือนข้อเท็จจริง เราชาวพันทิป ไม่ควรเป็นพวกตื่นตามข่าว นะครับ
แสดงความคิดเห็น
ประกาศแล้ว พ.ร.ฎ."ยกเลิกส้วมนั่งยอง" หันใช้ชักโครกแทน (ลุงเห็ดโคน)
(26 เม.ย.) มีรายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ได้มีพระราชราชกฤษฎีกา ปรับเปลี่ยนสุขภัณฑ์ในห้องน้ำใหม่จากส้วมแบบราบ หรือ ส้วมนั่งยอง หรือ ส้วมซึม ให้เป็นแบบที่มีชักโครกแทน หรือ ส้วมนั่งราบ โดยประกาศดังกล่าวให้มีผลทันทีในอีก 120 วัน นับตั้งแต่วันประกาศ คือวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งการประกาศดังกล่าวเป็นไปตามแผนแม่บทที่ทางรัฐบาล ต้องการพัฒนาส้วมให้มีมาตรฐาน และป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากประชาชนได้ถ้ามีคุณภาพต่ำ รวมไปถึงส่งเสริมให้คนไทยมีพฤติกรรมการใช้ส้วมสาธารณะที่ถูกสุขลักษณะ และ สนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดการสิ่งปฏิกูลอย่างถูกหลักสุขาภิบาล โดยตั้งเป้าให้ทุกครัวเรือนมีชักโครกทุกหลังในปี 2559
พระราชกฤษฎีกาดังกล่าวชื่อว่า "พระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องสุขภัณฑ์เซรามิก : โถส้วมนั่งราบต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. 2556" โดยมาตรา 3 ระบุว่า ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องสุขภัณฑ์เซรามิก : โถส้วมนั่งราบต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เลขที่ มอก.792 - 2554 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 4380 (พ.ศ. 2554) โดยมีหมายเหตุว่า เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องสุขภัณฑ์เซรามิก : โถส้วมนั่งราบ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และ อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและอนามัยของประชาชนได้ หากมีคุณภาพต่ำ จึงจำเป็นต้องควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคและเพื่อป้องกันความเสียหายอันอาจเกิดแก่ประชาชน
สำหรับที่มาที่ไปเรื่องดังกล่าว คือเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ในหลักการแผนแม่บทพัฒนาส้วมสาธารณะไทย ระยะที่ 3 พ.ศ. 2556 - 2559 และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแผนแม่บทไปสู่การปฏิบัติเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายความสำเร็จที่กำหนดไว้ สาระสำคัญ คือ เพื่อพัฒนาส้วมครัวเรือนให้เหมาะสมในการรองรับต่อการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ คือ ป้องกันโรคข้อเสื่อม เพื่อให้ประเทศมีส้วมสาธารณะได้มาตรฐาน สะอาด เพียงพอ ปลอดภัย เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีพฤติกรรมการใช้ส้วมสาธารณะที่ถูกสุขลักษณะ ส่งเสริมให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นจัดการสิ่งปฏิกูลอย่างถูกหลักสุขาภิบาล
เป้าหมายความสำคัญ มีดังนี้ให้ครัวเรือนไทยใช้ส้วมแบบส้วมนั่งราบ หรือ ชักโครก ร้อยละ 90 ภายในปี พ.ศ. 2559 สถานบริการสาธารณะ และ สถานที่สาธารณะมีบริการส้วมนั่งราบอย่างน้อย 1 ที่ ประเทศไทยมีส้วมสาธารณะที่สะอาด เพียงพอ ปลอดภัย ร้อยละ 90 ของกลุ่มเป้าหมายภายในปี พ.ศ. 2559 คนไทยมีพฤติกรรมการใช้ส้วมสาธารณะถูกสุขลักษณะ ร้อยละ 90 ของผู้ใช้บริการในปี พ.ศ. 2559 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการจัดการสิ่งปฏิกูลอย่างถูกหลักสุขาภิบาล ร้อยละ 50 ภายในปี พ.ศ. 2559
โดยกลุ่มเป้าหมายส้วมครัวเรือน และ ส้วมสาธารณะ ได้แก่ แหล่งท่องเที่ยว ร้านจำหน่ายอาหาร ตลาดสด สถานีขนส่งทางบกและทางอากาศ สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง สถานศึกษา โรงพยาบาล สถานที่ราชการ สวนสาธารณะ ศาสนสถาน ส้วมสาธารณะ ริมทาง และ ห้างสรรพสินค้า/ศูนย์การค้า/ดิสเคานต์สโตร์
CR http://news.sanook.com/1182789/
ห้องน้ำ บนรถไฟ มันยังเป็นสแตนเลส แบบนั่งยองอยู่เลย เมื่อใรเปลี่ยน
แบบนั่งยองเนี่ย มันกันเชื้อโรคติดต่อ ทางผิวหนัง ใด้รู้ใหม
ตูตใครเป็นกราก เกลื้อน สังคัง ใด้มีโรคติดต่อกันแน่ งานนี้
ผลงานเข้าตา ฝุดๆ