ต่อจากใช้พาสวันแรกที่ Izu Peninsula - http://ppantip.com/topic/35071170

รีวิวอันนี้จะเป็นการใช้ JR Tokyo Wide Pass ในวันที่ 2 และ 3 ติดกันเลยนะครับ
พาเที่ยว Gala Yuzawa สกีรีสอร์ท , Takaragawa Onsen ออนเซ็นบ่อรวมกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ,
Karuizawa เมืองตากอากาศสวยๆและมีเอาท์เลทขนาดใหญ่ ปิดท้ายเดินเล่นที่ Minato Mirai 21 ครับ

จุดหมายแรกคือ Gala Yuzawa

ตั้งแต่มีการเปลี่ยนจาก Kanto pass เป็น JR Tokyo Wide Pass ก็เดาไม่ยากว่าที่นี่คนมาเพียบแน่นอน


มาถึงเช้าๆคนน้อยดี มีพนักงานคอยบริการและที่นี่คนไทยมาเยอะครับ


ถ้าตอบแบบสอบถามออนไลน์ที่ - https://qooker.jp/Q/auto/th/gala/multi/ ไม่เกิน2นาทีแค๊ปหน้าจอในมือถือโชว์รับของได้เลย
ก็จะได้เป็นของที่ระลึกจากGala ซึ่งจะเปลี่ยนไปทุกปี อย่างปีนี้ก็จะได้เป็นแผ่นร้อนกันหนาวไคโระคนละถุง

แน่นอนว่าสำหรับคนที่เล่นสกีไม่เป็นอย่างเรา เช่าแค่ชุดถุงมือ บู๊ท ถาดเลื่อน พร้อมตั๋วกระเช้า 1300 เยน
ส่วนเช่าตู้ล๊อกเกอร์ใหญ่นั้นตู้ละ 1000 เยน ถ้ามีของน้อยอาจจะเช่าตู้เล็กด้านนอกก็ได้ครับตู้ละ 100 เยน
สำหรับตู้ล๊อกเกอร์ตู้ใหญ่ จะมีเครื่องที่จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติแถวๆทางเข้า ใส่เงินเข้าไปก็จะได้ตั๋วที่บอกเบอร์ล๊อกเกอร์และรหัสแรกเข้ามา
ให้ไปที่ตู้ตามเบอร์ที่ตั๋วบอกไว้ กดรหัสตามตั๋ว และระบบจะให้เราตั้งรหัส4หลักใหม่ ที่ใช้สำหรับเปิด/ปิดกี่ครั้งก็ได้ใน1วัน



ในเมืองYuzawa ข้างล่างก็ไม่ค่อยมีหิมะแล้วครับ  แต่ข้างบนสกีรีสอร์ทเช็คจากเว็บGala หิมะยังหนาอยู่ถึง 140 ซ.ม.




ไปเช้าๆก็คนน้อยดีครับ และไม่ต้องอายเพราะโซนนี้ไม่ได้มีแค่เด็ก มีวัยรุ่นและผู้ใหญ่ เล่นเยอะแยะครับ

หลังจากเล่นและถ่ายรูปจนหนำใจแล้ว เราก็นั่งบัสไปสถานี Echigo Yuzawa เพื่อที่จะไปเดินเล่นและหาอะไรกิน
ชั้นล่างมีบัสฟรีที่วิ่งระหว่าง Gala Yuzawa กับ สถานี Echigo Yuzawa
http://www.galaresort.jp/winter/english/access/img/shuttlebus_timetable.pdf
หลักๆก็มีสายสีฟ้ากับสีเหลือง 2สายนี้รวมกันมาทุก 15 นาที ถ้านั่งสายสีแดงหรือม่วงต้องลงที่ Yuzawa Kogen แล้วเดินอีกระยะนึง

ภายในสถานี Echigo-Yuzawa มีของฝากและร้านอาหารอยู่เยอะ วันนี้ขอมาลองข้าวปั้นร้านดังของที่นี่ชื่อร้าน Yukinto
เดินผ่านแถวที่ขายของฝากเยอะๆ ร้านจะอยู่ในโซน Co-Co-Lo นะครับ



ข้าวปั้นขนาดธรรมดาของทางร้าน ก็ลูกใหญ่กว่าปกติทั่วไปซัก3เท่าได้ ส่วนรสชาติก็ถือว่าโอเคใช้ได้
ข้าวนุ่มดี ไส้ไม่มากไม่น้อยเกินไป มีซุปมิโซะอร่อยๆให้ซดคล่องคอ


รายละเอียดดูได้ที่นาทีที่ 10.00
มีข้าวปั้นยักษ์ขนาด 1.7 ก.ก. ด้วยนะ แต่คงกินไม่ไหวครับ แค่ลูกธรรมดาก็เกือบจะกินไม่หมดแล้ว

จุดหมายที่เราจะไปต่อคือ Takaragawa Onsen โดยจะมีรถของทางออนเซ็นมารับที่สถานี Jomo Kogen

ไม่มีใครลงเป็นเพื่อนเลย


สถานีเงียบมาก คนก็น้อย ทั้งที่แถวนี้ก็มีที่เที่ยวพอสมควรเลย
ที่มีน่าสนใจก็ หมู่บ้านหัตถกรรม Takumi no sato, โรงงานเครื่องแก้วบิอิโดโร่ปาร์ค, บุฟเฟ่ต์สตอร์เบอรี่ก็มี2-3สวน
ถ้ามีเวลาเหลือเยอะก็ว่าจะไปเดินเล่นที่สวน Yaseshinsui Park เพราะสวนที่นี่ซากุระสวยเหมือนกัน
และอยากเล่นโรลเลอร์สไลเดอร์ด้วย แต่เวลาเรามีไม่ถึงชั่วโมงเลยไม่ได้ไปครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เผื่อใครสนใจ ที่นี่มีโรลเลอร์สไลเดอร์สูง 10 เมตร ยาว 75 เมตร



- รูปจากอินเตอร์เน็ต



ใกล้ถึงเวลาก็มีเจ้าหน้าที่ของTakaragawa Onsen มาชูป้ายเรียกขึ้นรถบัสตอนบ่าย2 ตามที่จองที่ไว้
วันที่ไปก็มีคนไปเต็มคันครับ(มาจากไหนกันหว่า?)  นั่งรถไปประมาณ40นาทีก็ถึงครับ


ภายในห้องพักถึงเก่าแก่เกินร้อยปี ก็ยังดูสะอาดเรียบร้อยครับ ห้องอุ่นสบายมีฮีทเตอร์หลายตัว


เปลี่ยนชุดไปถ่ายรูปตรงสะพาน เหลือแค่ชุดยูกาตะกับชุดคลุมของทางออนเซ็น
หนาวมือแข็งฟันกระทบกันเลยทีเดียว

สำหรับออนเซ็นที่นี่จะมีด้วยกัน 4 บ่อ เป็นบ่อรวมชายหญิง 3 และ บ่อหญิงล้วน 1
ภายในส่วนของบ่อออนเซ็นเค้าห้ามถ่ายรูปนะครับ เลยไม่ได้ถ่ายมา

สำหรับผู้หญิง ทางออนเซ็นอนุญาติให้ใส่ผ้าถุงสีน้ำตาลของทางออนเซ็นลงได้
แต่สำหรับผู้ชายมีแค่ผ้าขนหนูขนาดประมาณ 25x40 ซ.ม. (แหม่..แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีล่ะนะ)
สำหรับในนี้ บ่อออนเซ็นไม่ได้ลึก แค่ยืนก็เห็นหมด จะเห็นผู้ชายเดินกันโทงเทงในบ่อเป็นเรื่องปกติ
ยิ่งคนญี่ปุ่นเค้าถือเป็นเรื่องธรรมชาติครับ ญี่ปุ่นบางคนยืนชมนกชมไม้ค่อยๆเดินขึ้นจากบ่อก็มี
ที่จริงก็โทงเทงกันตั้งแต่ที่ห้องอาบน้ำผู้ชายแล้วครับ คือภายในห้องอาบน้ำเป็นแบบญี่ปุ่น
จะมีเก้าอี้กับฝักบัวให้นั่งอาบ แถมดันมีกระจกตรงหน้าที่นั่งอาบน้ำแต่ละที่ด้วย

สำหรับบ่อหญิงล้วนที่แฟนเล่าให้ฟังก็เรียกว่า อล่างฉ่างเลยทีเดียว ไม่นุ่งผ้าเหมือนบ่อรวม
แฟนบอกว่ามีเฉพาะคนไทยเท่านั้นที่นุ่งผ้าลงบ่อครับ ญี่ปุ่น ยุโรป เค้าเปลือยแช่กันเลย


การแช่ออนเซ็นเค้าบอกให้แช่บ่อละ 15 นาทีกำลังดี แต่ผมแช่ไปบ่อละครึ่งชั่วโมงได้ อากาศหนาวๆแช่ออนเซ็น
ท่ามกลางบรรยากาศสวยๆนี่มันเยี่ยมจริงๆครับ ถึงแม้จะยากตอนลงบ่อตอนแรกนี่แหละ
ด้วยความไม่รู้ดันผมไปลงบ่อ Maka บ่อด้านหน้าสุดที่ร้อนที่สุด แบบว่าตอนแรกยังเขินๆเลยรีบลง
น้ำร้อนมากกก..แทบกรีดร้องแต่ก็ต้องทำนิ่งๆไว้ พอแช่ซักพักร่างกายปรับอุณหภูมิได้ก็สบายๆแล้วครับ

แช่ไปเต็มอิ่มแล้วก็ถึงเวลาอาหารเย็นที่เราจองไว้ช่วงหกโมงเย็น เป็นอาหารชุดไคเซกิ

จัดเรียงมาเป็นชุดแบบนี้ดูสวยน่ากินเชียว


ชุดแรกก็มากันหลายอย่าง จากชุดไคเซกิทั้งหมด10อย่าง คือบางอย่างก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
ถามป้าพนักงานแกก็ตอบภาษาญี่ปุ่นอย่างเดียว ก็กินทั้งที่ไม่รู้คิดซะว่าเป็นความสนุกในการกินไปอีกแบบแล้วกัน


ด้านขวาที่เหมือนสาหร่ายนี่คืออะไรก็ไม่รู้ แอบมองฝรั่งโต๊ะข้างๆก็กินหมดจาน เหลือแต่วาซาบิ
อย่าบอกนะว่า youกินดอกไม้เข้าไปด้วย !!??
เอาไงดีล่ะเนี่ย ลองกัดชิมดูก็จืดๆแต่น่าจะกินได้นะ ก็เลยกินมันทั้งชิ้น สรุปรสจืดสนิทเหมือนกินฟองน้ำ -_-'


ส่วนสุกี้หม้อนี้ ถือว่าอร่อยใช้ได้เลยครับ
ส่วนอาหารอื่นๆในชุดนี้ก็อร่อยบ้างเฉยๆบ้างปนกันไป


หลังกินอาหารชุดแรกหมด ก็มีชุดต่อไปมาเพิ่มครับ เป็นเหมือนข้าวต้มเผือก+เห็ด
กับ เทมปุระ ที่กินเข้าไปแล้วก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรทอด รู้แต่ว่าไม่อร่อยเลยครับ เทมปุระรสขมๆ ชุดนี้ไม่ผ่าน


ชุดต่อมาเป็น ข้าว ซุปเนื้อหมี และผักดอง  ตัวซุปรสชาติดี ส่วนเนื้อหมีรสชาติเหมือนเนื้อวัว
แฟนกินบอกโอเคอร่อย แต่ผมรู้สึกเนื้อหมีติดหืนสาบอยู่นิดๆ


ตบท้ายด้วยสัปปะรดกับสตอร์เบอรี่ หวานฉ่ำอมเปรี้ยวนิดๆชื่นใจ

อาหารมื้อเย็นนี้ดูเหมือนอย่างละนิดละหน่อย แต่รวมๆกันก็เยอะเอาเรื่อง ส่วนมากก็จะกินกันไม่หมด
กะว่าจะเหลือท้องไปกดตู้ไอติมกูลิโกะของที่พักกินซะหน่อย ก็ไม่ไหวแล้วครับ อิ่มมาก
หลังจากกลับมาที่ห้อง พนักงานก็จัดแจงปูที่นอนให้เรียบร้อย ในช่วงเวลาที่เรากินอาหาร
อากาศหนาวๆ นอนในที่นอนนุ่มๆผ้าห่มหนาๆ เป็นคืนที่หลับสนิทและสบายจริงๆ


ตื่นเช้ามาประมาณก่อน6โมง ก็จัดแจงตัวเองเตรียมไปแช่ออนเซ็นช่วงเช้าอีกรอบ
หมอกหนาๆคนน้อยๆ แช่ช่วงเช้าก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบครับ

สำหรับมื้อเช้าวันนี้ เลือกแบบ western และ japanese อย่างละชุด


มีตอดไปบ้างบางส่วน สำหรับอาหารเช้าที่นี่อร่อยมากทั้ง2แบบครับ

กลับไปที่สถานี Jomo Kogen ด้วยรถบัสของ Takaragawa Onsen ที่จองไว้ตอน 9.30
วันนี้เราไปต่อกันที่เมือง Karuizawa ที่เป็นเมืองตากอากาศที่เป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่น



แถวนี้ก็ยังพอมีหิมะหลงเหลือตามพื้นบ้างในปลายเดือนมีนา
ผมไม่ค่อยถ่ายรูปในเมืองเท่าไหร่ แต่บอกได้ว่าเมืองนี้น่ารักมาก บรรยากาศดีน่าเช่าจักรยานปั่นเที่ยวรอบๆ


จากนั้นเราก็นั่งบัสไปที่ Karuizawa Ginza Shopping Street กันต่อ ในวันธรรมดาที่นี่คนค่อนข้างบางตา
สินค้าก็มีทั้งเสื้อผ้า ของกิน ของใช้ ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ดูจากราคาแล้วก็ไม่ได้ถูกเท่าไหร่


ขากลับเรานั่งรถบัสที่ป้าย kyu-karuizawa กลับมาที่สถานี เพื่อไปเดินoutletกันต่อ
รถบัสที่ Karuizawa มีหลายสายดูรายละเอียดได้ที่  http://www.kkkg.co.jp/bus/rosen-bus.html (ใช้แปลภาษา)

เราไปต่อกันที่ Karuizawa Prince Shopping Plaza ที่นี่อยู่หลังสถานีเลยเป็น outletขนาดใหญ่รวมร้านค้าดังๆกว่า200ร้าน
เรียกได้ว่าโดนใจขาช๊อปแน่นอนเดินได้ทั้งวันก็ไม่เบื่อ - http://www.karuizawa-psp.jp/page/

ก่อนเดินช๊อปปิ้ง มาเติมพลังกันก่อนที่ฟู๊ดคอร์ทของที่นี่ มีร้านอาหารเพียบครับ


เราเลือกกินกันร้านนี้ครับ ชามใหญ่รสชาติดีสั่งเป็นเซ็ตก็ราคาไม่แพงครับ


หลังจากกินกันเรียบร้อยแล้ว ก็เดินช๊อปที่นี่กันพักใหญ่ได้ของติดไม้ติดมือมาคนละนิดละหน่อย
ก็เตรียมกลับโตเกียวกันครับ แต่ยังรู้สึกมีเรี่ยวแรงอยู่ก็เลยว่าจะหาที่เที่ยวช่วงเย็นกันต่อ เอาให้คุ้มพาสสุดๆไปเลย
เลยเลือกนั่งรถไฟมาต่อช่วงเย็น-ค่ำที่ Yokohama กันครับ โดยเรานั่งไปลงที่สถานี Sakuragicho
เดินเที่ยวตามเส้นยอดฮิตย่าน Minato Mirai 21 ถึงที่นี่ช่วงเย็นแล้ว คงจะเดินถึงแค่ Red Brick Warehouse พอครับ


ส่วนตัวรู้สึกว่าที่นี่เป็นเมืองท่าที่สวยกว่าโกเบ แถวนี้ออกแบบเส้นทางเดินได้ดี มีต้นซากุระเรียงรายตามทาง