Tokyo (โตเกียว สัญญาฉันจะกลับไป) ญี่ปุ่น 6 คืน 7 วัน เมษายน 2016

[CR] Tokyo (โตเกียว สัญญาฉันจะกลับไป) ญี่ปุ่น 6 คืน 7 วัน เมษายน 2016

กระทู้รีวิว

โตเกียว

        ก่อนอื่นต้องขอบอกเลยว่าถ้าใครได้มาเยือนแดนอาทิตย์อุทัยเป็นต้องติดใจทุกคน ผู้คนนิสัยดีเป็นระเบียบ และอากาศที่เย็นสบาย
เอาแบบสาระในโตเกียวเลยแระกันนะครับ เรื่องการจองตั๋วเครื่องบินก็หาช่วงมีโปรและก็จัดเลย อย่าพลาดโอกาส ขาไปบินตอนกลางคืนจะได้ถึงสายๆพอดี ส่วนขากลับก็สักเที่ยงๆถึงบ้านเราก็เย็นๆ
มาดูแพลนกันคร่าวๆเลยนะครับ ทั้งทริปรวมค่าตั๋วเครื่องบินแล้วทั้งกินทั้งชอป ค่าตั๋วรถไฟต่างๆ และค่าเข้าดิสนี่ ทั้งหมดก็ประมาณ 60,000 บาทครับ พอดีไปจ่ายชินคันเซนเพิ่มและชอป+ของฝากก็ตก 50000 เยนแระ ถ้าใช้ปกติก็สัก 30000 บาทไม่รวมตั๋ว
DAY 1 : เช็คอิน ดูซากุระ กิน ชอปปิ้งเซอเวย์
DAY 2 :  GALA Yusawa Snow resort & Ski
    http://www.galaresort.jp/winter/thai/index.html
DAY 3 : Tokyo Disneyland
    http://www.tokyodisneyresort.jp/th/
DAY 4 : Mt. Fuji San
    http://www.jreast.co.jp/e/fuji/about.html
DAY 5 : กิน + Shopping
DAY 6 : กิน + Shopping
DAY 7 : เดินทางกลับ ซื้อขนมที่สนามบิน

มาดูตั๋วต่างๆเราใช้อะไรให้ครอบคลุมพื้นที่ ที่เราไปบ้าง
1.    การเดินทางจากสนามบิน นาริตะ เข้าในเมืองมีให้เลือกหลายทาง
        http://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/th/index.php
อันแรกเป็นของ Keisei ซึ่งแบบด่วนก็จะมีให้เลือกแยกออกมาอีกคือ
       -Keisei Skyliner เป็นแบบจองที่นั่งทั้งหมด ข้อมูลดูจากเวปที่ให้ได้ครับ
       -Access Express เป็นแบบด่วนเหมือนกัน เป็นแบบไม่จองที่นั่ง สะดวกเหมือนกันครับ ราคาถูกกว่า Skyliner
ผมเลือกเอาแบบโปร Skyliner ไป-กลับ+Subway unlimited 1 วัน ราคา 4700 เยน เพราะวันแรกใช้ Subway เดินทาง ถ้าใครจองแบบออนไลน์ไปก่อน Skyliner แบบ ไป-กลับ จะได้ราคาถูกว่าซื้อที่สนามบิน พอไปถึงค่อยรับตั๋วที่โน้นครับ
       http://www.tokyometro.jp/th/ (ข้อมูลของ Subway และ แผนที่ดูได้จากเวปนี้ครับ)

อีกทางเลือกของ JR เป็น Narita Express แบบไป-กลับ ไปทาง Tokyo, Shinjuku, Ikebukuro ราคาโปรโมชั่น 4000 เยน
       http://www.jreast.co.jp/e/pass/nex_round.html

2.    การเดินทางอีกสามวันผมใช้ JR Tokyo wide pass ราคา 10000 เยน สามารถใช้ JR unlimited 3 วัน และนั่ง ชินคันเซน ไป-กลับ GALA ได้ โชว์บัตรผ่านจะได้รับส่วนลดในการเช่าอุปกรณ์ด้วยครับ และครอบคลุมการเดินทางถึง Lake Kawaguchiko Mt. Fuji เลยทีเดียว
ซื้อได้ที่สนามบิน และก็สถานี Tokyo ได้ครับ
       http://www.jreast.co.jp/e/tokyowidepass/index.html ตามเวปนี้เลยครับ
พาสนี้สำหรับแพลนสามวันนี้ครับ ก็ดูอากาศวันไหนน่าไปที่ไหน ก็ปรับเปลี่ยนเอานะครับ หรือ เช็คอากาศก่อนซื้อตัวก็ได้ค่อยไปซื้อที่สถานีโตเกียว ตอนที่เราจะไปก็ได้ครับ
3.    อีกสองวันสำหรับการชอปปิ้ง และ เดินสายกิน ตามสถานีสำคัญๆ ใช้ของ Subway แบบ unlimited 2 วัน ราคา 1200 เยน เช่น
    -Shinjuku
    -Harajuku
    -Shibuya
    -Ikebukuro
    -Ueno, Ameyoko Street
    -Asakusa, Sensō-ji
    -Tokyo Tower
    ส่วนวันสุดท้ายแค่นั่งเที่ยวเดียวมาขึ้น Skyliner ที่ Ueno ผมใช้แบบกดจากตู้เอาครับ จาก Kawaguchi – Ueno ราคา 220 เยน
การเตรียมตัวก็คือ พยายามรักษาร่างกายให้แข็งแรงก่อนมา เตรียมยารักษาโรคมาด้วย ถ้าป่วยนี่เที่ยวไม่สนุกแน่ครับ ปลักไฟที่ญี่ปุ่นใช้แบบขาเสียบแบน ผมนี่เตรียมม้วนปลักมาเลย 55 แต่ถ้าจะหวังซื้อเอาข้างหน้าก็ได้มีเยอะ แต่ถ้าเตรียมมาก็ไม่เสียเวลาเรา

DAY 1
Hello JAPAN

นี่ใบกรอกเข้า ตม. เขาจะมีให้สองใบ ใบนี้ใช้ผ่าน ตม. อีกใบตอนที่จะเดินออกเขาจะเช็คกระเป๋าอีกรอบก่อนที่จะเจอป้าย Welcome to Japan ^^ กรอกทั้งสองใบ อย่าลืมใส่ที่อยู่โรงแรมที่เราพักนะจ่ะ

นั่งเครื่องมาถึง Narita Terminal 2 ออกจากเครื่องมาก็เดินตามป้ายมาเลยครับเดินออกมาลอปบี้เพื่อจะซื้อตั๋ว ซื้อได้จากที่นี่เลยครับ
JR EAST Travel Service Center
JR Ticket Office
คือพอดีตอนนั้นรีบนิดนึงอ่ะครับ เลยไม่ได้แชะรูปมาให้ดู แต่หาไม่ยากครับ

ส่วน Keisei Skyliner ที่ขายตั๋วก็อยู่ใกล้ๆกันครับ
http://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/th/findus/index.php
ไปกันเลย เสียบบัตรในช่องบัตร เราก็เดินผ่านเข้าไป หยิบเอาบัตรอีกข้างนึงเก็บไว้ตอนเราออกตอนถึงจุดหมายอีกที

พอลง Ueno ก็เลยเดินแวะหาไรกินแถว Ameyoko street ซะหน่อย พอดีตอนนั้นลืมซื้อ Subway แบบ 2 วัน ซอยในตลาดมีบริการทัวร์ HIS มีตั๋วขายและแพคเกทการทัวแต่ล่ะที่ ลองดูกันได้นะครับ เผื่อเป็นทางเลือกที่ถูกกว่า

แนะนำเรื่อง Internet อีกนิดนึง ตอนแรกจะเช่าแบบ wifi pocket วันนึง 900 เยน รวมแล้วทั้งอาทิตย์จะดูแพงไป เลยซื้อเป็นซิมการ์อดีกว่า ในญี่ปุ่นเขามีแบบสำหรับนักท่องเที่ยว ใช้ได้ ไม่จำกัด 14 วันเลยทีเดียว ราคา 2400 เยน ซื้อทีเดียวได้ใช้ยาวเลย แถมไม่ต้องถือ กล่อง wifi ให้หนักเป๋า แต่ใช้ได้แค่เน็ตนะครับ โทรออกไม่ได้ สัญญาณโทรจะโดนตัดสัญญาณ ดาต้านี้ไม่กินแบตเรามากด้วยและเครื่องไม่ค่อยร้อน ใช้ได้ทั่วญี่ปุ่น สะดวกมากเลย เพื่อนผมแนะนำมาเหมือนกันตัวนี้เลยลองใช้ดู

การตั้งค่าต่างๆอยู่ด้านใน มีทั้งแอนดรอย ไอโฟน

สมารถซื้อได้จากห้าง Bic Camera แถว Shinjuku, Ikebukuro ก็มีครับ หรือหาข้อมูลมาก่อนก็ได้ว่าเราจะสะดวกซื้อได้ที่ไหน ตอนซื้อก็บอกทางร้านด้วยนะครับว่าซิมเราแบบไหน ไมโคร หรือ นาโน

มาดูเรื่องที่พักกันบ้าง ผมจองผ่านแอปพริเคชั่น Airbnb จองเป็นแบบ เกสเฮ้าส์ ที่มีโอนเน้อ อยู่ด้วย แน่นอนว่าราคาถูกกว่าโรงแรมในช่วงที่เป็นหน้าSpring โรงแรมราคาแพงมาก เลยตัดสินใจจองแบบเกสเฮ้า 6 คืน 8000 บาท ซึ่งผมเน้นเที่ยวกินกลับบ้านก็เที่ยงคืนแระ ห้องสะอาด เจ้าของบ้านใจดี ตอนกลับมีของฝากให้เราด้วย โดยรวมก็เป็นส่วนตัวดีนะ ถึงแม้ห้องน้ำจะไม่อยู่ในตัว แต่ทุกอย่างโอเคมากครับ
ผมพักแถว Kawaguchi station เดินไม่ไกลจากสถานี ซึ่งเขตแถวนั้นมีห้างและชอป ABC, Uniqlo, 100 yen shop, Outlet ร้านอาหารก็เปิด 24 ชม. ซื้อหิ้วกลับบ้านได้ มีร้านค้าเหมือนเซเว่นตอนเดินออกจากสถานี ถือว่าสะดวกสบายมากครับ มี JR Keihintohoku Line ยิงยาวถึง Ueno, Tokyo เลยครับ

ส่วนในห้องนอนนะครับ ถือว่าสะอาดใช้ได้เลย

มาดูห้องน้ำอัจฉริยะของญี่ปุ่น ไล่จากด้านซ้ายนะครับ

1.water Stop เป็นปุ่มกดหยุดน้ำ หลังจากที่เรากดฉีด
2.inject ปุ่มนี้เอาไว้ฉีดก้น ใช้ได้ทั้งชายและหญิง เมื่อเรากด ตัวฉีดจะยื่นออกมาแล้วก็ฉีดน้ำขึ้นมาทันที ถึงกับสะท้านเลยทีเดียว (จั๊กจี้)
3.for ladies only ปุ่มนี้สำหรับผู้หญิง ถ้าผู้ชายเผลอไปกดก็จะสะท้านไข่เลยทีเดียว55
4.auto moving forward and backward ปุ่มนี้เมื่อเรากดมันจะเคลื่อนหัวฉีดไปหน้าหลังให้เรา เลื่อนไปมาจนกว่าเรากดอีกครั้งจะหยุด
มาดูปุ่มดเล็กๆ
5.high and low inject
ด้านบน ใช้ปรับระดับความแรงของน้ำที่ฉีด
5.adjustment front and back
ด้านล่าง ใช้ปรับตำแหน่งหัวฉีดหน้าหลัง
6.water temperature
ด้านบน ใช้ปรับอุณหภูมิของน้ำที่ฉีดให้อุ่น
6.seat heater
ด้านล่าง ใช้ปรับที่นั่งรองก้นให้มีอุณหภูมิอุ่น เพราะอากาศที่ญี่ปุ่นจะเย็นตลอด ดังนั้นเมื่อนั่งลงไปจะได้ไม่สะท้าน
7.inject mode
ด้านบน ใช้ปรับโหมดการทำงานของหัวฉีด
7.ventilation and deodorise
ด้านล่าง ใช้สำหรับดับกลิ่น
เมื่อเสร็จภาระกิจก็กดชักโครกตามปกติเหมือนบ้านเรา บางทีจะมีที่กดกับชักโครก บางที่ตัดไว้ผนังก็มี
จบหลักสูตรการใช้ห้องน้ำญี่ปุ่น ^^

หลังจากเช็คอินเสร็จวันแรก หยอดตู้เอาตั๋วไปก่อนจาก Kawaguchi station เข้ามาต่อ Subway ที่ Ikebukuro
เดินทางต่อชมซากุระแถว Naka-meguro station เดินออกทาง Main Exit

ปกติในโตเกียวซากุระเริ่มบานเต็มที่ช่วงต้นเดือนเมษายน ผมไปถึงเกือบกลางๆเดือน ดอกเริ่มโรยและก็ถอดยอดแระ เลยคิดว่าค่อยไปดูที่ ฟูจิ ดีกว่า ซึ่งกำลังบานเต็มที่ในช่วงกลางเมษายน ถ้าใครมาต้นๆเมษายน สถานที่สามารถชมได้ก็มี
- Shinjuku Gyoen National Garden
-Ueno Park
เลยตัดสินใจเข้าไปทำข้อสอบราเมงย่าน Shinjuku ซะหน่อย

วิธีการสั่งก็ในร้านจะมีเครื่องสั่งแบบอัตโนมัตินะครับ เราก็ดูเมนูจะสั่งอะไร ก็หยอดเหรียญให้เท่ากับราคาหรือมากกว่าก็ได้ครับ ถ้าจะกดตังทอนจะมีปุ่มกดสีดำๆ ถ้าเราไม่สั่งต่อก็กดทอนได้เลย แต่ถ้าสั่งต่อก็หยอดเพิ่มแล้วก็เลือกเมนูอีกครั้งครับ เราก็จะได้ตั๋วรอทำขอสอบแล้วว

หน้าตาข้อสอบ 55 มันก็คือเมนูไว้ให้เราเลือกว่าต้องการน้ำซุปแบบไหนเข้มหรือจืด เพิ่มเป็นหมูหรือผักใบเขียว หรือจะเป็นความมันของน้ำซุป บอกหมดเดะไม่สนุกครับ ต้องลองเอง อิอิ เดะหาว่าใจร้าย อ่ะเฉลยก็ได้