ทะเลไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก นี่คือสิ่งที่เป็นมนต์เสน่ห์อย่างหนึ่งของทะเลไทย ไม่ว่าจะเป็นฝั่งอันดามันหรือฝั่งอ่าวไทย ล้วนแล้วแต่มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป ถ้าคุณไม่เชื่อลองดูนักท่องเที่ยวต่างชาติสิ ว่าทำไมถึงข้ามน้ำข้ามทะเลมาอาบแดดถึงประเทศไทย

สถานที่ที่ผมจะพาไปเที่ยวในวันนี้ คือ เกาะช้าง จังหวัดตราด นับว่าเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้มาเยือนเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองของประเทศไทยรองจากเกาะภูเก็ต ผมเคยมาเหยียบเกาะช้างเมื่อ 17 ปีที่แล้วเป็นครั้งแรก บอกได้เลยว่าเกาะช้างเปลี่ยนไปมาก มีรีสอร์ทเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย แต่สิ่งที่ยังเหมือนเดิมคือชายหาดและทะเลที่สวยงาม

การเดินทางของผมในครั้งนี้ ขอเล่าเป็นข้อมูล เผื่อใครจะเอาพิจารณาหรือจะไว้ปรับใช้ตามงบ ตามสถานการณ์ต่างๆ ก็ไม่ว่ากัน

1. เดินทางด้วยรถส่วนตัว ข้ามเรือเฟอรี่ที่ท่าเรืออ่าวธรรมชาติ ถ้าเป็นรถสี่ล้อ คันละ 200 บาท คนเสียคนละ 60 บาท นับหัว มากี่คนก็คูณ 60 เข้าไป การที่เอารถส่วนตัวข้ามเรือไปเกาะช้าง มีข้อดีคือสามารถขับไปเที่ยวในที่ไกลๆได้ เนื่องจากเกาะช้างเป็นเกาะใหญ่ จะประหยัดเรื่องการเหมารถเที่ยวได้ แต่บนเกาะก็มีมอไซให้เช่า เพราะบางพื้นที่ไม่สามารถเอารถยนต์เข้าไปได้

2. พักที่ ลุงต๊อบ โฮมสเตย์ บรรยากาศแบบชาวเล 3 วัน 2 คืน คนละ 2500 บาท ประกอบไปด้วย อาหารซีฟู้ดแบบจัดเต็ม 6 มื้อ, ทริปดำน้ำ 1 วันเต็ม , พาไปดูป่าชายเลนที่สะพานแดง หรืออยากไปไหนบอกลุงต๊อบ เดี๋ยวแกแนะนำเอง
ข้อมูลติดต่อ :  https://www.facebook.com/ลุงต๊อบทัวร์-โฮมสเตย์
โทรถามรายละเอียดเพิ่มเติม 081-294-1650 , 098-453-6369 , 081-983-6840
หรือจะลองดูที่พักอื่น มีมากมายให้เลือก อันนี้แล้วแต่งบและสไตล์ของแต่ละคน

3.    วันแรกผมไปถึงก้อสายๆ พักผ่อน นอนชิวๆ จากนั้นลุงต๊อบได้พาไปที่สะพานแดง ที่ ป่าชายเลนบ้านนาใน (สลักเพชร) เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เดินชมระบบนิเวศป่าชายเลน บนสะพานไม้สีแดงสด ตัดกับสีเขียวของป่าโกงกาง ชมวิวได้ 360 องศา สุดทางเป็นปากอ่าวเชื่อมต่อกับทะเล

4. วันที่สอง ดำน้ำทั้งวันที่ หมู่เกาะรัง นั่งเรือประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ดูภาพความสวยงามเลยนะครับว่า ท้องทะเล ปะการัง และฝูงปลาสวยงามขนาดไหน

5. วันที่สาม วันสุดท้าย ตื่นเช้ามารับอากาศที่สดชื่นยามเช้า ลาไปพร้อมกับภาพนี้เลยนะครับ