เที่ยวเกาะเชจูเอง ยากกว่าที่คิด ทริปสั้น แต่หลงทางยาวนาน 13-15 เมษา 2559 (2)

วันเดินทาง >>> http://ppantip.com/topic/35050562

14 เมษายน 2559

แพลนเที่ยววันนี้ มีทั้งหมด 7-8 ที่ โดยขับรถเป็นวงกลมรอบเกาะ ซึ่งก็เป็นความพลาดของเรา ที่ไม่ได้ศึกษามาก่อนว่า เกาะเชจูนั้นมีความกว้างใหญ่แค่ไหน มโนไปเอง ว่าคงใหญ่กว่าเกาะสมุย2-3 เท่า วันนึงคงเพียงพอต่อการเที่ยวรอบเกาะแล้ว



โดยเราพักอยู่บริเวณสนามบิน ก็ขึ้นตรงกลางเกาะตอนบน เราจะขับไล่ไปทางขวาของเกาะตอนบนก่อน แล้ววนกลับมาตรงที่เดิน

สถานที่แรกคือ Gimnyeong maze เป็นสวนเขาวงกรตที่ซีรี่ย์หลายเรื่อง รายการทีวีเคยมาถ่ายทำ ซึ่ง Rที่unning man เป็นรายการที่เราชอบมาก จุดนี้จึงเป็นจุดที่เราอยากมา โดยสถานที่เที่ยวนี้ จะไม่มีในทริปทัวร์ใดๆ

ใช้เวลาขับรถจากที่พักมาที่นี่ ประมาณ 40 นาที เราออกจากโรงแรมเกือบๆ 9 โมง อันนี้พลาดเอง มัวแต่เถลไถลอู้ แพลนเดินคืออกมาตั้งแต่แปดโมงเช้า มาถึงที่นี่ก็ใช้เวลาประมาณสิบโมง มีที่จอดรถสะดวกสบาย หลังจอดรถก็ไปซื้อตั๋วตรงทางเข้า ผู้ใหญ่คนละ 3,300 วอน





เดินเข้าไปจะผ่านสวนพฤษชาติก่อน มีต้นไม้ ดอกไม้ บางอันจะมีชื่อวิทยาศาสตร์บอก ตอนเราไปค่อนข้างเช้า คนไม่เยอะ มีเด็กอนุบาลมาทัศนศึกษาด้วย ส่วนใหญ่คนที่มา มักจะเป็นครอบครัวที่มีลูกเล็ก


Cr.ภาพก๊อปมาจาก https://chiitravel.wordpress.com/2015/03/21/south-korea-jeju-8d7n-mar-2015-day-3-of-3/

โดยบันไดตรงกลางคือทางออก จะมีกระดิ่งให้สั่น โดยพ่อแม่หลายคนก็ไปยืนบอกทางลูกด้านบน ปล่อยให้ลูกหาทางออกเองก็มี

เราใช้เวลากับแฟนในการงมหาทางออกประมาณ 16 นาที ตอนนั้นอากาศค่อนข้างดีประมาณ 17-18 องศา แดดรำไร ทำให้ค่อนข้างสนุกในการเล่น โดยเราเคยไปเล่น Pete maze ที่เขาใหญ่ เทียบกันก็ขนาดใกล้เคียงกัน แต่ความร้อนต่างกันมาก อันนั้นคือหงุดหงิด เมื่อไหร่จะเจอทางออก งอแงให้แฟนแบกพาออกด้วยตอนนั้น หลงทางอีก แต่ของที่นี่ แผนที่ที่เค้าแจก สามารถใช้ได้จริง หาทางออกไม่ยาก เมื่อเทียบกับแผนที่ของ Pete maze ในไทย

ต่อจากนั้นเราเดินทางไปยัง Manjaunggul cave หรือถ้ำลาวา ตรงนี้จะทางจากสวนวงกตประมาณ 600 เมตร ขับรถไปนิดเดียวถึง ที่นี่ที่จอดรถกว้างมาก เพราะคงมีคนเข้าชมมาก ตรงนี้ถ้ามากับทัวร์ก็จะได้เที่ยวชม

มีป้ายบอกทางเข้าชัดเจน เดินเข้าไปหน่อยจากลานจอดรถ ประมาณ 500 เมตร จะถึงที่ซื้อตั๋ว ตั๋วราคาอยู่ที่คนละ 2,000 วอน และทางเข้าถ้ำจะอยู่ตรงข้ามกับที่ซื้อตั๋ว





ระยะทางเดินที่เข้าไปได้คือ 1.5 กิโลเมตร ลงไปภายในถ้ำจะค่อนข้างเย็น และมีน้ำหยดเป็นระยะ มีน้ำเจิ่งนองบนพื้น ตรงนี้ต้องระมัดระมังหน่อย หลายคนพกร่ม และเสื้อกันฝนมา นี่ไม่รู้ก็เดินลุยกันไป เปียกหน่อยๆ เจอกับนักเรียนม.ปลายมาทัศนศึกษาเช่นกัน ภายในถ้ำก็จะแสดงหินต่างๆ ผนังถ้ำที่เป็นชั้นๆจากการไหลผ่านของลาวา ก็โอเคสวยอยู่ แต่ถ้าไม่ใช่คนที่อินกับประวัติศาสตร์มาก ไม่เสียดายค่าตั๋วเกือบ 60 บาทไทย แนะนำเดินแค่ 5-6 ร้อยเมตรก็พอ เพราะไปจนสุด ก็ไม่ได้เห็นต่างกัน เราต้องคิดถึงตอนเดินออกด้วย ใครขยัน แข็งแรงก็เดินไป ที่เกาะเชจู ยังมีให้เดินอีกมาก นี่ก็เดินไปสุดไง แบบเหนื่อย ไม่คุ้มค่าแรง ถ้าย้อนเวลาได้ ขอเดินนิดเดียวพอ

ผ่านไปแค่ 2 ที่ แต่ใช้เวลาจนตอนนี้เกือบเที่ยง ที่นี่จะมีอาหารแบบง่ายๆขาย พวกข้าวยำเกาหลี คิมบับ มาม่า ไรงี้ ก็เลยอดทน หิ้วท้องไปสถานที่ถนัดไป คือ Seongsan sunrise peak ยอดภูเขาไฟที่สงบแล้ว ที่มีชื่อเสียงแห่งนึงบนเกาะเชจู ที่นี่ทัวร์ก็จะพามาอีกเช่นกัน ใช้ระยะเวลาประมาณ 40 นาที ก็จะถึงที่หมายถัดไป



เรามาถึงที่นี่ก็เกือบบ่าย หิวข้าวแล้ว ที่จอดรถกว้าง หาจอดไม่ยาก แม้ว่าคนจะมาเยอะก็ตาม โดยร้านอาหารมีให้เลือกมากมาย เป็นอาหารทะเลซะส่วนใหญ่ ราคาจะค่อนข้างสูง

เราที่เราเลือกนั้นอยู่ใกล้ๆกับร้าน Aritrium ตรงทางออกทางยอดเข้า ฝั่งตรงข้าม โดยอาหารจานเด็ดที่มีคนแนะนำมาคือ ต้มยำทะเลรวมมิตร โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 40,000 วอน ถ้าเป็นปลาดิบจะเริ่มที่ 120,000 วอน แต่จานใหญ่มากกกก อยากกินนะ แต่มันเยอะไปสำหรับปลาดิบให้มากิน 2 คน

มื้อนี้เราเลือกทานเป็นเซ็ทอาหาร มี ต้มยำทะเลรวมมิตร 1 หม้อ โจ๊กหอยเป๋าฮื้อ 1 ปลาแมคคาเรลย่างเกลือ 1 แพนเค้กกิมจิ 1 แต่มีความผิดพลาดทางการสื่อสาร คือเราขอสั่งข้าวเปล่า 1 ถ้วย แต่แม่ค้าบอกว่า ในเซ็ทมีโจ๊กเป็นข้าวแล้ว ไม่ต้องเอาข้าวหรอก คือเราชอบกินข้าวไง ก็จะสั่ง ไปๆมาๆ ได้โจ๊กเป๋าหื้อ 1 ถ้วยมาเพิ่ม ซึ่งมันราคาถ้วยละ 15,000 วอน ก็เลยคิดกับแฟน ว่ามื้อนี้เหยียบแสนแน่นอน ยอมๆไปแล้วกัน ก็มันคุยกันไม่รู้เรื่องนี้หน่า แล้วตัวโจ๊กมันก็อร่อยด้วย กินหมดสองถ้วยเลย แต่ตัวต้มยำค่อนข้างจืด ไม่ค่อยเผ็ด แต่อาหารทะเลสด เลยใช้ได้ ปลาย่างเกลือก็อร่อยดี

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

อาหารเยอะมาก กินเกือบไม่หมด แต่แฟนกินเก่งมากกกก เราส่วนนางไม่ถึง 1/3 อ่ะ 555+ แต่สุดท้าย เค้าคิดค่าอาหารเราเป็น 80,000 วอน เค้าบอกโจ๊กเค้าแถมให้ ก็ถือว่าโชคดี ขอบคุณนะคร้าบ

กว่าจะกินเสร็จ ก็ใช้เวลากันไปนานเหมือนกัน เริ่มเดินขึ้นเขาตอนบ่ายสอง โดยเค้าเขียนบอกว่า ระยะจะประมาณ 2 กิโล ใช้เวลาเดินไปกลับประมาณ 50 นาที

ราคาตั๋วอยู่ที่ผู้ใหญ่คนละ 2,000 วอนค่ะ


ประตูทางเข้า

ที่ซื้อตั๋วอยู่ตรงข้ามทางเข้า


การเดินขึ้นไปนั้น แม้จะเป็นระยะทางสั้นๆ แต่มันไต่ขึ้นเขาไง ค่อยๆชันขึ้นเรื่องๆ ขนาดเราสามารถวิ่งได้ 5 km สบายๆ ยังเหนื่อยเลย งอแงหลายตลบ แต่วิวที่ได้รับ ก็คุ้มนะค่ะ สวยดี







ขาลงมาจะชันกว่าหน่อย แต่ไม่เหนื่อยเท่า ก็ไหลมาตามแรงโน้มถ่วงโลก ซึ่งเมื่อลงมาข้างล่าง จะมีทางเดินไปยังชายหาด เพื่อชมแฮเนียว หรือนักดำน้ำหญิง เป็นอะไรที่มีชื่อมากๆของเกาะเชจู โดยด้านล่างจะมีอาหารทะเลสดๆขาย แต่ขอบอกว่าหมดแรงแล้ว เลยมาไกลๆ ไม่อยากลงไป กลัวตายตอนขึ้นมา โดยจะมีการแสดงของแฮเนียว 2 รอบคือ บ่ายโมง และบ่ายสามโมง เราลงมาเกือบๆ บ่ายสามโมงพอดี เลยได้เห็นเค้าร้องเพลง เหมือนแบบขอพรให้ได้ปลามั้ง ก่อนจะดำลงน้ำไป





ตรงนี้จะมีส้มขายมากมาย จริงๆมีทุกที่แหละ เพราะเป็นอีกอย่างขึ้นสีของเกาหลี มีไอศกรีมรสส้มด้วย ลองชิมแล้วส่วนตัวว่าเหมือนยาเด็กรสส้มไรงี้อ่ะ

กว่าจะออกจากตรงนี้ก็บ่ายสามกว่า ที่ต่อไปคือ Seopjikoji + All in house เป็นบริเวณอ่าวเล็กๆฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ ตรงนี้จะเป็นที่ที่ถ่ายละครด้วย ทัวร์มักจะพามาแถวนี้เช่นกัน แต่เมื่อเราไปถึงมันดันปิดไม่ได้เข้า เสียใจ อดเลยค่า

แต่ระหว่างทางที่เราขับรถออกมาจากยอดภูเขาไฟ จะมีสวนดอกยูแช ที่เข้าจะเรียกเก็บค่าถ่ายรูปคนละ 1,000 วอน และถ้าจะขี่ม้าก็ 5,000 วอน ดอกไม้นี้เป็นดอกไม้ที่ขึ้นชื่อของเกาะเชจูเลย ต้องมาถ่ายรูป Check in ซะหน่อย ที่จอดรถก็ข้างทางเลยค่า ใกล้สวนไหน ก็เข้าอันนั้น เข้ามีเชือกกั้นเขตกันไว้



มาถึงก็อย่าลืมไปลูบไล้รูปปั้นทอลฮารุบังนะ เป็นหินปู่มีความศักดิ์สิทธิ์ ถ้าอยากร่ำรวยให้ลูบท้องจ้า

ที่ตอนไปหลังจากพลาด Seopjikoji ก็ไป Jeongbang waterfall โดยที่เกาะเชจูจะมีน้ำตกดังๆอยู่ 2 ที่ คือ Jeongbang กะ Chenjeon ซึ่งน้ำตก Chenjeon จะเป็นน้ำตกเจ็ดนางฟ้า สวย มีเจ็ดชั้น แต่เดินเหนื่อย น้ำตกนี้ไม่ค่อยอินเท่าไหร่ เราอินกับน้ำตก Jeongbang มากกว่า น้ำตกนี้พิเศษตรงที่เป็นน้ำตกแห่งเดียวในทวีปเอเชียที่ไหลลงสู่ผืนทะเลโดยตรง หลายรายการเกาหลีมาถ่ายที่นี่บ่อย น้ำตกนี้จะอยู่ทางกึ่งกลางของทิศใต้ ซึ่งใช้เวลาเกือบชั่วโมงเลยกว่าจะมาถึง ทำให้เราต้องตัดลิสไร่ชา O'sulloc ออก เพราะมันปิดหกโมงเย็น โดยไร่ชาของเกาะเชจู ถือว่าเป็นชาที่ดีที่สุดของเกาหลี แต่โชคดีที่เราไม่ชอบกินชา พลาดไปไม่เสียใจ

ที่น้ำตกนี้ก็เก็บค่าเข้าอีกคนละ 1,000 วอน ที่น้ำตกก็มีที่จอดรถกว้างขวางเช่นกัน เดินลงบันไดไปประมาณ 100 ขั้นก็จะถึงมีโขดหิน ให้ไต่เดินไปหาน้ำตกกันเอง ถ้าช่วงหน้าร้อน ก็อาจจะเจอคนมาเล่นน้ำได้บ้าง แต่ตอนนี้เย็นเกิน แค่มาแตะๆน้ำให้รู้ว่าถึงก็สุขใจแล้ว หินตรงนี้เดินลำบากหน่อยนะค่ะ ยังไงก็ระมัดระวังหน่อย โดยแถวนี้จะมีอาจุมม่าขายอาหารทะเลสด เชือดสดใกล้ๆ พร้อมจะเชจู ใครจะมานั่งจิบเชจู กินอาหารทะเลดื่มด่ำบรรยากาศก็ได้





หลังจากนั้นเราก็เดินทางไปยังที่สุดท้ายคือ Jusangjeolidae เป็นแท่งหินดำที่เรียงต่อๆกันคล้ายรวงผึ้ง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่นึงของเกาะเชจู โดยจะอยู่ด้านฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ ใช้เวลาจากน้ำตกจองบังประมาณ 15 นาที แต่เพราะหลงทางด้วย อ้อมไปอ้อมมา กว่าจะถึงก็หกโมงครึ่ง มันปิดพอดี วันนี้ปิด 18.20 น. เศร้ามากๆ พลาดไปนิดเดียว ก็เลยจบวันเที่ยวไว้เท่านี้ แล้วก็ขับรถกลับที่พัก ใช้เวลาชั่วโมงกว่า กะจะไปหาหมูดำกิน ซึ่งเราก็ไม่รู้หรอกหมู่บ้านหมูดำที่ในพันทิพได้รีวิวไว้นั้นมันอยู่ที่ไหน แต่เราเห็นร้านนึงใกล้ๆที่พัก เลยกะจะไปฝากท้องอยู่แถวนั้น

เหมือนโชคชะตาจะเข้าข้าง เพราะในบริเวณที่เราตั้งใจจะไปทาน มันใกล้กับหมู่บ้านหมูดำพอดีเลย




ที่จอดรถ ก็หาตามข้างถนนแถวนั้น ตอนนั้นคือหิวมาก จะโดนใบสั่งอะไรก็ช่างและ ก็ไม่รู้กฎจราจรบ้านเธอนี่หน่า เห็นคนอื่นเค้าจอดกัน ก็จอดบ้างเลยค่า

พอไปถึง ร้านรวงดูปิดหมด แถมมีแต่ขายเนื้อสดๆ ไอ่เราก็แบบนี้มันตลาดเหรอ จะให้เอาไปปิ้งที่บ้านรึไง เดินไปเกือบสุดสาย ก็ว่าจะถอดใจแล้ว เหลือบไปเห็นทางเข้าหลังร้าน มันมีคนนั่งกินปิ้งย่างอยู่ ก็เลยลองเดินเข้าไปข้างใน สรุปคือด้านหลังร้านทุกร้าน จะเชื่อมกันเป็นทางยาวค่ะ อยากทานร้านไหน ก็เข้าไปนั่งได้เลย



หลักการจริงๆก็คือ เราไปซื้อเนื้อจากข้างนอกมาค่ะ อยากกินเท่าไหร่ก็สั่งแล้วหิ้วมา แล้วก็เอาเนื้อมาใส่จานที่ร้านที่เราจะนั่ง โดยทางร้านจะคือ เตาละ 10,000 วอน มีพวกผัก กับแกล้มให้ด้วย แต่ถ้ามาเกิน 4 คน คิดเพิ่มคนละ 3,000 วอนค่ะ ในร้านจะมีขายข้าว แกงกิมจิ ข้าวยำ ก๊วยเตี๋ยว แล้วก็เครื่องดื่ม เราไม่รู้ไง คุณป้าเจ้าของร้านเลยพาคุณป้าร้านขายเนื้อข้างๆมาขายเนื้อให้เรา



เซ็ทนี้ 27,000 วอนจ้ะ เนื้อวัวเกาหลี 555+ เราสั่งไม่เป็น เค้าชี้ๆไรมา ก็ตามนั้น ต้องสั่งสำหรับ 2 ที่ สรุปมื้อนี้สั่งข้าวมาเพิ่ม แฟนสั่งเบียร์อีก ก็หมดไป 35,000 วอนค่า แล้วก็เดินทางกลับโรงแรมด้วยท้องที่เต็มอิ่มแทบระเบิด

จากการเดินทางวันนี้ได้ข้อคิดกลับมาแก้ตัวว่า ควรให้เวลาเที่ยวรอบเกาะประมาณ 2 วัน วันแรกอาจพักทางทิศเหนือของเกาะ ตรงสนามบินอย่างเราก็โอเค แต่พอไปเที่ยวถึงทางทิศใต้ปุ๊ป ก็พอและ หาโรงแรมแถมนั้นพัก แล้วค่อยลุยเที่ยวต่ออีกวัน น่าจะเก็บได้ครบ แบบไม่เหนื่อย ไม่รีบมากกว่า แต่จากมาเที่ยวครั้งนี้ก็สนุกนะ แต่คงต้องกลับไปเก็บอีกรอบ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่