ที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นประสบการณ์ทำฟันของตัวเอง เล่าผ่านมุมมองของผู้รับการรักษา สิ่งที่หมอบอก และคิดจากสิ่งที่เกิดขึ้น รายละเอียดเชิงลึก เราไม่ทราบค่ะ เพราะไม่ใช่หมอ
สาเหตุที่มาเล่าในนี้ เพื่อเป็นแนวทาง ให้คนอื่นๆ ที่จะรักษารากฟัน ครอบฟัน ได้แนวทางในการรักษา เพราะถ้าทำไม่ดี มันจะเป็นปัญหาต่อเนื่อง ยาวนาน เสียเวลา เสียเงิน เสียอารมณ์ เหมือนที่เราเจอ
เรื่องเริ่มต้น เมื่อหลายปีที่แล้ว เหตุการณ์แบ่งเป็น สามช่วงเวลานะคะ
ช่วงแรก
ฟันเราผุ เราก็ไปหาหมอฟันที่คลีนิก หมอคนนี้ เป็นหมอที่โรงพยาบาลด้วย ตอนที่ไปรักษา หมอบอกว่าต้องรักษารากฟัน เราก็ตกลง นัดทำการรักษากันไป เคยได้ยินมาว่าจะเจ็บ ปวด บวม แต่ระหว่างรักษา ไม่เป็นอะไรเลย รู้สึกว่าหมอมือเบา (อ้อ ตอนรักษาหมอเห็นฟันเราแล้ว หมอก็พูดประมาณว่า เรามีฟันที่ อีกหน่อยต้อง รักษารากฟัน อีกหลายซี่เลย แล้วก็นับ ท่าทางเหมือนดีใจ จะได้เงินอีกหลาย เราฟังแล้ว รู้สึกไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่) รักษาจนจบ หมอก็แนะนำ ให้ครอบฟันต่อเลย ไม่งั้นฟันจะแตก ยังไงก็ต้องทำอยู่แล้ว เราก็เลยตัดสินใจทำเลย ค่ารักษาทั้งหมด ประมาณหมื่นกว่าบาท จำจำนวนแน่นอนไม่ได้แล้ว ก็รักษาเสร็จเรียบร้อยดี ไม่มีอะไร แต่ตอนที่ครอบฟัน เราได้อุดฟันอีกซี่หนึ่ง พอกลับบ้าน เราก็ปวดฟันมาก อีกวันก็เลยมาหาหมอ หมอบอกว่าต้องรักษารากฟัน(อีกแล้ว) คราวนี้เราคิดถึงโรงพยาบาลแล้ว เพราะจะให้จ่ายราคานี้อีก คงไม่ไหว ก็เลยเปลี่ยน ไปทำที่โรงพยาบาลแทน คราวนี้ตอนรักษารากฟัน มีปวดบ้าง แต่พอทนได้ รักษาเสร็จ หมอที่โรงพยาบาลถามว่า จะครอบฟันเลยไหม ถ้าทำก็จะ ส่งต่อให้หมอทำครอบฟัน แต่ยังไม่ทำก็ได้ อยากทำเมื่อไหร่ก็มาทำ เราเลยเอาไว้ก่อน ก็จ่ายค่ารักษารากฟันไป ราคาถูกกว่า ไปทำที่คลินิก (ที่ไม่ไปโรงพยาบาลแต่แรก เพราะเราขี้เกียจรอคิว แล้วเราก็ไม่มีความรู้ เรื่องหมอฟันมาก่อน ว่าเขามีแบ่ง มีหมอเฉพาะทาง) จบช่วงแรก ก็ไม่มีอะไร จนเรารู้สึกปวดฟัน
ช่วงที่สอง
ห่างจากช่วงแรก นานพอสมควร คิดว่าน่าจะเป็นปีอ่ะนะ เรารู้สึกปวดฟัน ไม่มาก แต่งงว่าฟันตายแล้วยังปวดได้อีกเหรอ (จริงๆก็ไม่รู้ ว่ามันจะปวดอีก ได้รึเปล่า) ก็ไปโรงพยาบาล หลังจากหมอดูฟิล์มเอ็กซเรย์ หมอก็บอกว่า ฟันเรามีปัญหา เนื่องจากรักษารากฟันได้ไม่ดี แต่เราได้ครอบฟันซี่นั้นไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถรื้อรากฟันได้ ยิ่งไปกว่านั้น เดือยฟันที่เราทำ มันมีขนาดใหญ่มาก ถ้าดึงออกมา รากฟันเราแตกแน่นอน วิธีที่ทำได้ตอนนี้คือ ผ่าตัดปลายรากฟัน เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เราก็ต้องผ่าตัด เป็นการผ่าตัดครั้งแรกของเรา ใช้หมอฟันสองคน หมอบอกเลยว่า เจ็บและบวม แน่นอน (ทำใจไว้เลย) แล้วมันก็เป็นเช่นนั้น หน้าบวมไปเป็นอาทิตย์ ตอนทำก็ตื่นเต้นมาก เกร็งไปหมด หลังจากนั้นก็ภาวนาให้มันไม่มีปัญหา เพราะหมอบอกว่า ถ้าไม่หาย ก็คือถอดทิ้ง (อย่านะ หมดไปหลายตังค์แล้วววว) เวลาก็ผ่านไป จริงๆมีปวดนิดๆ ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า เราก็ทนๆเอา ลืมๆ มันไป ผ่านมาสามปี นึกว่าชีวิตจะสงบสุข จนมาเมื่อสาม สี่วันก่อน
ช่วงที่สาม
คราวนี้เราว่า เราไม่ปวดฟันนะ แต่ตอนแปรงฟันเหมือนจะเจ็บเหงือก ก็เลยลองส่องกระจกดู เห็นเหงือกบวม มองทีแรกสีเหมือนเป็นหนอง ใจไปอยู่ตาตุ่มเลย งานเข้า แน่นอน ตัดสินใจไปโรงพยาบาล หมอดูฟิล์มเอ็กซเรย์ แล้วหันมายิ้ม คงไม่ต้องเดา ในที่สุดชั้นก็รักษาเธอเอาไว้ไม่ได้ สิ่งที่ทุ่มเททำไป สูญเปล่า ฮือๆ หมอบอกต้องถอนค่ะ ไม่มีทางเลือก คิดว่ารากฟันน่าจะแตกแล้ว เป็นเหตุให้ เหงือกอักเสบ ตอนนี้กลับมากินยา รอเวลาไปถอน ทำฟันปลอม ต่อไป ฮือๆ ไม่อยากฟันหลอเลย บอกตรง
ฝากไว้แล้วกันนะคะ ใครจะรักษารากฟัน ก็เลือกหมอให้ดี ทำแล้วก็อย่ารีบครอบฟัน รอดูอาการสุดที่รัก ให้ดีก่อน โชคดีนะคะ
[CR] รักษารากฟัน ครอบฟัน เลือกทำกับหมอผู้เชี่ยวชาญนะคะ ไม่งั้น อาจเป็นเหมือนเรา
สาเหตุที่มาเล่าในนี้ เพื่อเป็นแนวทาง ให้คนอื่นๆ ที่จะรักษารากฟัน ครอบฟัน ได้แนวทางในการรักษา เพราะถ้าทำไม่ดี มันจะเป็นปัญหาต่อเนื่อง ยาวนาน เสียเวลา เสียเงิน เสียอารมณ์ เหมือนที่เราเจอ
เรื่องเริ่มต้น เมื่อหลายปีที่แล้ว เหตุการณ์แบ่งเป็น สามช่วงเวลานะคะ
ช่วงแรก
ฟันเราผุ เราก็ไปหาหมอฟันที่คลีนิก หมอคนนี้ เป็นหมอที่โรงพยาบาลด้วย ตอนที่ไปรักษา หมอบอกว่าต้องรักษารากฟัน เราก็ตกลง นัดทำการรักษากันไป เคยได้ยินมาว่าจะเจ็บ ปวด บวม แต่ระหว่างรักษา ไม่เป็นอะไรเลย รู้สึกว่าหมอมือเบา (อ้อ ตอนรักษาหมอเห็นฟันเราแล้ว หมอก็พูดประมาณว่า เรามีฟันที่ อีกหน่อยต้อง รักษารากฟัน อีกหลายซี่เลย แล้วก็นับ ท่าทางเหมือนดีใจ จะได้เงินอีกหลาย เราฟังแล้ว รู้สึกไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่) รักษาจนจบ หมอก็แนะนำ ให้ครอบฟันต่อเลย ไม่งั้นฟันจะแตก ยังไงก็ต้องทำอยู่แล้ว เราก็เลยตัดสินใจทำเลย ค่ารักษาทั้งหมด ประมาณหมื่นกว่าบาท จำจำนวนแน่นอนไม่ได้แล้ว ก็รักษาเสร็จเรียบร้อยดี ไม่มีอะไร แต่ตอนที่ครอบฟัน เราได้อุดฟันอีกซี่หนึ่ง พอกลับบ้าน เราก็ปวดฟันมาก อีกวันก็เลยมาหาหมอ หมอบอกว่าต้องรักษารากฟัน(อีกแล้ว) คราวนี้เราคิดถึงโรงพยาบาลแล้ว เพราะจะให้จ่ายราคานี้อีก คงไม่ไหว ก็เลยเปลี่ยน ไปทำที่โรงพยาบาลแทน คราวนี้ตอนรักษารากฟัน มีปวดบ้าง แต่พอทนได้ รักษาเสร็จ หมอที่โรงพยาบาลถามว่า จะครอบฟันเลยไหม ถ้าทำก็จะ ส่งต่อให้หมอทำครอบฟัน แต่ยังไม่ทำก็ได้ อยากทำเมื่อไหร่ก็มาทำ เราเลยเอาไว้ก่อน ก็จ่ายค่ารักษารากฟันไป ราคาถูกกว่า ไปทำที่คลินิก (ที่ไม่ไปโรงพยาบาลแต่แรก เพราะเราขี้เกียจรอคิว แล้วเราก็ไม่มีความรู้ เรื่องหมอฟันมาก่อน ว่าเขามีแบ่ง มีหมอเฉพาะทาง) จบช่วงแรก ก็ไม่มีอะไร จนเรารู้สึกปวดฟัน
ช่วงที่สอง
ห่างจากช่วงแรก นานพอสมควร คิดว่าน่าจะเป็นปีอ่ะนะ เรารู้สึกปวดฟัน ไม่มาก แต่งงว่าฟันตายแล้วยังปวดได้อีกเหรอ (จริงๆก็ไม่รู้ ว่ามันจะปวดอีก ได้รึเปล่า) ก็ไปโรงพยาบาล หลังจากหมอดูฟิล์มเอ็กซเรย์ หมอก็บอกว่า ฟันเรามีปัญหา เนื่องจากรักษารากฟันได้ไม่ดี แต่เราได้ครอบฟันซี่นั้นไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถรื้อรากฟันได้ ยิ่งไปกว่านั้น เดือยฟันที่เราทำ มันมีขนาดใหญ่มาก ถ้าดึงออกมา รากฟันเราแตกแน่นอน วิธีที่ทำได้ตอนนี้คือ ผ่าตัดปลายรากฟัน เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เราก็ต้องผ่าตัด เป็นการผ่าตัดครั้งแรกของเรา ใช้หมอฟันสองคน หมอบอกเลยว่า เจ็บและบวม แน่นอน (ทำใจไว้เลย) แล้วมันก็เป็นเช่นนั้น หน้าบวมไปเป็นอาทิตย์ ตอนทำก็ตื่นเต้นมาก เกร็งไปหมด หลังจากนั้นก็ภาวนาให้มันไม่มีปัญหา เพราะหมอบอกว่า ถ้าไม่หาย ก็คือถอดทิ้ง (อย่านะ หมดไปหลายตังค์แล้วววว) เวลาก็ผ่านไป จริงๆมีปวดนิดๆ ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า เราก็ทนๆเอา ลืมๆ มันไป ผ่านมาสามปี นึกว่าชีวิตจะสงบสุข จนมาเมื่อสาม สี่วันก่อน
ช่วงที่สาม
คราวนี้เราว่า เราไม่ปวดฟันนะ แต่ตอนแปรงฟันเหมือนจะเจ็บเหงือก ก็เลยลองส่องกระจกดู เห็นเหงือกบวม มองทีแรกสีเหมือนเป็นหนอง ใจไปอยู่ตาตุ่มเลย งานเข้า แน่นอน ตัดสินใจไปโรงพยาบาล หมอดูฟิล์มเอ็กซเรย์ แล้วหันมายิ้ม คงไม่ต้องเดา ในที่สุดชั้นก็รักษาเธอเอาไว้ไม่ได้ สิ่งที่ทุ่มเททำไป สูญเปล่า ฮือๆ หมอบอกต้องถอนค่ะ ไม่มีทางเลือก คิดว่ารากฟันน่าจะแตกแล้ว เป็นเหตุให้ เหงือกอักเสบ ตอนนี้กลับมากินยา รอเวลาไปถอน ทำฟันปลอม ต่อไป ฮือๆ ไม่อยากฟันหลอเลย บอกตรง
ฝากไว้แล้วกันนะคะ ใครจะรักษารากฟัน ก็เลือกหมอให้ดี ทำแล้วก็อย่ารีบครอบฟัน รอดูอาการสุดที่รัก ให้ดีก่อน โชคดีนะคะ