สวัสดีค่ะ เพื่อนพี่น้องชาวพันทิพ
นี่เป็นกระทู้รีวิวเที่ยวครั้งแรกของเรา(ขอยืมประโยคยอดฮิตมาใช้หน่อย อิอิ) ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
เหตุเกิดจากปีที่ผ่านมาพวกเราพึ่งเรียนจบมหาลัย มีงานมีการทำได้ไม่นานค่ะ รู้สึกชีวิตการทำงานมันเหงาว้าเหว่ เลยผุดทริปเที่ยวกันเป็นดอกเห็ด ข้อมูลการท่องเที่ยวหลักๆก็ได้จากพันทิพนี่แหละค่ะ เลยอยากแสดงความกตัญญู ด้วยการรีวิว เผื่อข้อมูล(ที่มีน้อยมาก)นี้จะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนค่ะ
กระทู้แรกขอเจิมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของ จขกท. คือเฝ้าตามดูรีวิวมานานหลายปี แต่ไม่มีโอกาส(คือไม่มีทั้งเวลาและเงินอ่ะค่ะ)ได้ไปซักที วันนี้ฝันเป็นจริงแล้วค่ะ ปลาบปลื้มน้ำตาไหล 55555
ทริปนี้ประกอบด้วยวัยรุ่นหญิงล้วน 5 คนค่ะ เจ้าถิ่น สุราษฯ 2 คน สาวอิสานหน้าตาดี(เหรอ?) 2 คน และสาวสุพรรณฯ 1 คน นัดมาเจอกันที่ กทม.แล้วเดินทางต่อด้วยหางแดงค่ะ ลงสนามบินสุราษฯเลย สะดวกรวดเร็ว ไม่ถึง 1 ชั่วโมงดีเลย
เดินทางต่อ มีเจ้าถิ่นมารับค่ะ คือทริปนี้เน้นประหยัดค่ะ นอนบ้านเพื่อน รถเพื่อน เพื่อนขับด้วย สบายย ฟินๆค่ะ 555
คือไปถึงเกือบๆเที่ยง หิวมากกกก เพื่อนถามอยากกินไร ทุกคนลงความเห็นกันว่าขออาหารทะเลร้านเด็ดสุด เลยมาลงเอยที่ร้านนี้ค่ะ
ร้านลำพูสาขา 3 ปากแม่น้ำตาปี รสชาดเด็ดพอสมควร อาหารสดมากค่ะ เจ้าของร้านก็อัธยาศัยดี บรรยากาศริมแม่น้ำตาปี ลมพัดตึ้งๆๆ (เริ่มกลับบ้านเกิดละ 5555)
อันนี้เป็นเซตพริกเกลือกินกับหอยนางรมสดค่ะ ไม่ต้องถามหารูปหอยนะคะ เหตุการค่อนข้างชุลมุนค่ะ ถึงจะตัวเล็กไปหน่อย แต่สด อร่อยดีค่ะ (โปรดจิตนาการภาพตาม
)
ระหว่างทางบรรยากาศดีค่ะ เราชอบภาคใต้ตรงที่มันดูชุ่มชื้น ต้นไม้เขียวๆ สดชื่นดี ช่วงที่ไปนี่ครึ้มฟ้าครึ้มฝนตลอด หรือเป็นอย่างนี้ทั้งปีมั้ยคะ
แวะสะพานข้ามแม่น้ำตาปี จำชื่อไม่ได้ แต่วิวดีมาก ลมยังคงพัดตึ้งเหมือนเดิมค่ะ
แพลนวันนี้คือท่องเที่ยวในตัวเมืองสุราษฯค่ะ เริ่มด้วยแวะร้านกาแฟ แต่งเก๋ๆชิคๆไปอีก "บางใบไม้คาเฟ่"
ตกเย็นกินข้าวเสร็จไป "ดูหิ่งห้อย" ที่แม่น้ำตาปีกันค่ะ คือเราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามันมีดูหิ่งห้อยด้วย เรือที่พาไปจะจอกอยู่ริมแม่น้ำตาปีอะค่ะ ราคารอบละ 300 บาท จขกท.ไม่เคยนั่งเรือดูหิ่งห้อยที่อื่นมาก่อนนะคะ แต่อยากแนะนำที่นี่เลย ฟินมาก แม่น้ำตาปีกว้างๆ พี่คนขับเรือหนุ่มใต้ก็แหลงใต้โม้ใหญ่(ฟังไม่ทันเลย) คือมันระยิบระยับเหมือนประดับไฟบนต้นไม้ตอนงานปีใหม่อ่ะค่ะ แต่เป็นแสงธรรมชาติ อยู่ตามต้นลำพู ยอดมะพร้าวก็ยังมี ถ่ายรูปมาก็ไม่เห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเอง
เรือที่พาไปดูหิ่งห้อย
อันนี้รูปสะพาน ไฟสวยดี
สมาชิกมารุโกะทัวร์
แต่ระหว่างที่ฟินๆอยู่นั้นก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นค่ะ ฝนตก ไม่ตกธรรมดานะคะ ตกแรงมากกกกกกก สุดท้ายคือทุกคนสภาพมอมแมม ความฟินลดลง 50 เปอร์เซ็นต์เลยค่ะ 555555 ใครจะไปอย่าลืมตรวจสอบสภาพอากาศกันนี้ดนึงนะคะ
เอาละค่ะ มาถึงเช้าวันที่ 2 วันนี้แพลนคือมุ่งสู่เขื่อเชี่ยวหลาน จุดหมายหลักของเรา
ก่อนไปเติมพลังด้วยติ่มซำเจ้าเด็ดที่เจ้าถิ่น recommend ชื่อร้าน "เสรีแต้เตี้ยม" ค่ะ
มีให้เลือกหลากหลายเลยค่ะ หยิบๆใส่ถาดแล้วเค้าจะอุ่นให้ เจ้าของร้านดูน่ารัก เป็นกันเองมาก คนใต้ใจดีอีกแล้ว ^^
อันนี้คือผู้ผ่านเข้ารอบ
ส่วนเจ้านี่ชื่ออะไรไม่รู้ หน้าตาธรรมดา แต่อร่อยมากกกกก
ได้เวลาออกเดินทาง ไปเลยค่ะพี่สุชาติ !!
จากตัวเมืองสุราษฯมาชั่วโมงกว่า โดยรถส่วนตัว(ของเพื่อนอีกตามเคย) ก็มาถึงตัวเขื่อนเชี่ยวหลานค่ะ
ระหว่างทาง เห็นแล้วสดชื่นจริงๆ
ก่อนมาเราเลือกที่พักกันหลายที่มากๆ ดูตามรีวิวในพันทิพนี่แหละค่ะ แต่ส่วนใหญ่โทรไม่ติดบ้าง เต็มบ้าง
เลยได้เพื่อนของเพื่อนที่ทำบริษัททัวร์อยู่แถวนี้แนะนำให้ ชื่อ "แพภูผาวารี" ค่ะ เป็นแพสไตล์โมเดิร์นๆหน่อย
ไปถึงจะมีซุ้มของแพภูผาวารี น้องๆพนักงานมาคอยอำนวยความสะดวกค่ะ
ก่อนลงเรือ
ชาวต่างชาติก็เยอะนะคะ
Landmark ค่ะ "เขาสามเกลอ"
โบกมือทักทายกันหน่อย
คือ ไม่รู้จะอธิบายยังไง ของจริงสวยกว่าในรูปเยอะมากกๆๆๆ อยากให้ไปดูด้วยตาตัวเองค่ะ แล้วจะหลงรักเขื่อนเชี่ยวหลาน
[CR] [CR] ล่องใต้ - เขื่อนเชี่ยวหลาน - สุราษฎร์ธานี ครั้งแรกกับมารุโกะทัวร์
นี่เป็นกระทู้รีวิวเที่ยวครั้งแรกของเรา(ขอยืมประโยคยอดฮิตมาใช้หน่อย อิอิ) ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
เหตุเกิดจากปีที่ผ่านมาพวกเราพึ่งเรียนจบมหาลัย มีงานมีการทำได้ไม่นานค่ะ รู้สึกชีวิตการทำงานมันเหงาว้าเหว่ เลยผุดทริปเที่ยวกันเป็นดอกเห็ด ข้อมูลการท่องเที่ยวหลักๆก็ได้จากพันทิพนี่แหละค่ะ เลยอยากแสดงความกตัญญู ด้วยการรีวิว เผื่อข้อมูล(ที่มีน้อยมาก)นี้จะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนค่ะ
กระทู้แรกขอเจิมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของ จขกท. คือเฝ้าตามดูรีวิวมานานหลายปี แต่ไม่มีโอกาส(คือไม่มีทั้งเวลาและเงินอ่ะค่ะ)ได้ไปซักที วันนี้ฝันเป็นจริงแล้วค่ะ ปลาบปลื้มน้ำตาไหล 55555
ทริปนี้ประกอบด้วยวัยรุ่นหญิงล้วน 5 คนค่ะ เจ้าถิ่น สุราษฯ 2 คน สาวอิสานหน้าตาดี(เหรอ?) 2 คน และสาวสุพรรณฯ 1 คน นัดมาเจอกันที่ กทม.แล้วเดินทางต่อด้วยหางแดงค่ะ ลงสนามบินสุราษฯเลย สะดวกรวดเร็ว ไม่ถึง 1 ชั่วโมงดีเลย
เดินทางต่อ มีเจ้าถิ่นมารับค่ะ คือทริปนี้เน้นประหยัดค่ะ นอนบ้านเพื่อน รถเพื่อน เพื่อนขับด้วย สบายย ฟินๆค่ะ 555
คือไปถึงเกือบๆเที่ยง หิวมากกกก เพื่อนถามอยากกินไร ทุกคนลงความเห็นกันว่าขออาหารทะเลร้านเด็ดสุด เลยมาลงเอยที่ร้านนี้ค่ะ
ร้านลำพูสาขา 3 ปากแม่น้ำตาปี รสชาดเด็ดพอสมควร อาหารสดมากค่ะ เจ้าของร้านก็อัธยาศัยดี บรรยากาศริมแม่น้ำตาปี ลมพัดตึ้งๆๆ (เริ่มกลับบ้านเกิดละ 5555)
อันนี้เป็นเซตพริกเกลือกินกับหอยนางรมสดค่ะ ไม่ต้องถามหารูปหอยนะคะ เหตุการค่อนข้างชุลมุนค่ะ ถึงจะตัวเล็กไปหน่อย แต่สด อร่อยดีค่ะ (โปรดจิตนาการภาพตาม)
ระหว่างทางบรรยากาศดีค่ะ เราชอบภาคใต้ตรงที่มันดูชุ่มชื้น ต้นไม้เขียวๆ สดชื่นดี ช่วงที่ไปนี่ครึ้มฟ้าครึ้มฝนตลอด หรือเป็นอย่างนี้ทั้งปีมั้ยคะ
แวะสะพานข้ามแม่น้ำตาปี จำชื่อไม่ได้ แต่วิวดีมาก ลมยังคงพัดตึ้งเหมือนเดิมค่ะ
แพลนวันนี้คือท่องเที่ยวในตัวเมืองสุราษฯค่ะ เริ่มด้วยแวะร้านกาแฟ แต่งเก๋ๆชิคๆไปอีก "บางใบไม้คาเฟ่"
ตกเย็นกินข้าวเสร็จไป "ดูหิ่งห้อย" ที่แม่น้ำตาปีกันค่ะ คือเราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามันมีดูหิ่งห้อยด้วย เรือที่พาไปจะจอกอยู่ริมแม่น้ำตาปีอะค่ะ ราคารอบละ 300 บาท จขกท.ไม่เคยนั่งเรือดูหิ่งห้อยที่อื่นมาก่อนนะคะ แต่อยากแนะนำที่นี่เลย ฟินมาก แม่น้ำตาปีกว้างๆ พี่คนขับเรือหนุ่มใต้ก็แหลงใต้โม้ใหญ่(ฟังไม่ทันเลย) คือมันระยิบระยับเหมือนประดับไฟบนต้นไม้ตอนงานปีใหม่อ่ะค่ะ แต่เป็นแสงธรรมชาติ อยู่ตามต้นลำพู ยอดมะพร้าวก็ยังมี ถ่ายรูปมาก็ไม่เห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเอง
เรือที่พาไปดูหิ่งห้อย
อันนี้รูปสะพาน ไฟสวยดี
สมาชิกมารุโกะทัวร์
แต่ระหว่างที่ฟินๆอยู่นั้นก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นค่ะ ฝนตก ไม่ตกธรรมดานะคะ ตกแรงมากกกกกกก สุดท้ายคือทุกคนสภาพมอมแมม ความฟินลดลง 50 เปอร์เซ็นต์เลยค่ะ 555555 ใครจะไปอย่าลืมตรวจสอบสภาพอากาศกันนี้ดนึงนะคะ
เอาละค่ะ มาถึงเช้าวันที่ 2 วันนี้แพลนคือมุ่งสู่เขื่อเชี่ยวหลาน จุดหมายหลักของเรา
ก่อนไปเติมพลังด้วยติ่มซำเจ้าเด็ดที่เจ้าถิ่น recommend ชื่อร้าน "เสรีแต้เตี้ยม" ค่ะ
มีให้เลือกหลากหลายเลยค่ะ หยิบๆใส่ถาดแล้วเค้าจะอุ่นให้ เจ้าของร้านดูน่ารัก เป็นกันเองมาก คนใต้ใจดีอีกแล้ว ^^
อันนี้คือผู้ผ่านเข้ารอบ
ส่วนเจ้านี่ชื่ออะไรไม่รู้ หน้าตาธรรมดา แต่อร่อยมากกกกก
ได้เวลาออกเดินทาง ไปเลยค่ะพี่สุชาติ !!
จากตัวเมืองสุราษฯมาชั่วโมงกว่า โดยรถส่วนตัว(ของเพื่อนอีกตามเคย) ก็มาถึงตัวเขื่อนเชี่ยวหลานค่ะ
ระหว่างทาง เห็นแล้วสดชื่นจริงๆ
ก่อนมาเราเลือกที่พักกันหลายที่มากๆ ดูตามรีวิวในพันทิพนี่แหละค่ะ แต่ส่วนใหญ่โทรไม่ติดบ้าง เต็มบ้าง
เลยได้เพื่อนของเพื่อนที่ทำบริษัททัวร์อยู่แถวนี้แนะนำให้ ชื่อ "แพภูผาวารี" ค่ะ เป็นแพสไตล์โมเดิร์นๆหน่อย
ไปถึงจะมีซุ้มของแพภูผาวารี น้องๆพนักงานมาคอยอำนวยความสะดวกค่ะ
ก่อนลงเรือ
ชาวต่างชาติก็เยอะนะคะ
Landmark ค่ะ "เขาสามเกลอ"
โบกมือทักทายกันหน่อย
คือ ไม่รู้จะอธิบายยังไง ของจริงสวยกว่าในรูปเยอะมากกๆๆๆ อยากให้ไปดูด้วยตาตัวเองค่ะ แล้วจะหลงรักเขื่อนเชี่ยวหลาน