สวัสดีครับกระทู้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาเรียนในมหาลัยครับนักศึกษาได้รับโจทย์ให้ออกไปหาความรู้
หาประสบการณ์ผ่านการท่องเที่ยวแบบ Backpack ภายใต้ Concept “Low Price High Experience
โดยพวกเราเลือกจังหวัดตรังเป็นเป้าหมายในการเดินทางครั้งนี้เพราะว่าจังหวัดตรังมีอะไรที่น่าสนใจ
อยู่เยอะทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรมและที่สำคัญคืออาหาร

โดยแผนการท่องเที่ยวครั้งนี้ของพวกเราในระยะเวลา 4วัน4คืน ตกราคาอยู่ประมาณคนละ 5000 บาทครับ



พวกเราเลือกที่จะเดินทางโดยรถไฟตู้นอนชั้นสองตกราคาอยู่ประมาณ 800 บาทเป็นรถด่วน  
ออกจากหัวลำโพงเวลา17.05 น.และ ถึงเมืองตรังที่เป็นปลายทาง เวลา 8.05 น.ของวันถัดไป

รถไฟออกตอนเวลา17.20น. ซึ่งเลทไปบ้างเล็กน้อย พวกเราก็นั่งชมวิวรับประทานอาหาร
ไม่นานนักก็มีคนขึ้นมาเดินขายของทั้งน้ำ ขนม หรือเติมเงินโทรศัพท์ก็มีครับ

พอหัวค่ำ พนักงานรถไฟก็เริ่มมาจัดการที่นั่งของพวกเราให้เป็นเตียงนอน โดยแต่ละห้อง
จะมีผ้าม่านปิดไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว หมอนกับผ้าห่มสะอาดดีครับ

หลังจากที่พนักงานปูที่นอนให้พวกเราเสร็จก็แยกย้ายกันเข้าที่นอนของตัวเองกัน
นอนเอาแรงไว้เที่ยวกันในตอนเช้า



เราถึงที่ตรังราวๆ 8.15 โดยเราพักที่โรงแรมศรีตรัง ที่พักของเราในคืนนี้ หลังจากที่ฝากกระเป๋า
ผมก็สอบถามข้อมูลเรื่องรถที่จะเดินทางไปยังถ้ำเลเขากอบและสถานที่เที่ยวอื่นๆ
และได้ความว่าเหมารถหัวกบไป ราคา1300 บาท แต่ถ้าเหมารถยนต์ไป ราคา 1500 บาท
ซึ่งพี่พนักงานเขาแนะนำเราว่านั่งรถยนต์ไปจะดีกว่าเพราะระยะทางที่ไกลและขึ้นเขา
ในเมื่อพี่เขาแนะนำมาอย่างนั้นก็เอาตามนั้นล่ะครับ

ถ้ำเลเขากอบ

และแล้วก็ถึงจุดหมายแรกของวันนี้ ก็คือถ้ำเลเขากอบนั่นเอง ที่นี่จะต้องนั่งเรือเข้าไปชมถ้ำ
ซึ่งลำนึงสามารถนั่งได้5คน ราคาลำละ300บาท (เฉลี่ยคนละ60บาท) ภายในถ้ำจะแบ่งเป็นห้องๆ
เพื่อให้ชมหินหงอกหินย้อยกัน

และจุดขายของที่นี่ นั่นคือการลอดท้องมังกร ซึ่งมีความเชื่อว่าหลังจากที่ลอดออกไปแล้วจะทำให้
ชีวิตการเรียนการทำงานราบรื่น ประสบแต่ความสำเร็จ แต่กว่าจะลอดออกไปได้นั่น
ต้องนอนราบไปกับเรือเพราะเพดานถ้ำจะต่ำมากถึงมากที่สุด เรียกได้ว่าแทบจะเฉียดหน้าเลยก็ว่า

ทุ่งค่าย

สวนพฤกษศาสตร์ภาคใต้ (ทุ่งค่าย)สามารถเดินชมธรรมชาติ ที่มีระยะประมาณ3กม.
และจุดที่สำคัญของที่นี่คือ เส้นทางสะพานศึกษาเรือนยอดไม้ แห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย
โดยสะพานมีความยาว 175 เมตร ความสูง 3 ระดับ ตั้งแต่ 10 – 18 เมตร ประกอบด้วย 5 ช่วงสะพาน
และ 6 หอคอย ที่สามารถชมธรรมชาติได้ในมุมมองจากด้านบนสวยงามมากครับ

หมูย่างติ่มซำพงษ์โอชา

วันต่อมาพวกเราก็ได้ออกจากโรมแรม เพื่อไปทานหมูย่างติ่มซำ อาหารขึ้นชื่อที่มาตรังแล้วต้องทานให้ได้

ปกติแล้วคนตรังจะทานติ่มซำเป็นของว่างยามเช้า ทำให้ตอนที่เราไปถึงก็จะเห็นผู้คนนั่งทาน
อาหารจนแน่นร้าน พอเราได้ที่นั่งแล้ว เขาก็จะนำอาหารมาวางไว้เต็มโต๊ะเลย
ซึ่งอาหารเหล่านี้คิดราคาเป็นชิ้น จะทานหรือไม่ทานก็แล้วแต่ ส่วนติ่มซำนั้นเราต้องไปเลือกจาก
เคาเตอร์หน้าร้านเอาเอง ราคาก็คิดตามเข่งเหมือนทั่วไป

หาดปากเมง

หลังจากเก็บของและบอกลาโรงแรมศรีตรังกันแล้ว รถประจำทางที่จะไปสถานีขนส่งก็ขับผ่านหน้า
พวกเรามาพอดีพอถึงสถานีขนส่ง เรามามุ่งหน้าไปที่ท่ารถตู้ตรัง-ปากเมง ใช้เวลาแค่50นาทีก็ถึง
หาดปากเมงรถตู้พาพวกเรามาส่งที่หน้าโรงแรมเลตรัง ที่พักคืนนี้ของพวกเรา

ดำน้ำ 4 เกาะ!

ทริปของวันนี้ถือเป็นหัวใจหลักของการมาbackpackที่ตรังเลยก็ว่าได้ วันนี้เราจะไปตะลุยทะเล
เที่ยวเกาะ4เกาะกัน โดยพวกเราได้จองแพ็คเกจ ทัวร์เที่ยวพร้อมที่พัก1คืนไว้ ในราคา 1100 บาท/คนเท่านั้นเอง)


จุดแรกที่ได้ไปเยี่ยมชมคือถ้ำมรกต ซึ่งนักท่องเที่ยวมาเยอะมากครับ แต่น้ำใสสีสวยจริง
หลังจากขึ้นจากถ้ำมรกตก็แวะเที่ยวชมเกาะกระดาน รับประทานอาหารครับ

น้ำใสหาดสวยมาก และสามารถกระโดดน้ำเล่นจากบนเรือได้ด้วย

จากนั้นก็ไปดำน้ำดูปลาดูปะการังที่เกาะเชือกและเกาะม้าตามลำดับครับ ส่วนใหญ่ปลาที่เห็นคือปลาสลิดบั้งเหลือง

พอจบการทัวร์เที่ยวเกาะ4เกาะแล้ว เรือก็พาเรามาส่งที่ท่าเรือ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเตรียมตัวกลับเข้าเมืองกัน

วันสุดท้ายของทริปในครั้งนี้แล้ว วันนี้เริ่มต้นกันที่ร้านโกปิ ร้านนี้ตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟตรัง
บรรยากาศร้านเป็นสไตล์โบราณ มีคุณลุงคุณป้ามานั่งจิบชากาแฟยามเช้า


จากนั้นก็ได้เวลาบอกลาเมืองกันตัง กลับไปที่สนามบินเพื่อรอขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพกันแล้ว




สำหรับคนที่สนใจจะไปเที่ยว แนะนำว่าตรังเป็นสถานที่ที่แนะนำเลยครับ ต้อนรับนั่งท่องเที่ยวดีมาก
มีวัฒนธรรม อาหาร สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจเยอะมาก

ถ้ามีข้อผิดพลาดอะไรก็ขออภัยด้วยนะครับขอบคุณครับ