ช่วงหลัง ๆ เห็นคนเริ่มกลับเข้ามาตั้งกระทู้ถามเรื่อง Forex กันเยอะอีกแล้ว บางที่จะตอบก็กลัว ตอบไม่ตรงคำถาม เพราะบางครั้งอ่านคำถามก็งง ว่าถามอะไร เลยตั้งกระทู้ ขอแชร์วิธีคิดและประสบการณ์เทรดใหม่เลยดีกว่า เพื่อจะมีประโยชน์กับคนที่อยากเทรด Forex กับเขาบ้าง
ส่วนตัวมองว่า คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาเทรด Forex เข้ามาเพราะความเชื่อที่ผิด คิดว่าง่ายและทำกำไรได้เร็วและเยอะ
มักมีคำพูดติดปากพวกเกรียนๆ กันว่า ตามสถิติ 80% จะเจ๊ง! มีเพียงแค่ 20% ที่เอาตัวรอดได้
คนที่พูดแบบนี้ เข้าใจว่า ส่วนมากก็น่าจะเป็นคนส่วนใหญ่ใน 80% หลายคนเข้ามาเทรดเพราะคิดว่า “มันง่ายๆ…แค่เปิด Buy ที่แนวรับ และเปิด Sell ที่ตามแนวต้าน ก็รวยแล้ว!” ง่ายโคตรๆ แต่.......พอเข้ามาเทรดก็เห็นว่าใหม่ๆ มัน Buy on Strength Sell in Dips กันทั้งนั้นล่ะ
จริงๆ ไม่แปลกหรอก เพราะคนที่มีความเชื่อแบบนั้น เริ่มต้นด้วยการไม่ได้ศึกษาเข้าใจพื้นฐานจริงๆ เขาเข้าตลาดมาด้วยความคิด “ความเชื่อที่ทำตามๆกันมา ในแบบผิดๆ”....คือที่กล้าพูดเพราะเคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว
ถ้าเราเข้ามาด้วยความเชื่อแบบ “ง่ายๆ” เมื่อไหร่ กลุ่มคน 80% ที่เจ๊งในตลาดจะรับคุณเป็นเพื่อนทันที เพราะมันผิดตั้งแต่ "วิธีคิด” แล้ว
และจะได้คุยเรื่องเดียวกันสนุกไปเลย ... "เมื่อคืนโดนเหมือนกันใช่ป่ะ" .... "เป็นใครก็โดน" แบบนี้เป็นต้น
ใครที่คิดว่า “จะกำไรง่ายๆ เยอะๆ จากการเทรด ฟันธงได้เลยว่า “เจ๊ง!” “ถ้าไม่เลิกซะก่อน ก็ได้นั่งเฝ้าหน้าจอวันตาย”
เพราะพอคิดว่าง่าย ไม่มีการวางแผนเทรด ไม่ศึกษา"อย่างจริงจัง" และพออยากกำไรเยอะ ก็เทรดแบบไม่มีวินัย
ไม่มี Stop loss เห็นตัวไหนวิ่งๆเขียวๆ ก็โดนเข้าใส่อย่างเดียว พอเวลามันย่อแต่ละรอบ ก็ต้องตัดขาดทุนเป็นประจำ
นอกจากความเชื่อผิดๆ ที่ทำให้ หลักคิดผิดแล้ว…ความเข้าใจพื้นฐานก็ยังผิดอีก! บางคนไม่สนใจพื้นฐานของตลาดเลย
คือคิดว่าการเทรดคือ “Buy ตอนมันย่อ แล้วรอปิดตอนมัน พุ่งขี้น หรือ Sell ตอนมันเด้งขึ้นมาแล้วรอปิดตอนมันร่วงลง”
คนเข้ามาใหม่ๆ คิดว่าเทรดแบบนี้แล้วกำไรได้ง่ายๆ และทำตามๆกันไปจนเคยชิน ส่วนมากเจ๊งครับ! อันนี้.....
ถ้าทำแบบนี้แล้วได้กำไร พวก 80% บนโลกนี้ต้องไม่มีสิ แต่มันไม่ง่ายแบบนั้นเนอะ
ต่อมา บางคน "แกล้ง!!" ไม่เข้าใจ คำว่า Stop loss ทั้ง ๆ เป็นเรื่องง่ายๆ แม้ตัวผมบางครั้งตัวเองก็หลุดทำด้วยคือ
เวลาเทรดเขามักจะทำการ Stop loss ไปในจุดราคา ที่รู้สึกไม่ไหวแล้ว จุดที่ความกลัวการขาดทุนครอบงำ ซึ่งมันไม่ถูกเนอะ
ซึ่งถ้าหลังจาก stop loss แล้ว ราคามันไปต่ออีก ก็จะมีความรู้สึกดี แล้วก็มาบอกว่าตัวเอง มีวินัย MM เก่ง ทั้งๆที่พอร์ทขาดทุนไปแบบเจ็บปวดจนเครียด
.. หรือไม่ก็ถ้าหลังจาก Stop loss แล้ว ราคามันเด้งขึ้น ก็จะเกิด "ความโลภ" อีก โทษหมดทุกอย่าง สุดท้ายกลายเป็นว่า "จำฝังใจ" เดี๋ยวครั้งหน้าจะไม่ Stop loss ดีกว่า เด่วราคามาก็เด้งกลับมา....... นี่แหล่ะผลจากการที่ แกล้งไม่เข้าใจ Stop loss
ถ้าเข้าใจ Stop loss ดี มันต้องเป็นจุดราคาที่ความเสียหายตรงนั้น แล้วคุณรับได้จริงๆ
ต่อมา คือตอนเทรดได้มีกำไร คนส่วนใหญ่เข้ามาเทรด เพราะอยากได้กำไร แต่ความจริง คนจะได้กำไรเยอะจนรวย
มันต้องค่อยๆ สะสมแบบมีวินัย ไม่ใช่ วันเดียว อาทิตย์เดียว ชีวิตเปลี่ยน มันต้องสะสมไปเรื่อยๆ สิ
แต่เพราะความโลภพาไป อยากได้เร็วๆ เทรดด้วยอารมณ์ของตัวเองเป็นหลัก ..... ที่แชร์มาเพราะเคยทำมาก่อน
กว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้ก็เอาเรื่องเหมือนกัน
หลายคนเคยได้ยินคำว่า High Risk High Return มาแบบฝังหัว แล้วเชื่อแบบนั้น ส่วนบังเอิญมีประสบการณ์เรื่อง Risk Management
ทั้งที่ทำงาน และงานส่วนตัว เลยทำให้พอมองต่างจากคนอื่นว่า Risk หรือ ความเสี่ยง มีอันตราย /ความเสียหาย
แต่ถ้าเราเข้าใจความเสี่ยงของมันได้ เราก็จะลดอันตรายและความเสียหายได้เ่ชนกัน Forex ก็เช่นกัน
ถ้าเราเข้าไปศึกษาพื้นฐานมันให้ "เข้าใจ" อย่างถ่องแท้ เราสามารถควบคุมมันและลดความรุนแรงของมันได้
เลยเปลี่ยนมุมมอง มาเป็นแบบ High Understanding(Risk) High Return ด้วยการศึกษาทำความเข้าใจพื้นฐานให้มาก ๆ
แล้วเอามาฝึกทดลองทำบ่อยๆ จนเกิดความเตยชิน (วิธีนี้ช่วยได้)
สำหรับ คนที่พยายามอยากจะเข้ามาเทรดใหม่ๆ ขอแนะนำแบบนี้
1. ศึกษาหาความรู้ พื้นฐานให้เข้าใจ อย่างจริงจังก่อน
2. พยายาม สร้าง Trade Setup ของตัวเอง ให้ได้ อย่าไปเทรดตามคนอื่น ของแบบนี้ ไปเอาของคนอื่นมาใช้ไม่ได้
ทุนต่างกันความเสี่ยงต่งกัน มุมมองต่างกัน เครื่องมือต่างกัน ความรู้ต่างกัน ประสบการณ์ต่างกัน แผน และเป้าหมายก็ต่างกันแล้ว จะไปเทรดตามกันทำไม ??
3. แผนการเทรด ก่อนจะเทรด มีรึยัง ถ้ายังไม่มี ก็วางแผนเทรดก่อนว่า ตำแหน่งไหน เข้า - ออก ยังไง
4. รอ รอเป็นกลยุทธ์อย่างนึง บางคน วางแผนได้ แต่รอไม่ได้ ก็ไม่รู้จะวางแผนมาทำไม
5. การกระจายความเสี่ยง ด้วยการเทรดตัวอื่น ...... ส่วนตัว จะเทรด หลายคู่ ไม่เทรดคู่เดียว เพราะ เชื่อว่า โอกาส เราต้องหาเอง ไม่ใช่นั่งรอ
ถ้าเราเข้าใจและวางแผนเทรดเป็น เราก็สามารถเทรดคู่ไหนๆ ได้เหมือนกัน ซึ่ง แต่ล่ะคู่ โอกาสจะมาไม่พร้อมๆกัน
6. พยายามเทรดตามเทรน
7. อย่าไปเฝ้าหน้าจอ ให้เทรดเพราะสนุก สร้าง Passion ในการเทรด …ไม่ใช่เพื่อกำไร/ขาดทุน
ถ้าเทรดแบบนั้นสุดท้าย....ต้องนั่งเฝ้ากราฟทั้งวัน ไม่ไหวเหมือนกัน แต่พอเราเริ่มมี Passion กับการเทรดมากขึ้น เรามีความสุขที่ได้เทรด
มันกลายเป็นว่าเราจะสนใจแผนการเทรด มากกว่าผลกำไร ว่าตามได้แผนมั้ย ผลที่ได้กลับดีขึ้นกว่าการนั่งเฝ้าหน้าจอ ดังนั้นการทนเฝ้าหน้าจอไม่ได้ทำให้การเทรดพัฒนาขึ้น เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า
ส่วนคนที่ยังเทรด แต่....... ต้องเฝ้าหน้าจอ เฝ้ามือถือตลอดเวลา แต่การเทรดก็ยังไม่ดีขึ้น
แนะนำให้เลิกบ้ากับมันซะ .... Forex ไม่ใช่แหล่งหาเงินที่เป็นคำตอบเดียวของชีวิต เปลี่ยนความคิดใหม่ หาความสุขใส่ตัว พักพ่อน ทำอะไรก็ได้
ให้ลืม MT4 ให้ได้ เช่นช่วงเวลากินข้าว ขับรถ ออกกำลัง นอน หรืออยู่กับครอบครัว แค่แบ่งเวลามาทำการบ้านบ้างแค่นั้นล่ะพอแล้ว
ต่อมา "สมาธิ" เป็นสิ่งสำคัญอีกอย่าง มองว่าสำคัญมากด้วย มันส่งผลกับวิธีการตัดสินใจในทุกเรื่อง ทุกเรื่องจริงๆ ไม่เฉพาะการเทรดเท่านั้น
สำหรับ forex เวลาที่เฝ้าหน้าจอ .... ถ้าเราไม่มีสมาธิ หรือมีสิ่งกวนใจ สติจะหลุดได้ง่ายๆ บางคนนั่งทำการบ้านวางแผนมาอย่างดี
พอถึงเวลาจริงๆ แม่มมติดลบว่ะ เพราะเทรดๆ อยู่ปวดฉี่ สายเข้า ดูทีวี เล่นกับแฟน ไปกินข้าว ทำโน้นทำนี้ บวก ๆ อยู่ลบเฉย
เชื่อว่าเจอกันมาทุกคน คือจะบอกว่า สมน้ำหน้า ....... ตกลง จะเทรดหรือจะทำอะไร ......ไม่คิดให้ได้ก่อน ถ้ายังไม่อยากเทรดก็ไม่ต้องเทรด
จะเกินไปหน่อย ขับรถอยู่ดีๆ อยากดูทีวี แล้ว จะให้ถึงปลายทางเนี้ยนะ คงยาก ....วุ่นวายกับเรื่องรอบๆตัวมากเกินไป
หรือบางครั้ง วางแผนมาดีมาก แต่...... ดันแอบไปอยู่ในกลุ่มเทรดหลายกลุ่ม แล้วเขาดันแจกซิกสวนทางมาเว้ย เอาล่ะสิ จัดตามมันเลย แผนไม่สนใจล่ะ แบบนี้เจอบ่อย ...... เสียสมาธิ
ถ้าสนใจอยากคุยกันหลังไมต์มาก็ได้นะครับ ยินดี ขอให้เฮงๆ กันถ้วนหน้า
มาแชร์ประสบการณ์เทรด Forex กันครับ
ส่วนตัวมองว่า คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาเทรด Forex เข้ามาเพราะความเชื่อที่ผิด คิดว่าง่ายและทำกำไรได้เร็วและเยอะ
มักมีคำพูดติดปากพวกเกรียนๆ กันว่า ตามสถิติ 80% จะเจ๊ง! มีเพียงแค่ 20% ที่เอาตัวรอดได้
คนที่พูดแบบนี้ เข้าใจว่า ส่วนมากก็น่าจะเป็นคนส่วนใหญ่ใน 80% หลายคนเข้ามาเทรดเพราะคิดว่า “มันง่ายๆ…แค่เปิด Buy ที่แนวรับ และเปิด Sell ที่ตามแนวต้าน ก็รวยแล้ว!” ง่ายโคตรๆ แต่.......พอเข้ามาเทรดก็เห็นว่าใหม่ๆ มัน Buy on Strength Sell in Dips กันทั้งนั้นล่ะ
จริงๆ ไม่แปลกหรอก เพราะคนที่มีความเชื่อแบบนั้น เริ่มต้นด้วยการไม่ได้ศึกษาเข้าใจพื้นฐานจริงๆ เขาเข้าตลาดมาด้วยความคิด “ความเชื่อที่ทำตามๆกันมา ในแบบผิดๆ”....คือที่กล้าพูดเพราะเคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว
ถ้าเราเข้ามาด้วยความเชื่อแบบ “ง่ายๆ” เมื่อไหร่ กลุ่มคน 80% ที่เจ๊งในตลาดจะรับคุณเป็นเพื่อนทันที เพราะมันผิดตั้งแต่ "วิธีคิด” แล้ว
และจะได้คุยเรื่องเดียวกันสนุกไปเลย ... "เมื่อคืนโดนเหมือนกันใช่ป่ะ" .... "เป็นใครก็โดน" แบบนี้เป็นต้น
ใครที่คิดว่า “จะกำไรง่ายๆ เยอะๆ จากการเทรด ฟันธงได้เลยว่า “เจ๊ง!” “ถ้าไม่เลิกซะก่อน ก็ได้นั่งเฝ้าหน้าจอวันตาย”
เพราะพอคิดว่าง่าย ไม่มีการวางแผนเทรด ไม่ศึกษา"อย่างจริงจัง" และพออยากกำไรเยอะ ก็เทรดแบบไม่มีวินัย
ไม่มี Stop loss เห็นตัวไหนวิ่งๆเขียวๆ ก็โดนเข้าใส่อย่างเดียว พอเวลามันย่อแต่ละรอบ ก็ต้องตัดขาดทุนเป็นประจำ
นอกจากความเชื่อผิดๆ ที่ทำให้ หลักคิดผิดแล้ว…ความเข้าใจพื้นฐานก็ยังผิดอีก! บางคนไม่สนใจพื้นฐานของตลาดเลย
คือคิดว่าการเทรดคือ “Buy ตอนมันย่อ แล้วรอปิดตอนมัน พุ่งขี้น หรือ Sell ตอนมันเด้งขึ้นมาแล้วรอปิดตอนมันร่วงลง”
คนเข้ามาใหม่ๆ คิดว่าเทรดแบบนี้แล้วกำไรได้ง่ายๆ และทำตามๆกันไปจนเคยชิน ส่วนมากเจ๊งครับ! อันนี้.....
ถ้าทำแบบนี้แล้วได้กำไร พวก 80% บนโลกนี้ต้องไม่มีสิ แต่มันไม่ง่ายแบบนั้นเนอะ
ต่อมา บางคน "แกล้ง!!" ไม่เข้าใจ คำว่า Stop loss ทั้ง ๆ เป็นเรื่องง่ายๆ แม้ตัวผมบางครั้งตัวเองก็หลุดทำด้วยคือ
เวลาเทรดเขามักจะทำการ Stop loss ไปในจุดราคา ที่รู้สึกไม่ไหวแล้ว จุดที่ความกลัวการขาดทุนครอบงำ ซึ่งมันไม่ถูกเนอะ
ซึ่งถ้าหลังจาก stop loss แล้ว ราคามันไปต่ออีก ก็จะมีความรู้สึกดี แล้วก็มาบอกว่าตัวเอง มีวินัย MM เก่ง ทั้งๆที่พอร์ทขาดทุนไปแบบเจ็บปวดจนเครียด
.. หรือไม่ก็ถ้าหลังจาก Stop loss แล้ว ราคามันเด้งขึ้น ก็จะเกิด "ความโลภ" อีก โทษหมดทุกอย่าง สุดท้ายกลายเป็นว่า "จำฝังใจ" เดี๋ยวครั้งหน้าจะไม่ Stop loss ดีกว่า เด่วราคามาก็เด้งกลับมา....... นี่แหล่ะผลจากการที่ แกล้งไม่เข้าใจ Stop loss
ถ้าเข้าใจ Stop loss ดี มันต้องเป็นจุดราคาที่ความเสียหายตรงนั้น แล้วคุณรับได้จริงๆ
ต่อมา คือตอนเทรดได้มีกำไร คนส่วนใหญ่เข้ามาเทรด เพราะอยากได้กำไร แต่ความจริง คนจะได้กำไรเยอะจนรวย
มันต้องค่อยๆ สะสมแบบมีวินัย ไม่ใช่ วันเดียว อาทิตย์เดียว ชีวิตเปลี่ยน มันต้องสะสมไปเรื่อยๆ สิ
แต่เพราะความโลภพาไป อยากได้เร็วๆ เทรดด้วยอารมณ์ของตัวเองเป็นหลัก ..... ที่แชร์มาเพราะเคยทำมาก่อน
กว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้ก็เอาเรื่องเหมือนกัน
หลายคนเคยได้ยินคำว่า High Risk High Return มาแบบฝังหัว แล้วเชื่อแบบนั้น ส่วนบังเอิญมีประสบการณ์เรื่อง Risk Management
ทั้งที่ทำงาน และงานส่วนตัว เลยทำให้พอมองต่างจากคนอื่นว่า Risk หรือ ความเสี่ยง มีอันตราย /ความเสียหาย
แต่ถ้าเราเข้าใจความเสี่ยงของมันได้ เราก็จะลดอันตรายและความเสียหายได้เ่ชนกัน Forex ก็เช่นกัน
ถ้าเราเข้าไปศึกษาพื้นฐานมันให้ "เข้าใจ" อย่างถ่องแท้ เราสามารถควบคุมมันและลดความรุนแรงของมันได้
เลยเปลี่ยนมุมมอง มาเป็นแบบ High Understanding(Risk) High Return ด้วยการศึกษาทำความเข้าใจพื้นฐานให้มาก ๆ
แล้วเอามาฝึกทดลองทำบ่อยๆ จนเกิดความเตยชิน (วิธีนี้ช่วยได้)
สำหรับ คนที่พยายามอยากจะเข้ามาเทรดใหม่ๆ ขอแนะนำแบบนี้
1. ศึกษาหาความรู้ พื้นฐานให้เข้าใจ อย่างจริงจังก่อน
2. พยายาม สร้าง Trade Setup ของตัวเอง ให้ได้ อย่าไปเทรดตามคนอื่น ของแบบนี้ ไปเอาของคนอื่นมาใช้ไม่ได้
ทุนต่างกันความเสี่ยงต่งกัน มุมมองต่างกัน เครื่องมือต่างกัน ความรู้ต่างกัน ประสบการณ์ต่างกัน แผน และเป้าหมายก็ต่างกันแล้ว จะไปเทรดตามกันทำไม ??
3. แผนการเทรด ก่อนจะเทรด มีรึยัง ถ้ายังไม่มี ก็วางแผนเทรดก่อนว่า ตำแหน่งไหน เข้า - ออก ยังไง
4. รอ รอเป็นกลยุทธ์อย่างนึง บางคน วางแผนได้ แต่รอไม่ได้ ก็ไม่รู้จะวางแผนมาทำไม
5. การกระจายความเสี่ยง ด้วยการเทรดตัวอื่น ...... ส่วนตัว จะเทรด หลายคู่ ไม่เทรดคู่เดียว เพราะ เชื่อว่า โอกาส เราต้องหาเอง ไม่ใช่นั่งรอ
ถ้าเราเข้าใจและวางแผนเทรดเป็น เราก็สามารถเทรดคู่ไหนๆ ได้เหมือนกัน ซึ่ง แต่ล่ะคู่ โอกาสจะมาไม่พร้อมๆกัน
6. พยายามเทรดตามเทรน
7. อย่าไปเฝ้าหน้าจอ ให้เทรดเพราะสนุก สร้าง Passion ในการเทรด …ไม่ใช่เพื่อกำไร/ขาดทุน
ถ้าเทรดแบบนั้นสุดท้าย....ต้องนั่งเฝ้ากราฟทั้งวัน ไม่ไหวเหมือนกัน แต่พอเราเริ่มมี Passion กับการเทรดมากขึ้น เรามีความสุขที่ได้เทรด
มันกลายเป็นว่าเราจะสนใจแผนการเทรด มากกว่าผลกำไร ว่าตามได้แผนมั้ย ผลที่ได้กลับดีขึ้นกว่าการนั่งเฝ้าหน้าจอ ดังนั้นการทนเฝ้าหน้าจอไม่ได้ทำให้การเทรดพัฒนาขึ้น เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า
ส่วนคนที่ยังเทรด แต่....... ต้องเฝ้าหน้าจอ เฝ้ามือถือตลอดเวลา แต่การเทรดก็ยังไม่ดีขึ้น
แนะนำให้เลิกบ้ากับมันซะ .... Forex ไม่ใช่แหล่งหาเงินที่เป็นคำตอบเดียวของชีวิต เปลี่ยนความคิดใหม่ หาความสุขใส่ตัว พักพ่อน ทำอะไรก็ได้
ให้ลืม MT4 ให้ได้ เช่นช่วงเวลากินข้าว ขับรถ ออกกำลัง นอน หรืออยู่กับครอบครัว แค่แบ่งเวลามาทำการบ้านบ้างแค่นั้นล่ะพอแล้ว
ต่อมา "สมาธิ" เป็นสิ่งสำคัญอีกอย่าง มองว่าสำคัญมากด้วย มันส่งผลกับวิธีการตัดสินใจในทุกเรื่อง ทุกเรื่องจริงๆ ไม่เฉพาะการเทรดเท่านั้น
สำหรับ forex เวลาที่เฝ้าหน้าจอ .... ถ้าเราไม่มีสมาธิ หรือมีสิ่งกวนใจ สติจะหลุดได้ง่ายๆ บางคนนั่งทำการบ้านวางแผนมาอย่างดี
พอถึงเวลาจริงๆ แม่มมติดลบว่ะ เพราะเทรดๆ อยู่ปวดฉี่ สายเข้า ดูทีวี เล่นกับแฟน ไปกินข้าว ทำโน้นทำนี้ บวก ๆ อยู่ลบเฉย
เชื่อว่าเจอกันมาทุกคน คือจะบอกว่า สมน้ำหน้า ....... ตกลง จะเทรดหรือจะทำอะไร ......ไม่คิดให้ได้ก่อน ถ้ายังไม่อยากเทรดก็ไม่ต้องเทรด
จะเกินไปหน่อย ขับรถอยู่ดีๆ อยากดูทีวี แล้ว จะให้ถึงปลายทางเนี้ยนะ คงยาก ....วุ่นวายกับเรื่องรอบๆตัวมากเกินไป
หรือบางครั้ง วางแผนมาดีมาก แต่...... ดันแอบไปอยู่ในกลุ่มเทรดหลายกลุ่ม แล้วเขาดันแจกซิกสวนทางมาเว้ย เอาล่ะสิ จัดตามมันเลย แผนไม่สนใจล่ะ แบบนี้เจอบ่อย ...... เสียสมาธิ
ถ้าสนใจอยากคุยกันหลังไมต์มาก็ได้นะครับ ยินดี ขอให้เฮงๆ กันถ้วนหน้า