วันนี้มาดูหัวใจลูกแฝดตามนัดค่ะ   แล้วก็เจอหัวใจ2ดวงกำลังกระพริบ  หมอสูติแซวเลยค่ะ ว่า "เด็กๆมากันตามนัดเลย "

ทั้งเรา สามีและลูกชายกอดดีใจกันใหญ่ค่ะ
 สมาชิกของบ้านที่เฝ้ารอมาที่เดียว2เลย

แต่หมอสูติก็บอกว่าต้องดูกันยาวๆ ตรวจเช็คกันเป็นระยะ   แต่ก็อย่าเครียด  แล้วจะผ่านไปได้ 

นับจากนี้ไปจนพ้นไตรมาสแรก หมอขอนัดตรวจทุกวีคเลยค่ะ ประเมินกันช็อคต่อช็อค เพราะจากท้องแรก  เรามีความเสี่ยงทั้งแท้งคุคามตอน10วีคและคลอดก่อนกำหนด ตอน33วีค5วัน  มีภาวะซึมเศร้าหลังคลอดอีก


 พอมาท้องนี้ต้องดูแลเข้มข้นขึ้น  เพราะเป็นแฝดด้วย

เราก็ตั้งใจว่าจะดูแลตัวเองและแฝดให้ดีที่สุด แต่จะไม่กดดันตัวเอง เพราะเราก็ยังมีสามีและลูกคนโตที่ต้องคอยดูแลให้ความสำคัญด้วย 

โดยเฉพาะกับคนโต แม้ตอนนี้จะแค่1.8ขวบ ยังไม่ประสีประสา แต่เราก็ต้องสร้างความทรงรู้สึกดีๆในการมีน้องให้เค้า ตั้งแต่รธ้ว่ามีถุงตั้งครรภ์2ถุง   เราก็มีการอธิบายด้วยคำพูดง่ายๆ มีการใช้ภาพประกอบให้เค้าดู ว่าตอนนี้ในท้องแม่มีน้อง2คนนะ น้องจะโตทุกวัน และพุงแม่ก็จะใหญ่ขึ้น จนน้องอึดอัดและก็จะออกมาพร้อมกัน ระหว่างนั้นเราก็กอดเค้าไปด้วย และก็บอกว่าพ่อแม่ยังรักลูกเหมือนเดิมเลยนะ ถึงจะมีน้องก็รักเหมือนเดิม

และด้วยความที่แยกห้องนอนลูกมาตั้งแต่เล็กๆ  พอรู้ว่าท้อง เรากับสามีตกลงกันว่า จะไปนอนกอดลูกคนโตจนเค้าหลับสนิท เพื่อให้เค้าไม่น้อยใจ คิดว่าพ่อแม่เห่อน้อง  แล้วถึงจะกลับห้องกัน

สำหรับยาดีสุดๆในยามที่แพ้ท้องหนักมากขณะนี้คือ ทุกครั้งที่อาเจียนลูกชายจะมาลูบหลังให้ และก็บอก "โอ๋ นะ "
บางทีก็จะบอกว่า "แม่ หายๆ "

ส่วนสามีก็ยังยืนยันคำเดิมว่าหลังจากเราคลอดท้องนี้ เค้าก็จะเป็นฝ่ายยอมทำหมันเอง
และจะพยายามหาเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น จะช่วยเราเลี้ยงลูกๆให้มากขึ้น

 วันนี้เค้าขอให้หมอสูติเขียนนัดเลยว่า เราต้องมาตรวจครรภ์ตอนไหนบ้าง  เพราะเค้าตั้งใจว่าจะเป็นคนพาทั้งเราและลูกคนโตมาดูพัฒนาการของแฝดทุกครั้ง

ซึ่งหมอสูติใจดีมากค่ะ ถึงขนาดเอาปฎิทินการทำงานของตัวเองกับของสามีเรามาเปรียบเทียบกันเลย ว่ามีวัน หรือเวลาไหนที่สามีเราจะว่างพอดีกับวันที่หมอสูติออกตรวจ  ก็จะนัดเราในวันหรือเวลาวันนั้น เพราะสามีก็มีงาน มีคนไข้ที่ตัวเค้าเองรับผิดชอบเช่นกัน  แต่ถ้าติดเคสด่วน เช่นมีการผ่าตัดกระทันหัน อันนี้ก็ต้องให้เค้าไปทำหน้าที่  เราเข้าใจและไม่โกรธค่ะ