ไร้ศาสนา ไร้ศรัทธา ไร้ความเชื่อ?

กระทู้นี้ ไม่มีเจตนาจะลบหลู่ดูหมิ่น ความเชื่อของใครนะครับ มันเกิดจากความสงสัยและสับสนทางความคิดของผมเอง อาจมีการเปรียบเทียบบ้างก็ขออภัยด้วยครับ


เริ่มด้วยผมมีความลังเลสงสัย ใน ความเชื่อของ มนุษย์ ในทางศาสนา ว่าความเชื่อที่เราเชื่อกันมาตั้งแต่ กำเนิดของศาสนา จนถึงตอนนี้ ไม่ว่า พุทธ คริสต์ อิสลามก็ดี ที่เป็นหลักความเชื่อ ใหญ่ๆของประชากรโลก ว่า จะมีสักกี่คำสอนที่มาจากปากของศาสดาจริงๆ เป็นคำพูดจริงๆไร้ซึ่งการปรุงแต่งใดๆ ของทั้ง 3 องค์ศาสดา  พระพุทธเจ้า - พระเยซูคริสต์-องค์พระอัลเลาะห์ ที่เป็นแนวความเชื่อประมาณว่า โลกหน้ามีจริง หรือ ดินแดนของพระเจ้า ชาตินี้-ชาติหน้า รวมถึง ความสงบหลังความตาย ความว่างเปล่า (นิพพาน) โลกหลังความตาย หรือแม้แต่ความเชื่อเรื่องผี จิต วิญญาณ ต่างๆนา  มันจริงหรือ?  หรือเป็นเพียงแค่กุศโลบายในการเป็นคนดีของสังคม ของโลก  เพราะยิ่งวิทยาศาสตร์ยุคนี้เริ่มไปไกลเท่าไหร่ เรายิ่งเริ่มค้นพบความจริงมากขึ้นเรื่อยๆ ความเชื่อบางอย่างโดนหักล้างโดยง่ายดาย ด้วยการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์  ---

-โลกหลังความตาย-
คนบางคนเชื่อว่าตายแล้วไปสวรรค์ บ้างก็ว่าไปสู่ความเงียบ สงบ สว่าง บ้างก็ว่า เป็นวิญญาณ รอการตัดสินโทษ บ้างก็ว่าตายแล้วหายไปเลย

ผมคิดว่าคนเราเกิดมาจากการสมสู่ของมนุษย์ด้วยกัน ทำให้เกิดตัวออ่นในมดลูกและเกิดมาเป็นคน มันก็คือสัตว์ตัวนึงใช่ป่ะ มันทำทุกอย่างตามสัญชาตญาณ เกิดการเรียนรู้ อันไหนปลอดภัยหรืออันตราย  สมองเริ่มมีการเก็บข้อมูล ทุกๆอย่างที่เราเห็น  การเดินการหลับ การฝัน ล้วนเกิดจากสมองทั้งสิ้น พอเราโตมาก็มีความรู้สั่งสมมา และนิสัยที่ติดตัวมาจาก สภาพแวดล้อมที่เราเติบโต  เราคิดได้ก็เพราะสมอง ทุกอย่างๆที่เราทำเกิดจากร่างกายทั้งสิ้น  แล้วคราวนี้เราตายใช่ป่ะ  ก็คือสมองหยุดการทำงาน การเรียนรู้ยุติ จบสิ้น คือเราตาย และ มันจะเหลือจิตวิญญาณเราได้อย่างไรละครับ บอกหน่อย  ก็ในเมื่อประสามสัมผัสทั้ง5 เราดับไปแล้ว เราจะเห็นโลกหน้าได้อย่างไร ในเมื่อ ตาเราไม่มีแล้ว  เราจะจิตนาภาพ นึกคิดได้อย่างไรในเมื่อ สมองโดนทำลายไปแล้ว เราจะนึกคิดได้ก็ต่อเมื่อ เราเคยเห็นภาพและสมองมันประมวณผล แสดงเป็นภาพในหัวเรา  แล้วทีนี้ มันจะมีโลกหน้า มีชาตินี้ชาติหน้าได้อย่างไรกัน  เราจบแล้ว....  และเรื่องที่เราจะเป็นวิญญาณรอไปเกิดเป็นคนนู้น คนนี้  มันก็๋ยิ่งเป็นไปไม่ได้อีก เพราะว่า เราก็เหมือนใบไม้อะ ล่วงแล้วล่วงเลย มันจะไปเกิดเป็นใบไม้อีกไม่ได้มันขัดต่อหลักความจริงของโลก ขัดหลักธรรมชาติ  เพราะว่า มนุษย์แต่ละตัวมียีนที่แตกต่างกัน เมื่อผสมพันธุ์กันมันก็จะเกิดอีกยีนนึงซึ่งอาจมีความเหมือนพ่อและแม่ 50%  ถ้าตัวผู้ก็จะมีลักษณะเหมือนแม่ 60-70% ส่วนตัวเมียจะได้ทางพ่อมากกว่า ทีนี้พอตัวออ่นเกิดมามันก็มีสมองเป็นของตัวเองแล้วใช่ไหม  และวิญญาณมันจะมาเข้าสิงได้ไง งง? เข้าทางไหน  ?  ถ้าบอกว่าทางจิตใจ  ก็คือ จิตใจเราเกิดจากสมองนะ มันไม่ได้มีวิญญาณในตัวเราเลย  มันไม่ได้มีแสงอะไรในตัวเรา ที่ตอนเราตายมันจะ ลอย ไป เหมือนในหนังนะ  มันเกิดจากการทำงานของสมองล้วนๆ การนึกคิดอ่ะ  ผมจึงสับสนมาก  ผมเปรียบคนเหมือน ต้นไม้ละกัน  คือแต่ละต้นมันก็งอกของมันเอง ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันเลยแม้แต่น้อย ตอนมันตายมันก็ตายของมันต้นเดียว  แต่ละต้นก็มีการเติบโตของตัวเอง เหมือนคน  เกิดแล้ว  คนที่ผสมพันธุ์กันอยู่มันก็เกิดใหม่ เป็นอีกชีวิตนึง มันไม่มีความเชื่อมโยงกันเลย  มันไม่มีการเกิดใหม่ในจิตวิญญาณเดียวหรอกเพราะสมองตัวนั้นมันตาย จิตใจเราก็สลายด้วย มันไม่เกี่ยวข้องกัน  สรุปคือเราตายแล้วหายไปเลย  คือ หายไปจากระบบโลกเลยใช่มั้ย ไม่มีความมืดหลังความตาย  ไม่มีแสงสว่าง ไม่มีความสงบไม่มีอะไรเลย มันหายยย เหมือแสงที่ดับไม่เหลืออะไรอีก " โลกหน้าก็ย่อมไม่มีจริงสำหรับตัวเรานะตอนนี้  โลกหน้าจะมีก็คือมนุษย์ตัวใหม่ที่กำเนิดใหม่ในยุคใหม่"

-บาป-บุญ  เวร-กรรม-

"ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว " เป็นคำพูดติดปากของชาวพุทธ แต่ลองคิดดีๆมันก็มีทางเป็นจริงได้ในโลกนี้  ย้ำนะ เฉพาะในช่วงชีวิตนี้  เพราะ ตามหลักการข้างต้นเป็นไปไม้ได้เลยที่เราจะเอา บาป บุญ ติดตัวไปด้วย  เพราะบาป-บุญ ที่แท้จริงตามความคิดผม คือ ความรู้สึกผิดและรู้สึกดี ในจิตใจมากกว่า และจิตใจก็คือ กระบวนการทำงานของสมองอีกที มันก็เลยเกิดข้อสงสัยว่า  มันจะติดไปได้อย่างไรตอนตาย ในเมื่อ สมองก็ตายไปแล้ว ?


สรุปคือ ความตาย ตายแล้วหายไปเลย ตายแล้วสูญสิ้น   หรือ ความเชื่อของผมมันผิดหมด(ก็หวังให้มันผิดเถอะ)    คนจะเป็นอย่างไร หากรู้ความจริงว่า เราตายแล้วสูญ  คนจะเสียความศรัทธาใช้ มั้ย  ความรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าแรงๆ ตอนหลับฝนหวาน  ทุกอย่างพังทลาย  อย่างนั้นหรือ  ความจริงคืออะไร ?



สุดท้ายนี้ ผมย้ำว่าทั้งหมดคือความคิดผมเองล้วนๆ  อาจจะเหมือนกับความสงสัยของใครหลายคน ที่เริ่มเห็นความจริงว่า  ชีวิตมันไม่ได้ สวยงามอย่างที่คิด มันน่าผิดหวัง  แต่ทุกคำที่พิมพ์มาล้วนตักตวง และวิเคราะห์มาได้ในระดับนึงแล้ว ถ้าเราไม่มีศาสนาเลย ทุกคนจะเป็นคนเลวหรือป่าว ผมว่าคนจะดีจะเลวไม่ได้อยู่ที่บุญ กรรม แต่อยู่ที่การอบรมเลี้ยงดู สภาพแวดล้อมมากกว่า   และนี้คือความสงสัยของผมครับ  แต่ทุกอย่างก็มีข้อดีข้อเสียของมัน  เพราะพอผมเริ่มสงสัย และเริ่มเข้าใจบางอย่าง กลับทำให้ผมเห็นว่า ชีวิตนี้ เราเกิดมาครั้งเดียวตายครั้งเดียว เราจะต้องทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ สร้างประโยชน์ให้คนรุ่นหลัง  ดีกว่าตายเปล่า ไม่เหลือความดีอะไรให้คนพูดถึง  ผมเชื่อว่านักคิด นักเขียน นักวิทยาศาสตร์ นักปรัชญาทั้งหลาย ลึกๆแล้วเค้าก็น่าจะรู้ว่า  สุดท้ายเค้าก็ไม่ได้เป็นคนใช้ประโยชน์ของผลงานตัวเองหรอก เพราะเค้าต้องตายอยู่ดี  เค้าเลยลงมือ ด้วยความสามารถ ทั้งหมดยอมอุทิศชีวิต ไม่กลัวความตาย เช่น โสเครติส อริสโตเติล และ เพลโตที่ยอมตายเพราะผลงานตัวเอง  
เหมือนเช่น จิตรกรชาวยิวถูกจับขังในค่ายกักกัน เค้าเอาอาหารตัวเองไปขอแลกกับถ่านเอา มาสร้างผลงาน เพราะรู้อยู่แล้วยังงัยตัวก็ต้องตาย แต่ขอสร้างผลงานชิ้นสุดท้าย  เป็นเรื่องที่หน้านับถือเป็นอย่างมาก
สุดท้ายของสุดท้าย  
ผมอยากหาคำตอบในทุกคำถามที่วนเวียนในหัวผม  ตอนนี้ผมอายุ 21  ถ้าผมเจอคำตอบทุกอย่าง ผมจะมาบอกอีกทีละกัน อาจะสัก 10 20 หรือาจจะ 80 ปีผมก็จะไขข้อข้องใจให้ได้ เพื่อนๆละครับ  คิดอย่างไรกับตรรกะนี้?
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่