คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
จริงครับ นี่เป็นสัจธรรมที่น่าขนลุก และละเอียดอ่อนมาก
ผมเองโตมาขนาดนี้ก็เพิ่งจะค้นพบว่า เงิน ได้มาก็เสียไป แต่ไอ้ที่เสียไปคือเสียหมดทุกอย่างแม้กระทั่งความรักและความไว้วางใจ ผมอ่านกระทู้ของคุณแล้วก็รีบมาแสดงความคิดเห็นเพื่อย้ำเป็นอุทาหรณ์ให้เห็นว่า เงินเป็นความละเอียดอ่อนไหวยิ่งกว่าความรู้สึกของคน เมื่อใดที่เราไปกระทบกับมันเข้าโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ดี สิ่งที่ตามนั้นย่อมเป็นความเสียหายที่ร้ายแรงจนไม่อาจแก้ไข
ทุกวันนี้ผมคบกับเพื่อน ไม่เคยพูดถึงเรื่องเงิน คือไม่ยืม ไม่ขอ ไม่ออก ไม่จ่าย มีไรต้องแชร์ เราตกลงกันไปเลยว่า เรื่องแบบนี้ใครหาได้ก็หาเอา เราจะไม่เข้าไปยุ่งหรือวุ่นวาย เงินใครเงินมัน เราจะช่วยเหลือกันในด้านอื่น เช่นคอยให้คำปรึกษา สนับสนุน ส่งเสริม ในเรื่องอื่นแทน เรื่องเงินพวกเราจะไม่ไปพูดถึง หรือถ้ามันจำเป็นจริงๆ ที่ต้องช่วยเหลือกันในเรื่องเงินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราก็จะพูดกันตรงๆ ไปเลยไม่มีมาเกรงอกเกรงใจกัน เพราะความเกรงใจบางครั้งมันเป็นการไม่กล้าพูดสิ่งแท้จริงในใจถ้าเราจะคิดว่าเราคบเพื่อนด้วยความจริงใจจริงๆ ก็ควรพูดกันด้วยความจริงใจ ผมจะบอกเลยว่า เงินนี่คือเงินที่เราช่วยเหลือนาย พอนายผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้นายจะต้องคืนเรา ไม่มีอ้อมค้อมเป็นอันขาด แล้วเราก็จะจับมือเป็นอันตกลง มันเหมือนเป็นการใช้เงินซื้อใจกันไปเลย ทีนี้ก็ง่ายแล้วเพราะถ้ามีใครคนหนึ่งผิดคำสัญญาหรือไม่คืนเงินมันก็จะต้องสำนึกในใจแล้วว่า จะเลือกเงินหรือเลือกเพื่อน ถ้าเลือกเงินก็เอาเงินไป ถ้าเลือกเพื่อนก็จะต้องใช้คืน มันเป็นการตัดความเกรงอกเกรงใจออกไปให้เหลือแต่ความจริงๆ ในหัวใจล้วนๆ ทำแบบนี้ก็จะไม่มีใครเสียความรู้สึกหรือมาสำนึกเสียใจทีหลัง นี่คือวิธีที่ผมใช้กับเพื่อนทุกคน เเละเป็นข้อที่เราตกลงร่วมกันมานานแล้ว ผมเคยเสียเพื่อนที่รักเพราะ เงิน มาหลายคนแล้วและผมไม่อยากเสียใครไปอีก อย่างน้อยๆ วิธีของผมก็ทำให้มิตรภาพยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบันและยังจะยืนยาวต่อไปในอนาคต
สำหรับเจ้าของกระทู้ก็ไม่ต้องสำนึกเสียใจหรือเสียดายที่ผ่านมา ถือว่าเราได้ช่วยเหลือเพื่อนที่เรารัก ที่เคยผ่านวันเวลาต่างๆ มาด้วยกัน เงินไม่ตายก็หาใหม่ได้อย่างที่ จขกท.เข้าใจถูกต้องแล้ว คิดซะว่าสักวันหนึ่งเมื่อเขามีจริงๆ เขาก็จะใช้คืนเราเองนั่นแหละ อย่าทำลายความเชื่อมั่นในตัวเองเพียงเพราะ เงิน คำเดียวเลยครับ
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะครับ ยังมีอีกหลายคน อย่างน้อยผมคนหนึ่ง ที่เคยประสบปัญหาอย่างคุณมาเหมือนกัน สู้ๆ ครับ
ผมเองโตมาขนาดนี้ก็เพิ่งจะค้นพบว่า เงิน ได้มาก็เสียไป แต่ไอ้ที่เสียไปคือเสียหมดทุกอย่างแม้กระทั่งความรักและความไว้วางใจ ผมอ่านกระทู้ของคุณแล้วก็รีบมาแสดงความคิดเห็นเพื่อย้ำเป็นอุทาหรณ์ให้เห็นว่า เงินเป็นความละเอียดอ่อนไหวยิ่งกว่าความรู้สึกของคน เมื่อใดที่เราไปกระทบกับมันเข้าโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ดี สิ่งที่ตามนั้นย่อมเป็นความเสียหายที่ร้ายแรงจนไม่อาจแก้ไข
ทุกวันนี้ผมคบกับเพื่อน ไม่เคยพูดถึงเรื่องเงิน คือไม่ยืม ไม่ขอ ไม่ออก ไม่จ่าย มีไรต้องแชร์ เราตกลงกันไปเลยว่า เรื่องแบบนี้ใครหาได้ก็หาเอา เราจะไม่เข้าไปยุ่งหรือวุ่นวาย เงินใครเงินมัน เราจะช่วยเหลือกันในด้านอื่น เช่นคอยให้คำปรึกษา สนับสนุน ส่งเสริม ในเรื่องอื่นแทน เรื่องเงินพวกเราจะไม่ไปพูดถึง หรือถ้ามันจำเป็นจริงๆ ที่ต้องช่วยเหลือกันในเรื่องเงินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราก็จะพูดกันตรงๆ ไปเลยไม่มีมาเกรงอกเกรงใจกัน เพราะความเกรงใจบางครั้งมันเป็นการไม่กล้าพูดสิ่งแท้จริงในใจถ้าเราจะคิดว่าเราคบเพื่อนด้วยความจริงใจจริงๆ ก็ควรพูดกันด้วยความจริงใจ ผมจะบอกเลยว่า เงินนี่คือเงินที่เราช่วยเหลือนาย พอนายผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้นายจะต้องคืนเรา ไม่มีอ้อมค้อมเป็นอันขาด แล้วเราก็จะจับมือเป็นอันตกลง มันเหมือนเป็นการใช้เงินซื้อใจกันไปเลย ทีนี้ก็ง่ายแล้วเพราะถ้ามีใครคนหนึ่งผิดคำสัญญาหรือไม่คืนเงินมันก็จะต้องสำนึกในใจแล้วว่า จะเลือกเงินหรือเลือกเพื่อน ถ้าเลือกเงินก็เอาเงินไป ถ้าเลือกเพื่อนก็จะต้องใช้คืน มันเป็นการตัดความเกรงอกเกรงใจออกไปให้เหลือแต่ความจริงๆ ในหัวใจล้วนๆ ทำแบบนี้ก็จะไม่มีใครเสียความรู้สึกหรือมาสำนึกเสียใจทีหลัง นี่คือวิธีที่ผมใช้กับเพื่อนทุกคน เเละเป็นข้อที่เราตกลงร่วมกันมานานแล้ว ผมเคยเสียเพื่อนที่รักเพราะ เงิน มาหลายคนแล้วและผมไม่อยากเสียใครไปอีก อย่างน้อยๆ วิธีของผมก็ทำให้มิตรภาพยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบันและยังจะยืนยาวต่อไปในอนาคต
สำหรับเจ้าของกระทู้ก็ไม่ต้องสำนึกเสียใจหรือเสียดายที่ผ่านมา ถือว่าเราได้ช่วยเหลือเพื่อนที่เรารัก ที่เคยผ่านวันเวลาต่างๆ มาด้วยกัน เงินไม่ตายก็หาใหม่ได้อย่างที่ จขกท.เข้าใจถูกต้องแล้ว คิดซะว่าสักวันหนึ่งเมื่อเขามีจริงๆ เขาก็จะใช้คืนเราเองนั่นแหละ อย่าทำลายความเชื่อมั่นในตัวเองเพียงเพราะ เงิน คำเดียวเลยครับ
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะครับ ยังมีอีกหลายคน อย่างน้อยผมคนหนึ่ง ที่เคยประสบปัญหาอย่างคุณมาเหมือนกัน สู้ๆ ครับ
แสดงความคิดเห็น
ทวงเงินเพื่อนจะกลายเป็นคนไม่ดี
เรื่องมีอยู่ว่าเรากับเพื่อนรู้จักกันตอนเรียนด้วยกันตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็เกือบ10กว่าปีละสนิทกันมากแค่ไหนไม่รู้นะ
แต่เคยกิน-นอน-เมา-เที่ยว-ลุยเวลามีเรื่อง-สำหรับเราคือเรียกว่าให้ใจมาก.....
มีอะไรก็คุยกันช่วยเหลือกันตลอด(แต่ส่วนมากเราเป็นคนช่วยนะ)ฐานะก็พอๆกันดูบ้านเพื่อนเราจะรวยกว่าด้วยซ้ำ
มันก็หน้าตาดีกว่าสวยกว่าหน้าที่การงานก็ดีกว่ามาย้อนช่วง3-4ปีที่ผ่านมาเพื่อนคนนี้เกิดการล้มเหลวในชีวิตครั้งใหญ่
เราก็ช่วยเหลือไปอีก(คือเขาท้องแล้วเลิกกับแฟนเขามีเรื่องฟ้องร้องกันไปตามระเบียบ)เราก็ช่วยในส่วนเรื่องให้คำปรึกษาพาไปเที่ยวไปกินและให้ยืมตังค์
ทีละ2-3พันรวมๆก็เยอะพอสมควรซึ่งเราก็ให้ใจกับเพื่อนนะเราทำงานเดือนละ2หมื่นกว่ามีลูกต้องเลี้ยงเหมือนกันยืมไปยืมมาบอกไม่มีให้เรา
ก็เข้าใจว่าไม่มีงานที่แน่นอนก็เลิกทวงคิดว่าเงินหาเมื่อไหร่ก็ได้เป็นเพื่อนกันต้องช่วยเหลือกัน(ปกติเราไม่ค่อยชอบคบเพื่อนจึงมีเพื่อนน้อย)
ผ่านมาล่าสุดเมื่อปีก่อนได้มายืมเงินก้อนใหญ่จากเรา(คือหลักหมื่นอ่ะค่ะเงินเก็บอันแสนนานของเรา)เพื่อเอาไปตั้งตัวคือทำธุรกิจแล้วประสบผลสำเร็จ
(ขอไม่บอกละเอียดงานนะคะ)
มีเงินซื้อรถไปเที่ยวไปกินซื้อของแพงๆอัพลงเฟสบุ๊คแต่เราก็มีคุยๆทวงๆกันอยู่บ้างเขาได้ดีก็ตีตัวออกห่าง(เวลาเราพูดทวงตังค์)ได้แต่พลัดไปพลัดมา
เราให้เขาผ่อนคืนสักเดือนละ1-2พันก็ยังดีแต่เขาก็รำพันความลำบากให้เราฟังเราก็พูดไม่ออกคิดในใจพูดไปก็กลัวเสียเพื่อน
จนล่าสุดทนไม่ไหวเลยพูดไปตรงๆว่า(เธอคืนตังค์เรามาบ้างดิเราก็จำเป็นต้องใช้เหมือนกันนะเว้ยเพราะเราก็ผ่อนของใช้เหมือนกัน
แกมีรถมีงานที่ดีแล้วคือดีกว่าทุกอย่างเรามีหนี้มีธุระที่ต้องใช้เหมือนกันที่จิงก่อนจะไปดาวน์รถน่าจะใช้หนี้ก่อนมั้ย)เฮอะๆ
เท่านั้นแหละเราก็ว่าเรารักษาน้ำใจสุดๆแล้วนะเพื่อนเราพาลมาบอกว่าเราพูดไม่รู้เรื่องตามทวงอยู่ได้คนไม่มีและก็บอกเหตุที่ต้องใช้เงินสารพัด
คือเราฟังจนรู้สึกผิดเลยอ่ะเฮ้ยตังค์ก็ตังค์เราทำไมเอาคืนมาบ้างมันยากนักล่ะถ้าทวงทีเดียวหมดเลยเนี่ยเธอไม่ฆ่าเราเหรอ?
และก็ออกแนวโมโหบอกไม่น่าคบกับเราเลยเราเห็นแก่ตัวไม่เห็นความลำบากของเพื่อนและจากวันนั้นเป็นอันว่าไม่คุยกันแต่เขาก็อัพเฟสปกติ
เรารู้สึกแย่มากๆคิดๆทวนไปทวนมาคิดว่าเราผิดเหรอวะเสียดายเวลาและเสียความรู้สึกโคตรๆ