ช่วงที่ 2 และวันที่ 2 ของการเดินทางไปโตเกียว ... แล้วผมก็มาถึงโตเกียวด้วยสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์จนได้
ผมลงที่สนามบินฮาเนดะ ... ดูสภาพง่วงนอนมาก...
ไม่ได้นอนทั้งคืนที่สนามบินฮานอย เพราะนอนผิดที่ แม้จะเอายานอนหลับมาด้วยแต่ก็ไม่กล้ากิน
ผมดูนาฬิกาตัวเอง... นี่เพิ่ง บ่ายโมงเอง ... แต่เวลาโตเกียวเร็วกว่า 2 ชม ... ก็บ่าย 3 แระ
สิ่งแรกที่อยากทำมากที่สุดคือ... เข้าห้องน้ำ
พอออกจากงวงช้างออกมาได้... เห้ย... ชอบกาศเย็นดีมาก ... ชอบๆๆๆ 7C นี่มันใช่
สภาพตอนนั้น เสื้อยืด กางเกงยีน ผ้าพันคอ แบกเป้ 1 ใบ... นี่มันต่างด้าวชัดๆ
และสิ่งประทับในสิ่งแรกของญี่ปุ่นคือ ... ห้องน้ำ!!!
อยากรู้ว่าห้องน้ำประเทศที่พัฒนาแล้วเป็นอย่างนี้ทุกประเทศไหม... คือคนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับคำว่า Restroom
คืออากาศเย็นๆ แค่อุ่นตรูด... ฉีดตรงจุด ปรับแรงเบาได้... แล้วมีมือล้วงมาเช็ดนี้เยี่ยมเลย ^ ^
แล้วชอบที่เค้าคิดถึงคนพิการเสมอ....
เสร็จภาระกิจฟิชโช่แล้ว... ก็ส่งหน้าสู่ ตม โตเกียว ที่สนามบินฮาเนดะ... ประชากรล้านนึง... คนจีน 5 แสน คนไทย 4 แสน
พูดเล่นนะครับ.. แต่คนไทยเยอะมาก
จากนั้นผมก็คิดอย่างเดียวว่า ต้องรีบไปซื้อ JR Tokyo Wide Pass โดยลืมทำบางสิ่งที่สำคัญไป
ผมจ่ายค่า Pass ไป 10,000 เยน แล้วก็วิ่งไปซื้อตั๋วรถไฟยังสถานที่จะพักคือ Minami-Senju โดยเป็นการขึ้นรถไฟฟ้าในญี่ปุ่นครั้งแรกของชีวิต
เจ้าหน้าที่ดีมาก... บอกว่าผมสามารถซื้อตั๋วครั้งเดียว 710 เยน ก็ไปถึงสถานี Minami-Senju เลย
โดยไม่ไปเปลี่ยน Monorail เป็น JR ที่สถานี Hamamatsucho แล้วนั่ง JR สาย Yamanote Line ลง Ueno เพื่อเปลี่ยนสายเป็น Joban Line ไปลง Minami-Senju
ตอนแรก... โต... รู้สึกเป็นแผนที่ที่ยากพอๆ กับการเรียน Microbial Metabolic Pathway เลยเว้ย!.. สายนั้นไปนู้น เลย 1 เลข 2
แต่เอาจริงๆ... มันเป็นระบบดีแหะ
(ภาพจาก www.jreast.co.jp/e/info/map_a4ol.pdf)
พอมาถึง... สิ่งที่ลืมก็เกิดขึ้น... ไม่ได้ซื้อ Sim Card ที่สนามบิน...
แล้วเราจะหาแผนที่อย่างไร... มีปากก็ถาม... ถามอังกฤษ... ตอบเป็นญี่ปุ่น... แต่เจ้าหน้าที่ และคนที่บอกทางก็ชี้นู้น นี่ นั่น ก็เข้าใจแบบงงๆ ครับ
เมื่อถึงสถานี Minami-Senju แล้ว ก็ออกมาทางออกหลักเลยครับ
(สถานีอยู่ทางขวามือนะครับ)
จะผ่านสถาไฟฟ้าของอะไรสักอย่าง... ผมไม่เคยขึ้นครับ เลยบอกไม่ได้ แล้วไม่ได้จำด้วย
ไปสุดท้ายแล้วเลี้ยวซ้ายตรงหัวมุมครับ..
จากนั้นเดินทางไปเรื่อน แล้วจะผ่านสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Metro ครับ
จากนั้นขึ้นสะพานลอยเพื่อข้ามทางรถไฟครับ.. ถ้าใครกระเป๋าหนัก ของเยอะ สะพานนี้มีลิฟให้นะครับ
เดินบนสะพานไม่มีอะไรน่ากลัวครับ... ผมกลับดึกๆ ก็ไม่กลัวอะไรครับ (ขวามือคือลิฟขึ้นลงมาบนสะพานลอยครับ)
เดินบนสะพานลอยได้สักพักแล้วก็จะมาทางลงทางซ้ายมือครับ... ลงทางนั้นเลยครับ...แล้วเดินตามถนนหลัก ไม่ต้องเข้าซอยเล็กๆ นะครับ
ผมก็ไม่เคยลองเดินทางนั้น.. คราวหน้าจะลองดู
เดินข้ามทางม้าลายครับ...
ผมชอบทางม้าลายที่ประเทศนี้มากครับ... ถ้ามีสัญญาณข้ามถนนสำหรับคน ทุกคนก็จะปฏิบัติตามแม้ถนนจะโล่งก็ตาม
แต่ถ้าสัญญาณบอกให้คนข้าม รถต้องหยุด... ผมวิ่งผ่านมา 9 วันก็ไม่โดนชนครับ
แล้วเราก็ข้ามทางม้าลายมา 2 อันมั้ง... ไม่แน่ใจครับ แต่เดินทางเรื่อยๆ เหอะ แล้วสังเกตว่า Hotel Palace Japan ไม่หลงแน่ครับ
ถึงเดินเลย... เราจะไปเจอแม่น้ำสุมิดะ... ชอบๆๆๆ อากาศเย็นๆ เดินไม่ค่อยเหนื่อยดี ^ ^
มี convenient ตลอดครับ... ไม่อดตายแน่ แต่อาจจะหมดตัว เพราะหมดตัวแล้วกับทริปนี้
และแล้วเราก็เจอครับ
ค่าห้อง 1 คน/คืน ราคา 3800 เยน ... ห้องน้ำรวม แต่สะอาดมากครับ ผมชอบนะ
[CR] VN เมื่อเราได้พบกัน: นอนพัก 1 วัน ก่อนแช่ออนเซ็น "Hotel Palace Japan"
ผมลงที่สนามบินฮาเนดะ ... ดูสภาพง่วงนอนมาก...
ไม่ได้นอนทั้งคืนที่สนามบินฮานอย เพราะนอนผิดที่ แม้จะเอายานอนหลับมาด้วยแต่ก็ไม่กล้ากิน
ผมดูนาฬิกาตัวเอง... นี่เพิ่ง บ่ายโมงเอง ... แต่เวลาโตเกียวเร็วกว่า 2 ชม ... ก็บ่าย 3 แระ
สิ่งแรกที่อยากทำมากที่สุดคือ... เข้าห้องน้ำ
พอออกจากงวงช้างออกมาได้... เห้ย... ชอบกาศเย็นดีมาก ... ชอบๆๆๆ 7C นี่มันใช่
สภาพตอนนั้น เสื้อยืด กางเกงยีน ผ้าพันคอ แบกเป้ 1 ใบ... นี่มันต่างด้าวชัดๆ
และสิ่งประทับในสิ่งแรกของญี่ปุ่นคือ ... ห้องน้ำ!!!
อยากรู้ว่าห้องน้ำประเทศที่พัฒนาแล้วเป็นอย่างนี้ทุกประเทศไหม... คือคนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับคำว่า Restroom
คืออากาศเย็นๆ แค่อุ่นตรูด... ฉีดตรงจุด ปรับแรงเบาได้... แล้วมีมือล้วงมาเช็ดนี้เยี่ยมเลย ^ ^
แล้วชอบที่เค้าคิดถึงคนพิการเสมอ....
เสร็จภาระกิจฟิชโช่แล้ว... ก็ส่งหน้าสู่ ตม โตเกียว ที่สนามบินฮาเนดะ... ประชากรล้านนึง... คนจีน 5 แสน คนไทย 4 แสน
พูดเล่นนะครับ.. แต่คนไทยเยอะมาก
จากนั้นผมก็คิดอย่างเดียวว่า ต้องรีบไปซื้อ JR Tokyo Wide Pass โดยลืมทำบางสิ่งที่สำคัญไป
ผมจ่ายค่า Pass ไป 10,000 เยน แล้วก็วิ่งไปซื้อตั๋วรถไฟยังสถานที่จะพักคือ Minami-Senju โดยเป็นการขึ้นรถไฟฟ้าในญี่ปุ่นครั้งแรกของชีวิต
เจ้าหน้าที่ดีมาก... บอกว่าผมสามารถซื้อตั๋วครั้งเดียว 710 เยน ก็ไปถึงสถานี Minami-Senju เลย
โดยไม่ไปเปลี่ยน Monorail เป็น JR ที่สถานี Hamamatsucho แล้วนั่ง JR สาย Yamanote Line ลง Ueno เพื่อเปลี่ยนสายเป็น Joban Line ไปลง Minami-Senju
ตอนแรก... โต... รู้สึกเป็นแผนที่ที่ยากพอๆ กับการเรียน Microbial Metabolic Pathway เลยเว้ย!.. สายนั้นไปนู้น เลย 1 เลข 2
แต่เอาจริงๆ... มันเป็นระบบดีแหะ
(ภาพจาก www.jreast.co.jp/e/info/map_a4ol.pdf)
พอมาถึง... สิ่งที่ลืมก็เกิดขึ้น... ไม่ได้ซื้อ Sim Card ที่สนามบิน...
แล้วเราจะหาแผนที่อย่างไร... มีปากก็ถาม... ถามอังกฤษ... ตอบเป็นญี่ปุ่น... แต่เจ้าหน้าที่ และคนที่บอกทางก็ชี้นู้น นี่ นั่น ก็เข้าใจแบบงงๆ ครับ
เมื่อถึงสถานี Minami-Senju แล้ว ก็ออกมาทางออกหลักเลยครับ
(สถานีอยู่ทางขวามือนะครับ)
จะผ่านสถาไฟฟ้าของอะไรสักอย่าง... ผมไม่เคยขึ้นครับ เลยบอกไม่ได้ แล้วไม่ได้จำด้วย
ไปสุดท้ายแล้วเลี้ยวซ้ายตรงหัวมุมครับ..
จากนั้นเดินทางไปเรื่อน แล้วจะผ่านสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Metro ครับ
จากนั้นขึ้นสะพานลอยเพื่อข้ามทางรถไฟครับ.. ถ้าใครกระเป๋าหนัก ของเยอะ สะพานนี้มีลิฟให้นะครับ
เดินบนสะพานไม่มีอะไรน่ากลัวครับ... ผมกลับดึกๆ ก็ไม่กลัวอะไรครับ (ขวามือคือลิฟขึ้นลงมาบนสะพานลอยครับ)
เดินบนสะพานลอยได้สักพักแล้วก็จะมาทางลงทางซ้ายมือครับ... ลงทางนั้นเลยครับ...แล้วเดินตามถนนหลัก ไม่ต้องเข้าซอยเล็กๆ นะครับ
ผมก็ไม่เคยลองเดินทางนั้น.. คราวหน้าจะลองดู
เดินข้ามทางม้าลายครับ...
ผมชอบทางม้าลายที่ประเทศนี้มากครับ... ถ้ามีสัญญาณข้ามถนนสำหรับคน ทุกคนก็จะปฏิบัติตามแม้ถนนจะโล่งก็ตาม
แต่ถ้าสัญญาณบอกให้คนข้าม รถต้องหยุด... ผมวิ่งผ่านมา 9 วันก็ไม่โดนชนครับ
แล้วเราก็ข้ามทางม้าลายมา 2 อันมั้ง... ไม่แน่ใจครับ แต่เดินทางเรื่อยๆ เหอะ แล้วสังเกตว่า Hotel Palace Japan ไม่หลงแน่ครับ
ถึงเดินเลย... เราจะไปเจอแม่น้ำสุมิดะ... ชอบๆๆๆ อากาศเย็นๆ เดินไม่ค่อยเหนื่อยดี ^ ^
มี convenient ตลอดครับ... ไม่อดตายแน่ แต่อาจจะหมดตัว เพราะหมดตัวแล้วกับทริปนี้
และแล้วเราก็เจอครับ
ค่าห้อง 1 คน/คืน ราคา 3800 เยน ... ห้องน้ำรวม แต่สะอาดมากครับ ผมชอบนะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น