แบคแพคแบกเป้ตะลุยจันทบุรี 3 วัน 2 คืน แบบวางแผนไม่เป็นแผน ด้วยงบ 1,237 บาท


สวัสดีครับ นี่ก็เป็นกระทู้แรกของผมและเพื่อน ๆ หลังจากที่ผมกับเพื่อน ๆ รวมแล้ว  8 คนได้ไปแบ็คแพคกันมาที่จันทบุรี อยากมาแบ่งปันประสบการณ์การไปเที่ยวแบบแบคแพคของพวกเรา หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ^^


เริ่มแรกนัดเจอกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ   และพวกเราได้ไปขึ้นรถตู้หน้าห้างเซ็นจูรี่เพื่อเดินทางไปจันทบุรี  ค่าเสียหาย คนละ 200 บาทถ้วน




ยืนรอรถเป็นระเบียบมาก


หลังจากนั้นก็ได้ขึ้นรถตู้ไปถึงจัทนบุรีถึงเวลาประมาณ  22.00 น. ซึ่งจากที่แรกว่าจะไปถนนคนเดินจัน เลยต้องเลื่อนออกไปเพราะมาถึงจันท์เลยเวลาที่คาดการไว้เลยทำให้ต้องเดินไปยังที่พักเลย

ที่พักที่ได้มาพักคือออออ The River Guesthouse   ซึ่งตั้งอยุ่ในตัวเมืองจัน ติดคลองจันทบุรี อากาศโดยรอบเยนสบายดี







(รูปตอนเช้า)




ห้องพักที่ได้ check in ราคาคืนละ 550  ห้องแอร์ สองเตียง +อาหารเช้า ซึ่งได้จองไว้ 2 ห้อง 2 คืน





เช้าวันถัดมา ได้วางแผนไว้ว่าจะเช่ามอเตอไรซ์ขี่รถเที่ยวในตัวเมืองมอเตอร์ไซด์แต่รถที่จะเช่าดั๊นไม่มี ก็ต้องสุมหัวกองโจรกันเลยครับ ว่าเอายังไงต่อดี



แต่โชคดีพี่พนักงานโรงแรมช่วยติดต่อรถพาเที่ยวให้ ทำให้พวกเรารอดพ้นปัญหานี้ไปได้ การท่องเที่ยวของเรายังดำเนินต่อไปได้ 5555


และนี่ก็คือผู้นำในการเดินทางของเรา


และสถานที่แรกที่ได้ไปนั่นก็คือ น้ำตกพริ้ว ซึ่งห่างจากที่พักประมาณ 15 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที โดยการเดินทางเที่ยวจันทุบรีครั้งนี้นั้นก็คือนี่เลยครับพระเอกของเรารถมาสด้าป้ายแดง


และนี่ก็เป็นบรรยากาศทางเข้าน้ำตกซึ่งเป็นสถานที่แรก







ท่านผู้นำของเราเห็นมะม่วงเป็นไม่ได้ อย่างนี้ต้องจัดซักหน่อย



เอ้า มารวมตัวกันหน่อยย 1 2 3 ชีสสส !!เท่


และนี่ก็เปนทางเข้าโดยส่วนค่าเข้าน้ำตก นั้นผู้ใหญ่อยุ่ที่ ๔๐ บาท ส่วนเด็ก ๒๐ บาท
(พวกเราได้ในราคา ๒๐ บาท เพราะได้ราคาพิเศษสำหรับ นักเรียน นักศึกษา)















ข้าวเช้าก็ไม่ได้กิน มาจัดตอนเที่ยงทีเดียวเลยก็แล้วกัน

หลักจากการเล่นน้ำกับปลาและกินข้าวกันอย่างสนุกสนานพวกเราก็ได้เดินทางต่อไปยังพุทธอุทยานวัดชากใหญ่

ซึ่งห่างอยุ่จากน้ำตกพริ้ว 6 กม โดยใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 10 นาที ก็ได้ถึงที่หมาย
    โดยวัดซากใหญ่เป็นสถานที่รวมพุทธประวัติตั้งแต่พระพุทธเจ่าประสูติ จนถึง ปรินิพาน และเหตุการณ์สำคัณต่างๆทางพระพุทธศาสสนามากมาย






       พวกเราได้ใช้เวลาอยุ่ประมาณ 30 นาทีแล้วก็ได้เดินทางไปดูความน่ารักสดใสของปลาโลมา ณ  โอเอซิส ซีเวิล ด้วยระยะทาง 14 กม โดยใช้เวลาเดินทาง 20 นาที




โดยค่าเข้าชมปลาโลมา ของผู้ใหญ่อยู่ที่…

หลังจากที่ท่ายผู้นำของเราได้บัตรชมปลาโลมา

โดยโชปลาโลมาจะใช้ระเวลาในการแสดงประมาณ 40 นาที



หลังจากที่ดูโชว์ปลาโลมาเสร็จก็ได้ไปให้อาหารปลาหมอทะเล โดยจะมีบริการจำหน่ายอาหารปลา และมีสปาปลาบำบัดให้บริการ(เสียเงิน)





ตัวใหญ่มว๊ากกก จรไม่อยากคิดว่าถ้าตกไป ชีวิตจะเป็นยังไง 5555 อมยิ้ม11
หลังจากนั้นก็ได้เดินทางไปยังหาดเจ้าหลาวโดยได้ผ่านจุดชมวิวปากน้ำแขมหนู




การเดินไปยังหาดเจ้าหลาวจาก โอเอซิสซีเวิลด์ ระยะทาง 30. กม ใช้เวลาเดินทาง30 นาที กฌถึงจุดหมาย พอถึงหาดเจ้าหลาวก็ได้แวะพักกินข้าว






หลังจากนั้นก็….




หลังจากอิ่มหนำสำราญจากน้ำทะเลไปเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลามุ่งหน้าไปยัง จุดชมวิวเนินนางพญา ที่เค้าลือกันว่า เป็นสถานที่ที่ชมวิวได้สวยงามที่สุด และมีคู่รักนำกุญแจมาคล้องเป็นสัญญารักระหว่างกันอีกด้วย








เมื่อท้องหิวเราก็ต้องเดินทาง เดินทางไปยังถนนคนเดินจันทบุรี  ระทางทั้งสิ้น 33 กม. ใช้เวลาเดินทาง 50 นาทิ ก็ถึง ณ จุดหมายปลายทาง









เมื่อหนังท้องตึง หนังตาเราก็หย่อน ก็คงได้เวลาเดินย่อยอาหารกลับที่พัก ด้วยระทาง 1 กิโลเมตรก็ถึงที่พักและก็มีเวลาพักผ่อน  2 ชม ก่อนจะถึงเวลา 23.00 น. ที่รถของทางโรงแรมมารับเพื่อไปส่งยังวัดกระทิงด้วยระยะทาง 25 กม ซึ่งเป็นที่ขึ้นรถไปยังเขาคิชฌกูฏโดยค่ารถของโรงแรมไปกลับ 500 บาทถ้วนและรถขึ้นเขาคิชฌกูฏของทางวัดกระทิงไป-กลับ รวมคนละ 200 บาท









ถึงที่รอยพระพุทธบาทแว้วววว
เม่าติดดอย


นี่ก็เป็นเวลา 02.00 น. แต่ผู้คนก็ยังคับคั่งไม่ขาดสายเพื่อที่จะมาสักการะรอบพระพุทธบาทและหลังจากนั้นพวกเราก็เดินทางกลับไปยังที่พัก กว่าจะได้นอนก็เป็นเวลา 04.00 น.

วันรุ่งขึ้นก่อนที่จะออกเดินทางไปยังสถานที่ต่อไป ได้กินอาหารเช้าของทางโรงแรม


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่